เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 28 กรกฎาคม 2025, 05:52:39
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  การบริการระหว่างโรงพยาบาลรัฐกับเอกชน
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน การบริการระหว่างโรงพยาบาลรัฐกับเอกชน  (อ่าน 6096 ครั้ง)
GEN-Z
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,099


« เมื่อ: วันที่ 19 พฤศจิกายน 2010, 19:12:51 »

      อยากรู้ว่าผู้ที่มีหน้าที่ทั้งหลายว่าทำไมท่านถึงได้ให้บริการแก่ประชาชนต่างกันมากมายนัก ทั้งที่ความรู้ความสามารถไม่ได้แตกต่างกัน ให้บริการแก่ประชาชนเหมือนโรงพยาบาลเอกชนได้ไหมครับ เงินมันต่างกันเข้าใจนะครับ แต่ท่านก็ได้เงินเดือนจากภาษีประชาชนนะครับ ไม่ต้องอะไรมากมายขอแค่เอาใจใส่และพูดจาดีๆก็พอแล้ว
      ช่วยๆกันแสดงความเห็นหน่อยนะครับ ผมไม่เข้าใจจริงๆ
IP : บันทึกการเข้า
Carcamera Cr
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,226



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 19 พฤศจิกายน 2010, 19:15:28 »

นางพยาบาล  หรือ นางพญามาร  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

กล้องติดรถยนต์เชียงราย ศรีทรายมูล
shiff2007
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,150



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 19 พฤศจิกายน 2010, 21:19:12 »

ด้วยความเคารพครับ

อาชีพ แพทย์หรือพยาบาล เป็นอาชีพที่ถือได้ว่า
ทำงานหนักที่สุด และเครียดที่สุด เพราะเกี่ยวข้องกับชีวิตของ คน
วัน ๆ หนึ่งพบเจอแต่ผู้คนหลากหลายที่มาหาเพราะ ความทุกข์ ทั้งนั้น
(มีใครบ้างไหมที่เวลามี ความสุข แล้วไปพบหมอ ... 555)
วัน ๆ หนึ่งต้องเก็บกวาดอุจจาระ ปัสสาวะ กองอ้วก กองเลือด
เจอบาดแผลเหวอะหวะ  คนอาการปางตาย เสียงร้องโหยหวน
เสียงร้องกระจองอแง .......

ที่สำคัญ การใช้ชีวิตประจำวันของแพทย์และพยาบาล
ไม่เหมือนกับผู้คนปกติธรรมดา  ไม่มีวันจันทร์ - ศุกร์
ไม่มีวันเสาร์ - อาทิตย์   ไม่มีวันหยุดราชการ  ไม่มีวันหยุดเทศกาล 
มีแต่ว่า วันนี้อยู่เวรไหน ..
เวรเช้า 08.00 - 16.00  เวรบ่าย 16.00 - 24.00  เวรดึก 00.00 - 08.00 น.
บางวันเวรเช้า + เวรดึก หรือบางวัน เวรบ่าย + เวรดึก  ฯลฯ
ไม่มีโอกาสได้พักผ่อนเหมือนชาวบ้าน ไม่มีโอกาสได้ท่องเที่ยวในเทศกาล
ไม่มีโอกาสได้พบเจอสิ่งสวยงาม ไม่มีโอกาสฟังเพลงเพราะเหมือนคนอื่น ๆ เขา

ถามว่า
ทำงานแบบนี้ ใช้ชีวิตแบบนี้  เครียดไหม ...!!!!!!
จะให้เขาคอยต้อนรับทุกคนด้วยรอยยิ้ม เอาอกเอาใจ
ให้บริการด้วยไมตรีจิต ตลอด 24 ชั่วโมง  .... ไหวไหม ... !!!!!

เห็นใจเขาเถอะครับ ......
ไม่หนักหนาสาหัสมากมาย ก้อให้อภัยเขาเถอะครับ
IP : บันทึกการเข้า

โบราณว่า ไม้ใหญ่ย่อมเจอขวานคม คนเด่นต้องมีคนด่า
คนมีปัญญาจึงมีคนลองดี คนทำงานดีจึงมีคนริษยา
oyoyo *^_^*
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,011



« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 19 พฤศจิกายน 2010, 21:20:06 »

มีคนไข้มาใช้บริการที่โรงพยาบาลรัฐเยอะกว่าโรงพยาบาลเอกชนน่ะครับ บางทีก็น่าเห็นใจนางพยาบาลด้วยเหมือนกัน
IP : บันทึกการเข้า

"มนุษย์ใช้เหตุผลทางความคิด
ในการตัดสินว่าอะไรถูกอะไรผิด
ขณะที่ธรรมชาติใช้ความจริงทางจิต
ในการตัดสินว่าอะไรเป็นบุญอะไรเป็นบาป"

วาทะดังตฤณ "ด้วยความเป็นห่วง"
zombie01
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,516


ความสุขเกิดขึ้นได้ เพียงแต่รู้จักใช้ชีวิต


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 19 พฤศจิกายน 2010, 21:23:57 »

ค่าตอบแทนต่าง ๆ ของโรงพยาบาลเอกชนก็สูงกว่าโรงพยาบาลรัฐ อาจมีส่วนทำให้เกิดความแตกต่างในการให้บริการได้ครับ
IP : บันทึกการเข้า

shiff2007
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,150



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 19 พฤศจิกายน 2010, 21:28:26 »

ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นตามประเด็นที่ถามว่า
ทำไมโรงพยาบาลเอกชน กับโรงพยาบาลของรัฐ
จึงมีการให้บริการที่แตกต่างกัน ......

ผมคิดว่า จริง ๆ แล้วความรู้สึกของแพทย์และพยาบาล
ทั้ง รพ.รัฐ และ รพ.เอกชน  ไม่แตกต่างกันหรอก ...
แต่เพราะเอกชน สามารถเลิกจ้างแพทย์หรือพยาบาลเมื่อไหร่ก็ได้
เพราะเขาเหล่านั้นอยู่ในสถานะของ  ลูกจ้าง
เว้นแต่ว่าจะเป็นลูกจ้างที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
และเป็นที่ยอมรับศรัทธาของผู้ป่วย .... จำนวนมากกกกกกกกกก

ส่วน รพ.รัฐ ก็เป็นหน่วยงานที่เหมือนกับระบบราชการโดยทั่วไป
การจะไล่ข้าราชการออกสัก 1 คน เป็นเรื่องที่ยากมากถึงมากที่สุด

แค่นี้ ก้อคงนึกออกแล้วนะครับว่า
รอยยิ้ม ความเอาใจใส่ ที่ท่านได้รับจากแพทย์และพยาบาล รพ.เอกชน
เกิดจากอะไร ..... และถ้าสังเกตดี ๆ ลองดูความจริงใจหลังรอยยิ้มนั้นดูสิครับ
แล้วท่านจะเห็นความจริงของชีวิตที่มีแต่น้ำตาและความเครียดอยู่เบื้องหลังรอยยิ้มพิมพ์ใจนั้น ...
IP : บันทึกการเข้า

โบราณว่า ไม้ใหญ่ย่อมเจอขวานคม คนเด่นต้องมีคนด่า
คนมีปัญญาจึงมีคนลองดี คนทำงานดีจึงมีคนริษยา
คนไกลบ้านเกิด
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,874



« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 20 พฤศจิกายน 2010, 04:40:50 »

 ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
คนน้อย
สมาชิกลงทะเบียน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 126


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 20 พฤศจิกายน 2010, 10:30:15 »

แต่ก่อนก็เป็นอีกคนที่คิดว่ารพ.เอกชนบริการดีกว่ารัฐมาก แต่หลังจากที่ตื่นขึ้นมาแล้วเข่าหมดแรงไม่มีสาเหตุทำให้หกล้มหัวเกือบแตกมันบวมเปล่งเลือดซิบๆ อารามตกใจคว้ากระเป๋าไปรพ.เอกชนในเมืองหน่ะแหล่ะ(ไม่อยากเอ่ยชื่อ) (ไปทั้งๆที่ยังใส่ชุดที่เราใส่นอนอยู่คือกางเกงขาสั้นเสื้อยืดธรรมดาบวกรองเท้าแตะ)ไปถึงเค้าก็พาเข้าห้องฉุกเฉินทำแผลแล้วให้พบคุณหมอ คุณหมอคนแรกก็ถามอาการเราว่าเคยเป็นแบบนี้มาก่อนรึปล่าว อาเจียนมั๊ย เราก็บอกว่าไม่แต่มีอาการปวดหัวบ่อยๆ ก่อนที่จะล้ม เคยมารักษาที่นี่เหมือนกันแต่ยังไม่หายคุณหมอก็ดูประวัติเราว่าเราเป็นไซนัสอักเสบมาก่อน แต่คิดว่ามันคงจะไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เราหมดแรงได้ จึงอยากให้เราพบคุณหมออีกคนหนึ่งซึ่งบางทีอาจจะหาสาเหตุที่แท้จริงได้ เราก็ตกลง   
พอพาเรามาหาหมออีกคนหมอก็ถามเหมือนเดิม เราก็ตอบเหมือนเดิมแต่ไม่ดูประวัติอะไรเราเลย แล้วก็พูดจาแบบขอไปทีบอกว่าคุณคงรักษาไม่หายหรอก เพราะคุณคงเป็นโรคอ้อน (เราก็อึ้ง เอ๊ะอะไรโรคอ้อน เราเข้าห้องตรวจไปพร้อมกับแฟน แล้วคุณหมอมองหน้าแฟนพูดว่าเราเป็นโรคอ้อน) บอกเอางี้ก็แล้วกันนะคุณไปแสกนสมองดูมั๊ยแล้วค่อยมาดูผลอีกที เราก็เออไปก็ไปเพื่อความสบายใจ แล้วยังบอกเราอีกนะว่า แพงนะ เราก็บอกไม่เป็นไรเรามีประกัน (คุณหมอบอกเหรอ)นางพยาบาลบอกว่าไม่เห็นเรายื่น เราก็บอกไปว่าพอดีลืมหยิบมา เค้าบอกงั้นคุณต้องสำรองจ่ายนะ เราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร   
หลังจากสแกนสมองเสร็จก็เข้ามาฟังผล ก็ไม่พบอะไรที่น่าเป็นห่วงเกี่ยวกับสมอง  พอถึงเวลาหมอจะเขียนใบเคลมประกันให้กลับถามย้อนเราว่าจะให้เขียนว่าไงถ้าปวดหัวแต่พบหมอมันเบิกไม่ได้หรอกนะเสียเวลา (เราไม่รู้ว่าเราไปทำไรให้หมอเค้า เค้าพูดกับเราเหมือนามะนาวไม่มีน้ำอ่ะ คุณหมอเป็นเหมือนกะเทยแก่ ขอโทษที่ต้องใช้คำนี้ แกออกจะตุ้งติ้ง ฟอร์มหน่อยๆ) แฟนเราด้วยความที่โมโหตั้งแต่บอกว่าเป็นโรคอ้อนคราวนี้ทนไม่ไหวก็เลยย้อนไปว่าอ้าว ก็ที่มาหาหมอก็เพราะล้มหัวกระแทกมาก็เขียนตามนั้นสิ คุณหมอบอกว่าแล้วมาหาผมทำไม หาหมอคนแรกถูกแล้วนี่ (ยังมาโทษคนไข้อีก) แฟนเราก็เลยว่าไปว่าเพราะหมดแรงแล้วล้มไม่ทราบสาเหตุอีกอย่างเคยปวดหัวแล้วรักษาที่นี่มาก่อนหมอคนแรกก็เลยให้มาพบคุณอีกทีแฟ้มประวัติคนไข้ไม่ได้เขียนไว้เหรอ เค้าทำหน้างงๆ นางพยาบาลเห็นท่าไม่ดีก็เลยเข้ามาพลิกๆประวัติและข้อมูลเราให้อ่าน หมอทำหน้าเจื่อนๆ บอกว่าคุณรักษากับหมออีกคนวันนี้เค้าไม่มา เค้าจะมาเฉพาะวันเสาร์นะ เด๋วไปรับยาแล้วกลับบ้านเลย เรากับแฟนก็โมโหๆ นางพยาบาลก็ออกมาขอโทษ   
ตกลงมันอะไรกัน หมอรึว่าอะไร ทำไมใช้อารมกับเราและตกลงไอ้ที่เราเป็นแล้วไปหาหมอมันได้อะไรขึ้นมา  หมอแบบนี้ก็มีด้วย เหตุการณ์ครั้งนี้ เราเข็ดจริงๆ ไม่อยากไปรพ.นี้อีกเลยให้ตายสิ  นี่รพ.เอกชนนะ เอาตังค์ไปให้นะ แล้วเค้าคิดไงกับเรา คิดว่าเราไม่มีเงินรักษา หรือคิดอะไรอยู่ถึงทำแบบนี้ได้....
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!