รู้หนึ่งสิ่งในหลายๆอย่าง แต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่าง ย่อมดีกว่า รู้ทุกอย่าง แต่ไม่เก่งซักอย่าง เหมือนพี่ปลาทูบอก
ปล.แล้วอ้ายท๊อปเก่งแบบไหนละคะ ส่วนหนูแหม่ม รู้ทุกเรื่อง ยกเว้น....เรื่องของตัวเอง

รู้หนึ่งสิ่งในหลายๆอย่าง แต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่าง ย่อมดีกว่า รู้ทุกอย่าง แต่ไม่เก่งซักอย่าง เหมือนพี่ปลาทูบอก
ปล.แล้วอ้ายท๊อปเก่งแบบไหนละคะ ส่วนหนูแหม่ม รู้ทุกเรื่อง ยกเว้น....เรื่องของตัวเอง

โหยยย...น้องแหม่มเล่นย้อนถามแบบนี้ พี่นั่งคิดอยู่นานเลยเชียว...ชอบมองต่างในบางมุมอ่ะ
..สำหรับพี่น๊ะสรุปแบบนี้ คำตอบไหนมันก็ไม่ผิดน๊ะ จะข้อหนึ่งหรือแบบที่สอง... มันขึ้นอยู่กับว่าสิ่งที่เรารู้นั้นให้คุณหรือโทษ กับตัวเราและคนอื่นหรือเปล่า ...ถ้าสิ่งที่เรารู้นั้นให้คุณ ก็ลองชั่งใจและถามตัวเองต่อไปว่า สิ่งที่เรารู้นั้น รู้เพียงพอหรือยัง จำเป็นจะต้องรู้ทุกๆอย่างอีกหรือไม่ ถ้ารู้มากไปจะกลายเป็นโทษ หรือเปล่า...ถ้าเปล่า ก็เตรียมพื้นที่สมองไว้ SAVE ข้อมูลความรู้ในสิ่งนั้นๆเพิ่มได้เลย
(บางสิ่งบางอย่างรู้มากไปก็ไม่ดี ไม่รู้เสียเลยก็ยิ่งไม่ดี เคยได้ยินคนพูดกันบ่อยๆ)... .....แต่ถ้าสิ่งที่เรารู้นั้น เป็นโทษล่ะ..พี่คิดว่า เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปรับรู้มันให้เยอะมากมายไปน๊ะ อย่างเช่น กลโกง เล่เหลี่ยมแห่งการทุจริต คอรับชั่น ฯลฯ.. ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราไม่จำเป็นต้องรู้ลึกไปถึงก้นบึ้งนะ เอาแค่รู้พอให้ทันกลโกงเล่เพทุบาย ที่เขาจะมาใช้หลอกเราก็พอ...เพราะฉะนั้นในกรณีนี้ รู้แบบที่หนึ่งไม่จำเป็นน๊ะครับ....หลายๆคนอาจจะท้วงว่า รู้หมดเลยก็ได้ แต่เราไม่ทำมันเสียอย่าง ก็ไม่ผิด ขึ้นอยู่กับ จิตใต้สำนึก สถาณการ์ ความรู้สึกนึกคิด ไหวพริบ ของแต่ละคนที่จะกำหนด เกณฑ์ แห่งการรับรู้ของตนเอง..ว่าควรจะอยู่ในระดับไหน....คำตอบไหนๆก็ไม่ผิดครับ ทุกคำตอบย่อมมีเหตุและผล ของตัวมันองครับ...
""""รู้แบบไหนๆ ย่อมดีทั้งนั้น.....