ศรีไทยปั้นแบรนด์ "
เอสเนเจอร์"

ศรี ไทยวาดเป้า 2 ปี ดัน "
เอสเนเจอร์" สู่ธุรกิจเครือข่ายสากล บุกตลาดอาเซียน หลังตั้ง "บัญชา เหมินทคุณ" นั่งแท่นรองกรรมการผู้จัดการ พร้อมตั้งทีมบริหารจัดการ 50 คน ขับเคลื่อนธุรกิจเดินหน้า
หลัง จากที่ทางศรีไทยฯ ได้ตั้งทีมบริหารใหม่ โดยล่าสุดได้แต่งตั้งนายบัญชา เหมินทคุณ ซึ่งเป็นผู้คร่ำหวอดอยู่ในธุรกิจนี้มาหลายปี และเคยเป็นผู้บริหารบริษัทขายตรงมาแล้วถึง 4 บริษัท ได้แก่ แอมเวย์, ออริเฟลม, ซินเนอร์จี้ และเอเจล เข้าดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการ ด้านธุรกิจเครือข่าย บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) พร้อมทีมงานบริหารใหม่กว่า 50 คน โดยมีเป้าหมายนอกเหนือจากผลักดันยอดขายให้ทะลุ 1,000 ล้านบาท ในปี 2557 แล้ว ยังมีเป้าหมายการผลักดันธุรกิจเครื่อข่ายไทย สู่เครือข่ายสากล ในอีก 2 ปี ข้างหน้า เพื่อขยายตลาดไปยังประเทศในแถบอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นพม่า ลาว เขมร เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และอินเดีย
ทั้ง นี้ในส่วนแผนการรุกตลาด นายบัญชา เปิดเผยว่า เหตุผลที่เข้ามาบริหารธุรกิจเครือข่าย
snatur ภายใต้แบรนด์ศรีไทยฯ เนื่องจากนโยบายการบริหารธุรกิจที่นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) ได้มีแนวคิดการบริหารที่ชัดเจน ทั้งในเรื่องการผลักดันสินค้าธุรกิจเครือข่ายไทยสู่สากล รวมทั้งมีแผนการผลักดันผลิตภัณฑ์จากห้างสุ่หิ้ง ซึ่งถือเป็นการสนับสนุนการวิจัยสินค้าโดยคนไทย ตลอดจนเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับเกษตรกรและนักธุรกิจอิสระด้วย ซึ่งแนวทางการบริหารงานในปีนี้ จะสร้างความชัดเจนของ
snature ภายใต้เครือข่ายศรีไทยฯ ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
"เบื้อง ต้นได้มีการวางงบประมาณ 50 ล้านบาท สำหรับการปรับปรุงและขยายศูนย์ที่ปัจจุบันมีอยู่แล้ว 14 แห่ง และในเดือนกรกฎาคมนี้ จะมีการเปิดศูนย์ที่ใช้ชื่อ
snaturที่รัชดาฯ เป็นแห่งแรก และในปีนี้ตั้งเป้าจะขยายศูนย์ เอสเนเจอร์อีก 4 แห่ง ในต่างจังหวัดด้วย ขณะเดียวกันเพื่อเป็นการสร้างความพร้อมการดำเนินธุรกิจ บริษัทจะเน้นการอบรมให้ความรู้กับสมาชิกอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าขยายฐานสมาชิกจากปัจจุบันที่มีอยู่ราว 20,000 คน เพิ่มเป็น 40,000 คนในสิ้นปีนี้ และคาดว่าในปี 2557 จะสามารถผลักดันให้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 100,000 คน โดยรายได้ที่วางไว้ 1,000 ล้านบาท จะแบ่งเป็นรายได้ในประเทศ 750 ล้านบาท และต่างประเทศ 250 ล้านบาท"
นอก จากนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มความหลากหลายของสินค้า บริษัทมีแผนการเปิดตัวสินค้าอีก 20 รายการ จากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 116 รายการ โดยสินค้าที่เปิดใหม่นั้นจะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพและกลุ่มความ งามเป็นหลัก นอกจากนี้ยังได้มีการสร้างทีมงานฝ่ายดูแลบริหารและการจัดการขึ้นมา 50 คน เพื่อเตรียมความพร้อมในเรื่องของการซื้อขาย และการจัดระบบเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกและลูกค้า รวมทั้งมีแผนการเปิดให้บริการด้านต่างๆ ผ่านระบบออนไลน์ ในเดือนสิงหาคม 2553 นี้ด้วย
ขณะ ที่นายสนั่น กล่าวว่า ภาพรวมยอดขายไตรมาสแรกของปี 2553 บริษัทมีการเติบโตเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 37% หรือคิดเป็นรายได้ 1,450 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ดังนั้นจากการเติบโตที่มีมากขึ้น ทำให้ในปีนี้บริษัทจะมีการปรับเป้ารายได้ใหม่เพิ่มขึ้นจากเดิมที่วางไว้ว่า ในปี 2553 จะมีการเติบโตจากปี 2552 18% หรือจากรายได้ 4,750 ล้านบาท เพิ่มเป็น 5,650 ล้านบาท แต่ต้องรอการประชุมคณะกรรมการอีกครั้งว่าการปรับจะเพิ่มเป็นเท่าใด
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :
http://www.whysnatur.com