http://dhammaway.wordpress.com/2014/03/15/space-of-life/ตอนที่เริ่มสร้างวัดเซนในซานฟรานซิสโกนั้น
อาจารย์ชุนเรียว ซูซูกิ ต้องลงมือขนหินด้วยตัวเอง
หินทั้งใหญ่และหนัก แถมต้องขนหินวันละหลายก้อน
ลูกศิษย์ชาวอเมริกันเห็นก็สงสารอาจารย์
เพราะอาจารย์ตอนนั้นก็อายุ ๖๐ กว่าแล้ว แถมยังตัวเล็ก
ลูกศิษย์จึงอาสาช่วยอาจารย์ขนหิน
แต่ขนไปได้แค่ครึ่งวันก็หมดแรง
ตรงข้ามกับอาจารย์ กลับขนได้ทั้งวัน
ลูกศิษย์จึงสงสัยมากว่าทำได้อย่างไร
ขนาดคนอเมริกันซึ่งร่างใหญ่กว่าแถมหนุ่ม
กว่ายังทำได้แค่ครึ่งวัน พอลูกศิษย์ไปถามอาจารย์
ก็ได้คำตอบว่า
“ก็ผมพักผ่อนตลอดเวลานี่”
อาจารย์ชุนเรียวขนหินไป ก็พักผ่อนไปด้วย
มีแต่กายเท่านั้นที่ขนหิน แต่ใจไม่ได้ขนหินด้วย
ใจนั้นปล่อยวางจากงาน ไม่คาดหวังความสำเร็จ
และไม่เร่งรัดให้เสร็จไวๆ แต่คนทั่วไปนั้นเวลาขนหิน
ไม่ได้ขนด้วยกายเท่านั้น แต่ใจก็ขนไปกับเขาด้วย
เวลาเหนื่อยก็ไม่ได้เหนื่อยแค่กาย แต่ใจก็เหนื่อยไปด้วย
เพราะคอยเร่งว่าเมื่อไหร่จะเสร็จๆ
ยิ่งเร่งให้เสร็จไวๆ ก็ยิ่งเสร็จช้า ก็เลยยิ่งหงุดหงิด
ลึกลงไปกว่านั้น เวลากายเหนื่อย
ก็ไม่ได้คิดว่ากายเท่านั้นที่เหนื่อย
แต่ใจยังปรุงแต่งไปอีกว่า “ฉันเหนื่อย”
ใจก็เลยเหนื่อยตามไปด้วย
อาจารย์ชุนเรียวนั้น ใจไม่ได้ขนหินด้วย
เพราะปล่อยวาง “หิน” ทุกชนิด
ใจจึงพักผ่อน สามารถช่วยกายให้ทำงานได้ทั้งวัน
ภาพจากหนังสือ ชีวิตที่จิตใฝ่หา, พระไพศาล วิสาโล
อ่านเรื่องเต็มที่นี่ค่ะ
http://dhammaway.wordpress.com/2014/03/15/space-of-life/ดาวโหลดหนังสืออ่านได้ที่นี่
http://dhammaway.files.wordpress.com/2014/03/good-life.pdf.