ป 7 " อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!!! "
หือ..ผู้เขียนลองแซมเปิ้ลร้องดูม่ะย่า...

๐๐๐
ทันทีที่ประตูถูกแง้มเปิดจนหมด...ภาพที่สามเณรน้อยทุกรูปเห็นในขณะนั้น มันช่างน่าเกลียดน่ากลัวน่าขยะแขยงเสียยิ่งนัก
เป็นรูปใบหน้าคน..ที่มีดวงตาอันแดงกล่ำเถลือกถลน! ใบหน้าเป็นแผลเหวะหวะเน่าเฟะเต็มวงกบประตู ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งตลบอบอวน สามเณรทุกรูปจำใบหน้านี้ได้เป็นอย่างดี..
" เหวอออออ....!!! อุ๊ยทรวง!!! "
ณ บัดนั้น ความชุลมุนพร้อมเสียงเอะอะโวยวาย ก็ให้บังเกิดขึ้นอย่างไม่ได้ศัพท์ พระน้อยต่างโผเข้าหากัน กอดกันกลมโดยมิได้นัดหมาย ผ้าห่มเพียงผืนเดียวแทบจะฉีกขาดย่อยยับ เพราะต่างก็ยื้อแย่งดึงดันใช้เป็นเกาะกำบังภัยโดยสัญชาติญาณ...
" น้อย..เป๋นหยังน้อย..!!"
เสียงตุ๊ลุงผลักประตูออกมาอย่างแรง พร้อมกับคำถามปนน้ำเสียงอันตกใจของท่าน
ระฆัง! มาช่วยไว้ทันเวลา ทุกรูปโผผวาเข้าเกาะกุม กอดขาตุ๊ลุงไว้แน่น พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นด้วยน้ำเสียงอันสั่นเทา....พร้อมกับชี้ไปที่ประตูกุฏิ
แต่ก็ต้องตลึงงัน! เพราะประตูทุกบานปิดสนิท! ไม่มีแม้แต่ร่องรอยว่าเคยเปิดทิ้งไว้...นี่มันอะไรกัน!!!
ตุ๊ลุงปิดเปลือกตาลงครู่หนึ่งอย่างอ่อนใจ คงมีเพียงท่านเท่านั้นที่รู้ว่าอุ๊ยทรวงมาปรากฏตัวทำไม!!??..เอ...จะเป็นเพราะรัก..เพราะห่วงเณรน้อยของแกหรือเปล่านะ? หรือว่า...หรือว่ามีห่วงกรรมอันหนักหน่วง แน่นหนามัดดึงดวงวิญญาณของแกไว้ ...หรือเปล่านะ?!!?
" ทรวงเอ้ย...ตุ๊ลุงเข้าใจ๋ดีเน้อ..ถ้ามันไปไหนบ่ได้เตื่อก็อยู่นี่ก่อนกะได้ แต่ห้ามแสดงตั๋วเน้อ..ลูกพระลูกเณรเปิ้ลตกอกตกใจ๋ เป๋นบาปเป็นก๋ำหนา..."
ท่านกล่าวน้ำเสียงเรียบ แต่เปรี่ยมด้วยเมตตาตามแบบฉบับของท่าน
นับแต่นั้นมา ไม่มีผู้ใดเห็นเปรตอุ๊ยทรวงอีกเลย ตกดึก จะมีก็แต่เพียงเสียงหมาหอนที่โหยหวลรับกันเป็นทอด ๆ รอบบริเวณวัดทุกคืนไป
" ... บลู๋วววววววววว!!!! ... "
" ... โบล๋ววววววววววววววว!!! .. "
สู่สุคติเถิดนะ...อุ๊ยทรวง