Predictive Maintenance คืออะไร? Predictive Maintenance คือ กระบวนการบำรุงรักษาเครื่องจักรโดยการทำนายความเสี่ยงที่จะเกิดการเสื่อมสภาพหรือเสียหายของเครื่องจักรก่อนที่จะเกิดปัญหาจริง โดยการใช้เทคโนโลยี AI และข้อมูลอื่น ๆ เช่น เซนเซอร์ในการวัดข้อมูลจากเครื่องจักร เช่น การสั่นสะเทือน อุณหภูมิ การไหลของน้ำมัน หรือแรงดัน เพื่อประเมินสภาพเครื่องจักรในเวลาจริง การตรวจจับความผิดปกตินี้จะช่วยให้สามารถซ่อมแซมเครื่องจักรก่อนที่ปัญหาจะเกิดขึ้นอย่างรุนแรงหรือทำให้เกิดการหยุดชะงักในกระบวนการผลิต ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักรได้ Predictive Maintenance คือ ระบบที่มีการใช้ข้อมูลจากเซนเซอร์หรืออุปกรณ์ตรวจจับอื่น ๆ เพื่อคาดการณ์และระบุปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น โดยที่ไม่ต้องรอให้เครื่องจักรหยุดทำงานหรือเสียหายก่อน ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและสามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Preventive Maintenance คืออะไร? Preventive Maintenance (PM) คือ การบำรุงรักษาเครื่องจักรตามระยะเวลาที่กำหนดล่วงหน้า เช่น การเปลี่ยนอะไหล่ หรือการตรวจเช็กสภาพเครื่องจักรในช่วงเวลาที่กำหนด โดยไม่จำเป็นต้องรอให้เครื่องจักรเสื่อมสภาพจนเกิดปัญหา ซึ่งเป็นกระบวนการที่สามารถป้องกันไม่ให้เครื่องจักรเกิดความเสียหายจากการใช้งานที่เกินขีดจำกัดหรือเกิดปัญหาที่คาดไม่ถึง การบำรุงรักษาเชิงป้องกันนี้มักจะเป็นการซ่อมแซมเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ตามตารางเวลาที่กำหนดไว้ เช่น ทุกเดือน หรือทุกไตรมาส ขึ้นอยู่กับประเภทของเครื่องจักรและความถี่ในการใช้งาน โดยมีจุดประสงค์หลักคือ เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องจักรเสื่อมสภาพจนทำให้เกิดการหยุดทำงานหรือมีการซ่อมแซมที่ไม่คาดคิด ซึ่งทำให้กระบวนการผลิตเสียหาย การบำรุงรักษาเชิงป้องกันอาจมีกระบวนการตรวจสอบที่มีการตั้งเวลาหรือกำหนดงานที่ต้องทำอยู่แล้ว ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถคาดการณ์ได้แม่นยำถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นจริง แต่ก็เป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดการหยุดชะงักของเครื่องจักรในระยะยาวได้
ความแตกต่างระหว่าง Predictive Maintenance และ Preventive Maintenance Predictive Maintenance และ Preventive Maintenance เป็นวิธีการบำรุงรักษาเครื่องจักรที่สำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักร แต่มีลักษณะการทำงานและประโยชน์ที่แตกต่างกัน ดังนี้
- วิธีการดำเนินงาน
- Predictive Maintenance ใช้เทคโนโลยีในการทำนายความเสี่ยงจากข้อมูลที่ได้จากเซนเซอร์หรือการตรวจจับสภาพเครื่องจักรอย่างต่อเนื่อง การทำนายจะช่วยให้ผู้ใช้งานรู้ว่าควรจะทำการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่เมื่อใด โดยไม่ต้องรอให้เกิดความเสียหายก่อน
- Preventive Maintenance จะทำการบำรุงรักษาตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งอาจจะไม่สอดคล้องกับความเสื่อมสภาพจริงของเครื่องจักรแต่ละตัว เพราะเป็นการตั้งระยะเวลาการบำรุงรักษาที่ตายตัว เช่น เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุก ๆ 3 เดือน - ความยืดหยุ่นในการทำงาน
- Predictive Maintenance มีความยืดหยุ่นสูง เนื่องจากการบำรุงรักษาจะดำเนินการเมื่อมีการตรวจจับสัญญาณความเสี่ยง ซึ่งทำให้ไม่ต้องทำงานบำรุงรักษาบ่อยเกินไป
- Preventive Maintenance มีความยืดหยุ่นน้อยกว่า เพราะการบำรุงรักษาจะทำตามตารางเวลาที่กำหนดไว้ โดยไม่คำนึงถึงสภาพการใช้งานจริงของเครื่องจักร - การประหยัดต้นทุน
- Predictive Maintenance ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า เพราะสามารถทำการซ่อมแซมเฉพาะเมื่อจำเป็นจริงๆ ทำให้ไม่ต้องทำการซ่อมแซมเครื่องจักรเกินความจำเป็น
- Preventive Maintenance อาจมีต้นทุนที่สูงกว่า เนื่องจากมีการทำงานบำรุงรักษาบ่อยครั้ง แม้เครื่องจักรจะยังไม่เสื่อมสภาพหรือเกิดปัญหาก็ตาม - ความแม่นยำ
- Predictive Maintenance มีความแม่นยำสูงกว่าในการคาดการณ์ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น โดยอาศัยข้อมูลจากเครื่องจักรในช่วงเวลาต่าง ๆ
- Preventive Maintenance มีความแม่นยำน้อยกว่า เพราะการบำรุงรักษาจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาหรือการใช้งานที่กำหนดไว้ โดยอาจจะไม่สัมพันธ์กับสภาพเครื่องจักรจริง ๆ - การหยุดชะงักของกระบวนการผลิต
- Predictive Maintenance ช่วยลดการหยุดชะงักในกระบวนการผลิต เพราะสามารถทำการซ่อมแซมในช่วงเวลาที่เครื่องจักรกำลังทำงานได้ หรือไม่ต้องหยุดเครื่องจักรเลย
- Preventive Maintenance อาจทำให้เกิดการหยุดชะงักของกระบวนการผลิต เนื่องจากต้องหยุดเครื่องจักรเพื่อทำการบำรุงรักษาตามเวลาที่กำหนด
สรุปความต่างและความสำคัญ และการเลือกใช้บริการ วิธีการบำรุงรักษาเครื่องจักรทั้งแบบ Predictive Maintenance และ Preventive Maintenance มีความแตกต่างและข้อดีที่ไม่เหมือนกัน การเลือกใช้ระบบที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพแวดล้อมของแต่ละธุรกิจ วิธีการแบบ Predictive Maintenance คือ ทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพและลดการหยุดชะงักของเครื่องจักร โดยใช้เทคโนโลยีที่สามารถคาดการณ์การเสื่อมสภาพของเครื่องจักรก่อนที่จะเกิดการเสียหายจริง ส่วนวิธีการแบบ Preventive Maintenance นั้นยังเป็นทางเลือกที่ดีในบางกรณี สำหรับธุรกิจที่ไม่ได้มีข้อมูลของเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ที่ละเอียดมากพอในการนำมาพยากรณ์ ซึ่งการตัดสินใจเลือกใช้ Predictive Maintenance หรือ Preventive Maintenance ขึ้นอยู่กับงบประมาณ ขนาดของธุรกิจ และลักษณะการใช้งานเครื่องจักร ซึ่งการนำเทคโนโลยี Predictive Maintenance มาประยุกต์ใช้งาน จะช่วยให้ธุรกิจมีการจัดการเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ลดการหยุดชะงักและประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาในระยะยาว โดยสามารถเลือกใช้ระบบจัดการงานซ่อมบำรุงที่เหมาะกับการทำ Preventive Maintenance และการนำข้อมูลในอดีตมาวิเคราะห์ผ่าน AI อย่างวิธี Predictive Maintenance ได้ที่ ZYCODA เรามีทีมงานและความเชี่ยวชาญมากว่า 15 ปี สามารถให้คำแนะนำและปรับระบบให้เหมาะสมกับความต้องการที่แตกต่างกันของแต่ละธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ