แนวโน้มตลาดเช้านี้ครับ

[jirapan baithong]

xBR> SET:คาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้น ตามตลาดหุ้นตปท. หลังตัวเลขศก.สหรัฐออกมาดี
        กรุงเทพฯ--18 ต.ค.--รอยเตอร์ 
 
        *นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยวันนี้ ปรับขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ 
         เนื่องจากได้รับปัจจัยบวก จากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ดีขึ้น รวมถึง
         ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ในสหรัฐ ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
         จึงเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาด
        *ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับขึ้นในวันพุธ โดยดัชนีดาวโจนส์ บวก 0.04% ขณะที่ดัชนี 
         S&P 500 ปิดบวกเป็นวันที่  3 ติดต่อกัน หลังตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านแตะระดับ
         สูงสุดในรอบ 4 ปี แต่ดัชนีดาวโจนส์ถูกสกัดแรงบวก โดยหุ้นไอบีเอ็ม หลังเปิดเผย
         รายได้ที่อ่อนแอ
        *ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย.ปิดวานนี้ ขยับขึ้น 3 เซนต์ 
         ปิดที่ 92.12 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากตัวเลขภาคที่อยู่อาศัยที่แข็งแกร่ง
         ที่ช่วยหนุนดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐ และจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ หลังจาก
         ช่วงแรกราคาน้ำมันถูกกดดัน จากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่เพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
        *วันพุธต่างชาติซื้อสุทธิ 567.17 ลบ.จากวันอังคารขายสุทธิ 601.78 ลบ.
        *เช้านี้บาท/ดอลลาร์อยู่ที่ 30.59/63 จากเมื่อวันพุธอยู่ที่ 30.62/64
        *นักวิเคราะห์มองแนวรับที่ 1,300 ส่วนแนวต้านที่ 1,325 
 
        "เช้านี้ตลาดน่าจะเป็นบวก เพราะตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐออกมาดี รวมถึง
ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐ ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ถือเป็นปัจจัย
หนุน" นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ด้านกลยุทธ์ บล.กสิกรไทย กล่าว
        นายกิจพล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น 
จึงทำให้มีเงินไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นมากยิ่งขึ้น จึงน่าจะทำให้ตลาดหุ้นปรับขึ้นใน
ทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ
        ส่วนกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% 
เมื่อวานนี้ เขา มองว่าเป็นผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อตลาดหุ้น 
        เขา กล่าวว่า ดัชนีวันนี้จะอยู่ในกรอบ 1,300-1,325 จุด   
         
         ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญ 
        *ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันพุธ ปิดบวก 13.79 จุด หรือ 1.07% มาที่ 1,301.28 
         ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 38,029.30 ล้านบาท 
        *ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เมื่อวันพุธ ปิดบวก 5.22 จุด หรือ 0.04% มาที่ 
         13,557.00 และดัชนีแนสแดค ปิดบวก 2.95 จุด หรือ 0.10% มาที่ 3,104.12       
        *ตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้ ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นกรอบแคบ โดยตลาดหุ้นสิงคโปร์ 
         บวก 0.5%, ญี่ปุ่น บวก 1.18% ,เกาหลีใต้ บวก 0.23%, ไต้หวัน บวก 0.12% 
         และฮ่องกง บวก 0.66% 
 
        จับตาหุ้น 
        *APURE จะเพิ่มทุน 112.03 ล้านหุ้น ขายรายเดิม 5:1 หุ้นละ 2.03 บาท
        *KBANK เผย Q3/55 กำไรสุทธิเพิ่มเป็น 9.21 พันลบ.
        *PTTEP คาดปริมาณขายปิโตรเลียมปีนี้โตราว 4% ต่ำกว่าเป้าเดิมที่คาดโต 7% 
         หลังเลื่อนผลิตจากมอนทารา--จบ--
 
        (โดย วิรัช บูรณกนกธนสาร รายงานและเรียบเรียง--วพ--)   
        ((wirat.buranakanokthanasan@thomsonreuters.com;โทร.0-2648-9756;   
         ReutersMessaging:wirat.buranakanokthanasan.thomsonreuters.com@   
         reuters.net))

[jirapan baithong]

Strategy

ตลาดโลกบวกต่อเนื่องหลัง Moody ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรรัฐบาลสเปน และตัวเลขยอดสร้างบ้านสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี อีกทั้งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ไม่ได้เลวร้ายและออกจะดีกว่าที่ตลาดคาดด้วยซ้ำไป โฟกัสตลาดตอนนี้อยู่ที่การประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป 18-19 ต.ค. และการปรับขึ้นของตลาดก่อนการเลือกตั้งประธานาธิปดีสหรัฐฯ (Election rally) ในวันที่ 6 พ.ย. ซึ่งจากการศึกษาของ KS พบว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯมักจะให้ผลตอบแทนเป็นบวกในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้ง (อ่านรายละเอียดจากบทวิเคราะห์ Strategy วันนี้) ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยหนุนภาพของตลาดทุนโลกในช่วงสั้น และช่วยจำกัดผลกระทบต่อหุ้นโลกจากปัญหาหนี้ยุโรปที่มาจากกรีซและสเปน สำหรับประเทศไทย กนง. ลดดอกเบี้ย (ดีกว่าที่ตลาดคาด) ช่วยหนุนจิตวิทยาการลงทุนช่วงสั้น และดีต่อหุ้นบริโภคในประเทศ อาทิ อสังหาริมทรัพย์ (SC QH PS) และเช่าซื้อ ทั้งนี้หุ้นพลังงานที่ งบ 3Q จะพลิกกลับมาดีอาจถูกหยิบขึ้นมาเก็งกำไรได้ (TOP PTTGC IRPC) นอกจากนี้นักลงทุนควรติดตามตัวเลขยอดขายรถยนต์เดือนก.ย.ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ (อาจอ่อนแรงลง ซึ่งลบต่อหุ้นยานยนต์)

กลยุทธ์การลงทุน: SET Index ยกระดับการเล่นกลับมาเหนือ 1300 จุดได้สำเร็จ และอาจ sideway up ไปได้จนหลังเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 6 พ.ย. และเปลี่ยนผู้นำจีน 8 พ.ย. ภาพตลาดที่โมเมนตัมเป็นบวกขึ้นทำให้เราแนะนำนักลงทุนอาจเพิ่มการเก็งกำไรในหุ้น Turnaround ได้ (อาทิ THAI TTA AJ IRPC) แต่ควรมีวินัยในการตั้ง stop level ทุกครั้ง
หุ้นแนะนำวันนี้
THAI (ปิด 22.30 เป้าระยะสั้น 23.00 ขายเมื่อหลุด 21.50) เข้าสู่ high season การท่องเที่ยว 2H55 + ราคาน้ำมันดิบที่ลดลง QoQ ส่งผลดีต่อกำไร 3Q55 + Cabin factor ครึ่งปีแรกที่ 76.7% (จากปีก่อน 71.3%) และดีขึ้นต่อเนื่องใน 2H55
CK (ปิด 9.15 เป้าระยะสั้น 10.00 ขายเมื่อหลุด) คาดผลการดำเนินงานฟื้นตัวในไตรมาส 3/55 จากการรับรู้รายได้เพิ่มและอัตราส่วนกำไรที่ฟื้นตัว + การสร้างเขื่อนไซยะบุรียังเดินหน้าไปตามแผนงาน
PF (ปิด 1.15 เป้าระยะสั้น 1.22 ขายเมื่อหลุด 1.09) การเปิดโครงการคอนโดหลายแห่งในช่วงครึ่งปีหลังหนุนผลการดำเนินงาน +  เก็งกำไรจากราคายังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ 1.45 บาท
TK (ปิด 16.30 เป้าระยะสั้น 17.60 ขายเมื่อหลุด 15.60) การใช้จ่ายผู้บริโภคเติบโตหนุนสินเชื่อจักรยานยนต์ + นโยบาย 300 บาท ทั่วประเทศตั้งแต่ ม.ค.56 หนุนการเติบโตต่อเนื่อง + คาดรายงานผลการดำเนินงาน 3Q55 ออกมาดี
หุ้นแนะนำที่ยังคงน่าสนใจ ERW TK LHK TTA SOLAR PJW TNH SUC CK TRC SC QH KCE MALEE TICON GUNKUL CPF BECL MAJOR

หลักทรัพย์กสิกรไทยสาขาเชียงราย 053 718416-20

[ซาลาเปา(เฉพาะกิจ)]

น่าจะรวมเป็นกระทู้เดียวซะเลย 
....กลยุทธ์การลงทุนวันนี้
....แนวโน้มตลาดเช้านี้ครับ
....พรุ่งนี้เช้า 9.30 น.รายงานตัวครับ

[jirapan baithong]

ขอบคุณครับเดี๋ยวพรุ่งนี้รวบยอดครับ

[somchart.]

ผมขอรบกวน คุณjirapan baithong ด้วยนะครับ

   ยังไงก็ช่วยแยก 2 ห้องนี้ออกจากกันด้วยก็จะเป็นพระคุณมากครับ
   หัวข้อ -- แบงค์กำไรไตรมาสกระฉูด // ข้อมูลเกี่ยวกับสถาบันการเงิน (กลุ่มสถาบันการเงิน)
   หัวข้อ -- กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ครับ // อันนี้ผมยิ่งชอบเลยครับ จะได้ดูความเคลื่อนไหวที่น่า
               จับตาในหน่วยลงทุนครับ

ขอบคุณมากครับ ขยันยังงี้ สงสัยสิ้นปี ผลงานทะลุเป้าแน่ๆ... ขอให้คุณjirapan baithong
มีรายได้ในช่อง (รายได้ประจำ) เพิ่มเต็มเพดานเลยนะครับ 

[jirapan baithong]

แนวโน้มตลาด: หุ้นยุโรปเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจฝั่ง
สหรัฐฯ ที่ดี โดยดัชนีแนวโน้มธุรกิจปรับดีขึ้น นอกจากนี้ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ
(Leading indicator) ก.ย.ปรับขึ้น 0.6% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น
0.2% ขยายตัวมากสุดในรอบ 7 เดือน จากปัจจัยหนุนจากการอนุญาตก่อสร้างที่
แข็งแกร่ง ในขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปรับลงเล็กน้อยหลังหุ้นใหญ่บางตัวรายงานผล
ประกอบการออกมาผิดหวัง ปัจจัยสำคัญของตลาดต่างประเทศจะอยู่ที่การประชุม
สุดยอดผู้นำยุโรป 18-19 ต.ค. ทั้งนี้ความล่าช้าและกังวลปัญหาหนี้ยุโรปอาจทำให้
หุ้นโลกแกว่งบ้าง แต่เป็นแค่ระยะสั้น สำหรับหุ้นไทยเข้าสู่ช่วงการเก็งกำไรผล
ประกอบการ 3Q55 ซึ่งเราเห็นเเป้าหมายการเก็งกำไรของตลาดในหุ้นที่คาดผล
ประกอบการจะออกมาดี และเน้นไปในกลุ่มที่ laggard อาทิ พลังงาน (TOP PTTGC
IRPC) หุ้นฟื้นตัว (THAI TTA AJ)
กลยุทธ์การลงทุน: SET Index อาจมีแกว่งอ่อนตัวตามภูมิภาคบ้าง (1307) แต่
ยังให้น้ำหนักกับการขึ้นทดสอบกรอบบนบริเวณ 1320-1330 การปรับฐานของ
พลังงานทำให้ภาพรวมดัชนีอาจขึ้นไม่มาก แต่ในหุ้นรายตัวที่ดี และกลุ่มที่ laggard
ยังอาจขึ้นได้โดดเด่น อาจแบ่งบางส่วนเก็งกำไรหุ้นฟื้นตัวข้างต้น / TVO เก็งสั้นและ
รอขายเมื่อผลประกอบการออก / หุ้นแนะนำวันนี้ AJ THAI TK ERW
สำหรับนักลงทุนระยะกลาง: (นับแต่ 14 ก.ย.) น้ำหนักการลงทุนปัจจุบันของเรา
อยู่ที่ 60% และขอเตรียมเพิ่มขึ้นอีก แต่ในระยะสั้นให้ระมัดระวังความผันผวน ***
หากตลาดปรับฐานก.ย.-ต.ค.นี้ เราจะขอเพิ่มน้ำหนัก โดยเน้นหุ้นพลังงาน ปิโตรเคมี
เดินเรือ และอิเล็กทรอนิกส์ *** ทยอยสะสม TTA SOLAR ERW AJ KCE

[Cupid]

ให้โพสท์ลงในกระทู้เดิม ไม่ต้องเปิดกระทู้ใหม่ทุกวันนะครับ

เพราะหัวข้อกระทู้ก็ชัดเจนอยู่แล้ว

ผมรวมกระทู้ให้แล้วนะครับ

[แมงมุม]

.

สภาวะหุ้นอาทิตย์หน้า ...

เดาว่า ไม่น่าผ่าน 1320 ไปได้ ต้องรออีกซักอาทิตย์นึง ...

เพราะยังไม่มีข่าวใหม่มา

แต่เชื่อว่า กำลังเตรียมชาร์ทพลังเอาไว้ทะลุ 1320 แน่นอนฮับ

.

[jirapan baithong]

ประจำวันที่ 25/10/2555
แนวโน้มตลาด: หุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยโดยได้แรงหนุนจากตัวเลข China PMI
(HSBC) ที่หดตัวลดลงและขยับขึ้นสูงสุดในรอบ 3 เดือน และตัวเลขยอดสร้างบ้าน
สหรัฐฯ ที่ออกมาดี เพิ่มขึ้น 5.7% YoY มากสุดนับจาก เม.ย.53 เป็นต้นมา อย่างไร
ก็ตามหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบเนื่องจากตลาดยังคงกังวลผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน
หลายแห่งที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ และ Fed ไม่ได้มีถ้อยแถลงใหม่ที่ช่วยสร้าง
ความตื่นเต้นให้กับนักลงทุน ทั้งนี้โมเมนตัมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงทำให้ตลาด
ช่วงสั้นมีความเสี่ยงจากแรงขายทำกำไรอันเนื่องมาจากการปรับประมาณการลงซึ่ง
อาจกระทบต่อจิตวิทยากการลงทุนของหุ้นไทยและเอเชียในช่วงสั้น ประกอบกับ
ความเสี่ยงของราคาน้ำมันดิบที่ลดลงต่อเนื่อง ซึ่งหากต่ำถึงจุดหนึ่งอาจเกิดแรงฉุด
ต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานให้ปรับลงแรง ดังนั้นภาพรวมของกลยุทธ์จึงยังเป็นการเก็ง
กำไรเชิงตั้งรับคั่นเวลา เพื่อรอระดับดัชนีที่เหมาะสมสำหรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุน
(downside ที่เราประเมินคือ 1250) นักเก็งกำไรเน้นการตั้ง stop level เพื่อรักษา
วินัยการลงทุนในช่วงที่ผันผวนนี้ด้วย โดยเราคงมุมมองบวกระยะยาวต่อหุ้นและ
เป้าหมายดัชนีปี 2556 ที่ 1500 จุด
กลยุทธ์การลงทุน: SET Index ลงมาถึง 1291.36 ซึ่งในเชิงเก็งกำไรถือว่า
ค่อนข้างปิดความเสี่ยง downside ช่วงสั้นที่ 1290-1300 และน่าจะเป็นจุดเข้าเก็ง
กำไรที่ปลอดภัย ในเชิงกลยุทธ์กลุ่มที่น่าสนใจอื่น ได้แก่ ราคาน้ำมันดิบที่ลดลง
ส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มขนส่ง (THAI TTA PSL) และอิเล็กทรอนิกส์ (ช่วงสั้นเน้น DELTA
HANA แม้เราชอบ KCE มากสุด) ในขณะที่การลดดอกเบี้ยส่งผลดีต่อความน่าสนใจ
ของหุ้นปันผล (TICON QH MCOT) หุ้นแนะนำ THAI TTA HANA
สำหรับนักลงทุนระยะกลาง: (นับแต่ 14 ก.ย.) น้ำหนักการลงทุนปัจจุบันของเรา
อยู่ที่ 60% และขอเตรียมเพิ่มขึ้นอีก แต่ในระยะสั้นให้ระมัดระวังความผันผวน ***
หากตลาดปรับฐานก.ย.-ต.ค.นี้ เราจะขอเพิ่มน้ำหนัก โดยเน้นหุ้นพลังงาน ปิโตรเคมี
เดินเรือ และอิเล็กทรอนิกส์ *** ทยอยสะสม TTA SOLAR ERW AJ KCE
หุ้นแนะนำวันนี้
► THAI (ปิด 23.20 เป้าระยะสั้น 24.60-27.00 ขายเมื่อหลุด 22.50) ราคา
น้ำมันดิบที่ลดลง QoQ ส่งผลดีต่อกำไร 3Q55 + Cabin factor ครึ่งปีแรกที่
76.7% (จากปีก่อน 71.3%) และดีขึ้นต่อเนื่องใน 2H55 + การได้กรรมการ
ผู้จัดการคนใหม่ทำให้การดำเนินงานจะเริ่มมีทิศทาง
► TTA (ปิด 19.20 เป้าระยะสั้น 20.10 ขายเมื่อหลุด 18.50) แม้ไตรมาส
2/55 ขาดทุนจากการด้อยค่าเงินลงทุน UMS แต่เริ่มมีกำไรจากการดำเนินงาน
เป็นบวกแล้ว + คาด 3Q55 ดีขึ้น แม้ธุรกิจเดินเรือ อาจแย่ลงตามดัชนี BDI แต่
ธุรกิจวิศวกรรมใต้น้ำและการให้เช่าแท่นขุดเจาะน่าจะทำให้กำไรสุทธิเริ่มกลับมา
เป็นบวกได้
► HANA (ปิด 21.70 เป้าระยะสั้น 23.00 ขายเมื่อหลุด 20.80) ได้ประโยชน์
จากค่าบาทที่อ่อนลง + 2H55 ดีขึ้นจากครึ่งปีแรก แม้ผลของฤดูกาลอาจไม่
แข็งแกร่งเท่าปีก่อนๆ + มี Valuation Gap สูง โดยราคาปัจจุบันซื้อขายที่เพียง
1.14x PBV ต่ำกว่าคาเฉลี่ยระยะยาวที่ 1.90x มา
► อสังหาริมทรัพย์ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” SC QH PS PF MK
► หุ้นแนะนำที่ยังคงน่าสนใจ ERW TK LHK TTA SOLAR PJW TNH SUC
CK TRC SC QH KCE MALEE TICON GUNKUL CPF BECL MAJOR

[jirapan baithong]

ประจำวันที่ 26/10/2555
เก็งกำไร Election rally ช่วง 2 สัปดาห์หน้า
แนวโน้มตลาด: หุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ปิดบวกจากการรายงานตัวเลขที่ดีทั้ง ผล
ประกอบการบริษัทจดทะเบียนในยุโรป ตัวเลข GDP อังกฤษ และยอดสั่งซื้อสินค้า
คงทนของสหรัฐฯ นอกจากนี้การที่ธนาคารกลางยุโรปรายงานว่าเงินฝากในกรีซและ
สเปนเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้น ส่งสัญญาณว่าความเชื่อมั่นภายในต่อระบบการเงินของทั้ง
2 ประเทศเริ่มกลับคืนมา เป็นอีกปัจจัยหนุนจิตวิทยาของตลาดช่วงสั้น ทั้งนี้ตลาด
เข้าสู่ช่วงไร้ปัจจัยขนาดใหญ่และอยู่ในช่วงประกาศผลประกอบการ 3Q55 ซึ่งแม้
อาจมีแรงทำกำไรบ้างหากกำไรของบจ.ออกมาน่าผิดหวัง แต่เรามองโมเมนตัมการ
เก็งกำไรโดยรวมของตลาดทุนโลก จะถูกประคองจากการเลือกตั้งประธานาธิบดี
สหรัฐฯ 6 พ.ย.และการเปลี่ยนผู้นำจีน 8 พ.ย. (ซึ่งตลาดคาดว่าอาจมีการประกาศ
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามมา) เราจึงมองว่าตลาดช่วงสัปดาห์หน้ามีโอกาสฟื้น
ตัว จึงมองทางเข้าซื้อเก็งกำไรรับ Election rally ก่อนขอประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน: SET Index ลงมาถึง 1285.83 ซึ่งในเชิงเก็งกำไรถือว่า
ค่อนข้างปิดความเสี่ยงช่วงสั้น และน่าจะเป็นจุดเข้าเก็งกำไรที่ปลอดภัย คาดหุ้นกลุ่ม
หลักจะฟื้นตัว แต่ในเชิงกลยุทธ์กลุ่มที่น่าสนใจ ได้แก่ ราคาน้ำมันดิบที่ลดลงส่งผลดี
ต่อหุ้นขนส่ง (THAI TTA PSL) และอิเล็กทรอนิกส์ (ช่วงสั้นเน้น DELTA HANA
CCETแม้เราชอบ KCE มากสุด) ในขณะที่การลดดอกเบี้ยส่งผลดีต่อความน่าสนใจ
ของหุ้นปันผล (TICON QH MCOT) หุ้นแนะนำ MALEE BLAND THAI HANA
สำหรับนักลงทุนระยะกลาง: (นับแต่ 14 ก.ย.) น้ำหนักการลงทุนปัจจุบันของเรา
อยู่ที่ 60% และขอเตรียมเพิ่มขึ้นอีก แต่ในระยะสั้นให้ระมัดระวังความผันผวน ***
หากตลาดปรับฐานก.ย.-ต.ค.นี้ เราจะขอเพิ่มน้ำหนัก โดยเน้นหุ้นพลังงาน ปิโตรเคมี
เดินเรือ และอิเล็กทรอนิกส์ *** ทยอยสะสม TTA SOLAR ERW AJ KCE
หุ้นแนะนำวันนี้
► MALEE (ปิด 95.75 เป้าระยะสั้น 103.00 ขายเมื่อหลุด 90.00) เก็งกำไร
ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/55 + ปรับราคาเหมาะสมทางพื้นฐานขึ้นเป็น 130
บาท (จาก 105 บาท)
► BLAND (ปิด 1.30 เป้าระยะสั้น 1.45 ขายเมื่อหลุด 1.22) ผลการ
ดำเนินงานมีแนวโน้มดีขึ้นหลังเพิ่มการถือหุ้น IMPACT จาก 55% เป็น 100% +
บริษัทมีที่ดินจำนวนมากที่มีโอกาสปรับมูลค่าเพิ่มจากการพัฒนาหรือการมาถึง
ของรถไฟฟ้า + กำไรปกติและจากการเข้าถือ IMPACT ทำให้มูลค่าทางบัญชีมี
โอกาสปรับขึ้นเป็น 1.70 บาท จากปัจจุบันที่ 1.52 บาท
► THAI (ปิด 23.20 เป้าระยะสั้น 24.60-27.00 ขายเมื่อหลุด 22.50) ราคา
น้ำมันดิบที่ลดลง QoQ ส่งผลดีต่อกำไร 3Q55 + Cabin factor ครึ่งปีแรกที่
76.7% ดีขึ้นต่อเนื่องใน 2H55 + ราคาปัจจุบันยังซื้อขายเพียง 0.77x PBV
► HANA (ปิด 21.90 เป้าระยะสั้น 23.00 ขายเมื่อหลุด 20.80) ได้ประโยชน์
จากค่าบาทที่อ่อนลง + 2H55 ดีขึ้นจากครึ่งปีแรก แม้ผลของฤดูกาลอาจไม่
แข็งแกร่งเท่าปีก่อนๆ + มี Valuation Gap สูง โดยราคาปัจจุบันซื้อขายที่เพียง
1.21x PBV ต่ำกว่าคาเฉลี่ยระยะยาวที่ 1.90x มาก
► อสังหาริมทรัพย์ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” SC QH PS PF MK
► หุ้นแนะนำที่ยังคงน่าสนใจ ERW TK LHK TTA SOLAR PJW TNH SUC
CK TRC SC QH KCE MALEE TICON GUNKUL CPF BECL MAJOR