ในยุคที่การตลาดมีการแข่งขันสูง ส่งผลให้หลายแบรนด์ต่างพากันออกผลิตภัณฑ์หรือแคมเปญที่เรียกความสนใจต่อผู้คนในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทุกคนสามารถสร้างคอนเทนต์และเป็นสื่อได้ด้วยตัวเองก็จะยิ่งเป็นช่องทางให้ผลิตภัณฑ์หรือแคมเปญเป็นที่รู้จักมากขึ้น แม้บางผลิตภัณฑ์อาจส่งผลเสียให้กับผู้บริโภคได้เช่นกัน รวมถึงเบอร์เกอร์ชีส 20 แผ่นเมนูสุดฮิตจากแบรนด์ดัง
(เตือนอย่าหาทำกินเมนูฮิต ‘เบอร์เกอร์ชีส20แผ่น’ โซเดียม=ไขมันบานตับไตทำงานแบบบ้าคลั่ง! https://www.dailynews.co.th/news/2517779/) การกินชีสมากเกินไปจะเป็นอันตรายมากแค่ไหน กินชีสมากๆ เป็นมะเร็งได้หรือไม่
ชีส คืออะไร?ชีสเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ได้จากนมวัวหรือนมแพะ ซึ่มีให้เลือกรับประทานหลากหลายประเภท เช่น มอสซาเรลลา เชดดา พาร์มีซาน หลายคนมักคิดว่าเป็นชีสอาหารที่ดูไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและควรหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในช่วงควบคุมน้ำหนักตัวอยู่ เนื่องจากชีสเป็นอาหารที่มีไขมันและโซเดียมสูง แต่หากรับประทานชีสในปริมาณที่เหมาะสม ก็อาจช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์มากมาย เพราะชีสแต่ละชนิดต่างมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น โฟเลต วิตามินเอ วิตามินดี โดยเฉพาะแคลเซียม ซึ่งชีสมีมากกว่านมถึงสองเท่า
เบอร์เกอร์ชีส 20 แผ่น มีสารอาหารใดบ้างเว็บไซต์
www.nutritionix.com ให้ข้อมูลในเบื้องต้นไว้ว่า หากชีส 1 แผ่น น้ำหนัก 28 กรัม ชีส 20 แผ่นจึงมี น้ำหนัก 560 กรัม จะเท่ากับว่าสารอาหารหลายตัวเกินกว่าสารอาหารที่ร่างกายต้องการต่อวัน โดยมีสารอาหารดังนี้
• โซเดียม 3,220 มิลลิกรัม
• โปรตีน 128 กรัม
• ไขมัน 186 กรัม
• คาร์โบไฮเดรต 17.4 กรัม
• คอเลสเตอรอล 560 มิลลิกรัม
• แคลเซียม 3,980 กรัม
• ให้พลังงาน 2,260 กิโลแคลอรี
ปริมาณโซเดียมที่ควรได้รับในแต่ละวันองค์การอนามัยโลกกำหนดว่า ปริมาณโซเดียมที่แนะนำต่อวัน คือ ไม่ควรกินโซเดียมเกิน 2,000 มิลลิกรัม/วัน หรือควรกินเกลือไม่เกินวันละ 1 ช้อนชา หรือเทียบกับน้ำปลาไม่เกินวันละ 4 ช้อนชา
- เพศชายและเพศหญิง อายุ 9-18 ปี ต้องการแคลเซียม 1,300 มิลลิกรัมต่อวัน
- เพศชายและเพศหญิง อายุ 19-50 ปี ต้องการแคลเซียม 1,200 มิลลิกรัมต่อวัน
- ผู้หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ต้องการแคลเซียม 1,300 มิลลิกรัมต่อวัน
- เพศชายและเพศหญิง อายุมากกว่า 50 ปี ต้องการแคลเซียม 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย ผู้ที่มีโรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวาน, ความดันโลหิต, โรคไต ที่ต้องคุมอาหาร ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเบอร์เกอร์ชีส 20 แผ่น ในมื้อเดียว ควรตรวจสอบปริมาณส่วนประกอบและโภชนาการ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพด้วยเช่นกัน
กินชีสมากๆ เป็นมะเร็งได้หรือไม่?นายแพทย์ฮิโรมิ วาดะ (Hiromi Wada) ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งจากมหาวิทยาลัยเกียวโต ได้ให้สัมภาษณ์ถึงวิธีการป้องกันและรักษาโรคมะเร็งและโรคที่เกิดจากการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยกล่าวว่าเซลล์มะเร็งจะชอบสิ่งแวดล้อมในร่างกายที่เป็นกรดมาก ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ทำให้สิ่งแวดล้อมภายในร่างกายมีความเป็นกรด โดยอาหารดังกล่าว รวมถึงนมและผลิตภัณฑ์นม เช่น เนย โยเกิร์ต และชีส มี IGF-1 (Insulin-like growth factor) ในปริมาณที่สูง สารชนิดนี้จะไปเร่งอัตราการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และเปลี่ยนรอบๆ เซลล์มะเร็งให้เป็นกรดที่เซลล์มะเร็งชอบ โดยพบว่าผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งมีแนวโน้มอยากรับประทานของหวานที่ทำจากชีสและนมเนยมากขึ้น และผู้ป่วยที่หยุดรับประทานนมและผลิตภัณฑ์นมรวมถึงของหวานจะส่งผลในการบำบัดโรคมะเร็งให้มีโอกาสหายได้มากขึ้น
แม้ว่าโยเกิร์ตและชีสจะดีต่อสุขภาพเพราะช่วยเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในลำไส้และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง แต่เมื่อตรวจพบเซลล์มะเร็ง ชีสและโยเกิร์ตกลับเป็นอาหารต้องห้ามสำหรับผู้ป่วยเป็นมะเร็ง ซึ่งหากต้องการเสริมสร้างสภาวะสิ่งแวดล้อมในลำไส้ที่ดีก็สามารถใช้อาหารทางเลือกจากสาเกหวาน หรือมิโสะแทนโยเกิร์ตและชีสแทนได้
(อาหารบางอย่างกินผิดเวลาอาจเกิดโทษได้ https://www.smk.co.th/newsdetail/212) กินชีสอย่างไรให้มีประโยชน์ต่อสุขภาพเพื่อให้ผู้ที่นิยมรับประทานชีสได้รับประโยชน์จากชีสได้อย่างเต็มที่ การเลือกรับประทานชีสให้เหมาะสมนั้นจึงมีความสำคัญ เนื่องจากชีสอุดมไปด้วยเกลือ ผู้รับประทานชีสจึงควรเลือกชีสที่มีปริมาณเกลือน้อย ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นชีสชนิดนิ่ม โดยตัวอย่างชนิดชนิดแข็งก็เช่น พาเมซานชีส
นอกจากนี้ ชีสที่ดีกับสุขภาพที่สุดควรเป็นชีสที่ทำสดใหม่ เช่น คอตเทจชีส (Cottage Cheese) เพราะมีโปรตีนที่ดีกับสุขภาพในปริมาณมาก แต่ทั้งนี้ก็ควรรับประทานในปริมาณที่น้อย หรือรับประทานชีสคู่กับโปรตีน อย่างเนื้อไก่ หรืออาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น แอปเปิล บรอกโคลี หรือมะเขือเทศ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่หลากหลาย
ทั้งนี้ ผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพ เช่น มีภาวะย่อยน้ำตาลแล็กโทสบกพร่อง (Lactose Intolerance) ผู้ที่แพ้นม ผู้ที่แพ้โปรตีนเคซีน (Casein) ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานชีส เนื่องจากผู้ป่วยในกลุ่มนี้อาจเสี่ยงเกิดอาการผิดปกติจากการรับประทานชีสได้
เลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แล้วให้ประกันภัยโรคมะเร็ง ช่วยลดความเสี่ยงทางการเงิน ทันทีที่ตรวจพบโรคมะเร็งครั้งแรก เพื่อนำไปใช้เป็นเงินชดเชยรายได้ในขณะเจ็บป่วยหรือพักฟื้น โดยไม่จำกัดวิธีการรักษาทั้งแบบธรรมชาติบำบัดหรือชีวจิต เป็นทุนสำรองสำหรับครอบครัวในกรณีที่เสียชีวิต และไม่ต้องตรวจสุขภาพก่อนทำประกันภัย สนใจรายละเอียด คลิก
https://www.smk.co.th/producthealthdetail/6 หรือ โทร. 1596 ตลอด 24 ชั่วโมง Line : smkinsurance และสามารถติดตามเนื้อหาสาระดีๆ เพิ่มเติมได้ที่
https://smkinsurance.blogspot.com 
หน้าหลักเว็บไซต์
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."
ผู้เขียน
