เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 03 สิงหาคม 2025, 14:03:30
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คุยเรื่องไอที - เทคโนโลยี (ผู้ดูแล: K€nGja1, chiohoh, nuifish, NOtis)
| | |-+  ว่าด้วยความจริง
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ว่าด้วยความจริง  (อ่าน 610 ครั้ง)
siwawut00
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 48


« เมื่อ: วันที่ 26 กันยายน 2013, 17:03:34 »

ที่ผ่านมาผมสนับสนุน การทำงานขององค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด เพียงแต่การตรวจสอบและหลัก “นิติรัฐ” ต้องยึดมั่นกับหลักการและความโปร่งใส คนส่วนใหญ่ในสังคมจึงจะยอมรับได้

แต่กรณีที่ กรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) และ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องหมิ่นประมาท น.ส.ณัฎฐา โกมลวาทิน ผู้ดำเนินรายการสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส บอกตามตรงผมไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่าในฐานะคนทำสื่อก็ต้องค้นหาความจริง

ส่วนในสำนวนเดียวกันที่มีการฟ้องร้อง “ดร.เดือนเด่น นิคมบริรักษ์” นักวิจัยประจำสถาบันทีดีอาร์ไอ รวมอยู่ด้วย อันเนื่องมาจากการไปร่วมรายการที่มีน.ส.ณัฎฐาเป็นผู้ดำเนินรายการ เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2556 และพูดถึงความเสียหายที่เกิดจากมาตรการขยายเวลาคืนคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ ของ กทค. ผมเห็นว่า เมื่อ ดร.เดือนเด่นมั่นใจกับข้อมูล ก็คงพร้อมที่จะไปพิสูจน์ความจริงต่าง ๆ ตามกระบวนการยุติธรรม

เพราะแถลงการณ์ของกสทช. ระบุไว้ตอนหนึ่ง ถึงเหตุผลที่ตัดสินใจฟ้องร้องนักวิชาการและสื่อมวลชนว่า กสทช. ไม่ได้ไปข่มขู่ หรือใช้อิทธิพลไปห้ามสื่อนำเสนอข่าวการวิพากษ์วิจารณ์ กสทช. เพราะการวิพากษ์วิจารณ์ยังสามารถกระทำได้ แต่จะต้องไม่ใช่เอาข้อมูลที่ไม่จริงหรือบิดเบือน มานำเสนอก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น

การฟ้องคดีนี้แท้จริงแล้ว จะส่งผลเป็นการปกป้องสื่อ ไม่ให้ถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อทำลายองค์กรใด ๆ นอกจากนี้ยังทำให้เป็น การยกระดับมาตรฐานทางวิชาการ ของสถาบันวิจัยให้มีมากขึ้น

ที่ผ่านมาผมสนับสนุน การทำงานขององค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด เพียงแต่การตรวจสอบและหลัก “นิติรัฐ” ต้องยึดมั่นกับหลักการและความโปร่งใส คนส่วนใหญ่ในสังคมจึงจะยอมรับได้

แต่กรณีที่ กรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) และ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องหมิ่นประมาท น.ส.ณัฎฐา โกมลวาทิน ผู้ดำเนินรายการสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส บอกตามตรงผมไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่าในฐานะคนทำสื่อก็ต้องค้นหาความจริง

ส่วนในสำนวนเดียวกันที่มีการฟ้องร้อง “ดร.เดือนเด่น นิคมบริรักษ์” นักวิจัยประจำสถาบันทีดีอาร์ไอ รวมอยู่ด้วย อันเนื่องมาจากการไปร่วมรายการที่มีน.ส.ณัฎฐาเป็นผู้ดำเนินรายการ เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2556 และพูดถึงความเสียหายที่เกิดจากมาตรการขยายเวลาคืนคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ ของ กทค. ผมเห็นว่า เมื่อ ดร.เดือนเด่นมั่นใจกับข้อมูล ก็คงพร้อมที่จะไปพิสูจน์ความจริงต่าง ๆ ตามกระบวนการยุติธรรม

เพราะแถลงการณ์ของกสทช. ระบุไว้ตอนหนึ่ง ถึงเหตุผลที่ตัดสินใจฟ้องร้องนักวิชาการและสื่อมวลชนว่า กสทช. ไม่ได้ไปข่มขู่ หรือใช้อิทธิพลไปห้ามสื่อนำเสนอข่าวการวิพากษ์วิจารณ์ กสทช. เพราะการวิพากษ์วิจารณ์ยังสามารถกระทำได้ แต่จะต้องไม่ใช่เอาข้อมูลที่ไม่จริงหรือบิดเบือน มานำเสนอก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น

การฟ้องคดีนี้แท้จริงแล้ว จะส่งผลเป็นการปกป้องสื่อ ไม่ให้ถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อทำลายองค์กรใด ๆ นอกจากนี้ยังทำให้เป็น การยกระดับมาตรฐานทางวิชาการ ของสถาบันวิจัยให้มีมากขึ้น

คงต้องยอมรับว่า นับตั้งแต่ “ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวาณิชย์” ก้าวเข้ามารับตำแหน่งประธานทีดีอาร์ไอ องค์กรก็เริ่มมีคำถามมาตลอดว่า ถึงมาตรฐานการทำงานและการใช้หลักเกณฑ์ตรวจสอบ โดยเฉพาะถูกมองว่าเลือกปฏิบัติ มุ่งเน้นตรวจสอบบริษัทสื่อสารบางค่าย แต่ละเลยบางค่ายบางบริษัท ทั้ง ๆ ที่มีข้อครหาว่าต่างชาติถือหุ้นใหญ่อยู่

หากย้อนกลับไปในปี 2527 ที่ทีดีอาร์ไอถูกตั้งขึ้น โดยเป็นมูลนิธิไม่หวังผลกำไรเป้าหมายหลัก คือ การวิจัยเชิงนโยบาย และ เผยแพร่ผลงานวิจัยให้รัฐบาลและเอกชน เพื่อสนับสนุนการกำหนดนโยบายระยะยาว ที่ส่งผลดีต่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

เช่นเดียวกับ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เน้นการทำหน้าที่เสนอความเห็น โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเป็นไปของภาวะเศรษฐกิจ

แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทีดีอาร์ไอถูกตั้งคำถามว่า พุ่งเป้าโจมตีอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของไทยอย่างต่อเนื่อง หากจะอ้างว่าทำเพื่อส่วนรวมและมีความเป็นกลาง ทำไมไม่ตรวจสอบบริษัท ซึ่งอยู่ภายใต้การถือหุ้นของต่างชาติ แถมยังเกิน 50 % ด้วยซ้ำ

รวมทั้งยังคัดค้านการทำงานของ กสทช.แบบหัวชนฝา จนถูกมองว่าไร้เหตุผล แม้ กสทช. ได้ออกมาตรการเยียวยาผู้ใช้บริการกรณีสิ้นสุดการอนุญาต หรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ หลังคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ จะหมดสัญญาสัมปทาน

เพื่อไม่ให้ประชาชนกว่า 17 ล้านเลขหมายต้องประสบปัญหาซิมดับ ซึ่งเป็นไปตามหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่ต้องยึดหลักความต่อเนื่องของการให้บริการ และการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ ให้ประชาชนผู้ใช้บริการสามารถใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นการใช้ กระบวนการยุติธรรม ช่วยพิสูจน์ความจริง ถือเป็นเรื่องดีที่สุด แต่ละฝ่ายจะได้นำข้อมูลและหลักฐานมาหักล้างกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับสาธารณชน ถ้า กสทช.เอื้อประโยชน์ให้กับเอกชน ทำงานในลักษณะเลือกปฏิบัติ ก็ต้องถูกดำเนินคดี และยื่นถอดถอน

แต่ถ้าหากข้อมูลที่เป็นตัวแทนของทีดีอาร์ไอ ที่ออกมาพาดพิงหน่วยงานรัฐและเอกชน ปราศจากข้อเท็จจริง ก็ต้องรับผิดชอบ เพราะสังคมต้องอยู่ด้วยการยอมรับกฎกติกา.

เขื่อนขันธ์

dailynews.co.th/article/5/235593
IP : บันทึกการเข้า
tiger-red
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,007



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 26 กันยายน 2013, 21:28:27 »

จริงๆ แล้วถ้ามีการฟ้องร้องเกิดขึ้นก็ดีไปอย่างเพราะทุกฝ่ายต้องนำความจริงออกมาเปิดเผย
ประชาชนจะได้รู้ว่าหน่วยงานรัฐหรือสื่อที่บิดเบือนความจริง
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!