ปลดปล่อยผู้ตกทุกข์ อาณาจักรทวารวดี ภารกิจที่ 7

[supakorn kaewchan]

สวัสดีครับ
       วันอาสาฬหบูชา ปี 2568 ก็ครบรอบ 7 ปี กึ่งหลังพระพุทธศาสนา ของพระสมณโคดมสัมพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์ทรงดำรัสไว้ เมื่อถึงกึ่งศาสนาของท่าน ให้เปลี่ยนผ่าน เป็นสี่เสาหลัก อสูร มาร เทพ พรหม ค้ำยันกันคู่ศาสนา ในแดนสุวรรณภูมิ ผมจึงใช้จิตวิญญาณผู้ตกทุกข์ กำเนิดใหม่แบบโอปปาติกะ เริ่มต้นการสร้างบารมี ในสี่เสาหลัก
         เรื่องนี้ขอเริ่ม วันที่ 10 ก.ค 2559 เป็นวันที่ครบกำหนด การอุทิศ กุศล บารมีแก่พี่น้องทหาร สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ มีภาระหาคนเข้าพระราชวัง เป็นคนนำสาส์น เมื่อครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงพระประชวรหนัก ที่พลับพลากลางป่าเชียงใหม่ ใกล้สวรรคต ด้วยอาการไข้ ผสมกับพิษเหล็กนัยต่อหัวเสือ ที่นางเทพารักษ์แฝงกายต่อยเข้าหัวคิ้วขวาพระองค์ ตอนนั้นได้ส่งทหารนำความแจ้งมายังกรุงศรีอยุทธยา และภาพปัจจุบัน ในหลวง ร.9 ทรงพระประชวรหนักนอนในโรงพยาบาล ให้หาคนเข้าพระราชวัง เป็นผู้นำสาส์น ให้เวลามา 10 วัน เรื่องนี้จึงจนปัญญา ผมไม่รู้จักใคร จึงตัดสินใจเลือกพระใหญ่เขานาคเกิด ตำแหน่งเทพประทานพร ซื้อพระพุทธรูป ผ้าไตรจีวร ชุดขาว รูปภาพศึกยทธหัตถี ขึ้นไปถวาย หลวงพ่อก็ถาม ว่าผมทำอะไร เขาไม่ถวายอย่างนี้กัน หลวงพ่อถามชุดขาวนี้โยมให้ใคร ผมก็ว่า มีคนจะต้องใช้ แต่ผมไม่รู้จักว่าเป็นใคร ขอเป็นสิ่งแทนส่งเข้าวัง แล้วหลวงพ่อก็เล่าให้ฟัง มีอดีตผู้พิพากษาท่านมาบวชอยู่ที่นี่ วันก่อนมีคนมาจากสำนักพระราชวังมานิมนต์ให้ท่านลาสิกขา เพื่อเข้าวัง เมื่อวานท่านยังมาถามอาตมาว่า มีใครเตรียมชุดขาวให้ท่านแล้วหรือยัง ท่านมีกำหนดลาสิกขา 5 ส.ค เช้านี้ผมก็มาเลย ผมนี้สุดดีใจ จึงบอกหลวงพ่อผมขอถวายผ้าไตรจีวร กับชุดขาว พระพุทธรูปกับภาพถ่ายผมขอคืน ผมยังต้องนำไปใช้งาน
           หลังจากลงจากเขานาคเกิด ก็กลับมาที่หน้าบ้านพัก วางรูปภาพลงที่โต๊ะ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง เดินมาทัก เธอแนะนำตัว ว่า ชื่อสุดา เป็นคนจังหวัดมหาสารคาม เป็นลูกศิษย์ ครูบาอริยชาติ หรือ ครูบาน้อย วัดแสงแก้วโพธิญาณ อ.แม่สรวย เชียงราย เธอบอก เธอก็ถูกส่งมาทำภาระกิจนี้เช่นกัน สุดาเล่าที่มาให้ฟัง เธอได้นิมิตเห็นศพคนตายในทับถมกันจำนวนมากที่ทุ่งลาดหญ้า มีเธอคนเดียวที่รอดชีวิต สุดาได้นำนิมิตนี้ปรึกษากับครูบาน้อย ท่านก็แนะนำไปช่วยเขาเถอะมันเป็นบุพกรรมร่วมกันมา แล้วครูอาจารย์ของสุดา ก็แจ้งให้เธอเดินทางมาภูเก็ต มาสักการะพระใหญ่เขานาคเกิด แล้วให้มารอคนที่จะช่วยเหลือ ที่ใต้ต้นคูน หน้าบ้านเลขที่ 9/5 ซ.ตาเอียด เธอบอกมาอยู่ที่นี่เป็นเดือนแล้วไม่เห็นมีใครมา คนนั้นเขาเป็นใคร ผมนี้อมยิ้ม ส่งมาละผู้ช่วย มีเพื่อนแล้ว ก็บอกสุดาที่ทุ่งลาดหญ้า เมื่อปี 2328 สมัย ร.1 เกิดสงครามเก้าทัพ ที่ทุ่งลาดหญ้า เป็นสมรภูมิรบ แต่เธอบอกเธอมาไกลกว่านี้ 600 - 700 ปี แล้วมันเป็นสมัยใด แล้วก็มีตัวอักษร ปรากฎในอากาศ ทวารวดี สุดาก็ไม่เข้าใจความหมายในนิมิตของเธอ งั้นผมจึงขอผ่านเข้าสู่ในนิมิตของเธอ ขอให้เธอช่วยปั่นน้ำผลไม้ให้ดื่มหน่อย ปรากฎภาพนิมิตของทั้งหมดของเธอ เธอแปลกใจ ทำได้งัย ก็ทำผ่านอาโปธาตุ จากมือสัมผัสแก้วน้ำ ดื่มเข้าร่างกาย ก็อธิบาย ตามภาพ
  ทวารวดี มี 2 สิ่งหลัก คือ พระปฐมเจดีย์ และเหรียญกษาปต์
   ทวารวดี คือ ช่องผ่านประตูเมือง
   พระปฐมเจดีย์ คือ สัญลักษณ์หลัก ของทวารวดีที่เหลือ ยังคงความยิ่งใหญ่
   เหรียญกษาปต์ ศรีทวารวดี ศวรปุญญะ บุญแห่งพระผู้เป็นเจ้า คือ พุทธาภิเภกพระบรมสารีริกธาตุ
     พระราชวังคือกรุงรัตนโกสินทร์ ให้ถอดคามหมาย ฤกษ์ยาม สัญลักษณ์ กิจกรรม สถานที่ ที่มีอยู่ ก็เข้าดูกระดานชนวนโหร ของ ร.1 ที่มาและความหมาย
      ก่อตั้งราชวงศ์จักรี  6 เม.ย 2325 ทวารวดี ช่องว่างประตู  2+3 =5 ____2+5=7  ตรงกลางคือ 6 วันที่ 6 เม.ย 2560 ประตูมิติ เข้าสู่ทวารวดีจะเปิด สุดามีเวลาเตรียมตัว 9 เดือน
      วันสร้างเมือง อาทิตย์ 21 เม.ย 2325 ดวงชะตาเมือง ตั้งรอบการเปลี่ยนแปลงใหญ่ มีทั้งดีและร้าย เรียกว่า มฤตยูจร
      งูสี่ตัว เลื้อยลงหลุม ยังไม่รู้รอจบงาน ( คือ ยุคของนาคสร้างบารมี ในการเปลี่ยนผ่านกึ่งพุทธกาล )
      ความสูงเสาหลักเมือง บนดิน 108 คือ พรบารมี 108 นิ้วและ 108 วัน ฝังลงดิน 79 นิ้ว ก็เกิดเรื่องใหญ่ การเปลี่ยนอปลงใหญ่ ใน 108 วัน นับจากเริ่มทำ ให้สำเร็จ 7 อย่าง ก่อนที่ ร. 9 จะสวรรคต
     พระแก้วมรกต คือ ศูนย์กลาง
     จักร ใช้ตัดกรรม
      ตรีศูนย์ คือ ทำลายสิ่งที่ไม่ดี คงอยู่สิ่งที่ดี สร้างใหม่สิ่งที่ดีกว่า จึงเลือกใช้พระขรรค์เหล็กน้ำพี้ เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณความดีท่านพระยาพิชัย และส่วนตัวผมมีภรรยาเป็นคนอุตรดิตถ์ บ่อพระขรรค์ ผมก็เคยไปสัมผัส
      สุดาก็แปลกใจ ว่าผมเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร ตอนเด็กผมชอบอ่านประวัติศาสตร์ และ สถานที่เหล่านี้ผมเคยไปเที่ยวมา เลยจำได้
     ก็ถามสุดาว่ารู้ฤกษ์ยามแล้วจะทำอย่าง เธอก็บอกจะไปทำพิธีที่วัดจวบจันทร์ ตั้งพาน 108 อัน ผมจึงขอให้เธอตั้งพานในนิมิตให้หน่อย แล้วเธอก็ทำ แล้วก็ร้องออกมา มันเกิดแสงขึ้น ผมก็ถามแสงสีขาวนวลใช่มั๊ย เธอก็ถามว่าผมรู้ได้อย่างไร ก็อธิบาย พานตั้ง 108 สลับกัน นั้นทำเป็นจักร ใช้ตัดกรรม แสงนั้นเกิดจากพระเวทและพระธรรม รวมกัน เรียกว่าแสงกำเนิดโอปปาติกะ
          สุดาก็อยู่ที่นี่ต่ออีกสองเดือน ก็ย้ายร้านไปห้าแยกฉลอง แล้วก็หายไปขาเการติดต่อ
          หลังจากช่วยพระสุริโยทัย ก็ว่างเว้นภาระกิจหลายเดือน เหลืออีกแค่เดือนกว่าก็จะถึงฤกษ์ยาม ก็นึกถึงคำพูดของท่านเทพไททอง ที่ว่าไม่มีใครทำเรื่องนี้ได้ นอกจากผมคนเดียว กันไว้ดีกว่าแก้ ทำคู่ขนานไปกับสุดาดีกว่ากันพลาด ก็มีความสงสัยในใจ อารยธรรม และ ผู้คนสมัยทวารวดี หายไปไหน แทบไม่เหลืออะไรเลย มันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา ไปสำรวจก่อนดีกว่า จะได้เตรียมตัวถูก ก็พยายามหาทางไป ก็หาไม่เจอ จนมีโทรศัพท์ จากคุณเมธินี ทองนวม โทรมาหา ว่าผมทำอะไร มีพระแก่ๆที่ บายตักเจีย ถนนซ่อมสร้าง ริมคลองรังสิต ผมก็บอกหาทางเข้าอาณาจักรโบราณทวารวดี ที่ทุ่งลาดหญ้า ยังหาทางเข้าไม่ได้ พระท่านบอกให้ใช้ทางเทพ บูชาด้วยเครื่องหอม ใช้ธงแดงนำ แล้วผมก็ส่งรูปหลวงปู่สรวง ออยเตียรสรูล ให้ดู คุณเมย์ว่าใช่พระรูปนี้แหล่ะ
        ก็หาอยู่กิจกรรมอะไรเกี่ยวกับเทพ พิธีโล้ชิงช้า เสาชิงข้าที่กรุงเทพ ก็ไปตามที่หลวงปู่สรวงแนะนำ ดูเหตุการณ์ ผู้คนถูกฆ่าตายแบบล้างเมือง ศพกองรวมกัน มีไสยพราหมณ์ลึกลับแยกกันทำไสยเวทชั้นสูง 8 ทิศ เกิดเป็นแสงสีทองกักขังดวงวิญญาณเหล่านั้น ดวงวิญญาณเหล่านั้นครึ่งล่างสลายหายไปเหลือแต่ครึ่งบน หลวงปู่ก็ว่าขึ้นอยู่กับผมจะช่วยเขาอย่างไร แสงนั้นเรียกว่าเกราะสุริยัน สุริยันต้องแก้ด้วยจันทรา
ก็ต้องฝึกตนป้องกันตัวไว้ ครั้งที่ช่วยย่าจันย่ามุก เจอเมตตามหาเสน่ห์ขั้นวิงเวียน ช่วยพระสุริโยทัยเจอคงกระพันชาตรี ปวดทะลุเท้ายันหัว คราวนี้เจอไสยเวทชั้นสูงจะเป็นอย่างไร ประกอบชินบัญชร รวมตัว 32 อรหันต์ ทำเกราะจันทรา อาบน้ำทิพย์ ( ทำน้ำมนต์ ต้องแสงจันทร์เพ็ญ อาบตอนเที่ยงคืน )
หลังทำพิธีจะต้องมีเมฆมาบังพระจันทร์ตอนเที่ยงคืน จึงจะสำเร็จ มองในภาพหลวงปู่สรวงอุ้มบาตร
          ถึงวันที่ 6 เม.ย 2560 ก็ทำโดยไม่บอกสุดา ต้องไปที่วันทำพิธีพุทธาภิเษก 6 เม.ย 1168 ( ศรีทวารวดีศวรปุญญะ)ใช้พลังพุทธคุณพิธีนี้ช่วย แล้วก็มีคำตอบมา สกุลเก่าของผม คือ สิทธชัย เป็นหัวหน้าพิธีกรรมนี้ ต้องรอผลถึงวันที่ 18 เม.ย ปรากฎโขลงช้างเผือกเดินผ่านเข้าประตูเมือง ใช้เวลา 12 วัน จึงจะเห็นผลลัพท์ แล้วสุดาก็กลับมาภูเก็ต เธอบอกว่าไม่ได้ไปทำพิธีที่วัดจวบจันทร์ เธอกลับบ้าน ไปทำที่บ้านมหาสารคามแทน แล้วหลังจากนั้นครูอาจารย์ของเธอแจ้งให้ไปสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ที่ วาปีปทุม เข้าประตูวัดก็เจอรูปปั้นพระเจ้าสุริยะวรมันที่ 7 คำว่าทวารวดี เป็นไปตามที่ผมเคยเล่าให้เธอ ความฝันของสุดา เกิดขึ้น วันที่ 6 เม.ย 1632 เป็นวันฆ่าล้างเมืองครั้งใหญ่ผมก็บอกช่วยทำให้แล้ว พวกเขาถูกปลดปล่อยแล้ว เมื่อถึงกำหนดวันทำสัตยาอธิษฐาน ให้พวกเขาเข้าสู่สี่เสาหลัก ที่ปรากฎออกมาเป็นช้างเผือก ก็ต้องไปที่สัญลักษณ์ พระพิฆเนตร ที่วัดในหาน พระพิฆเนตรทรงราชสีห์ พวกเขาจะต้องสร้างบารมีเข้าสู่กัปป์ ที่ 5 ยุคศรีอาริยะเมตรตรัย ( ยุคราชสีห์ )