
เชียงราย - นายทุนฝรั่ง เมียไทย เหิมหนักไม่สนใจคำสั่งกรมชลฯ ให้ย้ายพ้นอ่างเก็บน้ำห้วยสักในพระราชดำริฯ กลับนำเรือเร็วลงให้บริการลูกเล่นสกีน้ำต่อ กอดสัญญา อบต.ห้วยสักแน่น อ้างเคยจ่ายค่าเช่าผ่านฝ่ายปกครองอำเภอฯ มาแล้ว แถมลงทุนไปร่วม 40 ล้าน ลั่นไม่ยอมถอยแน่
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงราย แจ้งถึงความคืบหน้าในการยึดอ่างเก็บน้ำห้วยสักในพระราชดำริฯ ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย คืนจากนายทุนฝรั่ง-ภรรยาไทย ที่ทำสัญญาเช่าทำประโยชน์ 30 ปี กับ อบต.ห้วยสัก ผ่านไฟเขียวจากคณะกรรมการระดับจังหวัดที่อดีตผู้ว่าฯเชียงราย สั่งตั้งขึ้น จนกระทั่งชาวบ้านได้รวมตัวยื่นถวายฎีการ้องทุกข์ และอธิบดีกรมชลประทาน ได้ออกประกาศลงวันที่ 9 ก.ค.53 ให้ผู้ประกอบการย้ายออกจากอ่างเก็บน้ำดังกล่าวแล้วว่า จนถึงขณะนี้กลุ่มนายทุนฝรั่ง-ภรรยาไทย ในนามบริษัท แบ๊ค-อาร์ แพลนเน็ต เวคบอร์ด จำกัด ดำเนินการโดย น.ส.ปิยะกาล ญาณกาย และนายเบคแกร์ จิล เคล้าค แพทริค ชาวฝรั่งเศส ยังไม่ยอมย้ายอุปกรณ์ที่นำมาใช้ประกอบธุรกิจให้บริการเล่นสกีน้ำออกตามคำประกาศของกรมชลฯแต่อย่างใด
นอกจากนี้ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทแบ๊ค-อาร์ แพลนเน็ตฯ ยังเริ่มนำเรือเร็ว 2 ลำ พร้อมกระดานสกีลงให้บริการนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่เข้ามาซื้อบริการอีกครั้ง ทำให้เกิดปัญหาเดิมตามมา คือ เกิดคลื่นแรงจนทำให้ชาวบ้านไม่สามารถประกอบอาชีพหาปลาได้ และเนื่องจากช่วงนี้ระดับน้ำสูงเกือบเต็มอ่าง ชาวบ้านเกรงว่าขอบอ่างที่เป็นเขื่อนเรียงหินจะพังทลายเกิดความเสียหายขึ้นได้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวของบริษัท แบ๊ค-อาร์ แพลนเน็ต เวคบอร์ดฯ ถือว่าฝ่าฝืนคำสั่งของกรมชลฯ ซึ่งได้มีหนังสือแจ้งให้ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง เรือและอุปกรณ์ ออกจากพื้นที่อ่างเก็บน้ำห้วยสักตามพระราชดำริดังกล่าว โดยเคยมีการแจ้งไปแล้ว 3 ครั้งแต่ละครั้งเว้นช่วง 30 วัน โดยปัจจุบันนอกจากจะนำเรือเร็วพร้อมสกีน้ำลงให้บริการตามปกติแล้ว ยังปลูกสร้างร้านค้า อาคารริมฝั่งเพื่อบริการผู้ไปเล่นกีฬาน้ำและอื่นๆ อีก 3-4 อาคารตามปกติ ไม่สนใจต่อประกาศจากอธิบดีกรมชลประทานซึ่งตั้งเอาไว้โดยรอบบริเวณและภายในพื้นที่ที่ตั้งอาคารทั้งหมดด้วย
ล่าสุด 20 ตุลาคม 53 ที่ผ่านมา ชาวบ้านจาก 4 หมู่บ้านรอบอ่างที่ได้รับผลกระทบจากการเล่นสกีน้ำของลูกค้าบริษัท ได้รวมตัวกันเดินทางไปทางฝั่งตะวันตกใกล้กับอาคารประกอบกิจการเรือเร็วสกีน้ำของบริษัท แบ๊ค-อาร์ แพลนเน็ต เวคบอร์ดฯ เพื่อเรียกร้องให้หยุดดำเนินการ
ต่อมานายณรงค์ อินทโชติ ผู้อำนวยการโครงการชลประทาน จ.เชียงราย ร่วมกับ พ.ต.ท.วรพงศ์ มัจพันธุ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงราย ,พ.ต.ท.สมพร เชยบาล สารวัตรสืบสวน ,ร.ต.อ.พิบูลย์ ธนิตกุล ร้อยเวรเจ้าของคดี ได้เดินทางไปไกล่เกลี่ยกับชาวบ้าน และเชิญ น.ส.ปิยะกาล ญาณกาย-นายเบคแกร์ จิล เคล้าค แพทริค ไปร่วมหารือด้วยภายในร้านอาหารใกล้กับโครงการเรือเร็วสกีน้ำของบริษัท ซึ่งนายเบคแกร์ก็ยังยืนยันว่าจะประกอบกิจการต่อเพราะได้ทำข้อตกลงกับ อบต.ห้วยสัก เอาไว้แล้วและคณะกรรมการของจังหวัดและอำเภอก็เห็นชอบด้วย
ขณะที่ น.ส.ปิยะกาล ญาณกาย ผู้เป็นภรรยานายทุนฝรั่งรายนี้ กล่าวว่า สามีก็งงกับประกาศจากอธิบดีกรมชลประทาน และสงสัยว่าเป็นของจริงหรือไม่ เพราะได้ดำเนินการตามขั้นตอนทุกอย่าง โดยเคยเสียค่าเช่าให้กับฝ่ายปกครองอำเภอปีละ 20,000 บาท แต่ต่อมามีปัญหาเรื่องความเป็นเจ้าของสถานที่ระหว่างกรมชลประทานกับ อบต.ห้วยสัก จึงระงับค่าเช่าไว้ก่อน และที่ผ่านมาพวกเราลงทุนไปแล้วเป็นมูลค่าร่วม 40 ล้านบาท ทำให้สามียืนยันชัดเจนว่าคงจะไม่ย้ายออกไปไหนอีก ด้านผลกระทบก็สามารถหารือกันได้เพื่อแจ้งกำหนดเวลาการลงเล่นเพื่อไม่ให้กระทบการประมงต่อไป
“เราให้บริการนักท่องเที่ยวเล่นสกีเร็ว โดยหากเป็นเรือใหญ่ก็จะคิดราคาชั่วโมงละ 4,500 บาท ส่วนเขาจะไปพักที่ไหนอย่างไรหรือพักกับเราก็แล้วแต่ โดยนักท่องเที่ยวจะมามากในช่วงฤดูหนาวซึ่งมีน้ำในอ่างมากและช่วงเดือน ธ.ค.-ม.ค.ถือว่ามีคนมามากพวกเราจึงเตรียมตัวเอาไว้แล้ว” น.ส.ปิยะกาลกล่าว
ด้าน นายณรงค์กล่าวว่า หลังจากได้แจ้งเตือนไปแล้วหลายครั้ง ก็พบว่ายังมีการนำเรือลงเล่นและไม่รื้ออาคาร เรือและอุปกรณ์ออกอีก จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ไปเก็บภาพหลักฐานไว้แล้ว และล่าสุดตนได้ให้เจ้าหน้าที่ไปแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทที่ สภ.เมืองเชียงราย แล้วตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีเป็นแฟ้มใหญ่ ซึ่งเพียงพอต่อการดำเนินคดี ส่วนจะทำการรื้อถอนอาคาร-นำเรือพร้อมอุปกรณ์ออกได้หรือไม่อย่างไรก็ขึ้นอยู่กับการดำเนินการร่วมกับตำรวจ ซึ่งจะเร่งรัดให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้
“ทั้งนี้ บริษัทจะอ้างว่าไม่ทราบไม่ได้ เพราะได้แจ้งหนังสือไปถึงบริษัทแล้วหลายครั้ง”
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าช่วงหารือได้มีทนายของฝ่ายบริษัทฯ เข้าไปชี้แจงต่อที่ประชุมว่า กรมชลประทานไม่ใช่ผู้ดูแลพื้นที่ เพราะผู้ดูแลคือ อบต.ห้วยสัก และได้นำเอกสารระบุการมอบพื้นที่ตั้งแต่ปี 2528 มาแสดงด้วย แต่ทางโครงการชลประทาน จ.เชียงราย ระบุว่า แม้จะมีการมอบให้ดูแล แต่ทางกรมชลประทาน ก็ยังถือเป็นเจ้าของสินทรัพย์ จึงยืนยันว่า หากสู้คดีกันจะชนะคดีได้แน่นอน
ด้านชาวบ้านต่างไม่พอใจต่อคำชี้แจงของเอกชนดังกล่าว จึงเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับบริษัท ท้ายที่สุดทาง พ.ต.ท.วรพงศ์ ได้ประชุมกับฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและได้ข้อสรุปว่าจะขออนุญาตต่อศาล จ.เชียงราย เพื่อทำการตรวจยึดเรือที่กระทำการฝืนประกาศอธิบดีกรมชลประทานดังกล่าวในวันนี้ (21 ต.ค.) ทันที ทำให้ทุกฝ่ายแยกย้ายกันกลับไปรอฟังผลการดำเนินการ ท่ามกลางความกังวลของชาวบ้านที่ต้องการให้มีการยุติการเล่นเรือเร็วสกีน้ำโดยทันที
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับบริษัท แบ๊ค-อาร์ แพลนเน็ต เวคบอร์ด จำกัด ได้ทำข้อตกลงที่ทำกับ อบต.ห้วยสัก เมื่อปี 2549 ให้นำเรือลงเล่นกีฬาสกีน้ำ ภายใต้การอนุญาตจากคณะกรรมการระดับจังหวัดเมื่อครั้นนายวรเกียรติ สมสร้อย ยังเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด โดยไม่ต้องเสียค่าเช่ากับจังหวัดหรือท้องถิ่นเป็นเวลานาน 30 ปี ทำให้ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เปิดให้บริการ โดยกั้นอาณาบริเวณจุดที่กันเอาไว้สร้างอาคารสถานที่ทางฝั่งทิศตะวันตกของอ่างเก็บน้ำ








ที่มา
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000148389