ภาษีสรรพสามิตในเดือนพฤศจิกายน 2553 กรมสรรพสามิตจัดเก็บได้ 36,277.76 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 3,575.28 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.93 ส่งผลให้ 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2554 (ตุลาคม – พฤศจิกายน 2553) จัดเก็บได้ 68,809.85 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 4,432.09 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.88
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยถึงผลการจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตในเดือนพฤศจิกายน 2553 ว่ากรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บได้รวม 36,277.76 ล้านบาท สูงกว่าเดือนพฤศจิกายน 2552 จำนวน 2,683.43 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.99 (เดือนพฤศจิกายน 2552 จัดเก็บได้ 33,594.33 ล้านบาท) และสูงกว่าประมาณการจำนวน 3,575.28 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.93
สำหรับรายได้ภาษีที่กรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) ภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จัดเก็บได้สูงสุด จำนวน 12,431.23 ล้านบาท 2) ภาษีรถยนต์ จัดเก็บได้ 7,701.43 ล้านบาท 3) ภาษีเบียร์ จัดเก็บได้ 5,629.34 ล้านบาท 4) ภาษียาสูบ จัดเก็บได้ 4,701.44 ล้านบาท และ 5) ภาษีสุรา จัดเก็บได้จำนวน 4,085.45 ล้านบาท
อธิบดีกรมสรรพสามิตกล่าวเพิ่มเติมว่า จากผลการจัดเก็บรายได้เดือนพฤศจิกายน 2553 ที่สูงกว่าเป้าหมายส่งผลให้รายได้ภาษีสรรพสามิตสองเดือนแรกของปีงบประมาณ 2554กรมสรรพสามิตจัดเก็บได้จำนวน 68,809.85 ล้านบาท สูงกว่าในช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 3,954.39 ล้านบาท (ปีก่อนจัดเก็บได้จำนวน 64,855.46 ล้านบาท) และสูงกว่าประมาณการจำนวน 4,432.09 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.88 โดยภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จัดเก็บได้สูงสุด จำนวน 24,454.41 ล้านบาท รองลงมาได้แก่ ภาษีรถยนต์ จัดเก็บได้จำนวน 14,153.81 ล้านบาท อันดับสามได้แก่ ภาษีเบียร์ จัดเก็บได้จำนวน 10,370.76 ล้านบาท อันดับสี่ได้แก่ ภาษียาสูบ จัดเก็บได้จำนวน 8,777.28 ล้านบาท และอันดับที่ห้าได้แก่ ภาษีสุรา จัดเก็บได้จำนวน 7,669.08 ล้านบาท
ที่มา
http://www.thannews.th.com/index.php?option=com_content&view=article&id=49735:3627776-&catid=176:2009-06-25-09-26-02&Itemid=524
หน้าหลักเว็บไซต์
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."
ผู้เขียน
