เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 29 กรกฎาคม 2025, 18:58:44
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  พ่อค่าหมูในตลาดสดเชียงรายจะหยุดขายเนี้อหมูแล้ว
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 [2] 3 พิมพ์
ผู้เขียน พ่อค่าหมูในตลาดสดเชียงรายจะหยุดขายเนี้อหมูแล้ว  (อ่าน 3756 ครั้ง)
oopoo
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 131



« ตอบ #20 เมื่อ: วันที่ 16 สิงหาคม 2011, 08:02:18 »

เมื่อวานไปซื้อที่โลตัส   ก็สะอาดดีคับ   ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
pom_9963
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,742


โปรแกรมสำเร็จรูปให้เช่า Line >> itsmypoodle


« ตอบ #21 เมื่อ: วันที่ 16 สิงหาคม 2011, 08:23:57 »

ผมขอเป็นตัวแทนพ่อค้าแม่ค้าขายหมูนะครับ ที่ทางพวกเราหยุดขายไม่ได้ทำเพื่อเราเองอย่างเดียว แต่ทำเพื่อผู้บริโภคด้วยนะครับ ตัวอย่างนะครับ ทางรัฐกำหนดราคาเนื้อแดงที่กิโลกรัมละ 157 บาท แต่ส่วนใหญ่พวกเราส่งให้กับร้านค้าเช่น ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านข้าวแกง ในราคา140-150 บาท แต่ถ้าพวกเราขายให้ในราคาที่รัฐกำหนดให้จริงๆ ร้านค้าต้องปรับราคาขายแน่นอน ก๋วยเตี๋ยวชามละ25 บาท ก็จะเป็น 30 บาท และ จากก๋วยเตี๋ยวที่เคยใส่หมู 3 ชิ้นต่อชาม ก็ต้องเป็น 2 ชิ้นต่อชาม(ลองสังเกตุดูนะครับ) ซึ้งจะส่งผลกระทบทั้งสองฝ่ายคือ ผู้บริโภคจะได้ทานหมูน้อยลง ถึงแม้ว่าราคาหมูจะลดลงก็ตาม ร้านก็จะไม่ใส่หมูเพิ่มโดยแน่นอน และผลกระทบอีกฝ่ายก็คือคนขายหมูเองยอดขายก็จะตกลงซึ่งถ้าราคาที่ยังแพงแบบนี้ทางเดียวที่คนขายหมูจะมีกำไรก็คือทำมากๆเพื่อให้ได้กำไร แต่นี่มันไม่ใช่ทางออกที่ดี พวกเราเลยคิดว่าจะทำยังไงถึงจะหยุดราคาสุกรมีชีวิตที่สูงขึ้นได้ ก็ต้องทำให้รัฐบาลเข้ามาสนใจแล้วรีบเข้ามาแก้ไขปัญหาด่วน เพราะ แค่ถ้าเรายื่นหนังสือผ่านผู้ว่า ก็ไม่ได้รับความสนใจเท่าไหร่ จึงมีมติหยุดขายเพื่อสะท้อนปัญหาต่อผู้เกี่ยวข้อง ซึ้งในขนะนี้ ก็ได้การตอบรับจากภาครัฐซึ้งราคาอาจจะหยุดขึ้น หรืออาจจะลงได้
  อีกอย่างนะครับเท่าที่รู้มา(ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่นะครับ)ก็คือ หมูที่แพงก็เกิดจากการที่หมูเป็นโรคตายกันมาก และที่สำคัญมันตายมานานแล้วประมาณปลายปี 53 นั้นแล้ว แต่ทางรัฐไม่ได้แถลงข่าวเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับทราบ ซึ่งส่งผลทำให้ราคาหมูมีชีวิตไม่ได้เป็นไปตามกลไกลการตลาดคือโดยความเป็นจริง โดยถ้าผู้บริโภคทราบว่าหมูเป็นโรคระบาดตายก็จะหลีกเลี่ยงการกินหมู เหมือนกับไก่ที่เป็นไข้หวัดนก ซึ่งถ้าหมูตายก็ตายไป ผู้บริโภคก็ตระหนกก็ลดการกินลง หมูในตลาดก็ไม่ขาดตลาด นี่กับกันเมื่อผู้บริโภคไม่ทราบ ก็กินปรกติ หมูที่ตายก็ตายไป บวกกับการบริโภคที่ยังคงที่กินกันเป็นปกติ ก็เลยทำให้หมูมีชีวิตในระบบขาดไป พอของในตลาดขาดบวกกับการกักเพื่อทำกำไรของผู้เลี้ยง คนที่ไปซื้อหมูที่หน้าฟาร์มเมื่อไปถึงที่แล้วก็ต้องซื้อมาให้ได้เพราะมีคำสั่งซื้อมาแล้ว จะแพงเท่าไหร่ก็ต้องซื้อ ราคาเลยถีบตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ้งจริงๆแล้วตอนนี้หมูก็ไม่ได้ขาดตลาดแล้วเพราะรัฐบาลกำหนดโควต้าการส่งออกแล้ว และรัฐก็กำหนดเพดานราคาหมูมีชีวิตแล้วแต่เกิด การกระทำที่ว่า ราคาที่รัฐกำหนดไม่มีขาย แต่ถ้าจะเอาก็ต้องเป็นราคาที่หลังบิลล์เช่น รัฐกำหนดให้81 บาท ผู้ขายก็บอกว่าไม่มี แต่ถ้าจ่ายในราคา82 บาทก็มีของ พอตกลงซื้อขายก็ออกบิลล์มาเป็น 81 บาท ส่วนอีก 1บาทก็จ่ายอีกที เขาเรียกว่าราคาหลังบิลล์ ซึ้งถ้าเราไม่ซื้อก็ไม่ได้เพราะไปถึงที่ฟาร์มแล้ว ถึงแม้เราจะไม่เอาเขาเขาก็ไม่เดือดร้อนเพราะอาหารหมูตกต้นทุนตอนนี้ราคาไม่ถึง20 บาทต่อวัน แต่ถ้ากักหมูไว้ 1 วันน้ำหนักหมูก็จะขึ้น 1กิโลกรัม เทียบกับราคาที่ได้ต่อกิโลแล้วยังไงก็กำไรเห็นๆ มีคนเคยบอกผมไว้ว่าบางฟาร์ม ขายหมูทีเดียวพร้อมกัน 1 คอก สามารถซื้อรถสปอร์ต เฟอรารี่ได้ 1คนเลยทีเดียว
  ดังที่ผมกล่าวมามากขนาดนี้คืออยากให้ทุกคนทราบว่าการที่หยุดจำหน่ายครั้งนี้ไม่ได้ทำเพื่อตัวคนขายอย่างเดียวแต่เราคำนึงถึงผู้บริโภค ไม่เหมือนห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ที่อยากจะขายราคาเท่าไหร่ก็ขายได้ วันนี้อยากจะขายถูกก็ประกาศออกมาขายถูกแต่พอไปอีกวันของหมดบ้าง หรือบางที่ราคาก็กระโดดสูงชนเพดาน แต่ถ้าเป็นพวกเราแล้วถ้าลูกค้าสั่งมาก็ต้องหามาให้ลูกค้าให้ได้ และก็ต้องเป็นราคาที่ตกลงกันไว้ ง่ายๆครับเรื่องของหมู ที่มันไม่หมูอย่างที่คิดกัน ถ้าจะอธิบายมันมากกว่านี่
  ขอบคุณทุกท่านที่เข้าใจพวกพ่อค้าแม่ค้า 
... เฮไปห้างแล้วเงินเข้ากระเป๋าใครครับ ทุกวันนี้ห้างใหญ่มาเปิดทุกคนรู้สึกสะดวกสบายทุกอย่าง รวมทั้งสบายกระเป๋าด้วยซ้ำ แต่เงินที่เคยหมุนเีวียนในเศรษฐกิจชุมชน โดนดูดไปทางนั้นส่วนใหญ่ เหมือนร่างกายคนเรา เลือดไปเลี้ยงส่วนใดส่วนหนึ่งมากไป หรือไปเลี้ยงส่วนใดส่วนหนึ่งไม่พอ นานไปร่างกายก็จะเริ่มป่วย อย่างน้อยเครื่องอุปโำภคบริโภค ช่วยซื้อของห้างท้องถิ่นเราดีกว่าครับ หลายอย่างถูกกว่าห้างใหญ่หลายบาท
เรื่องอาหารคนหรือแม้แ่ต่สัตว์ ตอนนี้บริษัทยักษ์ใหญ่เข้ามากุมตลาดเกือบเบ็ดเสร็จแล้ว อีกหน่อยการเลี้ยงสัตว์เพื่อการค้าที่ต้องพึ่งตนเองลำพัง คงอยู่ยาก เหมือนกับการทำนาข้าว เพราะนายทุนใหญ่เล็งเห็นแล้วว่าในอีก 5-10ปีข้างหน้า อาหารจะไม่พอเลี้ยงคนทั้งโลก
IP : บันทึกการเข้า
NORTHSIAM
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,254


« ตอบ #22 เมื่อ: วันที่ 16 สิงหาคม 2011, 11:55:37 »

ในห้างก็น่าจะงดขายด้วย ยังงี้ก็ไปซื้อในห้างได้ แต่ของในห้างขายตามราคาชั่งตามจิงนะครับ คุณภาพมั่นใจในความสะอาด มีการตรวจคุณภาพ ฐานะผู้บริโภคก็มั่นใจได้ว่า อุดหนุนของคุณภาพ ทานไปไม่เป็นอันตรายต่อตัวเรา ถึงแม้กำไรจะไปอยู่ที่ใคร
IP : บันทึกการเข้า
chaiya sounde
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #23 เมื่อ: วันที่ 16 สิงหาคม 2011, 14:18:38 »

เจริญพรเทิดโอมแล้วแต่พ่อคุณจะไปซื้อที่ไหนก็ตาม
IP : บันทึกการเข้า
zombie01
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,516


ความสุขเกิดขึ้นได้ เพียงแต่รู้จักใช้ชีวิต


« ตอบ #24 เมื่อ: วันที่ 16 สิงหาคม 2011, 14:22:19 »

ตอนเที่ยงดูข่าวช่อง 9 เห็นมีข่าวคนเชียงรายกินปลาน้ำจืดเยอะขึ้นเนื่องจากหมูแพงครับ
IP : บันทึกการเข้า

UFO
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 901


ลูกพ่อขุน


« ตอบ #25 เมื่อ: วันที่ 16 สิงหาคม 2011, 14:52:45 »

เลี้ยงแล้วฆ่ากินเองเลยดีใหม่ 555
IP : บันทึกการเข้า

ทำงานหนักเพือตนเองและครอบครัว
untaoran
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 82


« ตอบ #26 เมื่อ: วันที่ 16 สิงหาคม 2011, 22:50:01 »

ในห้างก็น่าจะงดขายด้วย ยังงี้ก็ไปซื้อในห้างได้ แต่ของในห้างขายตามราคาชั่งตามจิงนะครับ คุณภาพมั่นใจในความสะอาด มีการตรวจคุณภาพ ฐานะผู้บริโภคก็มั่นใจได้ว่า อุดหนุนของคุณภาพ ทานไปไม่เป็นอันตรายต่อตัวเรา ถึงแม้กำไรจะไปอยู่ที่ใคร
บอกตรงๆนะครับในห้างนั้นเราไม่ทราบหรอกว่ามีการตรวจจริงๆ เพราะถ้าตรวจจริงกระบวนการผลิตจะช้ามาก เพราะกว่าจะผลิตชำแหละแต่ละตัวออกมาได้ต้องตรวจ เนื่องจากของห้างก็มาจากฟาร์ม เหมือนกับพ่อค้าทั่วไปครับ โรงฆ่าก็แบบเดียวกันครับ แตกต่างตรงหน้าร้านเท่านั้นเองครับเหมือนกับ การบรรจุหีบห่อของสินค้านะครับ ส่วนการชั่งตลาดตอนนี้มีการตรวจการชั่งตลอดจากพานิชจังหวัด แต่ห้างจะตรวจก็จะบอกล่วงหน้าว่าจะไปตรวจ ส่วนราคานั้นนะครับ ห้างคิดทุกบาททุกสตางค์ เศษของ 1 ขีดก็คิดเงินปัดขึ้นอีกต่างหาก ส่วนพ่อค้าแม่ค้า ส่วนมากไม่ค่อยคิดนะครับ แต่ที่ท่านพูดมานั้นยอมรับว่าอดีตตลาดสดอาจจะเป็นอย่างที่ท่านกล่าวแต่เดี่ยวนี้ถ้ายังคงทำอยู่ก็จะเจ้งอย่างแน่นอน จึงเกิดการปรับตัว ของพ่อค้าแม่ค้านะครับ อิอิ ผมไม่ได้กล่าวว่าท่านนะครับเพียงแต่อธิบายให้เข้าใจในส่วนของพ่อค้าแม่ค้าครับ
 ขอบคุณครับ
IP : บันทึกการเข้า
AXEGIE
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 105


« ตอบ #27 เมื่อ: วันที่ 16 สิงหาคม 2011, 22:59:15 »

ปัญหาเนื้อหมูแพง สาเหตุหลักๆ มาจากบริษัทยักษ์ใหญ่ทางการเกษตร ปั่นราคาสินค้าครับ

โดยไม่ยอมขายหมูในราคาทุนเดิม อ้างว่า ต้นทุนค่าอาหารสัตว์สูงขึ้นบ้าง(ทั้งๆที่ผลิตอาหารสัตว์

เอง)  หมูเกิดโรคระบาดบ้าง(ซึ่งเลี้ยงในโรงเรือนปิด EVAP) ทำให้ราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มราคาสูง

ขึ้น(เนื้อหมูเป็น 1 ใน 41 สินค้าควบคุมครับ) ผู้ค้าส่ง,โรงฆ่าสัตว์ ก็ต้องขึ้นราคาเพื่อให้ได้กำไร

เท่าเดิม เรื่อยๆจนกระทั่ง พ่อค้าหมูสดตามตลาดสด ก็เลยอดใจไม่ได้ต้องขึ้นราคาเช่นกัน ในเมื่อ

ราคาหมูสูง คนกินจึงกินน้อยลง พ่อค้าจึงกำไรน้อยลง  กำไรเป็นกอบเป็นกำที่เคยได้หายไป ก็

เลยปิดเขียงประท้วงซะเลย ผลของการกระทำจึงตกมาที่คนกินหมูอย่างเราๆครับ

       ส่วนห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ กลับได้ผลประโยชน์จากราคาหมูที่สูงขึ้น เพราะจากอำนาจต่อ

รองสูง เผลอๆ ฮั้วกันด้วยซ้ำ และระบบการจัดการที่ดี จึงสามารถขายได้ครับ
 
บอกกันตรงๆที่บ้านผมขายหมูครับ ซื้อจากโรงฆ่าท้องถิ่น รับมากิโลกรัมละ 120 บาท ขายโลละ 140 เองครับ
IP : บันทึกการเข้า
chaiya sounde
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #28 เมื่อ: วันที่ 17 สิงหาคม 2011, 08:24:14 »

ขายราคา 120 บาทอยู่แถวไหนครับเอามาส่งให้ใด้มัย(ตัองการด่วน)


* 06-10-2010_ad_1286343785_0_20049900.gif (24.73 KB, 576x97 - ดู 197 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
NORTHSIAM
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,254


« ตอบ #29 เมื่อ: วันที่ 17 สิงหาคม 2011, 09:25:25 »

ในห้างก็น่าจะงดขายด้วย ยังงี้ก็ไปซื้อในห้างได้ แต่ของในห้างขายตามราคาชั่งตามจิงนะครับ คุณภาพมั่นใจในความสะอาด มีการตรวจคุณภาพ ฐานะผู้บริโภคก็มั่นใจได้ว่า อุดหนุนของคุณภาพ ทานไปไม่เป็นอันตรายต่อตัวเรา ถึงแม้กำไรจะไปอยู่ที่ใคร
บอกตรงๆนะครับในห้างนั้นเราไม่ทราบหรอกว่ามีการตรวจจริงๆ เพราะถ้าตรวจจริงกระบวนการผลิตจะช้ามาก เพราะกว่าจะผลิตชำแหละแต่ละตัวออกมาได้ต้องตรวจ เนื่องจากของห้างก็มาจากฟาร์ม เหมือนกับพ่อค้าทั่วไปครับ โรงฆ่าก็แบบเดียวกันครับ แตกต่างตรงหน้าร้านเท่านั้นเองครับเหมือนกับ การบรรจุหีบห่อของสินค้านะครับ ส่วนการชั่งตลาดตอนนี้มีการตรวจการชั่งตลอดจากพานิชจังหวัด แต่ห้างจะตรวจก็จะบอกล่วงหน้าว่าจะไปตรวจ ส่วนราคานั้นนะครับ ห้างคิดทุกบาททุกสตางค์ เศษของ 1 ขีดก็คิดเงินปัดขึ้นอีกต่างหาก ส่วนพ่อค้าแม่ค้า ส่วนมากไม่ค่อยคิดนะครับ แต่ที่ท่านพูดมานั้นยอมรับว่าอดีตตลาดสดอาจจะเป็นอย่างที่ท่านกล่าวแต่เดี่ยวนี้ถ้ายังคงทำอยู่ก็จะเจ้งอย่างแน่นอน จึงเกิดการปรับตัว ของพ่อค้าแม่ค้านะครับ อิอิ ผมไม่ได้กล่าวว่าท่านนะครับเพียงแต่อธิบายให้เข้าใจในส่วนของพ่อค้าแม่ค้าครับ
 ขอบคุณครับ

ครับ เหตุผลแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ แต่ญาติผมขายไก่ในตลาดบอกหมดทุกอย่าง ใอยากรู้หลังไมค์ได้ครับ อิอิ แต่ผมเลือกซื้อในห้างมากกว่า  
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 17 สิงหาคม 2011, 09:28:26 โดย NORTHSIAM » IP : บันทึกการเข้า
NORTHSIAM
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,254


« ตอบ #30 เมื่อ: วันที่ 17 สิงหาคม 2011, 09:28:02 »

ปัญหาเนื้อหมูแพง สาเหตุหลักๆ มาจากบริษัทยักษ์ใหญ่ทางการเกษตร ปั่นราคาสินค้าครับ

โดยไม่ยอมขายหมูในราคาทุนเดิม อ้างว่า ต้นทุนค่าอาหารสัตว์สูงขึ้นบ้าง(ทั้งๆที่ผลิตอาหารสัตว์

เอง)  หมูเกิดโรคระบาดบ้าง(ซึ่งเลี้ยงในโรงเรือนปิด EVAP) ทำให้ราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มราคาสูง

ขึ้น(เนื้อหมูเป็น 1 ใน 41 สินค้าควบคุมครับ) ผู้ค้าส่ง,โรงฆ่าสัตว์ ก็ต้องขึ้นราคาเพื่อให้ได้กำไร

เท่าเดิม เรื่อยๆจนกระทั่ง พ่อค้าหมูสดตามตลาดสด ก็เลยอดใจไม่ได้ต้องขึ้นราคาเช่นกัน ในเมื่อ

ราคาหมูสูง คนกินจึงกินน้อยลง พ่อค้าจึงกำไรน้อยลง  กำไรเป็นกอบเป็นกำที่เคยได้หายไป ก็

เลยปิดเขียงประท้วงซะเลย ผลของการกระทำจึงตกมาที่คนกินหมูอย่างเราๆครับ

       ส่วนห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ กลับได้ผลประโยชน์จากราคาหมูที่สูงขึ้น เพราะจากอำนาจต่อ

รองสูง เผลอๆ ฮั้วกันด้วยซ้ำ และระบบการจัดการที่ดี จึงสามารถขายได้ครับ
 
บอกกันตรงๆที่บ้านผมขายหมูครับ ซื้อจากโรงฆ่าท้องถิ่น รับมากิโลกรัมละ 120 บาท ขายโลละ 140 เองครับ

กด like ให้ครับ  ยิ้มเท่ห์
IP : บันทึกการเข้า
นายชาย
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 615



« ตอบ #31 เมื่อ: วันที่ 17 สิงหาคม 2011, 11:37:00 »

เอ็นดู ผู้ประกอบการค้าหมู ทุกท่าน รัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ มีก๋านบ้านแห๋มแล้ว 1.น้ำท่วม 2. หมูแปง 3. ค่าแรง 300 4. ป.ตรี 15,000.- กึดไปแล้ว เจ็บหัวแตนแต้ๆ "ประเทศไทย"
IP : บันทึกการเข้า
romeo111
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #32 เมื่อ: วันที่ 17 สิงหาคม 2011, 12:59:38 »

กินแมวกันเถอะ
+100 ครับ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า
stradaracing
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 333

ชีวิตต้องก้าวต่อไป


« ตอบ #33 เมื่อ: วันที่ 17 สิงหาคม 2011, 18:23:34 »

ขอเสนอความคิดเห็นด้วยนะครับผม เนื่องจากครอบครัวผมเองก็เลี้ยงหมูครับผม

สาเหตุหลักที่เนื้อหมูแพงในตอนนี้มีอยู่ด้วยกันหลายปัจจัยครับผม

      ช่วงก่อนหน้านี้ประมาณ2เดือนได้มีโรคระบาดเกิดขึ้นครับ แถวเชียงรายบ้านเฮาเป็นกันมาก เป็นโรคที่ติดต่อได้ทางอากาศ เมื่อมีลมพัด ทำให้พาเชื้อโคไปติดโรงเรือนข้างเคียง หมูป่วยตายไปมากพอสมควร ทั้งลูกหมู แม่พันธุ์ และหมูขุนที่กำลังจะขาย แถมช่วงนั้นมียาแบบไหนดีก็จะซื้อมาลองหมด ฟาร์มบางแห่งหมูตายมากถึงขั้นขายตัวที่เหลือยกฟาร์มเลย เพราะถ้าปล่อยไว้ก็ตายกันหมด ถ้าตายก็ขายไม่ได้ราคา ค่ายาก็แพง โรคนี้ไม่ได้เกิดแต่ในเชียงราย จังหวัดอื่นก็เป็นด้วย เนื่องจากโรคอาจนำพามาจาก อากาศ รถพ่อค้าหมู กรงหมูที่ใช้ร่วมกัน เพราะเหตุนี้เมื่อหมูส่วนใหญ่ตายลง ทำให้ช่วงเดือนหลังจากนั้นพวกเราก็จึงไม่มีหมูที่จะขาย พ่อค้าหมูก็หาหมูส่งให้เขียงยากขึ้น ราคาหมูจึงปรับตัวสูงขึ้นครับ เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ราคาหน้าเขียงช่วงนี้จึงแพงเอามากๆ ราคาหน้าฟาร์มก็สูงเช่นกัน แต่ถึงราคาจะสูง ครอบครัวผมก็ไม่มีหมูจะขายให้อยู่ดี เพราะก่อนหน้านี้ตายหมด ตัวที่ไม่ตายก็ขายออกกันตายอีก ราคามันเลยเป็นแบบนี้อะครับ

      แต่ก่อนหน้านี้ที่ว่าราคาหมูมีการปรับตัวก็มีด้วยกันหลายสาเหตุครับ เพราะฟาร์มหมูไม่ได้เป็นคนตั้งราคาขายนะครับขึ้นอยู่กับผู้ค้ารายใหญ่ที่สุดในประเทศ ราคาอาหารที่ปรับตัวขึ้น แล้วก็เรื่องโรคที่เกิด อธิบายคราวๆประมาณนี้ก่อนนะครับ

ปล.ปกติการเลี้ยงหมูขุนขายจะมีช่วงเวลาประมาณ3เดือนครับ หากอีกประมาณเดือนหน้าราคาก็น่าจะลงละครับ เพราะน่าจะมีหมูขุนที่โตพอขายมากขึ้น เมื่อมีมาก ราคาอาหารไม่ขึ้น พ่อค้าหาหมูส่งเขียงได้ง่าย มีให้เลือกมาก ราคาก็จะลงเองครับ
IP : บันทึกการเข้า
stradaracing
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 333

ชีวิตต้องก้าวต่อไป


« ตอบ #34 เมื่อ: วันที่ 17 สิงหาคม 2011, 18:24:45 »

ปัญหาเนื้อหมูแพง สาเหตุหลักๆ มาจากบริษัทยักษ์ใหญ่ทางการเกษตร ปั่นราคาสินค้าครับ

โดยไม่ยอมขายหมูในราคาทุนเดิม อ้างว่า ต้นทุนค่าอาหารสัตว์สูงขึ้นบ้าง(ทั้งๆที่ผลิตอาหารสัตว์

เอง)  หมูเกิดโรคระบาดบ้าง(ซึ่งเลี้ยงในโรงเรือนปิด EVAP) ทำให้ราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มราคาสูง

ขึ้น(เนื้อหมูเป็น 1 ใน 41 สินค้าควบคุมครับ) ผู้ค้าส่ง,โรงฆ่าสัตว์ ก็ต้องขึ้นราคาเพื่อให้ได้กำไร

เท่าเดิม เรื่อยๆจนกระทั่ง พ่อค้าหมูสดตามตลาดสด ก็เลยอดใจไม่ได้ต้องขึ้นราคาเช่นกัน ในเมื่อ

ราคาหมูสูง คนกินจึงกินน้อยลง พ่อค้าจึงกำไรน้อยลง  กำไรเป็นกอบเป็นกำที่เคยได้หายไป ก็

เลยปิดเขียงประท้วงซะเลย ผลของการกระทำจึงตกมาที่คนกินหมูอย่างเราๆครับ

       ส่วนห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ กลับได้ผลประโยชน์จากราคาหมูที่สูงขึ้น เพราะจากอำนาจต่อ

รองสูง เผลอๆ ฮั้วกันด้วยซ้ำ และระบบการจัดการที่ดี จึงสามารถขายได้ครับ
 
บอกกันตรงๆที่บ้านผมขายหมูครับ ซื้อจากโรงฆ่าท้องถิ่น รับมากิโลกรัมละ 120 บาท ขายโลละ 140 เองครับ

+1คนนี้ด้วยครับ
IP : บันทึกการเข้า
โดเรม่อน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 317


« ตอบ #35 เมื่อ: วันที่ 17 สิงหาคม 2011, 21:26:19 »

ข่าวดีจ้า ตอนนี้มีแม่ค้ากลับมาขายเหมือนเดิมแล้ว ต้องการซื้อหาซื้อได้ที่กาดแลงเน้อเจ้า
IP : บันทึกการเข้า
sang_na_ja
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 261


« ตอบ #36 เมื่อ: วันที่ 17 สิงหาคม 2011, 22:20:49 »

ในห้างก็น่าจะงดขายด้วย ยังงี้ก็ไปซื้อในห้างได้ แต่ของในห้างขายตามราคาชั่งตามจิงนะครับ คุณภาพมั่นใจในความสะอาด มีการตรวจคุณภาพ ฐานะผู้บริโภคก็มั่นใจได้ว่า อุดหนุนของคุณภาพ ทานไปไม่เป็นอันตรายต่อตัวเรา ถึงแม้กำไรจะไปอยู่ที่ใคร
บอกตรงๆนะครับในห้างนั้นเราไม่ทราบหรอกว่ามีการตรวจจริงๆ เพราะถ้าตรวจจริงกระบวนการผลิตจะช้ามาก เพราะกว่าจะผลิตชำแหละแต่ละตัวออกมาได้ต้องตรวจ เนื่องจากของห้างก็มาจากฟาร์ม เหมือนกับพ่อค้าทั่วไปครับ โรงฆ่าก็แบบเดียวกันครับ แตกต่างตรงหน้าร้านเท่านั้นเองครับเหมือนกับ การบรรจุหีบห่อของสินค้านะครับ ส่วนการชั่งตลาดตอนนี้มีการตรวจการชั่งตลอดจากพานิชจังหวัด แต่ห้างจะตรวจก็จะบอกล่วงหน้าว่าจะไปตรวจ ส่วนราคานั้นนะครับ ห้างคิดทุกบาททุกสตางค์ เศษของ 1 ขีดก็คิดเงินปัดขึ้นอีกต่างหาก ส่วนพ่อค้าแม่ค้า ส่วนมากไม่ค่อยคิดนะครับ แต่ที่ท่านพูดมานั้นยอมรับว่าอดีตตลาดสดอาจจะเป็นอย่างที่ท่านกล่าวแต่เดี่ยวนี้ถ้ายังคงทำอยู่ก็จะเจ้งอย่างแน่นอน จึงเกิดการปรับตัว ของพ่อค้าแม่ค้านะครับ อิอิ ผมไม่ได้กล่าวว่าท่านนะครับเพียงแต่อธิบายให้เข้าใจในส่วนของพ่อค้าแม่ค้าครับ
 ขอบคุณครับ
ตอบได้เลยว่าทางห้างเค้าตรวจจริงๆเมื่อก่อนเคยส่งอาหารทะเลเข้า
ห้างต้องตรวจเยอะเลยกว่าจะได้ส่ง
IP : บันทึกการเข้า
flashi
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,796


on the internet nobody knows you’re a dog


« ตอบ #37 เมื่อ: วันที่ 17 สิงหาคม 2011, 23:12:24 »

กาดหลวงยังมีขายอยู่นิ
IP : บันทึกการเข้า

ทุกอาชีพไม่มีไส้แห้ง ไม่ว่าอาชีพใดทั้งสิ้น ที่เมิงไส้แห้ง เพราะเมิงกระจอกไง มันอยู่ที่ใจเมิง ใจเมิงสูงเมิงก็รอด ใจเมิงกระจอกเมิงก็จน!
--- (เชิญชมคลิปเต็ม)
http://www.youtube.com/watch?v=s-g89WcO6DQ
Majito
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 365



« ตอบ #38 เมื่อ: วันที่ 17 สิงหาคม 2011, 23:22:12 »

ไม่เป็นไรไม่รีบกิน ช่วงนี้กินปลาบ่อยจนรู้สึกฉลาดว่าขึ้น   ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
อีกอย่างถูกด้วย ปลานึ่ง ผักต้ม ลดน้ำหนักไปในตัว  ยิ้มเท่ห์
IP : บันทึกการเข้า
Blacky
—————————
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,160


—‘ ฅ น ติ ด ดิ น ’—


« ตอบ #39 เมื่อ: วันที่ 18 สิงหาคม 2011, 02:11:13 »

ผมขอเป็นตัวแทนพ่อค้าแม่ค้าขายหมูนะครับ ที่ทางพวกเราหยุดขายไม่ได้ทำเพื่อเราเองอย่างเดียว แต่ทำเพื่อผู้บริโภคด้วยนะครับ ตัวอย่างนะครับ ทางรัฐกำหนดราคาเนื้อแดงที่กิโลกรัมละ 157 บาท แต่ส่วนใหญ่พวกเราส่งให้กับร้านค้าเช่น ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านข้าวแกง ในราคา140-150 บาท แต่ถ้าพวกเราขายให้ในราคาที่รัฐกำหนดให้จริงๆ ร้านค้าต้องปรับราคาขายแน่นอน ก๋วยเตี๋ยวชามละ25 บาท ก็จะเป็น 30 บาท และ จากก๋วยเตี๋ยวที่เคยใส่หมู 3 ชิ้นต่อชาม ก็ต้องเป็น 2 ชิ้นต่อชาม(ลองสังเกตุดูนะครับ) ซึ้งจะส่งผลกระทบทั้งสองฝ่ายคือ ผู้บริโภคจะได้ทานหมูน้อยลง ถึงแม้ว่าราคาหมูจะลดลงก็ตาม ร้านก็จะไม่ใส่หมูเพิ่มโดยแน่นอน และผลกระทบอีกฝ่ายก็คือคนขายหมูเองยอดขายก็จะตกลงซึ่งถ้าราคาที่ยังแพงแบบนี้ทางเดียวที่คนขายหมูจะมีกำไรก็คือทำมากๆเพื่อให้ได้กำไร แต่นี่มันไม่ใช่ทางออกที่ดี พวกเราเลยคิดว่าจะทำยังไงถึงจะหยุดราคาสุกรมีชีวิตที่สูงขึ้นได้ ก็ต้องทำให้รัฐบาลเข้ามาสนใจแล้วรีบเข้ามาแก้ไขปัญหาด่วน เพราะ แค่ถ้าเรายื่นหนังสือผ่านผู้ว่า ก็ไม่ได้รับความสนใจเท่าไหร่ จึงมีมติหยุดขายเพื่อสะท้อนปัญหาต่อผู้เกี่ยวข้อง ซึ้งในขนะนี้ ก็ได้การตอบรับจากภาครัฐซึ้งราคาอาจจะหยุดขึ้น หรืออาจจะลงได้
  อีกอย่างนะครับเท่าที่รู้มา(ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่นะครับ)ก็คือ หมูที่แพงก็เกิดจากการที่หมูเป็นโรคตายกันมาก และที่สำคัญมันตายมานานแล้วประมาณปลายปี 53 นั้นแล้ว แต่ทางรัฐไม่ได้แถลงข่าวเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับทราบ ซึ่งส่งผลทำให้ราคาหมูมีชีวิตไม่ได้เป็นไปตามกลไกลการตลาดคือโดยความเป็นจริง โดยถ้าผู้บริโภคทราบว่าหมูเป็นโรคระบาดตายก็จะหลีกเลี่ยงการกินหมู เหมือนกับไก่ที่เป็นไข้หวัดนก ซึ่งถ้าหมูตายก็ตายไป ผู้บริโภคก็ตระหนกก็ลดการกินลง หมูในตลาดก็ไม่ขาดตลาด นี่กับกันเมื่อผู้บริโภคไม่ทราบ ก็กินปรกติ หมูที่ตายก็ตายไป บวกกับการบริโภคที่ยังคงที่กินกันเป็นปกติ ก็เลยทำให้หมูมีชีวิตในระบบขาดไป พอของในตลาดขาดบวกกับการกักเพื่อทำกำไรของผู้เลี้ยง คนที่ไปซื้อหมูที่หน้าฟาร์มเมื่อไปถึงที่แล้วก็ต้องซื้อมาให้ได้เพราะมีคำสั่งซื้อมาแล้ว จะแพงเท่าไหร่ก็ต้องซื้อ ราคาเลยถีบตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ้งจริงๆแล้วตอนนี้หมูก็ไม่ได้ขาดตลาดแล้วเพราะรัฐบาลกำหนดโควต้าการส่งออกแล้ว และรัฐก็กำหนดเพดานราคาหมูมีชีวิตแล้วแต่เกิด การกระทำที่ว่า ราคาที่รัฐกำหนดไม่มีขาย แต่ถ้าจะเอาก็ต้องเป็นราคาที่หลังบิลล์เช่น รัฐกำหนดให้81 บาท ผู้ขายก็บอกว่าไม่มี แต่ถ้าจ่ายในราคา82 บาทก็มีของ พอตกลงซื้อขายก็ออกบิลล์มาเป็น 81 บาท ส่วนอีก 1บาทก็จ่ายอีกที เขาเรียกว่าราคาหลังบิลล์ ซึ้งถ้าเราไม่ซื้อก็ไม่ได้เพราะไปถึงที่ฟาร์มแล้ว ถึงแม้เราจะไม่เอาเขาเขาก็ไม่เดือดร้อนเพราะอาหารหมูตกต้นทุนตอนนี้ราคาไม่ถึง20 บาทต่อวัน แต่ถ้ากักหมูไว้ 1 วันน้ำหนักหมูก็จะขึ้น 1กิโลกรัม เทียบกับราคาที่ได้ต่อกิโลแล้วยังไงก็กำไรเห็นๆ มีคนเคยบอกผมไว้ว่าบางฟาร์ม ขายหมูทีเดียวพร้อมกัน 1 คอก สามารถซื้อรถสปอร์ต เฟอรารี่ได้ 1คนเลยทีเดียว
  ดังที่ผมกล่าวมามากขนาดนี้คืออยากให้ทุกคนทราบว่าการที่หยุดจำหน่ายครั้งนี้ไม่ได้ทำเพื่อตัวคนขายอย่างเดียวแต่เราคำนึงถึงผู้บริโภค ไม่เหมือนห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ที่อยากจะขายราคาเท่าไหร่ก็ขายได้ วันนี้อยากจะขายถูกก็ประกาศออกมาขายถูกแต่พอไปอีกวันของหมดบ้าง หรือบางที่ราคาก็กระโดดสูงชนเพดาน แต่ถ้าเป็นพวกเราแล้วถ้าลูกค้าสั่งมาก็ต้องหามาให้ลูกค้าให้ได้ และก็ต้องเป็นราคาที่ตกลงกันไว้ ง่ายๆครับเรื่องของหมู ที่มันไม่หมูอย่างที่คิดกัน ถ้าจะอธิบายมันมากกว่านี่
  ขอบคุณทุกท่านที่เข้าใจพวกพ่อค้าแม่ค้า 

+ ล้านเลยครับ

ข่าวบอกราคาหมูหน้าฟาร์ม 79 - 80 บาท ที่จริงแล้ว มันมากกว่านั้นครับ
แล้วก็อย่างที่น้าท่านได้บอกมาว่า ทางรัฐกำหนดราคาเนื้อแดงที่กิโลกรัมละ 157 บาท แต่ส่วนใหญ่พวกเราส่งให้กับร้านค้าเช่น ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านข้าวแกง ในราคา140-150 บาท แต่ถ้าพวกเราขายให้ในราคาที่รัฐกำหนดให้จริงๆ ร้านค้าต้องปรับราคาขายแน่นอน

อีกอย่างนะครับเท่าที่รู้มา(ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่นะครับ)ก็คือ หมูที่แพงก็เกิดจากการที่หมูเป็นโรคตายกันมาก และที่สำคัญมันตายมานานแล้วประมาณปลายปี 53 นั้นแล้ว แต่ทางรัฐไม่ได้แถลงข่าวเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับทราบ
อันนี้ผมก็ได้ยินมาแบบนั้นเหมือนกันครับ

ดังที่ผมกล่าวมามากขนาดนี้คืออยากให้ทุกคนทราบว่าการที่หยุดจำหน่ายครั้งนี้ไม่ได้ทำเพื่อตัวคนขายอย่างเดียวแต่เราคำนึงถึงผู้บริโภค ไม่เหมือนห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ที่อยากจะขายราคาเท่าไหร่ก็ขายได้ วันนี้อยากจะขายถูกก็ประกาศออกมาขายถูกแต่พอไปอีกวันของหมดบ้าง หรือบางที่ราคาก็กระโดดสูงชนเพดาน แต่ถ้าเป็นพวกเราแล้วถ้าลูกค้าสั่งมาก็ต้องหามาให้ลูกค้าให้ได้ และก็ต้องเป็นราคาที่ตกลงกันไว้ ง่ายๆครับเรื่องของหมู ที่มันไม่หมูอย่างที่คิดกัน ถ้าจะอธิบายมันมากกว่านี่
ถูกต้องครับ จรรยาบรรของผู้ประกอบอาชีพค้าขาย ต้องคำนึงถึงผู้บริโภคอยู่แล้วครับ
เหตุที่ต้องหยุดขาย เพราะเราไม่สามารถขายในราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนได้ จะขายได้ก็ต่อเมื่อขายหมูที่ตายเพราะโรคระบาดนั่นแหละครับ(แล้วมันก็มีแล้วด้วย หากท่านเจอเคสที่พ่อค้าหมูขายหมูในราคาที่ต่ำกว่าทางภาครัฐกำหนด ท่านควรระมัดระวังไว้ก็ดีนะครับ)

ปล. ไม่ได้ตั้งใจกล่าวหาพาดพิงถึงผู้ใด แต่อยากให้ผู้บริโภคได้รับรู้เท่านั้นครับ ยิ้มเท่ห์
IP : บันทึกการเข้า

หน้า: 1 [2] 3 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!