เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 21 กรกฎาคม 2025, 01:00:29
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  เรื่องล้านนา ภาษากำเมือง
| | |-+  แนะนําเวบเกี่ยวกับล้านนา
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน แนะนําเวบเกี่ยวกับล้านนา  (อ่าน 1119 ครั้ง)
อะไร?ยังไง?
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 357


« เมื่อ: วันที่ 12 กันยายน 2010, 00:58:48 »

ไผสนใจอยากอ่านเกี่ยวกับล้านนาและอื่นๆตี่เกี่ยวข้อง ลองอ่านผ่อเน่อ หันว่าคงมีคนอยากอ่าน
ใว้ไผคนไดมีหยังน่าสนใจเกี่ยวกับล้านนา เอามาโพสแบ่งคนอื่นอ่านโตย เผื่อวันหน้าเกิดมีหยังสงสัยก่อขุดขึ้นมาถามกันแหมกํา

http://www.chiangrailanna.com/ThaiPage.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 12 กันยายน 2010, 07:04:40 โดย OK Computer » IP : บันทึกการเข้า
อะไร?ยังไง?
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 357


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 12 กันยายน 2010, 07:17:08 »

การย้ายถิ่นฐานในสมัยโบราณ

 

ในยุคแรกนั้นประเทศไทยส่วนใหญ่ถูกปกครองโดยอาณาจักรอื่น ( โดยเฉพาะ มอญ และ เขมร ) ชนพื้นเมืองประกอบขึ้นด้วยชนหลายเผ่าพันธุ์ ( ลื้อ ละว้า และทางใต้คือมาเลย์ )  ในตอนนั้นคริสต์ศตวรรษที่ 11 ชนเผ่าไทได้ตั้งถิ่นฐานในหุบเขาเจ้าพระยาซึ้งเป็นพื้นที่ใจกลางอาณาจักรปัจจุบันและยังเคยเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรมอญทวารวดีด้วย  ส่วนทางเหนือชาวไทสร้างอาณาจักรอันมั่งคงขึ้นที่นครโยนก ( เชียงแสน  และ พะเยา สุโขทัยยังเป็นอาณานิคมของนครวัตอยู่ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นไท  คำว่า ไท หมายถึง “ มนุษย์ “ ( หรือ บางทีอาจหมายถึง บุคคลผู้มีความสง่างาม ซึ่งตรงข้ามกับ ศัตรูนอกศาสนา  คนป่า หรือ ทาส ) เคยเป็นแหล่งปลูกข้าวที่แรกของโลก  มี อารยะธรรมโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ทางกด้านการทอผ้า และการหล่อเครื่องทองเหลือง  คนไทค่อยๆ เข้าอยู่อาศัยในบริเวณเอเชียอาคเนย์ โดยส่วนใหญ่อพยพมาจากชายฝั่งตะวันออกในปัจจุบันมีชาวไทประมาณ  100 ล้านคนโดยแยกออกได้เป็น  80 เผ่า  และมีภาษาพูดที่มาจากตระกูลเดียวกันกว่าครึ่ง ของชาวไทเหล่านี้อาศัยอยู่ในประเทศไทย

            เป็นเวลากว่า 1,000 ปี จนถึงราว 500 ปีทีแล้ว  ชาวไทได้ขยายเผ่าพันธุ์ เข้าสู่ทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจีน  เรื่องที่ว่าชาวไทสืบเชื้อสายมาจากชนพื้นเมืองนั้นยังไม่กระจ่างชัดโดยทฤษฏีเกี่ยวกับการอพยพของกลุ่มชาวไทเข้ามาแทนที่ดูน่าจะเป็นจริงได้ คือ กลุ่มนักรบชาวไทจำนวนหนึ่งได้หลบหนีจากการรุกรานของชาวจีน (ฮั่น) ซึ่งเข้ารุกรานทางตะวันตกและใต้ และได้เสนอตัวเข้าปกป้องชนพื้นเมืองบริเวณนั้นแล้วใช้กำลังทหารเข้าชิงอำนาจ  มีการสร้างป้อมปราการไว้ป้องกันการรุกรานของนักรบกลุ่มอื่นๆ ด้วย

            อีกทฤษฏีหนึ่งกล่าวว่าแต่เดิมนั้นชาวไทอาศัยอยู่บริเวณมณฑลเสฉวน  ราวปี 50 ก่อนคริสต์ศักราชจีนได้ถูกรุกรานโดยชาวฮั่น  ชาวจีนจึงจำเป็นต้องอพยพลงทางใต้สู่ยูนาน และอีกทฤษฏีหนึ่งคือชาวไทได้อาศัยอยู่ในหุบเขาบริเวณแม่น้ำแยงซีเกียงก่อนชาวจีน  ในปี 2000  ก่อนคริสตกาลชาวไทอาศัยอยู่บริเวณเสฉวนซึ่งอยู่ทาตะวันตกจนถึงหูเน่ย ทางใต้ของเหหนาน  อานฮุย  ตะวันออกเฉียงใต้ของชานตุง และบางส่วนของของเจียงสู ในปี  1000 ก่อนคริสตกาลชาวไทอาศัยอยู่ทางกวางสี ทางใต้ของหูหนาน กวางตุ้ง และตะวันออกเฉียงเหนือของเวียดนาม ทฤษฏีที่ว่าชาวไทยุคแรกที่ได้อพยพมาจากดินแดนบริเวณปากแม่น้ำเหียเจียงและโป่เจียงซึ่งอยู่ใกล้กับกวางตุ้งและกวางซี ลงไปทางใต้ผ่านชายแดนเวียดนามน่าจะช่วยสนับสนุนทฤษฏีข้างต้นนี้วัฒนธรรมการปลูกข้าวและเลี้ยงกระบือของชาวไทนั้นมีความจำเป็นต้องใช้น้ำเป็นปริมาณมาก  แคว้นสิบสองจูไท (ชื่อไทสิบสองชื่อ) และสิบสองเจ้าไท (เจ้าไทสอบสององค์) ตั้งอยู่ระหว่างตะวันออกเฉียงเหนือของลาวและทาวเหนือของเวียดนาม  ดินแดนระหว่างแม่น้ำแดงกับแม่น้ำดำ (ซองฮองและซองดา)  เคยเป็นแหล่งวัฒนธรรมยุคต้นๆ แต่ดูเหมือนจะไม่ใช้แห่งแรก  ชนเผ่าต่างๆ ในบริเวณนั้นได้อาศัยอยู่มาเป็นพันปีใช้ภาษาไท และมีประเพณีอันโดดเด่น  จากบันทึกของชาวจีนจากช่วงศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาลได้กล่าวถึงไทดำซึ่งอาศัยอยู่บริเวณแม่น้ำแดงรวมถึงพื้นที่ส่วนใหญ่บริเวณปากแม่น้ำดำอีกด้วย  ซึ่งปัจจุบัน คือมณฑลกวางซี         

            ในช่วงราวปี  1300 ก่อนพุธศักราช  ชาวไทมีวัฒนธรรมประเพณีอันมั่นคงมีการพัฒนาความเป็นอยู่ให้สอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศเขตร้อนชื้นบริเวณเอเชียอาคเนย์  ได้มีการปลูกข้าวเลี้ยงสัตว์คือ กระบือ สุกร ไก่ มีการทอผ้า การทำเครื่องปั้นดินเผา การทำเครื่องมือเครื่องใช้จากทองสัมฤทธิ์ ซึ่งมีเอกลักษณ์อันโดดเด่นแตกตางจากชาวฮั่นของจีนและชาวขิ่นของเวียดนามอย่างชันเจน  ในปัจจุบันยังมีชนเผ่าไทอาศัยอยู่บริเวณเทือกเขาทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนามแต่มีบางส่วนหรืออาจมีจำนวนมากได้อพยพเข้าสู่พื้นที่ด้านในประเทศแล้วอพยพต่อลงไปทางใต้  สาเหตุของการอพยพอาจเกิดจากการรุกรานจากชาวจีนและจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้น  บันทึกของชาวไทซึ่งอาศัยอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ( ยูนาน ) เริ่มต้นขึ้นในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาลได้กล่าวอ้างถึงชาวไทกลุ่มนั้นว่า “พวกป่าเถื่อนไปทางใต้“ในปี ค.ศ. 566 จักรพรรดิ หวู่ตี้ ได้สร้างกำแพงขึ้งทางฝั่งตะวันตกของอาณาจักรเพื่อป้องกันสงครามกับชนผ่าไท

            นอกจากจะอพยพเข้าสู่ดินแดนของชนเผ่าที่ปลูกข้าวสาลี และกินก๋วยเตี๋ยวคือทางเหนือของชายฝั่งตะวันออกของจีนกับดินแดนชายฝั่งทางใต้ซึ่งประชากรทำการเลี้ยงสัตว์  ปลูกข้าวเหนียวและทำเหล้าแล้วการอพยพยังได้ขยายออกไปทางตะวันตกเข้าสู่ดินแดนซึ่งทำการเกษตรไม่มากนักจนในที่สุดเข้าสู่แผ่นดินซึ่งได้รับอิทธิพลจากศาสนาพราหมณ์ และพุทธจากอินเดียก่อให้เกิดความแตกแยกขึ้นชาวจ้วงอพยพไปทางตะวันออกของจีน ทางเหนือของเวียดนามและตะวันออกเฉียงเหนือของลาวและยังคงรับอิทธิพลจากฮั่น ส่วนชาวไท / ลาวซึ่งอพยพไปทางตะวันตกก็ได้รับอิทธิพลใหม่ซึ่งกลายมาเป็นวัฒนธรรมอันโดดเด่นและสำคัญกลุ่มชนไท / ลาวนี้ ได้กลายมาเป็น “ชนของธรรมะอักษร“โดยมีอักขระหลายตัว (อย่างน้อย 6 ตัว) ซึ่งมีความคล้ายคลึงกันรวมทั้งภาษาถิ่นอีกมากมาย ถึงแม้การเดินทางไปมาหาสู่กันรวมทั้งการเผยแพร่วัฒนธรรมได้ถูกปิดกั้นโดยเทือกเขาแต่ภาษาก็ยังมีการใช้กันอยู่โดยอาจมีคำหลายคำเรียกของสิ่งเดียวกันขึ้นอยู่กับชนเผ่าใดจะใช้   อาจมีการรับอิทธิพลทางภาษาของ อินเดีย ทิเบต จีน มอญ เขมร และมาเลย์เข้ามาเกี่ยวข้องเป็นบางส่วน แต่เป็นการยากที่จะปิดกั้นการใช้ภาษาของหลากหลายเผ่าพันธุ์ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนเหล่นั้นแม้จะมีเทือกเขาขวางกั้นก็ตาม

            เมื่อวัฒนธรรมของชาวไทธรรมะอักษรปรากฏออกมา  โครงสร้างของสังคมไม่มีความตายตัวมานักคือมีการใช้อำนาจการปกครองเพียงเล็กน้อย  มีความสงบสุขเกิดขึ้นและก่อให้เกิดความเจริญทางการค้าทั้งทางด้านความคิดและตัวสินค้า  ในเวลาต่อมากองทัพก็มีความแข็งแกร่งขึ้นเช่นกันรวมถึงศาสนาพุทธนิกายเถรวาทก็ยังก็ให้เกิดความสงบสุขอีกด้วย ชาวไทซึ่งได้อพยพไกลออกไปยังทิศตะวันตกได้หกลายมาเป็นชาวพม่าซึ่งในที่สุดได้รับอิทธิพลผสมระหว่างอินเดียและมอญ รวมถึงการแต่งงานระหว่างเชื้อชาติด้วยสีผิวของชนกลุ่มนั้นค่อนข้างคล้ำ ทำการลี้ยงสัตว์และผลิตเหล้าไม่มากนัก ปกครองโดยกลุ่มชนซึ่งมีความเข้มงวดและโหดร้ายเหมือนชาวขอมผู้ควบคุมทาสเมื่อก่อนสร้างสิ่งมหัศจรรย์ของโลกคือ นครวัต ส่วนชาวไท / ลาวและลื้อ / ละว้า  มีความผ่อนคลายกว่า ไม่เกรงกลัวสิ่งใด มีความมั่นใจในตัวเอง และไม่ต้องการถูกปกครองจนกระทั่งกองทัพมองโกลของ เจง กิส ข่าน ได้เข้ามาทำการรุกราน


 

      ชาวไทเหล่านี้ได้รับการยอมรับจากชาวละว้า และลื้อมาก โดยได้จัดกำลังทหารเข้ารบเพื่อต้านการรุกรานของจีนฮั่น ซึ่งควบคุมทัพโดยชาวฮั่นเพียงชั่วคราวจากนั้นคอมอง โกลหยวน  ชาวไทได้นำกำลังพลที่เชี่ยวชาญในการรบและอาวุธที่ดีกว่ามาใช้และยังแสดงให้เห็นถึงการมีความยืดหยุ่น และความพร้อมในการใช้ความร่วมมือกับชุมชน  รวมทั้งระบบการปกครองที่คล้ายกันคือไม่ใช้อำนาจปกครองโดยกลุ่มคนจากส่วนกลางซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับดินแดนที่มีภูมิประเทศเป็นภูเขา วัฒนธรรมใหม่เหล่านี้ได้เจริญรุ่งเรืองเหนือกว่าวัฒนธรรมเก่าที่ยึดถือปฏิบัติกันมาเป็นเวลานาน

            สิบสองปันนา (ทุ่งนาสิบสองพัน หรือ ดินแดนปลูกข้าวสิบสองแห่ง) อยู่ทางใต้ของยูนานเป็นที่นิยมถูกกล่าวถึงว่าเป็นแหล่งวัฒนธรรมของชาวไทซึ่งไม่ถูกต้องนัก  โดยในบันทึกของจีนอ้างว่าสิบสองปันนา เป็นดินแดนอิสระตั้งอยู่ตรงชายแดงด้นใต้และมีชาวไทลื้ออาศัยอยู่  โดยใน ค.ศ. 1 ชาวไทเป็นจำนวนมากได้ย้ายจากอาณาจักรยื้อของเยลัง (ตะวันตกของกุยซูซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเสฉวน กวางสีและหูหนาน) ไปทางเหนือและตะวันตกของยูนนาน  และกลุ่มคนที่สืบเชื้อสายมาจากผู้อพยพเข้าสู่ตะวันออกเฉียงเหนือของพม่ารู้จักกันในนามเสฉวน  ซึ่งได้ทำการค้ากับอินเดียและจีนรวมทั้งเคยครอบครองดินแดนของส่วนของล้านาก่อนพ่อขุนเม็งราย
IP : บันทึกการเข้า
อะไร?ยังไง?
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 357


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 12 กันยายน 2010, 07:19:27 »

ทฤษฏีที่สองมีความเปนไปใด้มากตี่สุดเน่อ

อีกทฤษฏีหนึ่งกล่าวว่าแต่เดิมนั้นชาวไทอาศัยอยู่บริเวณมณฑลเสฉวน  ราวปี 50 ก่อนคริสต์ศักราชจีนได้ถูกรุกรานโดยชาวฮั่น  ชาวจีนจึงจำเป็นต้องอพยพลงทางใต้สู่ยูนาน และอีกทฤษฏีหนึ่งคือชาวไทได้อาศัยอยู่ในหุบเขาบริเวณแม่น้ำแยงซีเกียงก่อนชาวจีน  ในปี 2000  ก่อนคริสตกาลชาวไทอาศัยอยู่บริเวณเสฉวนซึ่งอยู่ทาตะวันตกจนถึงหูเน่ย ทางใต้ของเหหนาน  อานฮุย  ตะวันออกเฉียงใต้ของชานตุง และบางส่วนของของเจียงสู ในปี  1000 ก่อนคริสตกาลชาวไทอาศัยอยู่ทางกวางสี ทางใต้ของหูหนาน กวางตุ้ง และตะวันออกเฉียงเหนือของเวียดนาม ทฤษฏีที่ว่าชาวไทยุคแรกที่ได้อพยพมาจากดินแดนบริเวณปากแม่น้ำเหียเจียงและโป่เจียงซึ่งอยู่ใกล้กับกวางตุ้งและกวางซี ลงไปทางใต้ผ่านชายแดนเวียดนามน่าจะช่วยสนับสนุนทฤษฏีข้างต้นนี้วัฒนธรรมการปลูกข้าวและเลี้ยงกระบือของชาวไทนั้นมีความจำเป็นต้องใช้น้ำเป็นปริมาณมาก  แคว้นสิบสองจูไท (ชื่อไทสิบสองชื่อ) และสิบสองเจ้าไท (เจ้าไทสอบสององค์) ตั้งอยู่ระหว่างตะวันออกเฉียงเหนือของลาวและทาวเหนือของเวียดนาม  ดินแดนระหว่างแม่น้ำแดงกับแม่น้ำดำ (ซองฮองและซองดา)  เคยเป็นแหล่งวัฒนธรรมยุคต้นๆ แต่ดูเหมือนจะไม่ใช้แห่งแรก  ชนเผ่าต่างๆ ในบริเวณนั้นได้อาศัยอยู่มาเป็นพันปีใช้ภาษาไท และมีประเพณีอันโดดเด่น  จากบันทึกของชาวจีนจากช่วงศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาลได้กล่าวถึงไทดำซึ่งอาศัยอยู่บริเวณแม่น้ำแดงรวมถึงพื้นที่ส่วนใหญ่บริเวณปากแม่น้ำดำอีกด้วย  ซึ่งปัจจุบัน คือมณฑลกวางซี     

เจินปี่น้องเข้าไปอ่านกันนักๆ  ยิงฟันยิ้ม มีหลายเรื่องเน่อ จะใด้บ่น่าเบื่อ แต่ก่อสอดคล้องกับล้านนาอยู่ดี
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!