เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 23 กรกฎาคม 2025, 16:14:32
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ตลาดกลางซื้อขายสินค้าออนไลน์
| |-+  ยา เครื่องสำอางค์ ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม
| | |-+  คุณรู้จักวิตมินที่ดีที่สุดใน ขณะนี้หรือยัง? import from USA
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน คุณรู้จักวิตมินที่ดีที่สุดใน ขณะนี้หรือยัง? import from USA  (อ่าน 196 ครั้ง)
uki
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,082



« เมื่อ: วันที่ 30 มกราคม 2014, 10:34:03 »

Lap ของเรา เน้นผลิตวิตามินที่ต้านอนุมูลอิสระเป็นหลัก โดยใช้กระบวนการผลิตแบบไบโอเทคโนโลยี (บ้านเรายังไม่มี) เน้นความเป็นธรรมชาติ 100% ไม่มีสารพิษสารเคมีแน่นอนผลิตสด ใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง สกัดออกมาความเข็มข้นสูงกว่าท้องตลาดทั่วไป 10-20 เท่าแล้วแต่ชนิดสินค้า ถ้าคุณเป็นคนรักสุขภาพต้องการคุณภาพและสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิตเรามั่นใจ วิตามินเราคือทางเลือกอีกทางเลือกหนึ่งของคุณ และเรามั่นใจว่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเท่าที่คุณจะหาได้ เรามั่นใจ !! เพราะ Lap ผลิตวิตามินที่ดีที่สุดในระดับโลกขณะนี้ ได้มาตรฐาน GMP ,US FDA, EU FDA ถือได้ว่ามีความปลอดภัยระดับโลก

คุณได้รับอะไรจากการกิน ROSEHIP-C ของเรา ฮืม
1.    ได้ประโยชน์จากวิตามินซี ความเข็มข้นสูงสุดตามทฤษฎีทั้งหมด 100% แน่นอน
2.    ได้ประโยชน์จากไบโอฟลาโวนอยด์ความเข็มข้นสูงสุดตามทฤษฎีทั้งหมด 100% แน่นอน
3.    ได้ประโยชน์จากวิตามินซีอื่นๆ อีกมากมายแน่นอน
4.​เห็นผลทันที โดยเฉพาะในเชิงความงามจะได้ผิวพรรณขาวใสอมชมพูมีออร่ามากๆรวมทั้งมอบความอ่อนเยาว์สุดๆ เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมากจึงป้องกันความเสื่อมของเซลล์ผิวได้ดีมากๆ
5.​คงความยืนยาวของอายุคอลลาเจนและโปรตีนในร่างกายคุณ ทำให้สดชื่น สดใส สุดๆ
7.    คุณสมบัติของวิตามินซี จากผลกุหลาบมีคุณสมบัติพิเศษเพิ่มอีกคือ ช่วยรักษาโรคข้ออักเสบ รูมาตอยด์ รักษาอาการปวดศีรษะ รักษาโรคท้องร่วง รักษาโรคติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ ช่วยให้ไตแข็งแรง และช่วยให้ระบบหมุนเวียนของโลหิตดีขึ้น
8.    ความเข็มข้นสูงมากกว่าวิตามินซี ทั่วไป 20 เท่า และได้รับประโยชน์มากกว่าวิตามินซีตามทั่วไปท้องตลาด
9.    ได้ความเป็น Luxury สุดๆ เพราะ Rosehip สกัดยาก จึงเป็นเรื่องไม่ง่ายเลยที่จะหา Rosehip ธรรมชาติ 100% ได้ทั่วไปตามท้องตลาด แต่คุณหาได้ใน Rosehip-C ของ Lap เรา สรุปว่าเป็นของดีมากหายากมาก ทั้งสวยมากและแข็งแรงมีประโยชน์ต่อร่างกายมากๆ
***  หมายเหตุ   Rosehip-C  คืออาหารเสริมไม่ใช่ยารักษาโรค




Rosehip –C
Rosehip นานาประโยชน์ของผลกุหลาบ เมื่อพูดถึงกุหลาบทุกคนมักจะนึกถึงแค่ดอกหรือไม่ก็ต้นกุหลาบเท่านั้น มีสักกี่คนที่จะรู้ว่ากุหลาบก็มีผล เหมือนกัน แล้วผลกุหลาบมันคือส่วนไหนของกุหลาบกันล่ะ.........?
ผลกุหลาบ (Rosehip) คือส่วนที่เป็นรังไข่โดยเมื่อเริ่มติดผลส่วนที่เป็นรังไข่จะขยายพองโตขึ้น โดยมีฐานรองดอกหุ้มไว้ ผลมีรูปร่างแตกต่างกันตามชนิดเช่น กลมๆ แบนๆ ยาวรี มีเนื้อนุ่มและมีหลายสี เช่น สีส้ม สีแดง สีเหลือง หรือสีน้ำตาล บางทีก็เป็นสีม่วง และภายในผลจะมีเมล็ดเล็กๆ
นอกจากกลีบกุหลาบที่กินได้แล้วผลกุหลาบก็กินได้เช่นเดียวกัน  เพราะผลกุหลาบเป็นแหล่งรวมธรรมชาติมากมายที่ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้นโดยเฉพาะวิตามินซี ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้นำผลกุหลาบไปทำอาหารบ้าง ทำยารักษาโรคบ้าง และแม้แต่สกัดน้ำมันไปเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง
ผลกุหลาบกับอาหาร
เป็นที่ทราบกันว่าคนพื้นเมืองอเมริกันนำกุหลาบและผลกุหลาบมาทำอาหารเนิ่นนานหลายศตวรรษแล้วในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 คนอังกฤษมีการระดมปลูกกุหลาบเพื่อนำผลกุหลาบมาทำอาหารกันเป็นจำนวนมากเนื่องจากผลกุหลาบมีวิตามินซีจะมีมาก และในช่วงนั้นผลไม้เปรี้ยวเช่น ส้มขาดแคลน ไม่สามารถนำเข้าประเทศได้ทำให้ต้องใช้ผลกุหลาบในการให้วิตามินซีแทน นอกจากนี้ผลกุหลาบยังนำไปทำอาหารได้หลายชนิด เช่น ทำแยม ทำเยลลี่ ทำซุป ทำไวน์และชงเป็นชา
แหล่งรวมวิตามิน
ผลกุหลาบยังเป็นแหล่งรวมวิตามินต่างๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี  วิตามินบี3  วิตามินบีคอมเพล็กซ์  วิตามินดีและวิตามินอี รวมทั้งมีน้ำตาลฟรัคโตส กรดซิตริก กรดมาลิค  สังกะสี เหล็ก โปแตสเซียมและแม็กนีเซี่ยมด้วย โดยเฉพาะวิตามินซีมากกว่าผลไม้รสเปรี้ยวจำพวกส้มถึง 20 เท่า
​ผลกุหลาบกับสรรพคุณทางยา
ปี ค.ศ 2007 ทีมนักวิจัยชาวเยอรมันและเดนมาร์กได้ทำการศึกษาประโยชน์ของผลกุหลาบรักษาโรคข้ออักเสบรูมมาตอยด์ ในการศึกษาจากจำนวนอาสาสมัครประมาณ 74 คน ส่วนใหญ่เป็นหญิงการทดลองเป็นระยะเวลา 6 เดือนโดยแบ่งเป็น 2กลุ่ม กลุ่มหนึ่งรับประทาน Placcebo หรือยาที่ไม่มีฤทธิ์ยาใช้หลอกคนไข้หรือ Fake Treatment อีกกลุ่มทานผลกุหลาบ ผลปรากฏว่ากลุ่มที่ทานผลกุหลาบเป็นประจำจำนวน 25% จะมีอาการปวดลดลงถึง 40% ส่วนกลุ่มที่ทาน Placebo ไม่มีรายงานเปลี่ยนแปลงอาการของโรคใดๆ
กล่าวกันว่าชาที่ทำจากผลกุหลาบมีประสิทธิภาพดีในการรักษาโรคท้องร่วงและการติดเชื้อโดยเฉพาะติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ ช่วยให้ไตแข็งแรง วิตามินซีจากผลกุหลาบช่วยป้องกันและรักษาโรคไข้หวัดบรรเทาอาการปวดศีรษะ ซึ่งชาวนิวซีแลนด์มีชื่อเสียงมากในการทำน้ำเชื่อมจากผลกุหลาบให้เด็กๆรับประทานในหน้าหนาวเพื่อป้องกันไข้หวัด นอกจากนี้ยังช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น
ผลกุหลาบกับคุณสมบัติทางเครื่องสำอาง
น้ำมันสกัดจากผลกุหลาบและเมล็ดกุหลาบนำไปเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางมากมายโดยเฉพาะเครื่องสำอางบำรุงผิว จะทำให้ผิวขาวใสอมชมพูมีเลือดฝาด
​ดังนั้นในครั้งต่อไปถ้าคุณนึกถึงชาหอมๆที่ช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายช่วยบำรุงหัวใจ หรือคิดถึงยาที่ใช้บรรเทาอาการปวดจากโรคข้ออักเสบคุณไม่ต้องไปมองไกลผลกุหลาบในสวนของคุณนั้นแหละ แต่ต้องจำไว้ว่าแม้ผลกุหลาบจะไม่มีพิษ แต่ถ้าคุณได้มาจากที่อื่นไม่ใช่ในสวนของคุณเองต้องแน่ใจว่าจะไม่มีสารเคมีหรือยาฆ่าแมลงตกค้างอยู่ มิฉะนั้นแทนที่คุณจะได้รับประโยชน์เต็มที่ คุณอาจได้รับผลในทางลบต่อสุขภาพของคุณ
Rosehip-C คือ วิตามินซีความเข็มข้นสูงสกัดจากผลกุหลาบ(Rosehip)100% โดยไม่มีผลไม้ชนิดอื่นผสม สกัดโดยกระบวนการทางธรรมชาติ 100% คือ Biotechnology โดยวัตถุดิบจากผลกุหลาบ 1 ตัน (1,000kg) สามารถสกัดเป็นวิตามินซีบริสุทธิ์ได้ 1kg จากนั้นบรรจุใน Capaulo แบบ Softgel โดยไม่ผ่านการเจือจางใดๆทั้งสิ้น

ตัวต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกายคนเราส่วนมากเราได้จากผักและผลไม้ ตัวต่อต้านอนุมูลอิสระที่เรารู้จักกันดี ได้แก่วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเอ และเบต้าแคโรทีน โคเอ็นไซม์คิว10 กรดแอลฟ่าไลโปอิก ไบโอฟลาโวนนอยด์ Glutathione แต่ละตัวจะมีหน้าที่ในการทำงานในส่วนต่างๆ แตกต่างกันออกไป เช่น
- วิตามินซี ละลายในน้ำเป็นตัวต่อต้านอนุมูลอิสระที่ดีที่สุดในการใช้ปราบอนุมูลอิสระในเลือดและพลาสมา
- วิตามินอี ละลายในไขมัน จึงต้านอนุมูลอิสระที่ดีที่สุดในส่วนของผนังเซลล์
- Co- Q10 ละลายในไขมัน ทำหน้าที่สร้างพลังงานที่ไมโตคอนเดรีย ซึ่ง Q10 สร้างพลังงานได้ถึง 95% ของพลังงานทั้งหมดในร่างกาย (ATP) พลังงานเหล่านี้เป็นพลังงานพื้นฐานของทุกๆหน่วยเซลล์ในการขับเคลื่อนการทำงานของร่างกายให้กระฉับกระเฉงมีพลังงาน ยิ่งเซลล์มีพลังงานมากเท่าไร ก็จะคงความอ่อนเยาว์ให้เซลล์มากเท่านั้น
- Glutathione เป็นตัวต่อต้านอนุมูลอิสระที่ดีที่สุดภายในเซลล์ของตัวมันเอง
- Alpha lipoic acid ละลายได้ทั้งในน้ำและในไขมันจึงทำหน้าที่ได้ดีที่สุดทั้งในส่วนผนังเซลล์และพลาสมา อีกทั้งยังสามารถสร้างวิตามินอี วิตามินซี กลูต้าไทโอน และ CO-Q10 ขึ้นมาใหม่เพื่อนำกลับมาใช้อีกครั้งได้อีกด้วย
- กระเทียม สามารถเสริมฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระในตับ เช่น กลูต้าไทโอน เปอร์ออกซิโคส ( Glutathione peroxidare ) คะตาเลส ( Catala ) ซูเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเตส ( Superoxide Dismutaer )
จากตัวอย่างข้างต้นทั้งหมดทำให้เราตระหนักและทราบถึงพิษภัยของอนุมูลอิสระที่ถือว่าเป็นภัยมืดที่หลายคนละเลยปล่อยให้สะสมเพิ่มพูนในร่างกายขึ้นเรื่อยๆพอมาทราบอีกที ป่วยแล้วแต่ก็ไม่สายเกินไปที่จะเริ่มต้นเรียนรู้และใส่ใจกับสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณประโยชน์มหาศาลต่อการดูแลป้องกันร่างกายอันเป็นที่รักของเราให้เสี่ยงภัยต่อโรคน้อยที่สุดเท่าที่ความรับผิดชอบเจ้าของร่างกายอย่างเราจะทำได้ +++และเรามั่นใจว่าคุณต้องทำให้ได้ดีที่สุด+++
​เมื่อเรารู้จักสารต้านอนุมูลอิสระแล้วเราจำเป็นต้องเจอะลึกถึงคุณภาพของสารต้านอนุมูลอิสระนั้นๆด้วย เพราะจะกินทั้งทีต้องไม่เสียเวลากิน กินอย่างไรก็ไม่รู้สึกแตกต่างอย่างนี้ไม่ดีแน่ นอกจากจะกินแบบเลื่อนลอยแล้วยังเสียเงินเปล่าไม่คุ้มค่าคุ้มราคา ซึ่งบ้านเราส่วนใหญ่เป็นแบบนี้ซะเยอะ กินแบบ งง ๆ กินเพื่อให้รู้สึกว่ากิน
ต้องกินสารต้านอนุมูลอิสระนานเท่าไร ฮืม ขอตอบแบบไม่มีเงื่อนไขว่า “ตลอดชีพ” เพราะการต่อสู้กับอนุมูลอิสระถือเป็นการทำสงครามที่ไม่มีวันจบ หากต้องการเอาชนะศัตรู เราก็ทำได้ง่ายๆโดยใช้หลักการสร้างสมดุลเป็นกุญแจหลัก เราจะต้องติดอาวุธครบมือ คือต้องมีตัวต่อต้านอนุมูลอิสระให้มากกว่าอนุมูลอิสระ ยิ่งมีตัวต่อต้านอนุมูลอิสระมากเท่าใดก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะเป้าหมายหลักคือการถอดเขี้ยวเล็บอนุมูลอิสระนั้นเอง
​ถึงตอนนี้ทุกคนคงแยกออกแล้วว่า ยารักษา โรคที่ปลายเหตุ สารต้านอนุมูลอิสระรักษาทั้งปลายเหตุและต้นเหตุแถมยังคงสภาพเซลล์ให้อยู่กับเรานานๆ สารต้านอนุมูลอิสระมาจากธรรมชาติส่วนยารักษาโรคเป็นแบบสังเคราะห์มีพิษต่อตับและไตสูงสุดถึง 30% และต้องกินยาตอนนอนป่วยส่วนสารต้านอนุมูลอิสระป่วยไม่ป่วยก็กินได้

​สารต้านอนุมูลอิสระทำอะไรให้คุณได้บ้าง ฮืม ยกตัวอย่างให้เห็นพอสังเขปได้แก่
1. ชะลอกระบวนการชรา
2. ลดระดับคอเลสเตอรอล
3. ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดแดงแข็ง
4. ช่วยป้องกันโรคหัวใจและโรคเส้นโลหิตในสมองตีบ
5. ลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งทุกชนิด
6. ช่วยป้องกันและชะลออาการของโรคอัลไซเมอร์
7. ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกต่างๆ
8. ช่วยร่างกายขับสารพิษที่ก่อมะเร็ง
9. ปกป้องดวงตาของคุณจากโรคศูนย์กลางจอประสาทตาเสื่อม ซึ่งเป็นสาเหตุของการตาบอดในผู้สูงอายุ
10. ช่วยร่างกายของคุณในการต่อสู้กับความเสื่อมที่เกิดจากการสูบบุหรี่
11. ช่วยป้องกันโรคปอดเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคหอบหืด หลอดลมอักเสบ ถุงลมโป่งพอง
12. ช่วยป้องกันโรคเรื้อรังต่างๆที่จะเกิดขึ้นในร่างกายในทุกๆเซลล์ทุกๆระบบ
13. เป็นเกราะป้องกันมลพิษจากสิ่งแวดล้อมที่เราไม่สามารถควบคุมได้และหลีกเลี่ยงได้ยาก ฯลฯ





วิตามินจาก Rosehip ต่างจากวิตามินซีจากผลไม้อื่นๆอย่างไร ฮืม
- วิตามินซีที่ได้จาก Rosehip มีความเข้มข้นกว่าผลไม้รสเปรี้ยวจำพวกส้มถึง 20 เท่า
- วิตามินจาก Rosehip นอกจากจะมีวิตามินซีแล้ว ยังประกอบด้วย ไบโอฟลาโวนอยด์,เอสเพอริดินและรูติน (บางครั้งอาจเรียกว่าเกลือซิตรัส) ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งที่ดีที่สุดของวิตามินซี ณ.ปัจจุบัน
- ใน Rosehip ยังมีคุณประโยชน์จากวิตามินอื่นๆ อีกได้แก่ วิตามิน A วิตามิน B3 วิตามิน B Complex วิตามิน D วิตามิน E น้ำตาลฟลัคโตส กรดซิตริก กรดมาลิก สังกะสี เหล็ก โปแตสเซียมและแมกนีเซียม
- วิตามินซีจาก Rosehip จะมีไบโอฟลาโวนอยด์และเอนไซม์อื่นๆที่ช่วยให้วิตามินซีแตกตัวได้ดีและไบโอฟลาโวนอยด์นี้มีสารต้านอนุมูลอิสระมากว่าวิตามินซีและวิตามินอีทั่วไปถึง 50 เท่า
- วิตามินซีจาก Rosehip สามารถรักษาโรคต่างๆได้มากกว่าวิตามินซีจากผลไม้ทั่วไป
- ในกระบวนการผลิต วิตามินซีจาก Rosehip ถือว่าสกัดยากที่สุดและวิตามินซีที่เห็นตามท้องตลาดทั่วๆไป ส่วนใหญ่สังเคราะห์จาก Lab เป็นสารที่เลียนแบบใกล้เคียงธรรมชาติจากการสังเคราะห์ในห้อง Lab จะมีความเป็นธรรมชาติน้อยมาก
- แต่ Rosehip จาก Lab เราเป็นธรรมชาติ 100% เพราะสกัดโดย Biotechnology



วิตามินซี (กรดแอสคอร์ปิก)
เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ เป็นวิตามินที่สลายตัวเร็วที่สุดในจำพวกวิตามินด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งไวต่อการเกิดปฏิกิริยากับออกซิเจนเป็นอย่างมาก สัตว์ส่วนใหญ่สังเคราะห์วิตามินซีได้เอง แต่มนุษย์ ลิง และหนูตะเพา ต้องอาศัยวิตามินซีจากอาหารที่รับประทานวิตามินซีถูกใช้หมดไปอย่างรวดเร็วเมื่อตกอยู่ในภาวะเครียด ผู้ที่สูบบุหรี่และผู้สูงอายุต้องการวิตามินซีเพิ่มขั้น ร่างการสูญเสียวิตามินซี 25-100 มก. ต่อการสูบบุหรี่หนึ่งมวล
วิตามินซีเป็นหนึ่งในวิตามินที่ทำหน้าที่คล้ายธาตุเหล็กในการต้านอนุมูลอิสระให้แก่ร่างกาย อีกทั้งยังทำหน้าที่ช่วยปกป้องสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นๆในร่างกายได้อีกด้วย วิตามินซียังมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า   “สารต้านอนุมูลอิสระของสารต้านอนุมูลอิสระ” วิตามินซีนี้ดีต่อร่างกายคุณอย่างไร ฮืม?

หน้าที่สำคัญของวิตามินซีต่อร่างกาย
1. เสริมสุขภาพเหงือกและฟัน กระดูก เนื้อเยื่ออ่อนและผิวผนังให้แข็งแรง
2. วิตามินซีช่วยให้ร่างกายผลิตและรักษาคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ใช้ในการสร้างกระดูกและฟัน เส้นเอ็นและผิวหนัง
3. ช่วยต่อชีวิตให้เซลล์ โดยช่วยให้โปรตีนในเซลล์เกาะเกี่ยวกันได้ดีขึ้น
4. ช่วยในการรักษาแผลสด ช่วยในการเร่งให้แผลหายเร็วขึ้น โดนเฉพาะแผลที่ถูกไฟไหม้และอาการเลือดออกตามไรฟัน

สารต้านอนุมูลอิสระช่วยได้
อนุมูลอิสระจากข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นออกซิเจนเสีย หรืออิเล็คตรอนที่ไม่มีคู่ พวกมันจำเป็นต้องมีประจุไฟฟ้าและต้องการที่จะจับคู่กับอิเล็คตรอนของโมเลกุลหรือสารตัวอื่นในบริเวณใกล้เคียงมิเช่นนั้นจะทำอันตรายแก่เซลล์ แบบ “Oxidative Stress” ตัวที่มาจับกับอนุมูลอิสระและทำให้อนุมูลอิสระเป็นกลางไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์นี้แหละ เรียกว่า “สารต้านอนุมูลอิสระ” ในความเป็นจริงร่างกายเราสามารถผลิตระบบต้านอนุมูลอิสระได้เอง แต่ก็ยังไม่สามารถผลิตได้ครบทุกประเภท และไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย มิเช่นนั้นเราคงไม่ต้องมาเผชิญกับโรคแห่งความเสื่อมเรื้อรังถึง 70 ชนิดกันหรอก
​อะไรบ้างที่เป็นปัจจัยสร้างอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่น
- ความเคลียดสะสม
- การรักษาแบบฉายรังสี
- การออกกำลังที่หักโหมจนเกินไป
- ควันบุหรี่
- การรักษาโดยเคมีบำบัด
- อุลตร้าไวโอเล็ต (UV) จากแสงอาทิตย์
- เจ็บป่วยเรื้อรัง
- มลพิษทางอากาศ
- ภาวะติดเชื้อ
- มลพิษจากอาหารและน้ำ
- การรับประทานอาหารที่ก่อมะเร็ง ฯลฯ
หากร่างกายมีปริมาณของตัวต่อต้านอนุมูลอิสระ ( ANTIOXIDANT ) ที่เพียงพอรับมือกับอนุมูลอิสระ (Free radicals)ก็คงไม่มีความเสียหายใดๆเกิดขึ้น และแน่นอนที่สุดว่าหากตัวต่อต้านอนุมูลอิสระมีปริมาณไม่เพียงพอแล้ว “Oxidative Stress” ย่อมเกิดขึ้น หากเราปล่อยให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ภาวะนี้จะพัฒนากลายเป็นโรคแห่งความจำเสื่อมเรื้อรังแล้วแต่ว่าอนุมูลอิสระจะทำลายเซลล์ที่ส่วนใดของร่างกาย เซลล์,อวัยวะ และระบบนั้นๆ ก็จะเสื่อมและแสดงอาการของโรคให้เราได้เห็นในที่สุด



อนุมูลอิสระเกิดขึ้นได้อย่างไร ???อนุมูลอิสระ (Free radicals)เป็นโมเลกุลของอ็อกซิเจนที่เสีย ในกระบวนการของการให้อ็อกซิเจนในช่วงของการเผาผลาญปกติภายในเซลล์เพื่อสร้างพลังงานหรือที่เรียกว่า อ๊อกซิเดชั่น หรืออนุมูลอิสระอาจเป็นอะตอมที่น้อยที่สุดมีอิเล็ดตรอนหนึ่งตัวที่ไม่มีคู่ในวิถีการเคลื่อนที่วงนอกของมันเองในกระบวนการอ๊อกซิเดชั่น
อนุมูลออกซิเจนอิสระ หรือ อิเล็คตรอนที่ไม่มีคู่ของอะตอมเหล่านี้ การเคลื่อนที่ของมันมีอันตรายมาก หากอนุมูลอิสระเหล่านี้มิได้มีตัวต่อต้านมาช่วยยั้งการออกฤทธิ์ พวกมันอาจสร้างอนุมูลอิสระที่อันตรายขึ้นมากกว่าเดิมเพิ่มขึ้นอีก เพราะในทุกที่ที่มันเคลื่อนที่ไปในร่างกายมันก่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลเสียหายต่อเยื่อหุ้มเซลล์ ผนังหลอดเลือด โปรตีน ไขมัน หรือแม้กระทั่งนิวเคลียสของดีเอ็นเอในเซลล์ถูกทำลาย อันนำมาซึ่งสาเหตุการเกิด “โรคแห่งความเสื่อมเรื้อรังถึง 70 ชนิด” บทความทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ให้คำจำกัดความของการทำลายนี้ว่า “Oxidative Stress” ตัวอย่างของโรคแห่งความเสื่อมเรื้อรังได้แก่ เบาหวาน เข่าเสื่อม โรคข้อต่ออักเสบ เนื้อเยื่อแข็งตัวซ้ำซ้อน ลูปัส โครห์น พากินสัน ความเสื่อมเฉพาะจุด ภูมิแพ้ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง หอบหืด ความดัน โรคหัวใจ มะเร็ง ฯลฯ (รวมทั้งผิวหนังเหี่ยว แก่ก่อนวัยอันควรด้วย)





5. ช่วยในการสร้างสารในเส้นเลือดฝอยที่ทำหน้าที่ป้องกันการฟกซ้ำดำเขียวหรือเลือดออกใต้ผิวหนัง
6. เร่งแผลหลังผ่าตัดให้หายเร็วขึ้น
7. ลดการเกิดเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ
8. เพิ่มการดูดซึมของธาตุเหล็ก ช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น
9. ช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียหลายชนิดและช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันมีประสิทธิภาพมากขึ้น
10. วิตามินซีช่วยป้องกันผิวของเม็ดเลือดขาว ไม่ให้ได้รับความเสียหาย จึงทำให้เม็ดเลือดขาวเคลื่อนไหวดักจับเชื้อโรคต่างๆได้อย่างรวดเร็ว
11. ลดอาการที่เป็นผลมาจากสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ โดยเร่งการสลายสารที่เรียกว่า ฮีลตามีน (Histamine) ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายสร้างขึ้นเมื่อเกิดการแพ้ขึ้น
12. เพิ่มประสิทธิภาพของยาที่ใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
13. ช่วยป้องกันโรคมะเร็งหลายประเภท
14. ช่วยต่อต้านการสร้างสารในโตรชามีน  ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง
15. ช่วยในการรักษาและป้องกันโรคหวัด
16. เป็นยาระบายตามธรรมชาติ
17. ป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของคลอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี ( LDL)
18. ช่วยลดระดับคอลเลสเตอรอลในเลือด
19. ช่วยลดความดันโลหิต
20. วิตามินซียังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านการเกิดอ็อกซิเดชั่น (Antioxidant) ช่วยป้องกันสารอื่นๆไม่ให้ถูกออกซิไดซ์ เช่น วิตามิน B1 วิตามิน B2 กรดโฟลิก
คำแนะนำเพิ่มเติม
-​เพื่อให้วิตามินซีทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ควรให้มันได้ทำงานร่วมกับไบโอฟลาโวนอยด์ แคลเซียม และแมกนีเซียม ( ใน Rosehip-C มี Bioflavonoids และแมกนีเซียมรวมอยู่แล้ว )
-​เพื่อบรรเทาอาการหวัด การรับประทานวิตามินซี (Rosehip-C)1,000 mg วันละสองเวลาพบว่าจะช่วยลดระดับฮีสตามีนในเลือดลงถึงร้อยละ 40 ( ฮีสตามีนเป็นสารที่ทำให้เกิดอาการน้ำมูก
น้ำตาไหลนั้นเอง ) แต่หากเป็นภูมิแพ้สามารถรับประทานได้ถึง 4,000 mg /วัน เพียงแค่ 3-7 วันจะรู้สึกได้เลยว่าอาการภูมิแพ้รวมถึงหอบหืดจะหยุดชะงักเลยทีเดียว (การเห็นผลชะงักนี้พบได้เฉพาะใน  Rosehip-C เท่านั้น
-​หากคุณรับประทานยาคุมกำเนิด ร่างกายของคุณต้องได้รับวิตามินซีเพิ่ม
-​หากคุณรับประทานแอสไพริน แนะนำให้เพิ่มการรับประทานวิตามินซี เพราะแอสไพรินทำให้วิตามินซีถูกขับเร็วขึ้นถึง 3 เท่า
-​ก๊าซคาร์บอนมอน็อกไซด์ทำลายวิตามินซี ดังนั้น ผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองซึ่งมีก๊าซชนิดนี้หนาแน่นควรรับประทานวิตามินซีให้มากขึ้น
ไบโอฟลาโวนอยด์ ( Bioflavonoids )
เป็นสารพฤกษเคมีที่มีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระ พบในเม็ดสีชนิดละลายในน้ำของผัก ผลไม้เมล็ด เมล็ดพืช ใบไม้ และเปลือกไม้ ไบโอฟลาโวนอยด์มีอยู่มากมายหลายชนิดในพืชแต่ละชนิดจะมีไบโอฟลาโวนอยด์แต่ละประเภทในความเข็มข้นที่ต่างกันไป แท้จริงแล้วมีการศึกษาหลายชั้นพบว่าไบโอฟลาโวนอยด์บางชนิดมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระเหนือกว่าวิตามินซีหรืออีถึง 50เท่า
ประโยชน์ของไบโอฟลาโวนอยด์ต่อร่างกาย
1. ช่วยในการเชื่อมโยงและสร้างความแข็งแรงให้เส้นสายโปรตีนคอลลาเจน โดยเฉพาะคอลลาเจนบริเวณเนื้อเยื้ออ่อน เส้นเอ็น และกระดุกอ่อน
2. ช่วยเสริมการไหลเวียนของเลือดให้ไปหล่อเลี้ยงต่อมและอวัยวะทั่วร่างกายซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญใน
การป้องกันและรักษาโรค
3. ช่วยรักษาเส้นเลือดฝอยที่เปราะแตกง่าย เช่น อาการฟกช้ำ เส้นเลือดขอดบริเวณขาและริดสีดวงทวาร
4. มีส่วนสำคัญในการป้องกันโรคกระดูกพรุน
5. มีประโยชน์สำหรับนักกีฬาหรือผู้ที่ชอบออกกำลังกาย เพราะคุณสมบัติการละลายได้ดีในน้ำจึงช่วยต่อสู้กับอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในของเหลวรอบเนื้อเยื้อต่างๆ ซึ่งเกิดจากการออกกำลังกายอย่างหักโหมได้เป็นอย่างดี
6. มีคุณสมบัติในการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียกลุ่มสแตมไฟโลคอกคัม (Staphylococcus ) ซึ่งดื้อต่อยาหลายชนิด ซึ่งการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้
7. ช่วยควบคุมระดับคอเรสเตอรอลในเลือด ในผู้ที่รับประทานอาหารคอเรสเตอรอลสูง
8. ช่วยป้องกันโรคฟันผุและโรคเหงือกได้อย่างดี
9. ช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งปอด
10. ชะลอการเกิดของโรคหลอดเลือดแดงแข็งตัว ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดในสมองตีบ
11. ช่วยยับยั้งการก่อตัวของลิ่มเลือดและไขมัน LDL ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี นอกจากจะช่วยยับยั้งการสร้างเซลล์มะเร็งแล้ว ยังสามารถเปลี่ยนเซลล์มะเร็งร้ายให้กลับคืนเป็นเซลล์ปกติ
สารต้านอนุมูลอิสระ ( Feee Radicals )
คำถาม....ฉันจำเป็นต้องรับประทานสารต้านอนุมูลอิสระไหม ฮืม?
ขอตอบเลยว่า “ จำเป็น....แบบไม่มีเงื่อนไข ” ทุกลมหายใจเข้าออกของคุณก่อให้เกิดอนุมูลอิสระขึ้นได้ทั้งสิ้น ซึ่งอนุมูลอิสระนี้เป็นโมเลกุลที่สามารถทำลายเซลล์โดยไม่อาจควบคุมได้ ยิ่งคุณอายุมากขึ้นเท่าใด สารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายคุณสร้างขึ้นโดยธรรมชาติก็ยิ่งน้อยลงไปเรื่อยๆเมื่ออนุมูลอิสระสะสม ร่างกายของเราก็จะเสื่อมสภาพลง ความชราก็มาถึงเร็วขึ้น ส่งผลร้ายให้คุณเสี่ยงต่อทุกอย่าง ตั้งแต่ริ้วรอยแก่ก่อนวัยไปจนถึงโรคภัยไข้เจ็บร้ายแรง




IP : บันทึกการเข้า
uki
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,082



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 03 กุมภาพันธ์ 2014, 12:20:57 »

Update


* image.jpg (356.9 KB, 1280x1280 - ดู 25 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!