นัฐ นนทบุรี
เตรียมอนุบาล

ออฟไลน์
กระทู้: 42
|
 |
« เมื่อ: วันที่ 05 มีนาคม 2013, 01:49:16 » |
|
ท่านเป็นผู้สร้าง ตะกรุดไมยราพสะกดทัพ อันลือเลื่อง และลือลั่น ประวัติท่านคร่าวๆนะครับ ประวัติ หลวงพ่อกุน ( บางส่วน ครับ )
ในอดีตถ้ากล่าวถึงตะกรุดที่มีราคาแพงที่สุด คงไม่มีใครไม่รู้จักหลวงพ่อกุน วัดพระนอนพระดีเมืองเพชรบุรีอีกรูปหนึ่งที่ทำตะกรุดได้เข้มขลัง ตะกรุดมหาระงับ นารายณ์สะกดทัพ และอื่นๆ เรียกได้ว่านักเลงในสมัยก่อนยังนำตะกรุดของหลวงพ่อ ไปลองแขวนไว้ที่เสาบ้านใครเป็นได้หลับไม่ตื่นกันทั้งบ้าน จะทำเสียงดังอย่างไรก็ไม่ตื่นกันเลยทีเดียว เรื่องเสน่ห์ก็เป็นเยี่ยมครับ
พระเกจิอาจารย์ที่สร้างรูป หนุมาน ไว้เป็น เครื่องรางของขลัง คือ หลวงพ่อกุน วัดพระนอน อ.เมือง จ.เพชรบุรี ความจริงแล้ว หลวงพ่อกุน เมื่อท่านสร้างตะกรุดอันเลื่องชื่อคือ ตะกรุดจันทร์เพ็ญ โดยแผ่นตะกรุดของ หลวงพ่อกุน ท่านจะลงอักขระและรูปลายเส้น เป็นรูป หนุมาน จับทศกัณฐ์และนางมณโฑมัดผมเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นภาพเรื่องราวของ รามเกียรติ์ ตอนที่ หนุมาน ไปเอาลูกหินบดยาที่ทศกัณฐ์ใช้หนุนต่างหมอน เพื่อนำมาบดยารักษาพระลักษมณ์ที่ถูกหอกกบิลพัทธ์ของทศกัณฐ์ หอกกบิลพัทธ์นี้ เป็นหอกที่พระอิศวรประทานแก่ท้าวลัสเตียน พ่อของทศกัณฐ์ และตกทอดมาถึงทศกัณฐ์
กล่าวสำหรับ หลวงพ่อกุน วัดพระนอน ตามอัตโนประวัติกล่าวว่า เกิดเมื่อวันพุธ เดือน ๖ ปีวอก พ.ศ.๒๔๐๓ ที่บ้านหนองกาทอง ตำบลโรงเข้ อำเภอบ้านลาด จ.เพชรบุรี บิดาไม่ปรากฏนาม ส่วนมารดาชื่อ ม่วง เป็นบุตรคนที่ ๓ ในจำนวน ๕ คน ประกอบด้วยพี่ชาย ๒ คน คือ นายพ่วง และนายเตอะ ส่วนน้องชายอีก ๒ คน คือนายเกตุ และนายเขียด ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่ วัดวังบัว และอุปสมบทที่วัดแห่งเดียวกันนี้ ในระหว่างที่อุปสมบทได้ใหม่ๆ ท่านได้เดินทางไปศึกษาวิชาจาก อาจารย์แจ้ง ฆราวาสที่มีความรู้ในสูตรสนธิ์ดีผู้หนึ่ง จากนั้นยังได้ศึกษาวิชาจาก หลวงพ่อมุ่ย วัดใหญ่สุวรรณาราม และ หลวงพ่อฤกษ์ วัดพลับพลาไชย และได้ย้ายมาพำนักที่ วัดพระนอน เมื่ออุปสมบทได้ ๓ พรรษา มี พระครูสุวรรณมุนี (เกษ) เป็นเจ้าอาวาส วัดพระนอน ต่อมาท่านได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดพระนอน สืบต่อ ทั้งยังได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ ตามที่ปรากฏอยู่บนรูปถ่ายที่ท่านเขียนสมณศักดิ์ไว้ว่า พระครูสุเมธาจารย์ แต่มีผู้เขียนประวัติท่านเขียนนามสมณศักดิ์ท่านว่า พระครูสุชาตเมธาจารย์ หลวงพ่อกุน มรณภาพลงเมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๓ อายุได้ ๖๐ ปี พรรษาที่ ๔๐
ตะกรุดของหลวงพ่อนั้นกล่าวขานกันว่า ตำหรับทำตะกรุดนี้จารึกไว้ในสมุดจีนใบปกเขียว ๆ รูปที่เขียนเป็นเรื่องรามเกียรติ์ ตอนหนุมานถวายแหวน ขั้นตอนการทำก็พิถีพิถันมากหลวงพ่อท่านใช้ฤกษ์เสาร์ห้า เป็นฤกษ์ในการลงอักขระเลยยันต์และปลุกเสก สถานที่ปลุกเสกท่านก็ไปปลุกเสกในป่าช้าเจ็ดป่าช้า มีป่าช้าวัดพลับ วัดแก่นเหล็ก และวัดพระนอน เป็นต้น หลังจากนั้นพอถึงคืนวันเพ็ญเดือนสิบสองหลวงพ่อท่านก็จะใช้ลูกสบ้ามอญ ลบถูรอยเหล็กจารที่ท่านได้จารไว้ออก และพอถึงฤกษ์เสาร์ห้าก็กลับไปจารที่ป่าช้าอีก ท่านทำเช่นนั้นจนครบ ๓ รอบท่านถึงจะนำออกมาแจกจ่ายแก่บรรดาลูกศิษย์ลูกหา พุทธคุณนั้นเหล่าเรื่องมหาเสน่ห์ก็ไม่แพ้พระขุนแผนสำนักไหนเลยนะครับ ด้านตะกรุดโทนมงกุฎพระเจ้ายันต์ที่ท่านลงและปลุกเสกในตะกรุด เรื่องมหาอุด อยู่ยงคงกระพันก็เยี่ยมครับ แต่สิ่งหนึ่งที่หลวงพ่อท่านสั่งทุกคนที่ได้ของท่านไปว่า ขออย่างเดียวอย่าไปขโมยของเขา ถ้าไปขโมยของเขาก็จะใช้ไม่ขึ้น
ของดีของหลวงพ่อกุนเลื่องลือมากสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ปลัดเมืองเพชรบุรี ยังเคยมาขอของท่านเพื่อไปคุมครองตัวเลยครับ แต่ของดีของหลวงพ่อนั้นมีน้อย เพราะกว่าท่านจะทำออกมาแต่ละอย่างใช้เวลามากขั้นตอนเยอะ เราๆ ท่านๆ คนรุ่นใหม่เลยหาของหลวงพ่อชมได้ยากครับ แต่ผู้เขียนยังโชคดีหน่อยครับที่ได้เห็นได้คลี่ตะกรุดของท่าน หลายดอกอยู่เหมือนกันครับพระครูสุชาตเมธาจารย์ หรือหลวงพ่อกุน มีชีวิตอยู่จนถึงปี พ.ศ.๒๔๖๓ ท่านก็ป่ายด้วยโรคที่รักษาไม่หาย และมรณภาพลงด้วยอายุ ๖๐ ปี ๔๐ พรรษา นักเป็นการเสียบูรพาจารย์ที่สำคัญของเมืองเพชรบุรีไปอีกหนึ่งรูป
หนุมาน ที่ หลวงพ่อกุน สร้างขึ้นมานั้น มีทั้งที่เป็น เหรียญหล่อสี่เหลี่ยม เหรียญปั๊มกลม และ แบบฉลุตามรูปหนุมาน ที่ หลวงพ่อกุน สร้าง หนุมาน ขึ้นนั้น อาจเป็นเพราะท่านเกิดในปีวอก อันมีนักษัตรเป็นรูป ลิง
|