สมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย จัดทำการสัมมนาประชาศึกษาเรื่องสวนยาง สร้างชุมชนภาคเหนือให้แข้มแข็งได้จริงหรือ พร้อมกับทำการถ่ายทอดให้ความรู้กับกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและ จังหวัดในภายเหนือ ในการสาธิตและร่วมทดสอบการกรีดยางพารา เพื่อเป็นการสร้างและขยายเครือข่ายผู้ปลูกยางพาราและรับทราบปัญการปลูก ยางพาราในภาคเหนือเพื่อผลักดันให้รัฐบาลดำเนินการช่วยเหลืออย่างจริงจัง
นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ประธานสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ยางพาราในปัจจุบันได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในหลายด้าน จึงทำให้เกษตรกรได้หันมานิยมปลูกยางพาราเป็นจำนวนมากขึ้น โดยพบว่าในเขตพื้นที่ภาคเหนือที่มีอากาศเย็น เหมาะสมในการปลูกยางพาราเป็นอย่างมากเนื่องจากต้นยางพาราจะให้ผลผลิตจำนวน มาก โดยเฉพาะ จ.เชียงรายและ จ.พะเยา ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทำให้ต้นกล้าโตเร็ว มีน้ำยางมาก ตลอดจนมีระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ยาวนานกว่าภาคอื่น ทั้งยังเป็นพื้นที่ชายแดนที่มีเส้นทางเชื่อมโยงไปยังประเทศจีนที่เป็นแหล่ง ตลาดขนาดใหญ่
เบื้องต้นพบว่า กลุ่มเกษตรกรในภาคเหนือยังมีการปลูกกันไม่มากนักเมื่อเทียบกับปริมาณที่ดิน ที่มีอยู่ เนื่องจากส่วนใหญ่ยังมีปัญหาในเรื่องของความรู้ในการปลูกและเงินทุนในการผล ผลิต ดังนั้นการสัมนาจึงเป็นช่องทางในการให้ความรู้และรับทราบปัญหาเสนอไปยัง รัฐบาลยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ โดยเฉพาะการนำโครงการไทยแข้มแข็งมากระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการจ้างงานและสร้าง อาชีพให้กับชุมชนท้องถิ่น ซึ่งจะนำไปสู่การหมุนเวียนเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจของประเทศในระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 800,000 ล้านบาท
ส่วนทางด้านราคายางพาราที่หลายฝ่ายเกรงว่าจะตกต่ำเหมือนกับ ราคาผลิตทางการเกษตรอื่น ๆ เมื่อหากมีการปลูกกันมาก ซึ่งประเทศลาว เวียมนามและจีนเองก็มีการปลูกกันมาก สมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทยยืนยันว่าไม่น่ากังวล เนื่องจากความต้องการยางพาราในตลาดโลกมีอัตราที่สูงเกินกว่ากำลังผลิตหลาย เท่าตัว อีกทั้งต้นยางพาราสามารถนำไปผลิตเป็นเฟอนิเจอร์ส่งขายได้อีก สมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทยจึงได้มีการสนับสนุนให้เกษตรกรในภาค เหนือได้ทำการปลูกสวนยาง ควบคู่กับการทำเกษตร หรือการปลูกพืชท้องถิ่น เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้กับครอบครัวและชุมชน และเพื่อเป็นการผลักดันการต่อรองราคาตลาดด้านยางพาราของประเทศต่อไป
ที่มา
http://76.nationchannel.com/playvideo.php?id=56517