ขอถามหน่อยเถอะคับ ผู้ป่วยเป็นโรคหอบจนหายใจไม่ออก เขาให้นั่งรอคิวอยู่เหรอคับ

[pleng7]

ตอนเย็นที่โรงบาลเอกชน (อยากบอกชื่อเหมือนกัน)แฟนผมป่วยเป็นไข้และโรคหอบกำเริบแบบรุนแรงเขาให้นั่งรอเป็นครึ่งชั่วโมง และก็ไปนั่งรอเอายาแล้วมาพ่นอีกทีหนึ่ง ผมไม่รู้ว่าคนเป็นโรคหอบจะนั่งรอคิวด้วยเหรอคับ ไม่ให้ไปพ่นยาเลยเหรอคับ รอให้คนไข้ชักก่อนถึงจะให้เข้าห้องฉุกเฉินหรือยังงัยคับ อยากรู้จัง(โรคหอบมันทรมานนะครับพี่น้องคับ)

[Juliet]

กระบวนการรักษา มันอาจต้องส่งหมอให้ Med ดูก่อนไงครับ พอรอตรวจแล้วถ้าคนไข้อาการไม่ดีหรือไม่ไหวให้แจ้งพยาบบาล หรือเจ้าหน้าที่ เขาจึงจะส่งต่อไป ER อ่ะครับ  ไม่แน่ใจว่าจะเหมือนกันทุก โรงพยาบาลรึปล่าวนะครับ 

[sdoopy]

มาโรงพยาบาลของรัฐเลยครับ

[แมงคอลั่น]

มาโรงพยาบาลของรัฐเลยครับ

อย่าเดินหรือนั่ง ให้นอนทุรนทุราย จึงจะได้เข้า ER

[poypang]

มาโรงพยาบาลของรัฐเลยครับ

ขนาดของเอกชน ยังต้องรอ
ถ้าเป็นของรัฐจะมีบวก โดนต่อว่า ทำไมไม่มาเวลาราชการ เพิ่มด้วย

[[T][o][d]SaPhon]

ไม่หรอกครับ ผมว่าอยู่ที่ปากของเรา

ผมก็เคยไปรอคิว (โรงบาลไทย) พอมันไม่ไหวจริงๆ (เรารุ้ตัวหรือเห็นอาการไม่ดี)ไปบอกเขาเลย เขาจะให้เข้าห้องฉุกเฉินทันทีครับผม

(เล่าจากประสบการณ์)

[poypang]

ไม่หรอกครับ ผมว่าอยู่ที่ปากของเรา

ผมก็เคยไปรอคิว (โรงบาลไทย) พอมันไม่ไหวจริงๆ (เรารุ้ตัวหรือเห็นอาการไม่ดี)ไปบอกเขาเลย เขาจะให้เข้าห้องฉุกเฉินทันทีครับผม

(เล่าจากประสบการณ์)

ก็น่าจะใช่ค่ะ
สรุปแล้ว จขกท. คง ปากบ่าป่อง อิ อิ อิ

[pleng7]

ก็ไปวัดความดันที่พยาบาล แล้วก็บอกว่าไม่ไหวแล้ว เขาบอกว่านั่งรอก่อนเหนอะ  แล้วคนที่รอคิวก็เยอะ แต่เขารอได้แต่เรารอไม่ได้แล้วต้องปฐมพยาบาลเบื้องต้นก็ได้
หนิ

[dekdee2516]

รพ.เอกชน หมอไม่มีครับ ส่วนใหญ่จ้างหมอจากรพ.รัฐบาลมาทำพาร์ทไทม์
รพ.เอกชน หมอห้องฉุกเฉินมีคนเดียว วิ่งทุกเตียง
รพ.เอกชนเน้นขายบัตรตรวจสุขภาพเป็นหลัก คนละ 990 ประมาณนี้เคยซื้อบัตร
1วัน 1000 คน คูณเอาเอง สบายกว่ากันเยอะเลย

[ยินดีครับ]

รพ.เอกชน หมอไม่มีครับ ส่วนใหญ่จ้างหมอจากรพ.รัฐบาลมาทำพาร์ทไทม์
รพ.เอกชน หมอห้องฉุกเฉินมีคนเดียว วิ่งทุกเตียง
รพ.เอกชนเน้นขายบัตรตรวจสุขภาพเป็นหลัก คนละ 990 ประมาณนี้เคยซื้อบัตร
1วัน 1000 คน คูณเอาเอง สบายกว่ากันเยอะเลย

มีเหตุผลๆ 

[mr.klanarong]

ขนาดแม่ของผม...หมอส่งตัวจากคลีนิค
ให้มาเติมเลือด ที่ โีรงบาลฯ เนื่องจากปริมาณเลือดในร่างกายต่ำ
ผมก้อรีบพาแม่มา รพ.รัฐฯเวลา 07.00 .เพื่อมาลงเวลาเอาคิว
พร้อมมีใบแพทย์นำส่ง...ก้อยังต้องมาเริ่มต้นนับ 1 ใหม่ ที่จุดทะเบียน
รอวัดความดัน ส่วนสูง น้ำหนัก รอพบหมอตรวจเบื้องต้น
พบหมอคนที่1.ผ่านไป ให้รอพบหมอคนที่ 2 และให้เจาะเลือดใหม่
พบหมอคนที่ 2เสร็จ ให้นั่งรถไฟฟ้าของโรงบาลจาก แขวงการทางเก่า
ไปที่ ห้องตรวจคนไข้ที่อาคารใหญ่อีกหลัง รอพบหมอคนที่ 3 เจาะเลือดใหม่อีก
นั่งรอหมอคนที่ 3 จนถึง เวลา 15.30 น. หมอยังไม่ลงจากวอร์ดมาตรวจ
ผมทนเห็นแม่ในสภาพที่เลือดไม่พอในร่างกาย และต้องมาโดนเจาะเลือดอีก 2 รอบ
โอ้แม่เจ้า..แม่ผมจะตายอยู่แล้ว ..ตัดสินใจทิ้งทุกอย่างที่โรงบาลรัฐฯ
แล้วพาแม่ไปโรงบาลเอกชน ...ไม่ถึง 10 นาที แม่ผมได้แอดมิด และนอนเติมเลืิอดทันที
หมอบอกว่า..ถ้าแม่มาช้ากว่านี้...ไม่ทันการณ์แน่..ผมสุดเสียใจกับเหตุการณ์ที่ได้รับจากโรงบาลรัฐฯใีนวันนั้นมาก ๆ ครับพี่น้องครับ....

[^-^..นู๋อ้อย..^-^]

นานาจิตตังค่ะ แล้วแต่ว่าแต่ละท่านจะสถานการณ์แบบไหน แต่สำหรับอ้อย จะพิจารณาดูจากอาการที่เจ็บป่วย ถ้าไม่ฉุกเฉินและคิดว่าไม่อันตรายมากจะไปโรงพยาบาลของรัฐ แต่ถ้าเร่งด่วนจะเข้าเอกชน แต่เท่าที่เคยมีประสบการณ์มา โรงพยาบาลของรัฐ ถึงจะช้าแต่การรักษาก็ถือว่าดีมาก เพราะล่าสุดที่อ้อยต้องเข้าำำไปโรงพยาบาลศูนย์ฯ แทบทุกเดือนเพราะลูกชายไม่สบาย เดิมทีเค้าเป็นโรคเลือดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่พอ ต.ค. 54 น้องต้อง admit เพราะเป็นไข้ ตัวซีด ต้องเติมเลือด (ทีแรกว่าจะย้ายน้องไปโรงพยาบาลเอกชน เพราะน้องไม่ยอมนอนห้องรวม แต่พอดีพระเจ้าอวยพระพร เลยทำให้ได้ห้องในเย็นวันนั้นเลย )นอนอยู่ 2 คืน ไข้เป็นๆๆหายๆๆ ทั้งที่ใช้ยาค่อนข้างแรง คุณหมอเลยต้องเก็บปัสสาวะไปเพาะเชื้อเพื่อหาสาเหตุว่ามาจากอะไร หลังจากออกโรงพยาบาล คุณหมอก็นัดอุลตร้าซาวด์ดูช่องท้อง ทำ VCUG เพื่อหาสาเหตุจากอาการป่วย แล้วก็เจอว่าสาเหตุมาจาก ท่อปัสสาวะที่อยู่ในกระเพาะปัสสาวะสั้น เวลาไตขับของเสียลงมา มันจะไหลย้อนกลับไปที่ไตอีก ทำให้ติดเชื้อและไตทำงานหนัก และที่ทราบต่อมาคือไตข้างขวาของน้อง มีขนาดเล็กกว่าข้างซ้ายประมาณ 3 cm. หลังจากนั้น คุณหมอก็ได้ส่งตัวไปรักษาที่มหาราชเชียงใหม่ เทียวไปประมาณ 4 รอบ เพื่อจะพบกับอาจารย์หมอ โดยอาจารย์หมอลงความเห็นว่าต้องผ่าตัดท่อต่อ คุณหมอนัดประมาณ เดือน ต.ค. 55 แต่ทุก 3 เดือนต้องไปตรวจปัสสาวะที่โรงพยาบาลศูนย์ฯ อ้อยก็ทำตามคำแนะนำหมอ แต่ประมาณเดือน พ.ค.55 คุณหมอทางโรงพยาบาลมหาราชก็โทร.มานัดให้พาน้องไปผ่าตัด น้อง admit อยู่ 8 คืน เสียแค่ค่าห้องพักคืนละ 1300 บาท ค่ารักษาต่างๆ ทาง สปสช. เป็นผู้รับผิดชอบ ปัจจุบัน น้องหายเป็นปกติแต่คุณหมอก็ยังนัดให้ไปตรวจทุกปี เรื่องที่อ้อยเล่ามานี้เพื่ออยากแบ่งปันให้ทุกคนทราบว่า เหรียญมีสองด้าน ด้านนึงใช่ว่าโรงพยาบาลรัฐ จะแย่เสมอไป และอีกด้านนึงก็ใช่ว่าโรงพยาบาลเอกชนจะดีเสมอไป มันอยู่ที่ว่าเราจะเลือกสถานการณ์ไหนไปที่ไหนมากกว่า อ้อยยังคิดอยู่เลยนะว่าถ้าวันนั้นอ้อยย้ายลูกออกไปโรงพยาบาลเอกชน แล้วไม่ได้รับการรักษาต่อเนื่องแบบนี้ อ้อยจะรู้มั้ยว่าไตอีกข้างของลูกมีปัญหา แล้วค่ารักษาล่ะ มันไม่เหยียบหลักแสนเลยหรอ

[@ไอ้อ้วน@]

นานาจิตตังค่ะ แล้วแต่ว่าแต่ละท่านจะสถานการณ์แบบไหน แต่สำหรับอ้อย จะพิจารณาดูจากอาการที่เจ็บป่วย ถ้าไม่ฉุกเฉินและคิดว่าไม่อันตรายมากจะไปโรงพยาบาลของรัฐ แต่ถ้าเร่งด่วนจะเข้าเอกชน แต่เท่าที่เคยมีประสบการณ์มา โรงพยาบาลของรัฐ ถึงจะช้าแต่การรักษาก็ถือว่าดีมาก เพราะล่าสุดที่อ้อยต้องเข้าำำไปโรงพยาบาลศูนย์ฯ แทบทุกเดือนเพราะลูกชายไม่สบาย เดิมทีเค้าเป็นโรคเลือดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่พอ ต.ค. 54 น้องต้อง admit เพราะเป็นไข้ ตัวซีด ต้องเติมเลือด (ทีแรกว่าจะย้ายน้องไปโรงพยาบาลเอกชน เพราะน้องไม่ยอมนอนห้องรวม แต่พอดีพระเจ้าอวยพระพร เลยทำให้ได้ห้องในเย็นวันนั้นเลย )นอนอยู่ 2 คืน ไข้เป็นๆๆหายๆๆ ทั้งที่ใช้ยาค่อนข้างแรง คุณหมอเลยต้องเก็บปัสสาวะไปเพาะเชื้อเพื่อหาสาเหตุว่ามาจากอะไร หลังจากออกโรงพยาบาล คุณหมอก็นัดอุลตร้าซาวด์ดูช่องท้อง ทำ VCUG เพื่อหาสาเหตุจากอาการป่วย แล้วก็เจอว่าสาเหตุมาจาก ท่อปัสสาวะที่อยู่ในกระเพาะปัสสาวะสั้น เวลาไตขับของเสียลงมา มันจะไหลย้อนกลับไปที่ไตอีก ทำให้ติดเชื้อและไตทำงานหนัก และที่ทราบต่อมาคือไตข้างขวาของน้อง มีขนาดเล็กกว่าข้างซ้ายประมาณ 3 cm. หลังจากนั้น คุณหมอก็ได้ส่งตัวไปรักษาที่มหาราชเชียงใหม่ เทียวไปประมาณ 4 รอบ เพื่อจะพบกับอาจารย์หมอ โดยอาจารย์หมอลงความเห็นว่าต้องผ่าตัดท่อต่อ คุณหมอนัดประมาณ เดือน ต.ค. 55 แต่ทุก 3 เดือนต้องไปตรวจปัสสาวะที่โรงพยาบาลศูนย์ฯ อ้อยก็ทำตามคำแนะนำหมอ แต่ประมาณเดือน พ.ค.55 คุณหมอทางโรงพยาบาลมหาราชก็โทร.มานัดให้พาน้องไปผ่าตัด น้อง admit อยู่ 8 คืน เสียแค่ค่าห้องพักคืนละ 1300 บาท ค่ารักษาต่างๆ ทาง สปสช. เป็นผู้รับผิดชอบ ปัจจุบัน น้องหายเป็นปกติแต่คุณหมอก็ยังนัดให้ไปตรวจทุกปี เรื่องที่อ้อยเล่ามานี้เพื่ออยากแบ่งปันให้ทุกคนทราบว่า เหรียญมีสองด้าน ด้านนึงใช่ว่าโรงพยาบาลรัฐ จะแย่เสมอไป และอีกด้านนึงก็ใช่ว่าโรงพยาบาลเอกชนจะดีเสมอไป มันอยู่ที่ว่าเราจะเลือกสถานการณ์ไหนไปที่ไหนมากกว่า อ้อยยังคิดอยู่เลยนะว่าถ้าวันนั้นอ้อยย้ายลูกออกไปโรงพยาบาลเอกชน แล้วไม่ได้รับการรักษาต่อเนื่องแบบนี้ อ้อยจะรู้มั้ยว่าไตอีกข้างของลูกมีปัญหา แล้วค่ารักษาล่ะ มันไม่เหยียบหลักแสนเลยหรอ

เห็นด้วยคะ