ส่วนไทยรัฐเสนอข่าวอีกด้านครับผบช.ภ.5 ปัดลงโทษลูกน้อง คัดลายมือชื่อ 1 พันหน้าผบช.ภ.5 ปัดสั่งลงโทษลูกน้อง คัดลายมือชื่อผู้บังคับบัญชา 1 พันหน้า ด้าน ด.ต.ต้นเรื่อง แจงแค่โดนตำหนิ ตรวจสอบไลน์ พบรายชื่อไม่เกี่ยวข้อง ...
เมื่อวันที่ 25 ก.พ.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีการแชร์ภาพในโลกออนไลน์ว่า มีคำสั่งจาก ผบช.ภ.5 ลงโทษนายดาบ นายหนึ่ง ที่ห้องวิทยุ สภ.ป่าแดด จ.เชียงราย ให้คัดลายมือชื่อผู้บังคับบัญชา 1,000 แผ่น เนื่องจาก ทาง ผบช.ภ.5 ได้โทรเข้า สภ.ป่าแดด แล้วสอบถามชื่อนามสกุลผู้กำกับแล้วจำไม่ได้
ล่าสุด เวลา 15.30 น. ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้โทรศัพท์สอบถาม พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 กล่าวว่า เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องลุกลามไปแล้ว จริงๆ เป็นเรื่องที่ไม่มีอะไรเลย ตนได้โทรหาไปที่ห้องวิทยุ สภ.ป่าแดด จริง เมื่อถามชื่อนามสกุล ผู้กำกับ นายดาบคนดังกล่าว ก็จำไม่ได้ และยอมรับผิด ส่วนเรื่องคำสั่งให้ขัง หรือ ให้คัดลายมือชื่อ ไม่เป็นความจริง แต่อย่างใด ส่วนที่สื่อหลายแห่งลงนั้น มีข้อมูลหลายส่วนไม่เป็นความจริง
พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ ที่ลูกน้องอาจจะจำนามสกุล ผู้บังคับบัญชาไม่ได้ เนื่องจากมีการโยกย้ายบ่อย อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวก็อยู่ไกล
ด้าน พล.ต.ต.ติณภัทร์ ภูมิรินทร์ รอง ผบช.ภ.5 ได้ยืนยันกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ว่า ผบช.ภ.5 ไม่ได้มีคำสั่งลงโทษดาบตำรวจคนดังกล่าวแต่อย่างใด ประเด็นเรื่องการคัดลายมือชื่อนั้น เป็นเพียงการหยอกล้อผู้ใต้บังคับบัญชา ที่ไม่สามารถจดจำชื่อผู้บังคับบัญชาได้เท่านั้น
ขณะที่ พ.ต.อ.วิทยา อุตบุรี ผู้กำกับ สภ.ป่าแดด กล่าวว่า รับทราบข่าวนี้จากทางไลน์ที่ส่งต่อกันมา ส่วนข้อเท็จจริง คือยังไม่มีคำสั่งอย่างเป็นทางการจากผู้บังคับบัญชาให้ลงโทษ นายดาบตำรวจคนดังกล่าว อย่างไรก็ดี ตนจะสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายดาบตำรวจ ต้นเรื่องของเหตุการณ์ดังกล่าว ได้เปิดใจกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ โดยขอไม่เปิดเผยชื่อ ว่า ตนเองเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ เป็นเจ้าหน้าที่ประจำห้องวิทยุ สภ.ป่าแดด ในวันที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 โทรศัพท์มา โดยขอยอมรับว่า ยังไม่สามารถจดจำ นามสกุล ผกก.สภ.ป่าแดด ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงได้ เนื่องจาก พ.ต.อ.วิทยา เพิ่งจะย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ได้เพียง 2-3 เดือน ซึ่งตนเองก็ขอยอมรับผิดในจุดนี้ ส่วนที่มีข่าวว่าตนเองถูกลงโทษด้วยการให้คัดลายมือชื่อ 1 พันหน้า หรือ ถูกสั่งขัง นั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เนื่องจาก ผบช.ภ.5 เพียงแต่ตำหนิการปฏิบัติหน้าที่ของตนเองเท่านั้น และอยากขอร้องสื่อว่า อย่านำเสนอข่าวเรื่องนี้ให้เกินความจริงไปมากกว่านี้
นอกจากนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ยังได้สอบถามไปยัง ด.ต.ประยูร ปันชะนะ ที่ปรากฏในไลน์ที่มีการแชร์กัน ได้ความว่า ตนเป็นตำรวจสังกัดฝ่ายปฏิบัติการภูธร ภาค 5 ไลน์ที่มีการแชร์กันนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด เนื่องจากไลน์ดังกล่าวเป็นการคัดชื่อผู้บังคับบัญชา พร้อมนามเรียกขานใหม่ ที่ตนเองส่งต่อไปในไลน์เพื่อให้ลูกน้องได้จดจำนามเรียกขาน ของผู้บังคับบัญชาให้ถูกต้อง เพราะเกรงว่าหากลูกน้องจดจำไม่ได้ก็จะกระทบกับการทำหน้าที่ และตนเองก็ยังงงๆ อยู่ว่า ไลน์ดังกล่าวหลุดไปจนกลายเป็นข่าวใหญ่โตแบบนี้ได้อย่างไร
ทั้งนี้ จากการสอบถามแหล่งข่าวทราบว่า ทาง ผบช.ภ.5 เพิ่งจะมีนโยบายเปลี่ยนนามเรียกขาน จาก "ชัยยะ" มาเป็น "อินทนนท์" เมื่อไม่นานมานี้ จึงอาจทำให้นายตำรวจบางนายอาจจะจำนามเรียกขานไม่ได้.ที่มา
เว็บหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/483526