เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 29 กรกฎาคม 2025, 10:36:30
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  ข่าวล่าสุด รถไฟความเร็วสูง เชียงใหม่-กทม. เริ่มก่อน โคราช-กทม. สิ้นปีนี้
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 [2] พิมพ์
ผู้เขียน ข่าวล่าสุด รถไฟความเร็วสูง เชียงใหม่-กทม. เริ่มก่อน โคราช-กทม. สิ้นปีนี้  (อ่าน 3706 ครั้ง)
ohio888
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 782



« ตอบ #20 เมื่อ: วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2012, 14:52:36 »

เอาเงินไปทำอย่างอื่นเหอะ แกจะทำ BTS เพิ่มให้ทั่วกรุงเทพยังโอเคกว่าอีก ไปทีรัยเสียเวลากะรถเมล์ แท็กซี่ทุกที ไฟแดงสามชั่วโมง
คำตอบทำโน่นทำนี่ก่อนเถอะมาอีกแล้วจ้า
คุณทราบใหมว่างบที่ได้จากจังหวัดเข้าส่วนกลางถึง 60 %
กทม ดึงงบจากต่างจังหวัดไปมากมายมหาศาลเป็นเวลากี่ปีแล้ว
จึงมีกระแส "จังหวัดจัดการตนเอง" แต่ยังไม่ดังมากเพราะคนยังไม่เข้าใจ
BTS ก็ทำอยู่ทุกวันคุณมาดูสิ ผมว่าคนเหนือนั่งรถเมล์ก้นบานมานานมากแล้ว
IP : บันทึกการเข้า

อย่าคลั่งชาติจนมากไป
ประเทศไทยยังมีขอทาน
(อย่าโลกสวย)
หนอนน้อย
กระดื๊บ กระดื๊บ
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,399


รักในสิ่งที่ทำ แล้วอะไรก็จะดี


« ตอบ #21 เมื่อ: วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2012, 15:27:53 »

เอาเงินไปทำอย่างอื่นเหอะ แกจะทำ BTS เพิ่มให้ทั่วกรุงเทพยังโอเคกว่าอีก ไปทีรัยเสียเวลากะรถเมล์ แท็กซี่ทุกที ไฟแดงสามชั่วโมง
คำตอบทำโน่นทำนี่ก่อนเถอะมาอีกแล้วจ้า
คุณทราบใหมว่างบที่ได้จากจังหวัดเข้าส่วนกลางถึง 60 %
กทม ดึงงบจากต่างจังหวัดไปมากมายมหาศาลเป็นเวลากี่ปีแล้ว
จึงมีกระแส "จังหวัดจัดการตนเอง" แต่ยังไม่ดังมากเพราะคนยังไม่เข้าใจ
BTS ก็ทำอยู่ทุกวันคุณมาดูสิ ผมว่าคนเหนือนั่งรถเมล์ก้นบานมานานมากแล้ว
อืมๆครับ
IP : บันทึกการเข้า

Tel.087-7268139
Angellaz
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 128


« ตอบ #22 เมื่อ: วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2012, 15:37:11 »

เอารถไฟสายธรรมดาให้ดีก่อนไหม ? ...

นโยบายหลอกกาสรอีกแร่ะ
IP : บันทึกการเข้า
ohio888
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 782



« ตอบ #23 เมื่อ: วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2012, 21:11:10 »

เอารถไฟสายธรรมดาให้ดีก่อนไหม ? ...

นโยบายหลอกกาสรอีกแร่ะ

รถไฟสายธรรมดาเอมาทำไมครับ เขาจะปลดประจำการแล้ว
ได้แล้วสายหนึ่งไม่ใช่หรือ หน้าศาลากลางหลังเก่าไง
IP : บันทึกการเข้า

อย่าคลั่งชาติจนมากไป
ประเทศไทยยังมีขอทาน
(อย่าโลกสวย)
POBD
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 117


.


« ตอบ #24 เมื่อ: วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2012, 00:42:07 »

รถไฟความเร็วสูง  คิดให้ดีก่อนเจ๊ง   (สาวก อย่าเครียด)


การก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงจะต้องคิดให้รอบคอบ คุ้มค่าการลงทุนหรือไม่ ผู้โดยสารเป็นใคร มิฉะนั้น ก็จะกลายเป็นโครงการ “ก่อหนี้” เพื่อ “หาเสียง” แบบเดียวกับ ประเทศกรีซ สุดท้ายประเทศก็มีหน้ีก้อนโต จนล่มจมในที่สุด เมืองไทยวันนี้เพิ่มหนี้อีกไม่กี่แสนล้านบาท  เพดานหนี้  ก็จ่อคอหอยประเทศแล้ว



เรื่องรถไฟความเร็วสูงนี้ ผมเคยคุยกับ รัฐมนตรีชัชชาติ  ตอนที่ท่านมารับตำแหน่งใหม่ๆว่า ต้องคิดให้ดี คุ้มหรือไม่คุ้ม จะสร้างมา บรรทุกผู้โดยสาร หรือสร้างมา บรรทุกสินค้า เพราะ รถไฟความเร็วยิ่งสูง ค่าก่อสร้างก็ยิ่งแพง ทำให้ค่าโดยสารและค่าบรรทุกสินค้าแพงตามไปด้วย อาจไม่คุ้มค่าการลงทุน

ผมได้ยกตัวอย่าง รถไฟความเร็วสูงชินกันเซน ของญี่ปุ่น ซึ่งวิ่งด้วยความเร็ว 200-250 กม.ต่อชั่วโมง ค่าโดยสารแพงเท่าเครื่องบิน แต่สะดวกกว่าเครื่องบินตรงที่ขึ้นลงใจกลางเมือง ไม่ต้องเสียเวลานั่งรถไปสนามบินทีละ 2 ชั่วโมง

ดังนั้น  ผู้โดยสารที่สามารถนั่งรถไฟความเร็วสูงได้ จึงเป็นผู้โดยสารที่มีฐานะ  และนั่งเครื่องบินเป็นประจำอยู่แล้ว กับนักธุรกิจที่ต้องอาศัยความรวดเร็วในการเดินทาง ไม่ใช่ผู้โดยสารประเภทนักท่องเที่ยว หรือชาวบ้านธรรมดาทั่วไป

เหมือนอย่าง รถไฟความเร็วสูงเวียดนาม ที่ต้อง ล้มเลิกโครงการ เพราะคำนวณออกมาแล้ว ฐานะรายได้ของคนเวียดนาม ไม่มีปัญญานั่งรถไฟความเร็วสูงราคาแพงได้ สร้างเมื่อไรก็เจ๊งเมื่อนั้น มีคนรวยนั่งได้ไม่กี่คน ก็ต้องเลิกฝัน


ขนาด ประเทศจีน ที่มีเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2–3 ของโลก ประกาศอย่างอหังการจะสร้างรถไฟความเร็วสูงให้ได้ 13,000 กม. ภายในปี 2012 คือปีนี้ ปรากฏว่าสร้างได้ไม่ถึง 6,000 กม.ด้วยซ้ำ สัปดาห์ที่แล้ว  กระทรวงรถไฟจีน  ก็ประกาศ  ระงับโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงที่เหลือทั้งหมด 23 สาย  รวมทั้งรถไฟความเร็วสูง 9 สาย ที่จะเริ่มก่อสร้างในปีนี้ก็ต้องยกเลิก เพราะมีหนี้ท่วมหัว รายได้ไม่พอ ไม่มีเงินที่จะก่อสร้างอีกต่อไป

รถไฟความเร็วสูงหลายสิบสายที่จีนเปิดให้บริการไปแล้ว ก็ไม่ได้กำไรอย่างที่คิด อย่างสาย  ปักกิ่ง–เซี่ยงไฮ้ ที่ลงทุนไปนับล้านล้านบาท วันนี้ก็ขาดทุนบักโกรก ต้องลดความเร็วลงจาก 350 กม.ต่อชั่วโมง ลงมาต่ำกว่า 300 กม.ต่อชั่วโมง

ไปอ่านดูเอง

http://www.thairath.co.th/column/pol/thai_remark/241443


  สร้างเมื่อไหร่ก็เตรียมแบกรับภาระขาดทุนไปอีกอย่างน้อยๆ 30 ปีได้เลยครับ พร้อมกับหนี้สิน 2.5 แสนล้านบาทกับภาระที่ต้องแบกค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถเลี้ยงเลี้ยงตัวเองได้อีก 20 ปีเป็นอย่างน้อยๆ

ตอนนี้การรถไฟมีหนี้สินแค่ 7.5 หมื่นล้านบาท นี่เราก็ว่าหนักแล้ว แต่ถ้าสร้างทางรถไฟสายนี้ลงไป บริษัทที่บริหารงานจะเจอภาระขาดทุนก่อนเลย 2.5 แสนล้านบาท โดยมีรัฐบาลเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ให้


เอาอยู่ค่ะ

IP : บันทึกการเข้า
ohio888
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 782



« ตอบ #25 เมื่อ: วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2012, 02:17:58 »

ความปรารถนาอันแรงกล้าของภาคประชาชนในการผลักดันให้รัฐบาลก่อสร้างและดำเนินงานโครงการรถไฟความเร็วสูงไม่เป็นหมันแล้ว เพราะขณะนี้รัฐบาลกำลังเดินหน้าก่อสร้างและดำเนินงานโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-ระยอง เป็นสายแรก

            การประชุมคณะกรรมการระดับชาติคือคณะกรรมการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจไทย-จีน ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้มีมติผลักดันโครงการนี้อย่างเต็มที่

            ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่คนไทยควรได้ทำความรู้ ความเข้าใจ เรื่องรถไฟความเร็วสูงกันอีกสักครั้งหนึ่งว่าจะมีผลต่อการพัฒนาและการเปลี่ยนโฉมหน้าประเทศไทยไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้อย่างไร

            อันเรื่องรถไฟนั้นต้องขอบอกกล่าวก่อนว่ามีรถไฟอยู่ถึง 3 ประเภท และแต่ละประเภทก็มีการใช้ประโยชน์ต่างกัน

            ประเภทแรก คือรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ดังตัวอย่างรถไฟฟ้าบีทีเอสที่วิ่งรับส่งผู้โดยสารอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครในปัจจุบันนี้ และที่กำลังจะขยายต่ออีก 6 สาย ด้วยเงินลงทุนร่วม 2 ล้านล้านบาท

            ประเภทที่สอง คือรถขนส่งคนและสินค้า ดังตัวอย่างรถไฟแบบเก่าที่ประเทศไทยใช้อยู่ตั้งแต่สมัยพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 และเจริญก้าวหน้าลงมาโดยลำดับ จนกระทั่งความเร็วเหลือเพียง 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และแต่ละปีก็เกิดอุบัติเหตุนับครั้งไม่ถ้วน

            รถไฟแบบนี้ปกติต้องทำเป็นทางคู่เพื่อไม่ให้เสียเวลาในการรอสวนทางกัน และใช้เป็นหลักในการขนส่งคนและสินค้าภายในประเทศ ซึ่งพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ทรงมีพระบรมราโชบายให้รถไฟแบบนี้เป็นหลักในการคมนาคมทางบกของประเทศ

            ทว่าพระบรมราโชบายอันก้าวหน้านั้นได้ถูกนักวิชาการหัวนอกที่กลวงเปล่าเปลี่ยนแปลงไป และให้ใช้รถยนต์เป็นหลักในการคมนาคมทางบก จนเป็นผลให้ประเทศไทยเต็มไปด้วยถนนและมีรายจ่ายค่าน้ำมันรถยนต์เป็นรายจ่ายที่สูงที่สุดลำดับหนึ่งของประเทศ และทำให้คนไทยมีหนี้สินกันทั้งประเทศ

            รถไฟแบบนี้ยังคงต้องพัฒนาต่อไป แต่ยุคสมัยเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ระบบรางกว้าง 1 เมตร ที่เราใช้กันอยู่ไม่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมอีกต่อไป จะต้องปรับปรุงให้เป็นระบบรางกว้าง 1.43 เมตร เพื่อเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะสอดคล้องกับโครงการโครงข่ายคมนาคมจีน-อาเซียน ที่จะเพิ่มศักยภาพทางด้านขนส่งและการค้าให้กับประเทศไทยครั้งใหญ่

            แต่ความคิดในเรื่องนี้ยังไม่ตกผลึก ยังยักแย่ยักยัน ยังถูกตีกันจากนายทุนเงินกู้ญี่ปุ่นที่ต้องการให้ประเทศไทยดำรงความล้าหลังในเรื่องรถไฟ และเชื่อมต่อกับใครไม่ได้ แล้วจะต้องพึ่งพารถยนต์อันเป็นประโยชน์ของญี่ปุ่นต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด

            จึงเป็นหน้าที่ของชาวไทยที่ต้องทำความเข้าใจและร่วมกันแก้ไขเรื่องนี้ จึงจะบังเกิดประโยชน์สูงสุดแก่อาณาประชาราษฎรได้อย่างแท้จริง

            ประเภทที่สาม คือรถไฟความเร็วสูง ซึ่งเป็นระบบรถไฟแบบใหม่ หรือจะเรียกว่าเป็นรถไฟแห่งยุคสมัย แต่เป็นรถไฟที่ใช้สำหรับการขนส่งผู้โดยสารเป็นหลัก

            รถไฟแบบนี้วิ่งด้วยความเร็วสูงระดับ 250-350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งปัจจุบันนี้ประเทศจีนเป็นเจ้ามือรายใหญ่ของรถไฟแบบนี้ โดยเป็นไปตามแผนการพัฒนารถไฟระยะที่ 7 ของจีน ที่จะให้มีรถไฟความเร็วสูงทั่วประเทศ และยังนำร่องการพัฒนาระยะที่ 8 ให้มีความเร็วถึง 450 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

            รถไฟแบบนี้จีนได้อาศัยต้นแบบจากเทคโนโลยีของเยอรมัน ซึ่งเยอรมันไม่ประสบความสำเร็จเพราะมีต้นทุนสูง ไม่สามารถเป็นเชิงพาณิชย์ได้ ครั้นจีนและเยอรมันได้ร่วมมือกันแล้วก็ได้พัฒนาไปอีกขั้นหนึ่ง

            นั่นคือสามารถผลิตได้มาก ราคาไม่สูงเกินไป และใช้ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างดียิ่ง โดยได้ผ่านการทดลองวิ่งมาแล้วอย่างอุดมสมบูรณ์ ดังตัวอย่างรถไฟความเร็วสูงสายปักกิ่ง-เทียนสิน ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และคนไทยจำนวนหนึ่งเคยไปทดลองนั่งกันมาแล้ว

            ขณะนี้จีนกำลังขยายรถไฟแบบนี้ไปทั่วประเทศ รวมทั้งได้ไปร่วมมือพัฒนากับประเทศต่างๆ แม้แต่สหรัฐอเมริกา เพื่อพัฒนารถไฟแบบนี้ ดังนั้นในระยะ 20-50 ปีจากนี้ไป ทิศทางใหญ่ในการพัฒนารถไฟขนส่งผู้โดยสารจึงเป็นแบบรถไฟความเร็วสูงระดับ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

            เพราะถ้าจะเพิ่มความเร็วไปมากกว่านี้ก็ทำได้อย่างที่จีนได้นำร่องทดลองอยู่ นั่นคือรถไฟความเร็วสูงสายเซี่ยงไฮ้-ผู่ตง เหตุที่ต้นทุนสูงก็เพราะว่าเป็นรถไฟความเร็วสูงอีกระบบหนึ่ง ที่ใช้เทคโนโลยีแม่เหล็กเป็นหลัก หรือที่เรียกกันว่าแมคเนติกเทรน แต่จีนก็ได้ถือเป็นโครงการนำร่องในการพัฒนารถไฟระยะที่ 8 แล้ว

            ขณะนี้ประเทศไทยกำลังพัฒนากิจการรถไฟทั้งสามแบบ คือรถไฟขนส่งมวลชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และจะเริ่มขยายไปยังเมืองใหญ่ ๆ คือแบบรถไฟบีทีเอสนั่นเอง

            ส่วนรถไฟขนส่งคนและผู้โดยสารก็ได้มีการอนุมัติโครงการกันไปแล้ว ด้วยวงเงินลงทุนถึง 900,000 ล้านบาท และมีการอนุมัติตัวเงินรอบแรกไปแล้วจำนวน 18,000 ล้านบาท กำลังจ่อรอคิวขออนุมัติคณะรัฐมนตรีรอบที่สองอีก 66,000 ล้านบาท

            ส่วนรถไฟความเร็วสูงนั้น รัฐบาลกำลังเดินหน้าอย่างเต็มเหนี่ยว โดยได้กำหนดกรอบเงินลงทุนแล้วเป็นวงเงินถึง 800,000 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายที่จะก่อสร้างจำนวน 4 สาย จากกรุงเทพฯ ไปเหนือสุด ใต้สุด ไปอีสาน และภาคตะวันออก

            ก็ต้องขอบอกไว้ตรงนี้ว่า การพัฒนาสร้างรถไฟความเร็วสูงนั้นเขาไม่เริ่มต้นด้วยการก่อสร้างเส้นทางยาวเช่นนี้เลย เพราะต้องใช้ทุนและใช้เวลามาก และยังมีปัญหาเรื่องการจัดขบวนรถที่ต้องจัดขบวนรถวิ่งไป-กลับอย่างต่อเนื่องทุกระยะเวลากำหนดอันแน่นอน เช่น 10 นาทีต่อขบวน หรืออย่างช้าสุดก็ไม่เกิน 30 นาทีต่อขบวน

            ประเทศจีนเป็นประเทศใหญ่และเป็นมหาเศรษฐีลำดับสองของโลกแล้ว เขาได้ทำแบบอย่างให้เห็นมาแล้วด้วยการเริ่มรถไฟความเร็วสูงเป็นเฟสเป็นส่วนสั้น ๆ ก่อน ดังตัวอย่างสายปักกิ่ง-เทียนสิน และขยับขยายยาวขึ้นดังตัวอย่างรถไฟความเร็วสูงสายกวางโจว-หวู่ฮั่น เป็นต้น

            ประเทศไทยเราไม่ใช่ประเทศผู้ผลิตรถไฟและไม่ใช่ประเทศมหาเศรษฐีของโลก ดังนั้นจึงไม่ควรฝืนหลักธรรมชาติในการพัฒนารถไฟความเร็วสูงด้วยการเริ่มต้นก่อสร้างสายยาวทีเดียว หากพึงทำเป็นเฟสเป็นส่วนดังข้อเสนอของภาคประชาชนที่ได้เสนอต่อรัฐบาลไปแล้ว

            นั่นคือให้เริ่มเฟสส่วนแรกสายสั้น ๆ 5 สาย คือกรุงเทพฯ-โคราช กรุงเทพฯ-นครสวรรค์ กรุงเทพฯ-ระยอง กรุงเทพฯ-กาญจนบุรี และกรุงเทพฯ-หัวหิน ซึ่งถ้าดำเนินการแบบนี้ภายใน 3 ปีจากนี้ไปประเทศไทยก็จะมีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงภาคกลางและทุกภาคอย่างทั่วถึง จะพลิกโฉมหน้าพัฒนาการของประเทศไทยอย่างชัดเจนที่สุด

            การเร่งรัดพัฒนารถไฟความเร็วสูงของประเทศไทยในครั้งนี้ ด้านหนึ่งก็เพื่อตอบสนองข้อเรียกร้องของภาคประชาชนร่วมกับหอการค้าทั่วประเทศ ด้านหนึ่งก็เพื่อสนองต่อยุทธศาสตร์ในการปรับปรุงโครงข่ายคมนาคมทางบกของประเทศ เพื่อให้รองรับกับการพัฒนาภูมิภาคนี้

            แม้ว่ารัฐบาลจะเริ่มต้นโครงการด้วยการกำหนดแนวทางก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงสายยาวไปทั้ง 4 ภูมิภาค แต่โชคดีที่ไม่ทำพร้อมกันทั้ง 4 สาย โดยไปเริ่มสายแรกกรุงเทพฯ-ระยอง ซึ่งเป็นระยะสั้นๆ ก่อน

            รถไฟสายกรุงเทพฯ-ระยอง ซึ่งมีระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร จะใช้เวลาวิ่งประมาณ 1 ชั่วโมง จะบุกเบิกและขยายการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันออกของประเทศไทยครั้งใหญ่ที่สุดซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่ต้องการเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่ฝั่งทะเลไทย

            รัฐบาลระบุว่ามีศักยภาพสูงเพราะเป็นพื้นที่ลงทุนภาคอุตสาหกรรมและสามารถอำนวยประโยชน์ให้แก่ภาคการท่องเที่ยวภาคตะวันออก ซึ่งข้ออ้างเช่นนี้ก็มีความถูกต้องและสอดคล้องกับสภาพในปัจจุบัน

            ขอเพียงรถไฟความเร็วสูงสายแรกเกิดขึ้นเท่านั้น โฉมหน้าในความเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยในทุกด้านก็จะปรากฏให้เห็น เช่นสายตะวันออกนี้จะมีผลต่อการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันออกอย่างครึกโครมที่สุดเท่าที่เคยปรากฏมา

            แต่ในขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ต้องตระหนักด้วยว่าการพัฒนารถไฟความเร็วสูงนั้นต้องคำนึงถึงประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่ และต้องคำนึงถึงปัญหาด้านความมั่นคงและการเมืองในภาคสังคมด้วย

            ควรจะทำความเข้าใจพระบรมราโชบายของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ว่าทรงใช้เหตุผลประการใดจึงทรงริเริ่มสร้างรถไฟสายแรกจากกรุงเทพฯ ไปโคราช

            รถไฟสายกรุงเทพฯ-โคราช จะเชื่อมประชากรภาคอีสาน 23 ล้านคน เข้ากับภาคกลางและภาคอื่น ๆ จักอำนวยประโยชน์อย่างใหญ่หลวงแก่ประชาชนถึงครึ่งหนึ่งของประเทศ และเป็นเส้นทางสำคัญที่มีนัยยะต่อความมั่นคง การเมืองและภาคสังคมต่างๆ ด้วย

            ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่หวังว่ารถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-โคราช จะเป็นสายที่ได้รับการก่อสร้างคู่ขนานหรือถัดไปจากรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-ระยอง.



หมายเหตุ : บทความเรื่องนี้ได้ลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการรายวัน เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2553
IP : บันทึกการเข้า

อย่าคลั่งชาติจนมากไป
ประเทศไทยยังมีขอทาน
(อย่าโลกสวย)
ohio888
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 782



« ตอบ #26 เมื่อ: วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2012, 02:31:56 »

หากประเทศไทยหาเงินเป็น ความเชื่อมั่นต่างชาติมี มันจะก้าวกระโดดแบบติดจรวด
เมื่อก่อนค่าเครื่องบิน 5 พัน 6 พัน แล้วทำไมเดี๋ยวนี้ 1500
รถไฟไทยที่เจ้งทุกวันนี้เพราะไม่ค่อยมีคนนั่ง มันช้า เดี๋ยวเสียเดี๋ยวตกราง
สมัยก่อนรถลอยฟ้ารถใต้ดินมีคนคัดค้าน แล้วเขาก็สร้างสำเร็จ
แล้วตอนนี้ไครนั่ง ก็ได้นั่งกันหน้าสลอน ไม่เว้นคนรวยคนจน
สนามบินเขาก็สร้างสำเร็จ ใช้ดอกเบี้ย imf สี่ห้าแสนล้านก็ทำไปแล้ว
สายเหนือกับอีสานสำคัญที่สุด เพราะประชากรมากกว่าภาคใต้
รถทัวร์นั่งหลังแข็ง  หน้าแห้มแก้มใหม้ไปกลับ กทม.กี่ชั่วโมง
นั่งรถทัวร์เสี่ยงแค่ใหนที่จะต้องประสานงากับสิบล้อเมายาบ้า
การนั่งรถทัวร์นั้นเป็นความทรมาณที่แสนสาหัสแสนโหดร้าย
หากไม่โกงกินบ้านเมืองมาเป็นร้อยปี ป่านนี้ไทยคงเป็นญี่ปุนไปแล้ว
ถึงเวลาประชาชนชาวนาชาวบ้านได้นั่งรถไฟความเร็วสูงแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2012, 02:34:25 โดย ohio888 » IP : บันทึกการเข้า

อย่าคลั่งชาติจนมากไป
ประเทศไทยยังมีขอทาน
(อย่าโลกสวย)
ohio888
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 782



« ตอบ #27 เมื่อ: วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2012, 02:37:18 »

http://thai.cri.cn/247/2011/06/27/242s187713.htm

IP : บันทึกการเข้า

อย่าคลั่งชาติจนมากไป
ประเทศไทยยังมีขอทาน
(อย่าโลกสวย)
Angellaz
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 128


« ตอบ #28 เมื่อ: วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2012, 14:48:36 »

เอาอยู่ค่ะ

ว. 5 ค่ะ...

รถไฟคงต้องรอต่อไปค่ะ

300 บาท 15,000 ต่อเดือนยังไม่ได้นะคะ...

กระชากราคาสินค้า (ตรงไหนไม่รู้)

เยอะ...โดนหลอกมาเยอะ อันนี้เต้าข่าวให้ดีใจ ทำได้จริงก็ดี...ถ้าไม่ได้ก็ฝันต่อไป...

IP : บันทึกการเข้า
ohio888
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 782



« ตอบ #29 เมื่อ: วันที่ 02 มีนาคม 2012, 10:22:05 »

เอาอยู่ค่ะ

ว. 5 ค่ะ...

รถไฟคงต้องรอต่อไปค่ะ

300 บาท 15,000 ต่อเดือนยังไม่ได้นะคะ...

กระชากราคาสินค้า (ตรงไหนไม่รู้)

เยอะ...โดนหลอกมาเยอะ อันนี้เต้าข่าวให้ดีใจ ทำได้จริงก็ดี...ถ้าไม่ได้ก็ฝันต่อไป...



โหหลอกเก่งจัง สนามบิน รถไฟฟ้า otop ก็ได้กันแล้วไม่ใช่หรือ รอชมละกัน
IP : บันทึกการเข้า

อย่าคลั่งชาติจนมากไป
ประเทศไทยยังมีขอทาน
(อย่าโลกสวย)
pom_9963
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,742


โปรแกรมสำเร็จรูปให้เช่า Line >> itsmypoodle


« ตอบ #30 เมื่อ: วันที่ 02 มีนาคม 2012, 10:43:13 »

.. ไม่โกง ป่านนี้สร้างทางดีๆรอบโลกได้หลายขดแล้วก๊า ..
IP : บันทึกการเข้า
conan
สมาชิกลงทะเบียน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 458



« ตอบ #31 เมื่อ: วันที่ 02 มีนาคม 2012, 16:02:55 »

สู้ๆๆๆนะคนสร้างขอให้สร้างเสร็จด้วยเถิดจะได้ใช้บริการซะทีอยากนั่งมานานละ
IP : บันทึกการเข้า
์Nate4paul
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #32 เมื่อ: วันที่ 03 มีนาคม 2012, 09:38:38 »

 ตอแหล หาว่ารถไฟความเร็วสูงค่าใช้จ่ายสูง ชาวบ้านไม่มีปัญญานั่ง กูถามหน่อย แล้วIphone รถญี่ปุ่นคัน4-5แสนมันเอาปัญญาไหนไปซื้อ ความคิดสลิ่มมาก ฟังไม่ขึ้น ถ้ามันเลวร้ายขนาดนั้น ทำไมยุโรปเค้านิยมนั่งรถไฟมากกว่าเครื่องบิน ทำไมเค้าถึงสร้างทางรถไฟเชื่อมทั่วทวีปยุโรป จิงอยู่สภาพทางกายภาพบ้านเราเป็นป่าเขาค่อนข้างเยอะ แต่มันก็แค่ระยะสั้นที่จะมีค่าใช้จ่ายสูง ถ้าวางเส้นทางดี ไม่ลำบากชาวบ้านเวลาเดินทางไปสถานี คนมันก็เลือกนั่งมากกว่าแหกไปนั่งรถทัวร์ตั้งครึ่งวัน ทรมานชิบหาย นั่งเครื่องสนามบินก็ไกล ไหนจะค่าโหลด ค่าภาษีสนามบิน น้ำมัน จองล่วงหน้าก็ยาก ต้องมีบัตรเครดกเครดิต ขอร้อง อย่ามาดูถูกคนในชาติว่าไม่มีปัญญานั่ง ต้องมีฐานะร่ำรวยถึงจะมีวาสนา คนมันจะนั่งมันก็จะนั่งให้ได้ อย่า อย่าทำลายความเลือกคุณภาพชีวิตของคนไทยให้แคบตามกรอบความคิดของพวกสลิ่มอย่างคุณ คุณมันก็แค่พวกหวังดีประสงค์ร้าย อ้างนู่นอ้างนี่ ชีวิตนี้คุณจะให้มันเป็นUtopia หรือไง หัดแหกกรอบยอมรับความคิดที่แตกต่างบ้าง ชาตินี้คนไทยมันจะได้ใช้ในสิ่งที่คนชาติอื่นได้ใช้หรือเปล่า

แล้วที่บอกว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยปีๆนึงขาดทุนเป็นแสนๆล้าน แล้วเจ้าของJJ มันเป็นใคร? ขาดทุนแต่มีปัญญาเป็นเจ้าของJJ เอาเงินที่ได้จากชาวบ้านตาดำๆมาซื้อรถไฟ ทำทางใหม่ดีกว่าไหม แล้วรายได้ที่พวกคุณได้สุดท้ายมันก็เข้ารัฐบาล วนเวียนอยู่ในชาติ เข้าปากอีนักการเมืองสกปรก ข้าราชการสันหลังยาว สรุป มือไม่พาย กรุณาอย่าเท้าไปราน้ำ ขอร้อง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 03 มีนาคม 2012, 09:50:48 โดย ์Nate4paul » IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!