กลโกงไฟแนนซ์
วันนี้ผมจะเปิดโปงกลโกงของไฟแนนซ์บางเรื่อง ขอย้ำว่าบางเรื่องเท่านั้น
1.สัญญาที่คุณทำกับไฟแนนซ์ คือสัญญาเช่าซื้อ
ซึ่งเป็นสัญญาสำเร็จรูป นั่นคือ คุณไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือต่อรองใดๆ ในสัญญานั้นได้เลย หน้าที่ของคุณ คือ ลงชื่อ เท่านั้น ไม่งั้นก็อด เท่านี้ คุณก็อยู่ในภาวะที่ไม่อาจขัดขืนได้
2.ต่อมาเมื่อคุณลงชื่อในสัญญาเช่าซื้อแล้ว บางคนดีใจ ฉลองรถใหม่กันหน้าชื่น คุณต้องชำระหนี้เขา ทุกวันที่....ตามที่เขากำหนด หากจ่ายช้า จะมีเสียงโทรศัพท์แวดใส่หูคุณ พร้อมกับคำที่คุณไม่ค่อยอยากจะฟัง พอๆกับบอกว่า "...กรุณาเติมเงินด้วยค่ะ" ทำนองนั้น หลังจากนั้น คุณก็ต้องวิ่งตาลีตาเหลือก รีบหามาให้เขา แต่ยังไม่จบแค่นี้ครับ
3.ถ้าคุณจ่ายทุกอย่างดูเหมือนจะจบ แต่ คุณค้าง 2 งวด คุณต้องจ่ายค่างวดทั้ง 2 งวด ค่าติดตาม ซึ่งบางทีเจ้าหล่อนจะแจ้งงว่า 5,000 ค่าเบี้ยปรับล่าช้า บางทียังมีค่าต่อสัญญา อันนี้แหล่ะครับ ที่เริ่มออกอาการแล้ว ซึ่งพอคุณจ่ายไป ไฟแนนซ์ก็จะออกใบเสร็จให้คุณ
โดยจะนำไปตัดเป็นค่าติดตาม ค่าเบี้ยปรับ ค่าอะไรต่อมิอะไร แล้วแต่ท่านจะนึกออก สุดท้ายเหลือเท่าไหร่จึงนำมาตัดเป็นค่างวด บางทีจ่ายค่างวดตรงงวดอยู่ แต่ทำไมยังถูกบอกว่ายังไม่ทันงวดซักที คุณโทรไปเถียง เจ้าหล่อนก็จะบอกคุณแค่ว่าเป็นระเบียบบริษัท คุณก็จะได้แต่มึนเท่านั้นเอง บางบริษัท สุดโกง
ไม่ออกใบเสร็จให้ก็มี เพราะอะไรรู้มั๊ยครับ เพราะเงินที่เขารับจากเรา หากมีใบเสร็จต้องเสียภาษีไงหล่ะ บางทีออกย้อนหลัง หลังจากครบปีภาษีแล้วก็มี คุณไม่มีทางตรวจสอบเขาได้หรอกครับ อย่าไปคิด
4.ทีนี้หากคุณผ่อนไม่ไหว ค้างค่างวดหลายงวด เข้าข่ายผ่อนไม่ไหวแล้ว ไฟแนนซ์ก็จะมีหนังสือมาบอกเลิกสัญญา โดยแจ้งยอดว่าคุณต้องชำระเท่าไหร่ ภายในกี่วัน มิฉะนั้นจะถือเอาหนังสือนี้เป็นการบอกเลิกสัญญา แล้วจะมีเจ้าหน้าที่หรือผู้รับจ้างจากไฟแนนซ์ ไปยึดรถคุณถึงบ้าน เขาจะพูดคุยกับคุณสารพัดเพื่อให้คุณคืนรถแต่โดยดี แต่คำยอดฮิตก็คือ
"คืนรถแล้วทุกอย่างก็จบ...ไม่ต้องจ่ายอะไรอีก " หากเจอถ้อยคำทำนองนี้ คุณโดนหลอกครับ และที่สำคัญ มันมักจะไปยึดตอนที่เราไม่รู้ตัว อุปกรณ์ตกแต่งรถที่เราตกแต่งเพิ่ม มันตกเป็นของเขาซะแล้ว ไม่มีโอกาสได้รื้อหรือเก็บออกจากรถเลย (ผมมีคดีหนึ่งมาปรึกษาผม ให้ดูเป็นอุทธาหรณ์ ผู้เช่าซื้อผ่อนรถไม่ไหว รอไฟแนนซืมายึด วันเกิดเหตุขับรถคันนี้ มาทำงานและจอดไว้ที่ทำงานตามปกติ ออกจากที่ทำงานจะกลับบ้าน ไม่เห็นรถ นึกว่าไฟแนนซ์มายึดไปแล้ว แกก็เฉย นึกว่าไม่มีอะไร ต่อมามีคำฟ้องเรียกให้แกคืนรถ แกเลยงง เอาเข้าจริงๆรถคันนี้โดนขโมยครับ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่านอนหลับทับสิทธิครับ ไม่เช่นนั้น อาจเป็นเช่นนี้ ใครก็ช่วยคุณไม่ได้)
5.เมื่อพี่ท่านยึดไปแล้ว ท่านก็จะนำไปขายทอดตลาด บอกว่าขายตามสภาพ แต่ความเป้นจริง รถบางคันมีประกันชั้นหนึ่ง หากซ่อมก่อน ก็จะได้ราคาสูงกว่านี้ แต่พี่ท่านไม่ยอมทำครับ ไม่ทราบสาเหตุ นอกจากว่าไม่ใช่เรื่องของผม การตั้งราคาขายทอดตลาดก็จะต่ำกว่าท้องตลาดทั่วไป เขาก็จะประกาศให้คนมาซื้อ แต่ส่วนใหญ่คือพวกเต๊นท์รถครับ เขาจะขายในราคาต่ำกว่าท้องตลาดประมาณ 4 หมื่น - 1 แสนบาทเลยครับ
6.เมื่อขายได้แล้วพี่แก ก็จะให้ทนายความมีหนังสือแจ้งให้คุณไปใช้หนี้ตามที่เขากำหนด เป็นธรรมหรือไม่ คนที่เคยเจอตอบได้ชัดเจนที่สุดครับ
7.หากคุณไม่ใช้พี่แกก็จะฟ้องครับ ฟ้องอะไรบ้างติดตามดูความโกงขอไฟแนนซ์กันต่อ
1.ค่าขาดราคา (ในกรณียึดรถได้) ราคาที่เขาขายมันต่ำครับ อันนี้เรื่องแรก ยังไม่หมดครับ เวลาฟ้องค่าขาดราคา พี่แกจะคิดตามสัญญาเลย โดยนำภาษีมูลค่าเพิ่มมารวมด้วย แต่ตัวเลขที่ขายได้ พี่แกไม่นำภาษีมูลค่าเพิ่มมารวมครับ และอ้างว่าเราใช้รถโดยไม่รักษา ทั้งที่รถเราใช้อย่างทะนุถนอมสุดขีด
2.ให้ชดใช้ราคา (ในกรณียึดรถไม่ได้) ในกรณีนี้พี่แกเรียกเต็มราคาเลยครับ ผิดกับกรณียึดรถขายทอดตลาด พี่แกจะให้ราคาต่ำมาก
3.ค่าขาดประโยชน์ พี่แกจะอ้างว่าสามารถนำออกให้เช่าได้ทั้งที่พี่แกไม่เคยเอาออกให้เช่าเลย
4.ค่าติดตาม บางไฟแนนซ์เรียกซะเวอร์ 5 พันมั่ง 8 พันมั่ง
5.ดอกเบี้ย ตามกฎหมายมีสิทธิเรียกได้แค่ 7.5 เรียกให้ตายก็ได้แค่นี้ แต่บางไฟแนนซ์แกเรียก 15 บางทีล่อเอา mrr mrl อะไรมั่วไปหมด
ยังไม่หมดเท่านี้ครับ ผมบอกแล้วว่าเป็นบางเรื่อง
เมื่อฟังเรื่องไฟแนนซ์ตัวแสบแล้ว
โรบินฮู๊ดยุคไซเบอร์อย่างเรารึจะยอมแพ้ ใครอยากรู้วิธีแก้กลโกงของไฟแนนซ์ แบบถูกกฎหมาย เมล์ไปที่
tentitle@gmail.comที่มาครับ
http://lawthai.nireblog.com/