เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 30 กรกฎาคม 2025, 10:25:02
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  ชิมิ ไม่ใช่ภาษาวิบัติ ราชบัณฑิตยืนยันเอง!
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ชิมิ ไม่ใช่ภาษาวิบัติ ราชบัณฑิตยืนยันเอง!  (อ่าน 1814 ครั้ง)
a-morn
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 370



« เมื่อ: วันที่ 26 มกราคม 2011, 10:25:06 »

ชิมิ ไม่ใช่ภาษาวิบัติ ราชบัณฑิตยืนยันเอง!

 
ชี้แค่กระแสโจ๋ จะเลิกใช้ไปเอง แต่ติงที่ชื่อหนัง หยาบคายเกิน!



ราชบัณฑิตภาษาไทยคนดัง 'ดร.กาญจนา นาคสกุล' ไม่เห็นคำโจ๋ 'ชิมิ' จะถึงขั้นเป็นภาษาวิบัติ อย่างที่ 'สามสี' เป็นห่วง เชื่อถึงเวลาก็จะหายไปเอง แต่ติงไม่เห็นด้วยกับชื่อหนัง 'หอแต๋วแตก แหวก ชิมิ' เพราะสื่อความหมายทางหยาบ ชี้สื่อมวลชนเป็นตัวชี้ขาด ถ้าไม่ให้ความสนใจคำไหน คำนั้นก็จะสูญหายไปเอง ปลัดวธ.รับจะไม่สามารถบังคับหรือปิดกั้นใคร ไม่ใช้ใช้คำ 'ชิมิ' ถือเป็นแค่กระแสทางสังคม

จากกรณีนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นห่วงผ่านกระทรวงวัฒนธรรม เกี่ยวกับชื่อภาพยนตร์ "หอแต๋วแตก แหวกชิมิ" ว่ามีคำฮิตในหมู่วัย ชิมิ ที่เข้าข่ายเป็นภาษาวิบัติ เพราะขนาดราชบัณฑิตยังไม่รู้จักคำนี้ ทั้งที่วัยรุ่นใช้กันแพร่หลาย ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 11 พ.ย. นายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวถึงกรณีนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี เป็นห่วงคำของกลุ่มวัยรุ่น ชิมิ ซึ่งแปลว่า ใช่ไหม จะทำให้ภาษาไทยวิบัติว่า เรื่องนี้เป็นการแสดงทรรศนะในที่ประชุมคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่ง ชาติ เพราะเด็กรุ่นใหม่ใช้ศัพท์ไม่ค่อยระมัดระวังในการใช้ภาษาไทย วธ.ต้อง เข้ามาดูแลในเรื่องนี้ เพราะมีชื่อภาพยนตร์บางชื่อ และกรรมการ บางท่านมองว่าไม่เหมาะสม วธ.จึงต้องหยิบยกประเด็นเหล่านี้ขึ้นมาพิจารณาเพื่อกำหนดแนวทางให้เหมาะสม ทั้งการใช้ในแง่ของภาษา ความเข้าใจในประเด็นของความเป็นสมัยใหม่ของเด็ก ต้องนำเรื่องเหล่านี้มาศึกษาในบริบทของสังคมปัจจุบันว่า ทำไมเด็กจึงใช้ภาษาแบบนี้ กรรมการ บางท่านตั้งข้อสังเกตในชื่อของภาพยนตร์ว่าเป็นการหมิ่นเหม่ ขณะที่อีกฝ่ายมองว่าเป็นตำแหน่งของคำ เช่น แหกค่ายมฤตยู คือนำตัวเองออกจากความลำบาก การถูกขัง จึงใช้ชื่อว่าแหกค่าย แต่มันมีบางเรื่องใช้คำไม่เหมาะสม เพราะคำบางคำจะใช้ได้กับอีกบริบทหนึ่ง แต่อีกบริบทหนึ่งมันใช้ไม่ได้

นายสมชาย กล่าวต่อว่า คณะกรรมการฯ จึงตั้งข้อสังเกตไปว่าควรจะต้องระมัดระวังในการที่จะใช้ในสาธารณะ และมอบอำนาจให้วธ.ดูแล โดยวธ.จะมีคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา นำสิ่งเหล่านี้มาดู ซึ่งต้องวิเคราะห์ในหลายบริบท เรื่องความหมายของภาษาวัยรุ่นที่กำหนดขึ้นมา ต้องหารือกับราชบัณฑิตว่าศัพท์ๆ นี้ มันเป็นอย่างไร เช่น ตัวหนังสือที่เขียนกันในอิน เตอร์เน็ต หรือเอสเอ็มเอส มันไม่สามารถเขียนยาวได้ เราจึงใช้อักษร U หรือ R เป็นต้น เราต้องพยายามดูว่าบริบทของสมัยใหม่ ความหมายของคำเหล่านี้ จะใช้อย่างสาธารณะ หรือว่าใช้ภายในของแต่ละบุคคลที่จะสื่อความหมายถึงกัน จะไปยุ่งมากไม่ได้ เพียงแต่เรามีหน้าที่รณรงค์ให้คนใช้ในภาษาพูด ภาษาเขียน ส่วนความสามารถของบุคคลที่จะใช้ข้อความสั้นๆ กะทัดรัด เป็นที่เข้าใจกัน มันเป็นเรื่องของการพัฒนาการทางภาษา เราต้องเสนอความเห็นจากนักวิชาการ ว่าจะทำอย่างไรในเรื่องเหล่านี้

"ส่วนเรื่องคำที่มันมีความหมายสอง แง่ สองง่าม ผมคิดว่า หากเป็นสื่อสาธารณะที่บุคคลทั่วไปเห็นได้ หากว่ามันหมิ่นเหม่จะต้องมีกรรม การแต่ละชุดดูแล เช่น ชื่อของภาพยนตร์ ก็จะมีคณะกรรมการตรวจพิจารณาภาพยนตร์ ดูเนื้อหา ความเหมาะสม อาจจะมีข้อสังเกตในชื่อของภาพยนตร์ ซึ่งเจ้าของบางคนก็ยอมให้ปรับแก้ แต่บางคนไม่ยอม จะอุทธรณ์คำสั่งเจ้าพนักงานให้แก้ไข แต่หากเห็นว่าชื่อหนังของท่านดีอยู่แล้ว ก็สามารถใช้สิทธิ์นี้อุทธรณ์ต่อกรรมการภาพยนตร์วีดิทัศน์ได้" นายสมชายกล่าว

นาย สมชาย กล่าวว่า วธ.ไม่ได้ปิดกั้น เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ส่วนตัวคงไปห้ามไม่ให้เขาใช้คำเหล่านี้ได้ แต่ว่าเราจะส่งเสริมให้คนทั่วไปสนใจว่าสิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องของกระแส มาแล้วก็ไป เหมือนผมยาว ผมสั้น แต่ว่าเราจะทำอย่างไรให้คนตระหนักในคุณค่าของความเป็นภาษาไทยที่มีมาอย่าง ยาวนาน ขอฝากสื่อให้ทำหน้าที่นำเสนอสองด้านว่า ในสังคมเขาใช้คำแบบนี้จริง แต่ว่าในแง่ของความเข้าใจของสังคมจากการใช้จะแตกต่างกัน คนที่ห่วงความวิบัติของภาษา ก็จะบอกว่าทำไมเราปล่อยให้เป็นเช่นนี้ แต่คนที่ใช้ก็มีความรู้สึกว่าคนที่อนุรักษ์เป็นคนล้าสมัย สิ่งเหล่านี้ห้ามกันไม่ได้ แต่ต้องใช้ให้เหมาะสม

"หน่วยงานที่เข้า มาดูแลเรื่องนี้ต้องมีหลายฝ่าย สมาคมที่เกี่ยวข้องกับการสอนภาษาไทย ทุกอย่างในสังคมคงไม่ให้วธ.เป็นผู้ตรวจสอบ หรือห้ามคงไม่ได้ คงต้องเป็นเรื่องการสร้างความเข้าใจ ตระหนักในคุณค่าของภาษาไทยเรา ส่วนผู้เชี่ยวชาญต้องมีการหารือกับราชบัณฑิตด้วยส่วนหนึ่ง แต่ทั้งกรมส่งเสริมวัฒนธรรม และกรมศิลปากรมีผู้เชี่ยวชาญดูแลอยู่แล้ว คงจะต้องมานั่งหารือ และขอความร่วมมือในส่วนต่างๆ ว่าเรื่องนี้มันควรจะมีมาตรการใดที่จะสร้างความถูกต้อง เหมาะสม และสมสมัย ต้องทำควบคู่กัน เราจะปฏิเสธไม่ควรรับรู้ไม่ยอมให้มี เลยนั้น เราไม่สามารถปิดกั้นได้" ปลัดวธ. กล่าว

นายไชยยศ จิรเมธากร รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า จริงๆ แล้ว ไม่ได้มีเพียงแต่คำว่า ชิมิ คำเดียวเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายคำ ซึ่งคำว่า ชิมิ ตนคิดว่าเป็นคำที่ติดอยู่ในกระแสสังคมปัจจุบัน เพราะเป็นค่านิยม แต่จะมาแล้วก็ไป ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าสื่อมีส่วนสร้างค่านิยม ไม่ว่าจะเป็นละคร ภาพยนตร์ มิวสิควิดีโอ ฯลฯ ที่มีตัวแสดง ผู้หญิงสวมเสื้อผ้ารัดรูป กระโปรงหรือกางเกงสั้น ดังนั้น ในฐานะกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ขอความกรุณาผู้ผลิตสื่อต่างๆ ขอให้คำนึงถึงผลกระทบของสังคมในวงกว้าง รวมทั้งผลกระทบบุคลิกของเยาวชนด้วย ขณะเดียวกัน ศธ. ก็มีหน้าที่ชี้นำในสิ่งที่ถูกต้อง จึงขอให้โรงเรียน สถานศึกษา สถาบัน ในสังกัด ศธ. ชี้แจงทำ ความเข้าใจให้กับนักเรียน นักศึกษา ถึงความเหมาะสม กับคำศัพท์ต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดค่านิยมที่ผิด

นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ (ครูหยุย) ประธานมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก กล่าวถึงกรณีที่นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ออกมาพูดถึงคำศัพท์ใหม่หรือภาษาวัยรุ่นบนอินเตอร์เน็ตในขณะนี้ อาจทำให้ภาษาวิบัติว่า ถึงเวลาที่เขาโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ เขาก็ใช้ถูกเอง มันเป็นช่วงของการประดิษฐ์ภาษาตามวัยของเขา ตนเชื่อว่าอะไรที่ไม่เป็นสากลเดี๋ยวมันก็ตายไปเอง เรียกว่าเป็นยุคหนึ่งของวัยรุ่น แม้แต่ผู้ใหญ่ก็เคยเป็นเช่นกันในช่วงวัยรุ่น

"ภาษาวัยรุ่นก็อยู่ใน บริบทของมัน ไม่ได้กระโดดออกมาอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์ มันอยู่ในกลุ่มของเขา ผู้ใหญ่ไม่ควรที่จะไปกลัว เพราะ ครั้งหนึ่งที่เราเป็นเด็ก ก็ยังเคยใช้ภาษาแบบพวกเขา ส่วนที่ผู้ใหญ่บางคนมองว่าถ้าไม่ห้ามปราม เด็กอาจจะติดได้ ซึ่งผมมองว่ามันไม่ติดหรอกถึงเวลาที่ทำงาน เขาก็คงไม่กล้าที่จะใช้ภาษาแบบนี้ทำงานแน่นอน" นายวัลลภ กล่าว

ส่วน นายมนตรี สินทวิชัย (ครูยุ่น) เลขาธิ การมูลนิธิคุ้มครองเด็ก กล่าวว่า ภาษาของวัยรุ่นในสมัยนี้ ตนดูแล้วเฉยๆ มันเป็นตามวัย ไม่ใช่เรื่องแปลก และเป็นช่วงๆ หนึ่งเท่านั้นเอง เดี๋ยวมันก็หายไป ผู้ใหญ่ไม่ควรไปสะดุ้งหรือตีกรอบให้กับพวกเขามากเกินไป ถ้าเขาใช้ในการสื่อ สารผิดสถานที่ ไม่ถูกกาลเทศะ เขาก็จะถูกสังคมจัดการเอง ตนเห็นว่าผู้ใหญ่อย่าจะไปจุกจิกมากนัก หรือกลัวจนเกินกว่าเหตุ เพราะตนมองว่าผู้ใหญ่ก็เคยใช้ภาษาพวกแบบนี้มาเหมือนกัน หรือมันเป็นเรื่องของการใช้อำนาจเกินไป การพูดศัพท์สแลงในกลุ่มวัยรุ่น กลับมี การวิตกกังวลว่าภาษาจะวิบัติ เดี๋ยวจะไปมองว่าทำลายภาษาไทย ไม่รักชาติ ซึ่งมันเป็นคนละเรื่อง เด็กอาจจะฮิตพูดกัน มันไม่ได้เป็นตัวสะท้อนว่าเขาไม่รักภาษาไทย หรือไม่รักสังคมไทย

ด้านนางกาญจนา นาคสกุล ราชบัณฑิตประเภทวรรณศิลป์ สาขาวิชาภาษาไทย กล่าวเรื่องเดียวกันว่า ถ้าบอกว่า ชิมิ จะทำให้ภาษาวิบัติคงจะแรงไป แต่ถ้าถามว่าเป็นคำที่ควรใช้หรือไม่ ก็บอกว่าไม่ควร เพราะเป็นคำที่ไม่เป็นที่เข้าใจกันทั่วไป คนทั่วไปไม่ทราบเลยว่าคำนี้แปลว่าอะไร และถ้าดูชื่อภาพยนตร์เรื่อง "หอแต๋วแตก แหวกชิมิ" ทั้งคำแล้ว จะเห็นว่าเป็นคำที่ไม่สุภาพ มีเสียงที่ไม่ไพเราะ และสื่อไปทางความหมายที่เป็นคำหยาบ โดยส่วนตัวเห็นว่าไม่สมควรที่จะใช้คำอย่างนี้ ถ้าวัยรุ่นใช้คำนี้พูดกันส่วนตัวในกลุ่มของเขา ก็ไม่เป็นปัญหา แต่ถ้านำมาใช้ทางสาธารณะ เช่น ชื่อภาพยนตร์ ชื่อละคร หรือสื่อมวลชนนำมาเผยแพร่ก็ไม่สมควร

นางกาญจนา กล่าวต่อว่า ศัพท์พวกนี้เป็น การเล่นคำของผู้ใช้ภาษากันเองที่ต้องการพูดให้แปลก ต้องการพูดให้แตกต่างจากผู้อื่น เป็นการล้อเล่นกันบ้าง หรือมีที่มาจากเรื่องราวเฉพาะส่วนตัวที่เขาประสบ เลยมีคำเฉพาะของเขา นี่เป็นปกติของภาษา แต่ถ้าเอามาใช้ในสื่อ ในที่สาธารณะ เพื่อที่จะให้คนอื่นรู้เรื่องด้วย มันก็จะไม่เป็นผล เพราะคนเขาจะไม่เข้าใจ ทำให้การสื่อสารไม่สัมฤทธิผล และถ้าถามว่าจะทำให้ภาษาเสียหรือไม่ มันก็มีส่วน อย่างคำว่า 'ชิมิ' ที่แปลว่า 'ใช่ไหม' ก็อาจทำให้คำว่า 'ใช่ไหม' ในภาษาไทย เกิดเป็นคำหลายรูปขึ้น เมื่อมีหลายรูป ก็เกิดความไม่แน่ใจว่า รูปไหนควรใช้ในกรณีไหน เพราะภาษาจะมีบริบทที่ควรใช้ และไม่ควรใช้ต่างกัน และถ้าคนที่ไม่รู้เอาคำสแลงเหล่านี้ ไปใช้ในที่ที่ควรจะใช้ภาษาทางการ ภาษาสุภาพ หรือภาษาที่เป็นวิชาการ ก็จะทำให้ผลงานของเขาเสียไป

"ถ้าเด็กใช้ของเขาเอง เดี๋ยวเขาก็ลืม เดี๋ยวเขาก็คิดคำใหม่ สื่อมวลชนอย่าไปสนใจเอามาใช้ด้วย อย่านำไปขยาย คำนี้ก็จะไม่แพร่หลาย เด็กก็จะใช้ในหมู่ของเขา จะพูด จะเขียน จะโต้ตอบ ก็เป็นเรื่องของคนในกลุ่มเล็กๆ ที่เขาจะใช้กัน เมื่อเวลาผ่านไปมันก็จะหาย นอกเสียจากว่า เราเอาไปใช้กันมากๆ มันถึงจะแพร่หลายไป หากว่าสื่อมวลชนเห็นด้วยว่า คำเหล่านี้ไม่เหมาะสม ก็เงียบๆ ไป เดี๋ยวมันก็หายไปเอง" นางกาญจนา กล่าวและว่า สิ่งที่ควรห่วงในภาษาไทยตอนนี้ คือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจที่จะใช้ภาษาให้ถูกต้อง ไม่สนใจที่จะออกเสียงให้ถูกต้องทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ อยากให้ช่วยรณรงค์กันหน่อยว่า เสียงควบกล้ำเป็นสิ่งที่มีใช้ในภาษาไทย อย่างคำว่า 'แปลง' กับ 'แปรง' ออกเสียงคล้ายกันมาก แต่มีความหมายต่างกัน เขียนต่างกัน อยากให้ช่วยกันรักษาไว้จะได้ไม่สูญหายไป

ส่วนนายอนันต์ เหล่าเลิศวรกุล อาจารย์ภาควิชาภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ในฐานะของนักวิชาการด้านภาษา ไม่ได้มีความกังวลต่อเรื่องดังกล่าว เนื่องจากคำว่า "ชิมิ" เป็นศัพท์ที่วัยรุ่นปัจจุบันนำมาดัดแปลงจากคำว่า "ใช่มั้ย" "ใช่ไหม" ซึ่งใช้กันเฉพาะกลุ่ม โดยเฉพาะในสังคมออนไลน์ เช่นเดียวกับคำว่า "เก๋" ซึ่งสามารถใช้คำว่า "ดูดี" หรือ "เข้าท่า" ก็ได้ แต่เมื่อใช้ในภาษาพูดก็กลับใช้คำว่าเก๋แทน แม้กระทั่งคอลัมนิสต์หนังสือหลายๆ เล่ม ก็ยังใช้คำ ชิมิ ในงานเขียนของตน เพียงแต่เป็นการใช้ในบริบท มีนัยที่ควรจะเป็น เสมือนการหยิกแกมหยอกให้ดูน่ารัก ครึกครื้น ซึ่งไม่ได้ใช้กันอย่างพร่ำเพรื่อแต่อย่างใด

"เวลาที่มีการวิจารณ์ การใช้คำว่าเหมาะ หรือไม่เหมาะอย่างไรนั้น ต้องดูจากบริบท วิธีการนำมาใช้ หากทุกคนหันมาใช้คำว่าชิมิ จนทำให้คำว่าใช่ไหมหายไป ก็จะส่งผลกระทบ แต่กรณีนี้คิดว่าไม่มีการนำคำว่าชิมิ มาใช้แทนคำว่าใช่ไหมอย่างแน่นอน แต่เป็นเพียงการสื่อสารเฉพาะกลุ่มเท่านั้น เช่นเดียวกับประเด็นชื่อภาพยนตร์เรื่อง หอแต๋วแตก แหกชิมิ ที่ไม่ได้ใช้อย่างเป็นทางการ แต่ก็เพื่อใช้สื่อความหมายถึงชื่อหนังเฉพาะกลุ่ม เพื่อเจาะกลุ่มวัยรุ่นอยู่แล้ว ไม่คิดว่าจะทำให้ภาษาเสียหายแต่อย่างใด" นายอนันต์กล่าว

นายอนันต์ กล่าวต่อว่า เข้าใจว่านายไตรรงค์ คงเป็นห่วงที่จะต้องรักษาให้คำๆ หนึ่งคงอยู่ต่อไป อย่างไรก็ตาม ตนอยากฝากไปถึงอาจารย์ผู้สอนในสถานศึกษา ควรแนะนำให้นักเรียน นักศึกษาเข้าใจการเลือกใช้คำให้ถูกต้อง เหมาะสมตามกาลเทศะ ซึ่งการจะนำคำที่ใช้เฉพาะกลุ่มวัยรุ่น คำที่เกิดขึ้นใหม่ มาใช้ในบริบทที่เป็นทางการ ใช้สื่อสารกับผู้ใหญ่ก็ไม่สมควรเช่นกัน

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ในเว็บไซต์ครือข่ายสังคม เช่น เฟซบุ๊ก หรือบนโปรแกรมแช็ตออนไลน์ เช่น เอ็มเอสเอ็น (msn) หรือเว็บไซต์ต่างๆ ที่มีห้องสนทนา ได้มีการเผยแพร่คำศัพท์ใหม่ที่วัยรุ่นนิยมใช้กัน อาทิ คำว่า 'ไม่ไหวที่จะเคลียร์' หมายถึง ไม่ไหวแล้ว รับไม่ได้แล้ว พอเหอะ, 'เพอจาริเย่' หมายถึง เพ้อเจ้อ, 'มันเป็นอะไรที่ภาคภูมิ' หมายถึง อยากอวดมากๆ อยากโชว์, 'ช่างกล้า' หมายถึง กล้าจริงๆ ให้ตายเหอะ, 'ซักเรื่องได้มั้ย' หมายถึง ไม่ยุ่งซักเรื่องได้ไหมคะ/ครับ, 'สถุย' หมายถึง สถุน + กุ๊ย, 'จุบุ จุบุ' หมายถึง สตรอเบอร์รี่ หรือตอแหลนั่นเอง

ส่ง แฟ็กซ์ หมายถึง ขี้ค่ะ, ให้ว่อง หมายถึง เร็วๆ ได้มั้ย, อ๋อเหรอค่ะ หมายถึง ตอแหลปะค่ะ เรื่องที่เล่าให้ฟังเนี่ย, สลิ่มมาก หมายถึง แต่งตัวสีเสื้อผ้าตัดกันโคตรๆ เช่น เขียว เหลือง, พญาไท หมายถึง อ่อนหัด เพราะเป็นสถานที่รับเด็กอ่อน, บางแค หมายถึง คนแก่ เพราะเป็นบ้านบางแค, เสลี่ยว หมายถึง เสียวในเวลาเยี่ยว, ขาถ่าง หมายถึง เวลาทำหลายๆ อย่างพร้อมกัน แล้วทำไม่ทัน, ห่อหมก หมายถึง ผู้ชายใส่กางเกง แล้วเป้ามันนูนออกมาอย่างเด่นชัด, ชิมิ หมายถึง ใช่มั้ย, มารูด้า หมายถึง ไม่-รู-ดิ-คะ, เป๊ะเว่อร์ หมายถึง สวยแบบโอเวอร์มากๆ, สุดตีน หมายถึง สุดๆ เลอะ เจ๋งว่ะ, กากจริงๆ หมายถึง ไม่ได้เรื่อง

อาร์ตมาก หมายถึง อารมณ์ศิลปินไง ทำไรตามใจ ไม่แคร์คนอื่น, สลัมบอมเบ หมายถึง ต่ำสุดๆ, ซาไก หมายถึง ใช้พูดเวลาดูถูกคนที่ไม่รู้เรื่องอะไร เหมือนอยู่ตามชนเผ่าแล้วเพิ่งเข้าเมือง, แด๊พ หมายถึง Verb ช่อง 3 ของแดก, นี่หรือเมืองพุทธ หมายถึง ประหลาดใจ, อริสมันต์ หมายถึง ใช้กับคนพูดจาไม่ชัด เหมือน อมฮอลล์ในปาก, ขอเฉลย หมายถึง สารภาพ ขอเฉลยว่าเราผิด, เมี้ยว เมี้ยว หมายถึง มาจากคำว่า ไม่เอา แต่พูดเร็วๆ รัวๆ หลายครั้ง, อะฮ้า หมายถึง ใช้แทนคำว่า ครับหรือค่ะ, เซ็งเป็ด หมายถึง เซ็งโคตรๆ เบื่ออะ, รวมมิตร หมายถึง การรวมคำเป็นที่สุด เช่น ขี้เหร่ รวมกับ ดำ เตี้ย ดั้งหัก ปากหนา ขาโก่ง, ไฮเปอร์โบล่า หมายถึง พวกชอบทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน, ใจป่ะ หมายถึง เข้าใจปะ

ขอบคุณ หนังสือพิมพ์ข่าวสด


* p1-21387.jpg (51.77 KB, 350x282 - ดู 204 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,931



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 26 มกราคม 2011, 11:34:16 »

ตามนั้น ขอบคุณครับ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
VIP>>//<<
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 913


ตั้งใจ มุ่งมั่น ความฝันย่อมสำเร็จ


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 26 มกราคม 2011, 14:51:37 »

 ยิงฟันยิ้ม ;Dคนเรา???เนาะเรื่องแค่นี้เครียดไปได้
IP : บันทึกการเข้า
O-L-Y-G-O-N
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 676


นานาจิตตัง


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 26 มกราคม 2011, 15:50:21 »

เรียกว่า วิวัฒนาการ หรือ กลายพันธุ์ ดี


* xmen.jpg (5.43 KB, 184x274 - ดู 144 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

จงเรียนรู้
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!