ร้านค้าปลีกกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่ อยู่ในซอยบ้านนอกๆ ริมทุ่งนา เขตเทศบาลตำบล
ปกติจ่ายภาษีประจำทุกปีตามที่ จนท.สรรพากร(อยู่ที่ว่าการ อ.เมือง)ประเมินคือ ปีละ 1,000 บาท
แต่สองปีหลัง จนท.ยกเลิกเก็บเพราะเห็นว่ารายได้ไม่ถึงขั้นที่ต้องจ่าย
ส่วนเทศบาลตำบลก็เรียกเก็บ ปีละ 900 กว่าบาท อันนี้จ่ายทุกปี
ส่วนภาษีเหล้าบุหรี่ต่างๆ ก็จ่ายที่สรรพากรถูกต้องตามปกติ
แต่วันนี้มี จนท.สรรพากร ขับรถตู้มาจอดห่างๆร้าน ทำตัวลับๆล่อๆ เข้ามาสอบถามถึงการจ่ายภาษี ก็เลยบอกไปตามด้านบนทุกอย่าง
แต่ .. จนท.แจ้งว่าให้ไปขึ้นทะเบียนผู้เสียภาษีใหม่ ในอัตราปีละ 5,400 บาท.....!!!
เจ้าของร้านได้สอบถามกลับไปว่าต้องเสียแบบนี้ทุกร้านหรือไม่ จนท.ตอบว่า ไม่ เพราะสุ่มตรวจแบบจู่โจมเอา..!!!!!
เจ้าของร้านเลยแจ้งว่าวันจันทร์จะเข้าไปติดต่อที่สำนักงานเอง จนท.ยังมีการบอกว่าวันจันทร์กลัวจะไม่สะดวกอีก เพราะ จนท.(เขา)ไม่ว่าง
เลยอยากสอบถามว่า
1.กรณีนี้ เรียกเก็บปีละ 5,400 บาท ถูกต้องตามระเบียบแล้วหรือไม่ แล้วเอาอะไรมาประเมิน (ถ้าถูกต้องก็ยินดีจ่ายไม่มีปัญหาอะไร)
2.ถ้าเรียกเก็บถูกต้องทำไมไม่เรียกเก็บให้เหมือนกันทุกร้าน เพราะใกล้เคียงก็มีร้านเท่าๆกันเยอะแยะ
3.ทำไมต้องทำแบบจู่โจม สุ่มตรวจ ลับๆล่อๆ เอารถไปจอดไกลๆ หน้าร้านมีที่จอดทำไมไม่จอด (มันทำให้สงสัยว่ามาถูกต้องตามระเบียบหรือปล่าว)
4.ถ้าไม่จ่ายแล้วไปติดต่อที่สรรพากรเดิม (ที่ว่าการ อ.เมือง) จะมีปัญหาอะไรหรือไม่
5.ทำไมต้องขึ้นทะเบียนผู้เสียภาษีใหม่ เพราะก็มีบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีและเลขประจำตัวอยู่แล้ว
วอนผู้รู้ช่วยแถลงไขหน่อยครับ
