ยากกว่าสะบัดสะบิ้งมากมายเลย....แล้วเราจะได้มั้ยหนอ.... 
ตอบคำถามข้อนี้ก่อนครับ..ยากหรือไม่จะได้หรือไม่ ต้องอ่านมันให้ซ้ำไปซ้ำมาบ่อยๆ
ให้เห็นมัน(กลอน)ให้ได้ เอากลอนมาเป็นผู้รับใช้เราให้ได้ มันต้องรับใช้เราก่อน แต่ก่อนที่
มันจะรับใช้เรา เราต้องสร้างมันขึ้นมา ประดิษฐ์กลอนขึ้นเองจากจินตนาการอันไม่สิ้นสุด
ไม่มีขาย ประดิษฐ์เสร็จก็นั่งดูกลอน อ่านโวหารของกลอน โวหารของกลอนก็คือของเรา
พิจารณาโวหารที่เรากลั่นออกมาจากจินตนาการ มารับใช้เราแล้ว เราก็ส่งมันให้ไปรับใช้
เพื่อนในชมรม ในสังคมที่กว้างขึ้น หน้าที่อีกอย่างหนึ่งหนีไม่พ้นคือ...รอ..รอรับฟังผล
สะท้อนกลับที่จะมีทั้งดอกไม้ หรือก้อนหิน...กล่องของขวัญ หรือน้ำตา ....เก้าอี้ให้เรา
นั่งพร้อมรอยยิ้มต้อนรับ หรือซองขาว
กลบทนี้ไม่น่าจะยากครับ เพราะที่ยากกว่านี้ ยังมีอีกเป็นกระบุงโกย...แหะ...แหะ
เอ๊ยย...ไม่ใช่ ....นี่นะนี่ ยากาากกก...สุดๆแย้ววว...
กลบทสะบัดสะบิ้งเป็นกลบทที่สนุกสนาน เพราะบังคับสี่คำท้ายนั้นหนีไปใช้อย่างอื่นไม่ได้
แม้จะเขียนเป็นกลอนเศร้า ก็ไม่น่าจะเศร้าได้เท่าไร
@@@@@@@@@@@@@@@@
ท่านจะสังเกตุเห็น วรรคล่างสุด ทั้งสองบท..สะบัดสะบิ้ง.. และ บัวกลางบึง นั้น
ได้มี "......" อยู่ทั้งสามตำแหน่ง อันนี้เป็นการเล่นสีสรรค์ของผมเอง หักมุมไปเน้น
ข้อความที่ต้องการให้เด่นขี้น สนุกขึ้นอีกนิด แต่ถ้าเนื้อแท้แล้วหากเป็นกลอนประกวด
ก็คงตกรอบแรกไปเลย ไม่ต้องอุทธรณ์
ลักษณะของกลอนวรรคสุดท้ายนี้ น่าจะ (..ขอย้ำว่าน่าจะ เท่านั้น -ศิษย์ใหม่ฯ)
จัดเข้าอยู่ใน ..กลบทตะเข็บไต่ขอน.. ครับ
ซึ่งมีระเบียบแบบแผนของกลบทอีกต่างหากครับ
ขอบคุณครับ
ศิษย์ใหม่ไร้วิชา
๑ เมย. ๒๕๕๕
@@@ ผมได้ลบ "...." และปรับปรุงเนื้อความของวรรคท้ายสุดของบทกลอน
ที่แสดงว่าเป็นลักษณะของกลบทตะเข็บไต่ขอน ออกไปแล้ว คงเหลือไว้แต่
รูปแบบของกลบทสะบัดสะบิ้ง และกลบทบัวกลางบึง..อย่างเดียวเท่านั้น ด้วยเกรงว่า
ผู้ไม่เข้าใจนำไปใช้ จะเกิดการเข้าใจผิดในรูปแบบของฉันทลักษณ์กันใหญ่ จะเป็น
ผลเสียกับทุกฝ่ายครับ
ขอบคุณครับ
ศิษย์ใหม่ไร้วิชา
๑ เมย.๒๕๕๕