งาน4ด้าน........เงิน4มุม
สวัสดีค่ะ ผู้มุ่งหวังทุกท่าน
เดี๋ยวเราจะลองมาเปรียบเทียบอะไรดูกันนะค่ะ
ลองดูรูปภาพด้านบนนะค่ะ เราจะเห็นว่ามีตังอักษรภาษาอังกฤษ ถูกแบ่งเปน4ช่องด้วยกัน
ทีนี้ ลองมาดูความหมายแล้วคิดตามดูนะค่ะ
E (Employee) - ลูกจ้าง
- ทำงานเพื่อค่าจ้าง
- รายได้ถูกแบ่งตามตำแหน่งงานที่ได้รับมอบหมาย ไม่ใช่ความสามารถ
- ปลายปากกาของนายจ้างเป็นผู้กำหนดวิถีชีวิตและเงินเดือนให้คุณ
- ต้องมีวุฒิในการสมัครเป็น "ลูกจ้าง"
- ขาดอิสรภาพ ต้องเซ็นต์ชื่อ ตอกบัตร หยุดงาน 7 วันเอาซองขาวไปเลย
- ตกงานก็เท่ากับล้มละลาย (ตกงาน 3 เดือน ก็ไม่ต่างจากคนล้มละลาย)
- อยู่ในวงจรหนี้สิน ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ฯลฯ
S (Self-employed) - ทำธุรกิจส่วนตัว
- ขายเวลาแลกกับเงิน ก็คือการจ้างตัวเองเพื่อทำงาน
- ชอบคิดเองทำเอง, ควบคุมทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่มีนายจ้าง ไม่มีลูกจ้าง
- ประสบการณ์และความรู้เป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้ความเสี่ยง ซึ่งมีหลายตัวด้วยกัน
- เจอคู่แข่งที่มีทุนหนากว่า ธุรกิจจะเดินยาก
- อาจจะต้องทนทำ เพราะชอบ อิสระ แต่ไม่มี อิสรภาพ หยุดงานก็ไม่มีรายได้
B (Business Owner) - ผู้ประกอบการ
- มีทุน
- หาคนเก่งๆ มาทำงานให้
- ไม่ทำก็มีรายได้
B มีด้วยกัน 3 ประเภท ดังนี้
1 เจ้าของระบบ - ก็เจ้าของบริษัท เจ้าของกิจการ ซึ่ง 80 % ถูกวิจัยว่าเจ๊ง เนื่องจากสาเหตุดังนี้
1) ทุนน้อย แพ้ทุนคู่แข่ง
2) ทำเลไม่ดี
3) คู่แข่งเยอะ
4) ขาดความเชี่ยวชาญ
5) ประสบการณ์น้อย
6) ประสิทธิภาพของลูกจ้างต่ำ
7) บางธุรกิจต้องลงทุนสูง

ความเสี่ยงสูง
2 ซื้อระบบ - ประเภทธุรกิจ แฟรนไซน์ เช่น seven
ธุรกิจแบบนี้มีข้อดีตรงความเสี่ยงต่ำ แต่จะต้องลงทุนสูงมาก
3 การตลาดแบบเครือข่าย - Network Marketing (เป็นช่องทางที่จะเป็น
เจ้าของกิจการ ลงทุนน้อยและมีความเสี่ยงต่ำ เป็นโอกาสสำหรับนักล่าฝัน)
I (Investor) - นักลงทุน
- ไม่ได้ทำงานเพื่อเงิน
- มองผลตอบแทนจากการปันผล ดอกเบี้ย
- ซื้อกิจการมาปรับปรุง แล้วขายต่อ