เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 19 กรกฎาคม 2025, 12:18:21
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  ร่วมใจรณรงค์ งดปล่อยโคม เทศกาลต่างๆ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 [2] พิมพ์
ผู้เขียน ร่วมใจรณรงค์ งดปล่อยโคม เทศกาลต่างๆ  (อ่าน 2004 ครั้ง)
alintacai999
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 115


ลูกเม็งราย มีน้ำใจ ให้อภัย รักสงบ


« ตอบ #20 เมื่อ: วันที่ 02 พฤศจิกายน 2014, 20:20:04 »

กันไฟไหม่ ครับน่  ยิ้มเท่ห์
IP : บันทึกการเข้า

พีเจ
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 331


« ตอบ #21 เมื่อ: วันที่ 03 พฤศจิกายน 2014, 08:28:47 »

ควรกำหนดขนาดของโคม + ปริมาณเชื้อเพลิง(ขี้ไต้) ถ้าโคมที่ดี มันขึ้นไปสักระยะแล้วไฟมันจะมอดไปเองครับ ที่มีปัญหาเกิดจากขนาดโคมใหญ่ใช้ขี้ไต้เยอะ เผาไหม้ไม่หมด หรือขนาดโคมเล็กแต่ขี้ไต้ใหญ่  สล่าแถวบ้านบอกมา
IP : บันทึกการเข้า
- kann
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 790


« ตอบ #22 เมื่อ: วันที่ 03 พฤศจิกายน 2014, 11:29:50 »

ความเชื่อ + จารีตประเพณี + ค่านิยม (ผิดๆ) ห้ามยากมากๆ ครับ
เหมือนกับห้ามจุดประทัด ถ้าจะห้ามก็ต้องห้ามผลิต ห้ามซื้อขาย
IP : บันทึกการเข้า
corolado4
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,841


บ้านสวน ดอยพระบาท11 (ธารน้ำกรณ์2)


« ตอบ #23 เมื่อ: วันที่ 04 พฤศจิกายน 2014, 11:34:04 »

ควรกำหนดขนาดของโคม + ปริมาณเชื้อเพลิง(ขี้ไต้) ถ้าโคมที่ดี มันขึ้นไปสักระยะแล้วไฟมันจะมอดไปเองครับ ที่มีปัญหาเกิดจากขนาดโคมใหญ่ใช้ขี้ไต้เยอะ เผาไหม้ไม่หมด หรือขนาดโคมเล็กแต่ขี้ไต้ใหญ่  สล่าแถวบ้านบอกมา
..ตรงนี้ล่ะที่ควรควบคุม กำหนดมาตรการ ให้ขึ้นได้แค่เพียงระยะสุดสายตา ได้ภาพสวยงามตอนลอยขึ้น
และเผาไหม้หมดจด ไม่มีแม้แต่ เถ้าถ่านร่วงหล่นมาใส่หลังคา(หญ้าคา) ให้จุดในพื้นที่จัดไว้เท่านั้น
ไม่ใช่นึกอยากจุดกลางซอยก็จุด ลมพัดหักเหไปค้างสายไฟ ติดหลังคา ผนังตึก แล้วบอกไม่รุ้เรื่อง
นี่ล่ะที่ควรรณรงค์ นอกเหนือจากการรู้จารีตประเพณีแล้ว..
..ดันให้คนที่จะลอยโคมรับทราบไว้ก่อนไปทำตามประเพณี..
IP : บันทึกการเข้า

teere
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 970


« ตอบ #24 เมื่อ: วันที่ 04 พฤศจิกายน 2014, 19:37:35 »

ทำแบบนี้คงดี ถึงเชื้อเพลิงหมดก่อยังบ่าลง
IP : บันทึกการเข้า
0440
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 491


ชีวิตมันสั้น เกินกว่าจะไล่ตาม "คนที่เขาไม่มองเรา"


« ตอบ #25 เมื่อ: วันที่ 05 พฤศจิกายน 2014, 10:19:42 »

ควบคุมทิศทาง ควบคุมพื้นที่ได้ด้วยหรือ?
อะไรที่มันเกินพอดี มันไม่ดีทั้งนั้นหละ
สามัญสำนึกล้วนๆ

แอร์เอเชียยกเลิก18 เที่ยวบินหนีโคมลอย พื้นที่เชียงใหม่,เชียงราย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 พฤศจิกายน 2557 12:44 น.   

 
 แอร์เอเชียประกาศประกาศยกเลิก 18 เที่ยวบิน ไปยังเชียงใหม่และเชียงราย ในช่วงเทศกาลลอยกระทง วันที่ 5-7 พ.ย.นี้ หลีกเลี่ยงผลกระทบจากการปล่อยโคมลอย และเพิ่มความปลอดภัยในการบินสูงสุด
     
      สายการบินแอร์เอเชียแจ้งการปรับตารางบินและยกเลิกบางเที่ยวบินไปยังภาคเหนือ ในช่วงเทศกาลลอยกระทงที่มีการปล่อยโคมลอยเพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการให้บริการ สายการบินฯ มีความจำเป็นต้องปรับเวลาตารางการบินและยกเลิกการให้บริการบางเที่ยวบินในช่วงวันที่ 5 - 7 พฤศจิกายน 2557  รวมทั้งสิ้น 18 เที่ยวบิน
     
      ประกอบด้วยทยกเลิกเที่ยวบินเส้นทางไป-กลับ  กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ ในวันที่ 5 - 7 พฤศจิกายน 2557 จำนวน 10 เที่ยวบิน ได้แก่ เที่ยวบิน FD 3439 เส้นทางกรุงเทพฯ - เชียงใหม่, FD 3440 เส้นทางเชียงใหม่ - กรุงเทพฯ,FD 3443 เส้นทางกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ ,FD 3444 เส้นทางเชียงใหม่ - กรุงเทพฯ, FD 3425 เส้นทางกรุงเทพฯ - เชียงใหม่, FD 3426 เส้นทางเชียงใหม่ - กรุงเทพฯ ,FD 3427 เส้นทางกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ ,FD 3428 เส้นทางเชียงใหม่ - กรุงเทพฯ .FD 3429 เส้นทางกรุงเทพฯ - เชียงใหม่,  FD 3430 เส้นทางเชียงใหม่ - กรุงเทพฯ
     
      ยกเลิกเที่ยวบินเส้นทางไป-กลับ  เชียงใหม่ - ภูเก็ต จำนวน 2 เที่ยวบิน  ได้แก่ เที่ยวบิน, FD 3167 เส้นทางเชียงใหม่ - ภูเก็ต,FD 3168 เส้นทางภูเก็ต - เชียงใหม่
     
      ยกเลิกเที่ยวบินเส้นทางไป-กลับ  เชียงใหม่ - กระบี่ จำนวน 2 เที่ยวบิน  ได้แก่ เที่ยวบิน, FD 3074 เส้นทางเชียงใหม่ - กระบี่ , FD 3075 เส้นทางกระบี่ - เชียงใหม่
     
      และยกเลิกเที่ยวบินเส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ - เชียงราย จำนวน 4 เที่ยวบินได้แก่ เที่ยวบิน,FD 3205 เส้นทางกรุงเทพฯ - เชียงราย ,FD 3206 เส้นทางเชียงราย - กรุงเทพฯ ,FD 3209 เส้นทางกรุงเทพฯ - เชียงราย,FD 3210 เส้นทางเชียงราย - กรุงเทพ
     
      ทั้งนี้ ผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลหรือรับทางเลือกในการเดินทางที่เหมาะสมได้ที่ AirAsia Call Center โทร. 0-2515-999
IP : บันทึกการเข้า

ID Line : n0804988255
0440
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 491


ชีวิตมันสั้น เกินกว่าจะไล่ตาม "คนที่เขาไม่มองเรา"


« ตอบ #26 เมื่อ: วันที่ 05 พฤศจิกายน 2014, 10:21:03 »

อเกริ่นก่อนนะครับ ว่าไม่เคยตั้งกระทู้มาก่อน หากใช้ภาษาได้ไม่ดีพอ หรือผิดพลาดประการใด ขออภัยล่วงหน้าครับ
กระทู้นี้ผมอยากแชร์ประสบการณ์ ฝากให้ทุกท่านลองพิจารณาดูนะครับ ขอเข้าเรื่องเลยแล้วกัน

ตอนนั้นผมเรียนอยู่ ม.4 บ้านของผมถูกไฟไหม้เมื่อประมาณ 7-8 ปีที่แล้วในคืนวันลอยกระทงครับ เนื่องจากโคมลอยมาตกใส่หลังคา คือบ้านมีลักษณะเป็นเต้นท์ผ้ายาง เรียงต่อๆกันหลายหลังครับ ก็ถือว่าใหญ่พอสมควรเพราะว่าเป็นร้านขายเฟอร์นิเจอร์ แต่ว่าภายในก็มีการโบกปูนทำเป็นห้องๆสำหรับออฟฟิศและอยู่อาศัยแน่นหนา ภายในก็จะมีเฟอร์นิเจอร์มากมาย ตั้งแต่โซฟา ตู้ โต๊ะ เตียง ที่นอน ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไม้และที่นอนกาบมะพร้าวครับ(เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี) ทีนี้ตอนที่โคมลอยมาตก ให้จินตนาการว่ายางโดนเผาครับ มันจะหยด เลยลุกลามรวดเร็วมาก จนไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เสียหายทั้งหมด เหลือเพียงแค่ตู้เซฟ กับรถครับที่ไม่ถูกเผา นี่คือเรื่องย่อ แต่ผมจะขอเล่าถึงเหตุการณ์อย่างละเอียดนะครับ เพื่อสะท้อนจิตใจของผมและครอบครัวว่ามันเป็นอย่างไร ณ ตอนนั้น

เรื่องมีอยู่ว่าผมออกไปงานวันลอยกระทงกับเพื่อนที่ศาลากลางครับ (อ้อ! ลืมบอกว่าบ้านของผมอยู่แถวท่าน้ำนนท์) ก็ไปช่วยแม่เพื่อนขายกระทง เพราะเราว่างๆ กะว่าเสร็จงานจะได้ลอยกระทงกับเพื่อนด้วย กว่าจะแยกกัน กลับมาถึงบ้านตัวเองก็เที่ยงคืนกว่าครับ วันนั้นบอกตรงๆว่าเพลียแล้วคิดว่าคงหลับยาวแน่ๆหลังจากผ่านมาทั้งวัน พอกลับมาถึงเตรียมตัวจะนอน แม่ก็มาทักครับ แกยังไม่หลับ ก็บอกผมว่าอยากลอยกระทง พาไปลอยกระทงตอนนี้ได้ไหม? เพราะแม่ตัดผมตัดเล็บน้องๆใส่กระทงไว้(ตามความเชื่อของแม่) แต่ยังไม่ได้เอาไปลอย เพราะน้องยังเล็ก ไม่อยากพาออกไปตอนคนเยอะๆ กลัวว่าจะอันตราย ตอนนั้นน้องยังแบเบาะครับ ส่วนอีกคนอยู่อนุบาล ผมโตมากเพราะคนละพ่อ // ดูแกไม่สบายใจครับ ถ้าไม่เอาไปลอย แกตั้งใจไว้แล้ว ก็ไม่อยากเอาเศษผมกับเล็บน้องไปทิ้ง ด้วยว่าท่าน้ำมันไม่ได้ไกลมากด้วย ผมเลยพาแม่เดินออกมากันสองคนที่ท่าน้ำนนท์

ตอนนั้นคนซาหมดแล้วครับ หลังจากลอยกระทงเสร็จ เราก็แวะทานก๋วยเตี๋ยวกัน ใช้เวลาอยู่พักหนึ่ง จากนั้นในขณะที่กำลังเดินกลับบ้าน ก็เห็นมีคนวิ่งแตกตื่นแล้วตะโกนว่าไฟไหม้ๆ ตอนนั้นยังไม่ได้คิดอะไร แต่ก็ตกใจ เลยมองตาม ก็เห็นฟ้าบริเวณนั้นเป็นสีแดงครับ แม่ก็บอกว่าทางนั้นมันแถวบ้านเราเลย ใจไม่ดีเนอะ ผมก็บอกแม่ว่าอย่าคิดมาก แล้วก็พากันรีบเดินกลับอย่างไว สักพักก็มีคนขี่จักรยานวิ่งสวนมาครับ แล้วตะโกนเหมือนกันว่าไฟไหม้ๆ เราเลยโบกให้เขาหยุดแล้วถามว่าไฟไหม้ที่ไหน? พอเขาตอบว่าร้านเฟอร์นิเจอร์เท่านั้นแหละครับ แม่กรี๊ดเลย แล้ววิ่งนำผมไปอย่างเร็ว

แม่กรี๊ดว่าลูกกูๆ! (ขออภัยถ้าไม่สุภาพนะครับ) ผมรีบวิ่งตามแม่ไป จับมือ แล้วบอกใจเย็นๆ ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก ได้แค่วิ่งไปให้เร็วที่สุดที่จะทำได้ ประคองแม่ด้วย กลัวแม่จะล้ม เพราะแม่ดูสติแตกแล้ว เราก็กลัวมาก ในใจยังคิดว่าหวังว่าคงยังไม่น่าจะใหญ่โต แต่เปล่าเลยครับ ผิดคาด พอใกล้ถึงบ้านเราก็เห็นคนเป็นร้อย(ไม่เว่อร์นะครับ) มุงรอบบ้านเรา พร้อมกับรถดับเพลิงอีก 3 คัน กำลังฉีดน้ำ ตอนนั้นไฟมันท่วมจนพีคมากแล้ว รัศมีสูงประมาณตึก 3 ชั้น (นี่คือมองจากไกลๆนะครับ ยังไม่ถึง) ตอนนั้นเข่าอ่อน เราสองคนแม่ลูกวิ่งแทรกผลักคนอื่นออกหมดเลย แม่ก็ตะโกนหาน้องเหมือนคนสติแตก ผมก็ด้วยครับ คุมอะไรไม่อยู่เลย จนกระทั่งชาวบ้านรั้งเราทั้งคู่ไว้แล้วบอกว่า เด็กๆออกมากันหมดแล้ว เราถึงหยุดแล้วมันตื้อไปหมด ถามชาวบ้านว่าคนในบ้านอยู่ตรงไหนกัน ก็มีคนพาเราไปเจอน้องๆกับพ่อเลี้ยงครับ นั่งอยู่ริมฟุตบาตไกลๆ มือนึงอุ้มคนเล็ก อีกมือจับคนโต มันทั้งโล่งใจทั้งเศร้าใจ หลายอารมณ์มาก สงบใจได้ไม่ทันถึงนาทีก็ต้องเหลียวกลับไปมองครับ ว่าไฟยังไหม้อยู่

เรากลับไปถามหาสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆจากชาวบ้านครับ ว่าใครอยู่ไหนบ้าง?  เพราะอยู่กันเยอะ มีครอบครัวลุงด้วย มีลูกๆ แล้วก็คนงานอีกหลายคน ก็ทำให้รู้ว่าตอนนี้ทุกคนออกมาแล้ว แต่เห็นว่ามีคนแก่ติดอยู่!! ตอนนั้นหัวใจมันระเบิดเลยครับ นึกได้ว่ามีคุณตาอยู่ด้วย เวลานั้นมันคิดอะไรไม่ทันครับ แล้วทั้งหมดที่เล่าก็รวดเร็วมาก คุณตาของผมเป็นอัมพฤกด้วย ขยับได้แค่ครึ่งตัวด้านขวา ฉะนั้นแกไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แน่ พอแม่ได้ยินอย่างนั้นก็กรี๊ดอีกรอบครับ ทีนี้จะวิ่งฝ่าไฟเข้าไป แกตะโกนเรียกคุณตาว่าพ่อๆ! ผมนี่กอดแม่แน่นเลย แม่ดื้อจะลุยเข้าไปให้ได้ ซึ่งผมมองด้วยสายตาแล้วมันไม่ทันจริงๆครับ ไฟสูงมาก แม้จะยังมีหลายส่วนยังไม่ถูกเผา แต่ว่าข้างในมันต้องเหมือนเขาวงกตไฟแน่ๆ เพราะตู้ เตียง วางเรียงกั้นเป็นทางเดินไว้ แม่ไม่ไหวแน่ถ้าเข้าไป ตัวผมเองก็ด้วย แม่กรี๊ดๆทั้งดิ้นทั้งทุบให้ผมปล่อย ร้องไห้สติแตก ผมก็ไม่ต่างกัน แต่ผมเสียแม่ไปไม่ได้ อยากเข้าไปช่วยตา แต่ต้องตัดใจ ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายมาก เพราะต้องประคองแม่ไว้ ในขณะที่จิตใจของตัวเองก็แย่พอกัน

อยู่ๆลุงของผมก็วิ่งมาจากอีกทางครับ แกวิ่งฝ่าคนเข้ามาพร้อมกับชาวบ้านที่อาสา แล้วอ้อมไปหลังบ้าน ซึ่งเป็นซอกแคบๆติดกับบ้านคนอื่น พอให้เดินได้แทรกเขาไปได้ พวกเขาเอาค้อนทุบๆๆๆกำแพงจนแตกในที่สุด พอกำแพงแตกเท่านั้นแหละครับ ไฟพุ่งฟู่ๆๆออกมาจากช่องเลย แต่ยังพอมองเห็นว่าข้างในยังไม่ไหม้หมดครับ พวกเขาก็เข้าไปในตัวบ้าน สักพักลุงก็แบกคุณตาอย่างทุลักทุเล พยายามจะออกมาจากกำแพงแตกๆ ผมกับแม่ก็ทำได้แค่ภาวนาครับ เข้าไปช่วยไม่ได้จริงๆ เพราะไฟพวยพุ่งออกมาเป็นระยะ สุดท้ายลุงก็ร้องขอความช่วยเหลือ จนอาสารุดเข้าไปแทน แล้วลุงก็วิ่งหนีออกมาพร้อมกับเนื้อตัวที่ไหม้พองและเยิ้มรุนแรงจากการถูกเผา ลุงไหว้แม่แล้วบอกว่าพี่ไม่ไหวจริงๆ คือทุกคนเข้าใจ แล้วหันกลับไปมองที่เดิม ก็เห็นพี่อาสาแบกคุณตาขี่หลังครับ ดูทุลักทุเลเหมือนกัน เนื่องจากทางแคบและลึกกว่าจะออกมาได้ แล้วคุณตาก็ค่อนข้างตัวใหญ่ ประกอบกับพื้นตรงนั้นเป็นดินโคลนครับ ชุ่มไปด้วยน้ำจากรถดับเพลิงด้วย พี่คนนั้นเลยลื่นหงายหลัง และทำคุณตาหัวฟาดกับพื้น พอพี่เขาลุกได้ก็ไหว้คุณตาบอกว่าผมขอโทษ ผมไม่ไหวๆ แล้ววิ่งออกมาเลยครับ ตอนนั้นคุณตาตะโกนไล่หลังมาว่าไอ้หนุ่ม อย่าทิ้งตาๆ คือบอกตรงๆว่าใจจะสลายที่ทำอะไรไม่ได้เลย // พี่อาสาวิ่งออกมาทั้งกราบทั้งไหว้พวกเราครับ ตอนนี้ทั้งตัวพี่เขาเองก็ชุ่มไปด้วยแผลไฟไหม้ครับ เราเข้าใจว่าทุกคนทำสุดความสามารถแล้ว เราสงสารเขาด้วยซ้ำที่เข้าไปเสียงให้ มองกลับไปคือเห็นไฟมันพุ่งๆมาลนคุณตาครับ ในลักษณะที่แกนอนดิ้นๆเหมือนจะขาดใจ ทำได้แค่พยายามสาดน้ำเข้าไปให้ไฟมันดับบ้าง แล้วก็หาทางจะเข้าไปช่วยต่อ เสียงแกแผ่วลงๆ ไฟก็ยังคงสูงและลามอยู่อย่างนั้น มันโหดร้ายมากที่เราทำได้แค่ไม่หลบตา มองดูแกอย่างนั้น พยายามกันอยู่นานกว่าจะสามารถกลับไปช่วยแกได้อีก พอหามคุณตาออกมาได้ก็สายไปแล้วครับ แกไปแล้ว

หลังจากนั้นก็มีรถพยาบาลมาพาคุณตาไปครับ พร้อมกับยืนยันว่าไม่สามารถช่วยแก เราให้ลุงกับพี่อาสาไปกับรถพยาบาลเพราะแผลมันแย่มากครับ // ถึงตอนนี้ไฟก็ยังคงไหม้อยู่ เราเดินหาสมาชิกคนอื่นที่เหลือแล้วพากันมองไฟลุกต่อไปครับ ตัดใจแล้ว ทีมกู้ภัยบอกว่าดับไม่ได้แล้วครับ ตอนนี้เน้นสกัดไม่ให้ลามไปบ้านอื่น ใช่ครับ ในสายตาเรามันก็ดูจะไม่เหลืออะไรให้หวังแล้ว ชาวบ้านมองเราด้วยความสงสาร หาน้ำหาผ้าห่มมาให้ เรากอดกันร้องไห้มองดูไฟเผาทุกอย่าง จนมันแผ่วลงๆ แล้วในที่สุดก็ดับครับ

เวลาประมาณตีห้า บ้านที่เคยมีตอนนี้เหลือแค่ซากตะโกครับ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและแจ้งว่า พบอีกหนึ่งศพ เป็นเถ้ากระดูกในตัวบ้าน ทราบภายหลังว่าเป็นพี่คนงานที่น่าสงสารอีกคนที่เราคุ้นเคยดีครับ แกเป็นคนพิการ หูหนวกเป็นใบ้ คืนนั้นมีงานฉลอง พี่เขาก็คงจะเมาด้วยแล้วคงไม่ได้ยินด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นกว่าจะรู้ตัวก็คงสาย นอกจากนี้ยังพบว่ามีโครงเสาเหล็กของเต้นท์ทับหน้าอกแกด้วย สะเทือนใจมากครับ แล้วก็เลยพบหลักฐานของเหตุเพลิงไหม้นี้ ว่าคือซากของโคมลอย ตกอยู่บริเวณที่นอนห้องผม และเป็นห้องต้นเพลิง // เรื่องนี้ขนลุกมากครับ ทำให้ย้อนคิดไปว่าถ้าแม่ไม่ชวนผมออกมา ตอนนี้ผมคงไม่รอด

หลังจากที่เจ้าหน้าที่เช็คทุกอย่าง เราจึงมีโอกาสเดินสำรวจรอบๆ มันน่าเศร้าใจมากครับที่เห็นทุกอย่างเป็นเศษเถ้าถ่าน มันหมดแล้วจริงๆ ผมไม่แน่ใจว่าตอนนั้นเราสูญไปเท่าไหร่ แต่มันหนักหนาจริงๆ ไม่มีที่ซุกหัวนอน จนต้องไปอาศัยชาวบ้านแถวนั้นอยู่พักใหญ่ ทุกท่านใจดีกับเรามากจริงๆ สภาพเราตอนนั้นมันแย่ที่สุด แต่ละคนเลอะเขม่า หัวฟู รุงรัง คราบน้ำตาเปรอะเหมือนคนบ้า กว่าจะคิดว่าชีวิตมันต้องดำเนินยังไงต่อไปมันใช้เวลามากครับ

ตอนนี้ครอบครัวเราผ่านจุดนั้นมาแล้ว ค่อยๆเริ่มกันใหม่ และมันคงไม่มีทางลืมง่ายๆ เราไม่ได้รับอะไรนอกจากการช่วยเหลือเล็กน้อยจากทางรัฐ เพราะเราทำประกันไม่ได้ครับ ตัวบ้านมันไม่ได้มาตรฐาน(เรื่องนี้ผมไม่แน่ใจรายละเอียด เพราะตอนนั้นยังเด็ก อยากให้ข้ามไปนะครับ) สำหรับทั้งหมดที่ผมเขียนมานี้ ผมอาจจะเขียนน่าเบื่อ ยืดเยื้อ แต่ผมเขียนด้วยความรู้สึกที่มันเจ็บปวดจริงๆ มันโหดเกินไปจริงๆ เชื่อไหมครับ? ว่าพวกเราไม่ได้คิดจะโทษใครเลย กลับโทษตัวเองในหลายๆเรื่อง เพราะเราไม่รู้จะโทษใคร แล้วไม่รู้ว่าโทษแล้วจะได้อะไร ตอนนี้เมื่อมองกลับไป สำหรับผมมันเป็นบทเรียนราคาแพงมาก ผมคิดว่ากว่าจะผ่านมาได้ ทุกคนเข้มแข็งขึ้นมาก ผมคิดว่าผมโตขึ้นเยอะจากเรื่องนี้ เพราะมันทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงจนถึงปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ผมอยากฝากเป็นสิ่งเตือนใจถึงทุกท่านในสังคมนะครับ กรุณาเถอะครับ อย่าให้ใครต้องเจอเรื่องราวแบบนี้เลย ตัวผมเองก็ไม่เคยลอยโคมสักครั้งในชีวิต ผมเลยรู้สึกว่ามันก็ตลกดีที่กลับเป็นฝ่ายมาโดน // สำหรับประเพณี มันเป็นสิ่งสวยงามครับ ผมไม่ขอร้องให้หยุด แต่ผมอยากถามว่า มีสักกี่คนครับ? ที่คิดว่าหลังจากที่เราลอยความทุกข์ของตนไปกับโคมไฟแล้ว หลังจากนั้นมันจะเป็นอย่างไรต่อ? มันจะลอยขึ้นไปสู่ฟากฟ้าไม่รู้ดับ หรือหวังว่ามันคงค่อยๆมอดและล่วงลงอย่างสงบ? หรือเราจะให้ใครเก็บมันหลังจากนั้น? // ผมเชื่อว่าทุกท่านปล่อยโคมด้วยเจตนาอันดีครับ ฉะนั้นผมก็หวังเช่นกันว่าเมื่อท่านได้อ่านเรื่องจริงของผมแล้ว อาจเป็นอุทาหรณ์ที่ท่านจะสามารถนำไปเล่าต่อๆกันได้ // ประเพณีที่สวยงาม ผมเชื่อว่ามันจะยังคงสวยงาม หากผู้ที่สานต่อมีความเข้าใจ และสืบสานคงไว้ให้เหมาะสมตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง ไม่จำเป็นต้องเลิก แต่ขอให้สานต่ออย่างประณีต อย่าทำไปด้วยฉาบฉวย ขอเท่านี้แหละครับ


ขอบคุณที่อดทนอ่านจนจบครับ :")


http://pantip.com/topic/32794333


* 1414816242-158-o (1).jpg (103.77 KB, 809x480 - ดู 76 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

ID Line : n0804988255
kaw14
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 50


« ตอบ #27 เมื่อ: วันที่ 05 พฤศจิกายน 2014, 11:34:33 »

ขออนุญาตออกความเห็นด้วยนะครับ ผมไม่ใช่คนผลิต คนขาย ประชาชนคนธรรมดาไม่เข้าข้างฝ่ายใด  ก็คิดนะเมื่อก่อน มีการปล่อยโคมลอยกลางคืน ไม่มีเหตุการณ์อย่างที่เห็นคือไฟไหม้ หรือเราไม่ทราบเองก็ได้นะ  แต่คาดว่าวัสดุที่ทำให้เกิดควันเพื่อทำให้ตัวโคมลอยขึ้นเหนือท้องฟ้า มีการเผาไหม้ไม่นานพอลอยขึ้นสักพักก็มอดดับร่วงลงดินหรือบนหลังคา โดยไม่มีไฟติดอยู่  ปัจจุบันได้ดัดแปลงวัสดุที่ว่า  ไฟติดนานขึ้นหรือไม่ดับก่อนร่วงลง จึงเกิดเหตุขึ้น  ฉะนั้นหน่วยงานราชการต้องเข้าไปควบคุม ดูแลผู้ผลิต โดยออกข้อบังคับ ให้ได้มาตรฐานตามกำหนด และรณรงค์ร่วม สร้างความเข้ากับประชาชนอีกทางหนึ่ง น่าจะป้องเหตุร้ายได้...
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!