เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 19 กรกฎาคม 2025, 00:17:22
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  นักลงทุน การเงิน การธนาคาร
| | |-+  อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น  (อ่าน 958 ครั้ง)
Cupid
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,940


Experience is the best teacher.


« เมื่อ: วันที่ 19 ธันวาคม 2012, 10:15:16 »


เพื่อนนักลงทุนหลายท่านอาจติดใจสงสัยว่าในปี พ.ศ 2555 นี้ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของไทยจึงแกว่งขึ้น
ตลอดทั้งปีใช่ไหมครับ

ผมได้ประมวลข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้ว ได้ข้อสรุปว่า ประเด็นที่เป็นปัจจัยให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของไทย
แกว่งขึ้นตลอดทั้งปีดังกล่าวประเด็นหนึ่งก็คือ รัฐได้ลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 30% ของกำไรสุทธิ
ลงเหลือ 23% และ 20% ในปี 2555 และ 2556  ตามลำดับ และคงเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตรา 20%
ของกำไรสุทธิตั้งแต่ปี 2557 ตลอดไป (จนกว่าจะมีพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงใหม่)

การที่นิติบุคคลได้รับการลดภาษีเงินได้ลงดังกล่าวเป็นผลให้กำไรสุทธิหลังหักภาษีเพิ่มขึ้นนั่นเอง ส่งให้
บรรดาหุ้นน้ำดีทั้งหลายที่จ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ อาจมีเงินมาจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นเพิ่มมาก
ขึ้นนั่นเอง ราคาหุ้นจึงได้มีการเปลี่ยนแปลงสูงขึ้นมาตลอดในรอบ 1 ปี ที่ผ่านมา
IP : บันทึกการเข้า
auddy2507
" ผู้มีความกล้า " ย่อมมี " ความหวังเสมอ "
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,098


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 19 ธันวาคม 2012, 10:39:09 »

        ขอบคุณครับ..สำหรับข้อมูลดีๆ..และเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนด้วย..ครับ 
IP : บันทึกการเข้า

"เมื่อมีจงรู้จักให้  เมื่อได้จงรู้จักพอ  เมื่อขอจงรู้จักคุณค่า"
วายุ
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 650



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 21 ธันวาคม 2012, 15:55:32 »

     จริงๆแล้วที่ท่านคิวพูดมานั้นถูกเพียงครึ่งเดียว  เพราะเราต้องมองอีกมิติหนึ่งด้วยว่า  การที่รัฐยอมลดภาษีให้ผู้ประกอบการนั้น  มันก็ต้องแลกมาด้วยการขึ้นเงินเดือนให้กับลูกจ้างด้วย  ถ้ารัฐลดภาษีเงินได้ให้เพียงแค่อย่างเดียว  หุ้นคงจะขึ้นกันกระฉูดมากกว่านี้  แต่ถ้ามีสิ่งที่ต้องแลกเปลี่ยนกัน(ขึ้นเงินเดือนลูกจ้าง)  อันนี้มันก็ต้องนำตัวแปรตรงนี้มาบวกลบกันให้ดีว่า  เหตุการณ์แบบนี้มันดีต่อหุ้นตัวใดหรือไม่อย่างไร

     ถ้าเป็นบริษัทที่ให้ค่าแรงมากเกินค่าแรงขั้นต้นอยู่แล้วเช่น  ธนาคาร  บริษัทนั้นคงไม่เดือดร้อน  เนื่องจากว่าทุกเดือนก็จ่ายราคานี้เป็นปกติ  และเมื่อรัฐมาลดภาษีให้อีก  อย่างนี้มันก็หวานคอแร้ง  แต่ถ้าบริษัทไหนต้องขยับค่าแรงขึ้นมา  ซ้ำมีลูกน้องรอคอยด้วยใจจดจ่ออีกบานตะเกียง  อย่างนี้ตัวบริษัทเองก็คงเก๊กซิมไม่น้อย  อย่างไรเสียถ้าจะลงทุนกันแล้ว  ก็บวกลบคูณหารกันให้ดีก่อนนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 21 ธันวาคม 2012, 15:58:46 โดย วายุ » IP : บันทึกการเข้า

ถึงจะจน       พี่ก็จน      อย่างมีเกียรติ
ถึงจะเครียด  พี่ก็เครียด   อย่างมีหวัง
ถึงจะบ้า       พี่ก็บ้า       อย่างมีพลัง
ถึงจะพัง       พี่ก็พัง       อย่างมีฟอร์ม
Cupid
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,940


Experience is the best teacher.


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 21 ธันวาคม 2012, 20:34:42 »

     จริงๆแล้วที่ท่านคิวพูดมานั้นถูกเพียงครึ่งเดียว  เพราะเราต้องมองอีกมิติหนึ่งด้วยว่า  การที่รัฐยอมลดภาษีให้ผู้ประกอบการนั้น  มันก็ต้องแลกมาด้วยการขึ้นเงินเดือนให้กับลูกจ้างด้วย  ถ้ารัฐลดภาษีเงินได้ให้เพียงแค่อย่างเดียว  หุ้นคงจะขึ้นกันกระฉูดมากกว่านี้  แต่ถ้ามีสิ่งที่ต้องแลกเปลี่ยนกัน(ขึ้นเงินเดือนลูกจ้าง)  อันนี้มันก็ต้องนำตัวแปรตรงนี้มาบวกลบกันให้ดีว่า  เหตุการณ์แบบนี้มันดีต่อหุ้นตัวใดหรือไม่อย่างไร

     ถ้าเป็นบริษัทที่ให้ค่าแรงมากเกินค่าแรงขั้นต้นอยู่แล้วเช่น  ธนาคาร  บริษัทนั้นคงไม่เดือดร้อน  เนื่องจากว่าทุกเดือนก็จ่ายราคานี้เป็นปกติ  และเมื่อรัฐมาลดภาษีให้อีก  อย่างนี้มันก็หวานคอแร้ง  แต่ถ้าบริษัทไหนต้องขยับค่าแรงขึ้นมา  ซ้ำมีลูกน้องรอคอยด้วยใจจดจ่ออีกบานตะเกียง  อย่างนี้ตัวบริษัทเองก็คงเก๊กซิมไม่น้อย  อย่างไรเสียถ้าจะลงทุนกันแล้ว  ก็บวกลบคูณหารกันให้ดีก่อนนะครับ

ด้วยความเคารพ ผมไม่ได้ให้ความเห็นว่าเหตุที่หุ้นแกว่งขึ้นทั้งปี เป็นเพราะบริษัทฯเสียภาษีน้อยลงอย่างเดียว
นะครับ อ่านให้ดี ผมบอกว่าเป็นเพียงประเด็นหนึ่งเท่านั้น ซึ่งยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์
แกว่งขึ้นทั้งปีอย่างนี้ ยิ้มกว้างๆ


และด้วยความเคารพอีกเช่นกัน ผมเชื่อว่าบริษัทฯน้ำดีในตลาดหลักทรัพย์เช่น bank mcot egco sccc
scc  และ ฯลฯ นั้น ต่างก็จ่ายค่าจ้างหรือเงินเดือนให้พนักงานเกินกว่าอัตราวันละ 300 บาทไปแล้วทั้ง
สิ้น และยังเชื่อโดยส่วนตัวอีกว่า บริษัทฯที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่จ่ายค่าจ้างให้
พนักงานเกินอัตราวันละ 300 บาทอยู่แล้ว ที่จะมีปัญหาก็คือพวก เอส เอ็ม อี เท่านั้น ซึ่งพวก เอส เอ็ม
อี เหล่านั้นก็คงไม่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ดอกครับ
ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
วายุ
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 650



« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 25 ธันวาคม 2012, 14:41:30 »

     ท่านคิวไม่ต้องเคารพผมหรอกครับ  ท่านอาวุโสกว่าผมตั้งเยอะ  หุ  หุ
IP : บันทึกการเข้า

ถึงจะจน       พี่ก็จน      อย่างมีเกียรติ
ถึงจะเครียด  พี่ก็เครียด   อย่างมีหวัง
ถึงจะบ้า       พี่ก็บ้า       อย่างมีพลัง
ถึงจะพัง       พี่ก็พัง       อย่างมีฟอร์ม
Cupid
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,940


Experience is the best teacher.


« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 25 ธันวาคม 2012, 17:09:02 »

    ท่านคิวไม่ต้องเคารพผมหรอกครับ  ท่านอาวุโสกว่าผมตั้งเยอะ  หุ  หุ

ขออนุญาตอธิบายนะครับ

วลี "ด้วยความเคารพ" นี้ เป็นวลีที่ใช้กันทั่วไปทั้งภาษาพูดและภาษาเขียน เมื่อต้องการแสดงความเห็น
แย้งกับความเห็นของผู้อื่นซึงเรายังไม่เห็นด้วยกับความเห็นของเขา จะขึ้นต้นประโยคด้วยวลีนี้ เพื่อเป็น
การให้เกียรติผู้ซึ่งให้ความเห็นที่เราไม่เห็นด้วย (ภาษาพูดมักจะใช้กันในที่ประชุมต่างๆ เช่นที่ประชุมสภาฯ)
ซึ่งบางท่านอาจใช้ว่า "ขออนุญาตครับ ด้วยความเคารพนะครับ"

ถ้าแสดงความเห็นแย้งโดยโพล่งออกไป หรือทะลุกลางปล้องออกไปทีเดียว จะเป็นการไม่สุภาพ และ
ไม่ให้เกียรติกันครับ

ขอบคุณครับ  


ปล. วลี "ด้วยความเคารพ" นี้มีความหมายว่า "เป็นการเคารพในความคิดเห็น" ของความเห็นที่เรายังไม่เห็นด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 25 ธันวาคม 2012, 17:34:24 โดย Cupid » IP : บันทึกการเข้า
Nat_KSMACQ
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 26 ธันวาคม 2012, 10:00:48 »

ด้วยความเคารพครับ ขออนุญาตเสริมนะครับผม

อีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้หุ้นขึ้น (โดยนั้นที่นี้เราตัดปัจจัยต่างชาติออกไป)
คือ อัตราดอกเบี้ยของตราสารหนี้ที่ลดน้อยลง ครับ
พันธบัตรรัฐบาลที่ออกมาล่าสุด ให้ดอกเบี้ยไม่ถึง 4% (น้อยกว่าโปรโมชั่นฝากประจำของบาง Bank อีก)
จึงเป็นเหตุให้กองทุนรวมต่างๆ ต้องเพ่งความสนใจมาที่ตราสารทุนมากขึ้น
ดังนั้นเราจะเห็นว่า หุ้นที่จ่ายปันผลดีจะถูกทยอยซื้อมากกว่า
ดูได้จากความชันของ SETHD ที่มากกว่า SET และ SET50 ครับ
เพื่อในการจัดพอร์ตโดยรวมของกองทุนรวมออกมาดูดีขึ้นครับ
เพราะถ้าลงในสัดส่วนตราสารหนี้มากๆ Performance ของกองทุนคงไม่ดึงดูดใจนักลงทุนนัก  ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม



* sethd.PNG (26.79 KB, 639x538 - ดู 127 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
Cupid
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,940


Experience is the best teacher.


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 26 ธันวาคม 2012, 10:08:31 »

ด้วยความเคารพครับ ขออนุญาตเสริมนะครับผม

อีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้หุ้นขึ้น (โดยนั้นที่นี้เราตัดปัจจัยต่างชาติออกไป)
คือ อัตราดอกเบี้ยของตราสารหนี้ที่ลดน้อยลง ครับ
พันธบัตรรัฐบาลที่ออกมาล่าสุด ให้ดอกเบี้ยไม่ถึง 4% (น้อยกว่าโปรโมชั่นฝากประจำของบาง Bank อีก)
จึงเป็นเหตุให้กองทุนรวมต่างๆ ต้องเพ่งความสนใจมาที่ตราสารทุนมากขึ้น
ดังนั้นเราจะเห็นว่า หุ้นที่จ่ายปันผลดีจะถูกทยอยซื้อมากกว่า
ดูได้จากความชันของ SETHD ที่มากกว่า SET และ SET50 ครับ
เพื่อในการจัดพอร์ตโดยรวมของกองทุนรวมออกมาดูดีขึ้นครับ
เพราะถ้าลงในสัดส่วนตราสารหนี้มากๆ Performance ของกองทุนคงไม่ดึงดูดใจนักลงทุนนัก  ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม



ชัดเจนครับ ห้วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาหุ้นที่จ่ายปันผลดีทยอยขึ้นกันมามากทีเดียว

ขอบคุณท่าน Nat_KSMACQ ที่เข้ามาเพิ่มเติมเสริมความรู้ให้ครับ...


IP : บันทึกการเข้า
วายุ
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 650



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 27 ธันวาคม 2012, 15:35:34 »

    ท่านคิวไม่ต้องเคารพผมหรอกครับ  ท่านอาวุโสกว่าผมตั้งเยอะ  หุ  หุ

ขออนุญาตอธิบายนะครับ

วลี "ด้วยความเคารพ" นี้ เป็นวลีที่ใช้กันทั่วไปทั้งภาษาพูดและภาษาเขียน เมื่อต้องการแสดงความเห็น
แย้งกับความเห็นของผู้อื่นซึงเรายังไม่เห็นด้วยกับความเห็นของเขา จะขึ้นต้นประโยคด้วยวลีนี้ เพื่อเป็น
การให้เกียรติผู้ซึ่งให้ความเห็นที่เราไม่เห็นด้วย (ภาษาพูดมักจะใช้กันในที่ประชุมต่างๆ เช่นที่ประชุมสภาฯ)
ซึ่งบางท่านอาจใช้ว่า "ขออนุญาตครับ ด้วยความเคารพนะครับ"

ถ้าแสดงความเห็นแย้งโดยโพล่งออกไป หรือทะลุกลางปล้องออกไปทีเดียว จะเป็นการไม่สุภาพ และ
ไม่ให้เกียรติกันครับ

ขอบคุณครับ  


ปล. วลี "ด้วยความเคารพ" นี้มีความหมายว่า "เป็นการเคารพในความคิดเห็น" ของความเห็นที่เรายังไม่เห็นด้วย

อ่านๆดูแล้ว  รู้สึกเหมือนกับว่า  ตัวผมเองเป็นคนไม่มีมารยาทยังไงไม่รู้  จริงๆแล้วผมเป็นคนง่ายๆ  ดิบๆ  บ้านๆน่ะครับ  เลยดูไม่ค่อยจะสุภาพ  แต่ผมจริงใจนะ  เอาเป็นว่า...ถ้าการโต้กระทู้กับท่านคิวทำให้ท่านขุ่นเคืองและไม่พอใจ  ผมก็ขออภัยแล้วกันนะครับ
IP : บันทึกการเข้า

ถึงจะจน       พี่ก็จน      อย่างมีเกียรติ
ถึงจะเครียด  พี่ก็เครียด   อย่างมีหวัง
ถึงจะบ้า       พี่ก็บ้า       อย่างมีพลัง
ถึงจะพัง       พี่ก็พัง       อย่างมีฟอร์ม
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!