
หลังจากการวางจำหน่ายซูซูกิ สวิฟท์ ในเซกเม้นต์
ซับคอมแพ็กต์ คาร์ ในปี 2554 ปรากฎว่าซูซูกิประสบความ
สำเร็จจากยอดจำหน่ายรถยนต์รุ่นสวิฟท์อย่างมาก จนบริษัท
แม่ที่ประเทศญี่ปุ่นมีความเห็นว่าการดำเนินธุรกิจใน
ประเทศไทยมีทิศทางที่ค่อนข้างดี จึงมีนโยบายให้โรงงาน
ผลิตรถยนต์ที่ประเทศอินโดนีเซียผลิตรถยนต์เพื่อป้อนตลาด
ประเทศไทยให้เพียงพอกับความต้องการมากที่สุด เพื่อให้
ซูซูกิไทยสามารถส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าได้ตามปกติ
ผลจากความร้อนแรงดังกล่าวทำให้ซูซูกิตัดสินใจโยกโมเดล
ของซูซูกิ สวิฟท์ จากซับคอมแพ็กต์ คาร์ ขยับลงมาอยู่ใน
เซกเม้นต์อีโค คาร์ แ ทน โดยได้เปิดตัวเวอร์ชั่นอีโค คาร์
ในเดือนมีนาคม พ.ศ.2555 ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร
และจะทำตลาดในกลุ่มลูกค้าที่ต้องการดีไซน์โดดเด่น และ
สมรรถนะการขับขี่ที่เป็นเลิศ ทำให้ซูซูกิ สวิฟท์ เป็นแบรนด์
รถยนต์ซับคอมแพ็กต์ คาร์ แบรนด์แรกที่ตัดสินใจเปลี่ยน
ตำแหน่งทางการตลาดดังกล่าว
เหตุผลที่ซูซูกิตัดสินใจนำกลยุทธ์ดังกล่าวมาใช้เนื่องจาก
ผู้บริหารซูซูกิเคยประเมินว่าเซกเม้นต์อีโค คาร์ จะได้รับ
ความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องบวกกับเชื่อว่ากลุ่มผู้ที่ใช้
รถเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตรจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหัน
มาเลือกใช้รถยนต์อีโคคาร์เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับเซกเม้นต์นี้
ยังเป็นการเปิดตลาดรถเก๋งขนาดเล็กไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ๆที่
ยังไม่เคยใช้รถยนต์มาก่อน รวมถึงกลุ่มลูกค้าของ
รถจักรยานยนต์ซึ่งมองว่ามีความใกล้เคียงกันกับรถยนต์
อีโคคาร์ จึงมีความมั่นใจว่าอีโค คาร์ จะทำให้ประเทศไทย
กลายเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาค
ด้วยยอดจำหน่ายที่ล้นหลามจากเมื่อครั้งวางตำแหน่งใน
เซกเม้นต์ซับคอมแพ็กต์ คาร์ ทำให้ซูซูกิมั่นใจว่าจะได้รับ
การตอบรับจากลูกค้าชาวไทยเป็นอย่างดี ด้วยจุดเด่นเรื่อง
ประหยัดน้ำมันและไลฟ์สไตล์รูปลักษณ์ที่โดดเด่นถูกใจ
คนไทย
ดังนั้นการเปิดตัวซูซูกิ สวิฟท์ ในเซกเม้นต์อีโค คาร์ ครั้งแรก
จึงมีเฉพาะรุ่นเกียร์อัตโนมัติเท่านั้น ก่อนจะเปิดตัวสวิฟท์
ในรุ่นเกียร์ธรรมดาในอีก 5 เดือนถัดมา
สวิฟท์ เกียร์ธรรมดา ถูกวางตำแหน่งทางการตลาดให้เป็น
รถที่มีความเป็นสปอร์ตี้ อีโคคาร์ ที่จะมาสร้างสีสัน กล่าวคือ
เป็นรถที่ขับสนุก-ช่วงล่างแน่น และประหยัดน้ำมัน
ดังนั้นกลุ่มเป้าหมายของรถในรุ่นนี้คือ คนรุ่นใหม่ที่ต้องการ
ความตื่นเต้น เร้าใจ ขณะที่ราคาจำหน่ายถือว่าแข่งขันได้ใน
ตลาด ทำให้ผู้บริหารซูซูกิได้ปรับเป้าหมายยอดขายทั้งปี
จาก 10,000 เป็น 17,000 คัน
ซูซูกิ สวิฟท์ ตั้งเป้าผลิตในปีแรกไว้ว่า โดย 90% เพื่อรองรับ
ความต้องการในประเทศ และที่เหลืออีก 10% รองรับ
ตลาดอื่น และภายในปีที่ 5 บริษัทจะสามารถผลิตรถ
อีโคคาร์ได้ที่ 100,000 คันอย่างแน่นอน แบ่งเป็นการผลิต
เพื่อรองรับตลาดในประเทศ 50% และส่งออกอีก 50%
ไปยังประเทศในแถบอาเซียน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
สนับสนุนข้อมูลโดย
นิตยสารแมกเก็ตติ้ง (Magketing)

สามารถดาวน์โหลดนิตยสารฉบับเต็ม...ฟรี...ได้ที่
http://www.ebooks.in.th/ebook/33840/magketing_vol8/(วิธีดาวน์โหลดไฟล์ให้ Click ปุ่ม >> คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดไฟล์)