คำว่า "บิ๊กไบค์" อาจมีความหมายที่แตกต่างกันไปในบางที่ แต่ทั่วไปมักนิยมใช้เพื่ออธิบายมอเตอร์ไซค์ที่มีขนาดใหญ่และมีรูปลักษณ์ทรงโต ที่สำคัญที่สุดในประเทศไทยคือมอเตอร์ไซค์ที่มีขนาดใหญ่หรือใหญ่กว่ามอเตอร์ไซค์ปกติ ซึ่งมักมีความจุของเครื่องยนต์ที่ใหญ่ และมีลักษณะทรงที่ทำให้ดูมีขนาดใหญ่และทรงโต เรียกว่า "บิ๊กไบค์" เพราะมีขนาดใหญ่กว่ามอเตอร์ไซค์ปกติหรือที่เรียกว่า "มอเตอร์ไซค์เล็ก" หรือ "มอเตอร์ไซค์ประสิทธิภาพสูง" ที่มักมีขนาดเล็กกว่าและมีลักษณะทรงที่เน้นความคล่องตัวและเร็วแรงมากขึ้นบิ๊กไบค์เป็นมอเตอร์ไซค์ที่มีลักษณะทรงโตและมีรูปลักษณ์ที่ทำให้ดูมีขนาดใหญ่และทรงโต ตัวหนึ่งของมอเตอร์ไซค์ที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศ โดยเฉพาะในประเทศไทย มีหลายสไตล์ของบิ๊กไบค์ที่มีลักษณะแตกต่างกันไป แต่ละสไตล์มีลักษณะที่เหมาะสำหรับการขับขี่และการใช้งานที่แตกต่างกัน ในบทความนี้เราจะสำรวจและแนะนำลักษณะของแต่ละสไตล์ของบิ๊กไบค์พร้อมกับสไตล์ขับขี่ที่เหมาะสมกับแต่ละประการ
บิ๊กไบค์มีหลายสไตล์ของที่มีลักษณะแตกต่างกันไปได้แก่Cruiser (ครูเซอร์): มีลักษณะทรงโตและมีตัวนั่งที่สบาย มักมีล้อใหญ่ทั้งหน้าและหลัง เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวแบบสบายๆ
Touring (ทัวริ่ง): ออกแบบมาสำหรับการท่องเที่ยวไกล มีการปรับเปลี่ยนที่นั่งให้สะดวกสบายตลอดการขับขี่ทางไกล
Sport Touring (สปอร์ตทัวร์): รวมความเร็วและความสบายของทัวริ่งกับลักษณะทรงที่มีเอกลักษณ์ของบิ๊กไบค์
Naked Bike (เนคคิดไบค์): มีลักษณะทรงที่ไม่มีหน้ากากหรือกรอบครอบข้าง ทำให้เป็นมอเตอร์ไซค์ที่มีลักษณะทรงโปร่งใส
Adventure Touring (แอดเวนเจอร์ทัวร์): ออกแบบมาสำหรับการเดินทางผจญภัยทั้งในทางประสานหรือทางอุบัติเหตุ
Chopper (ช็อปเปอร์): มีลักษณะทรงที่มีทรงตัดสูง และมักมีบางส่วนที่ถูกปรับแต่งมาก
Custom Bike (คัสตัมไบค์): มีการปรับแต่งลักษณะตามความต้องการของเจ้าของ
Bobber (บอบเบอร์): มีลักษณะทรงที่ตัดสินและลดน้ำหนักมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มักมีการลดปริมาณอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นและปรับเปลี่ยนลักษณะทรงเพื่อให้ดูมีสไตล์แบบคลาสสิค
Scrambler (แสกรัมเบิร์): มีลักษณะทรงที่ผสมผสานระหว่างมอเตอร์ไซค์ทางเราและทางป่า มักมีล้อขนาดใหญ่และเครื่องยนต์ที่สามารถทำงานได้หลายสภาพถนน
Cafe Racer (คาเฟ่ เรเซอร์): มีลักษณะทรงที่เรียบง่ายและดีไซน์มาเน้นความเร็ว มักมีทรงและการตกแต่งที่ทำให้ดูทันสมัยและเป็นสไตล์แบบสปอร์ต
Electric Cruiser (อิเล็กทริก ครูเซอร์): เป็นบิ๊กไบค์ที่ใช้เครื่องยนต์ไฟฟ้า มีทรงที่ทำให้ดูเป็นคลาสสิคและสบายตามมาด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
Street Fighter (สตรีท ไฟเตอร์): มีลักษณะทรงที่มีน้ำหนักเบาและทำมาเพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่ในทางเรียบหรือทางเมือง
Dual-Sport (ดิวอล-สปอร์ต): มีความสามารถในการขับขี่ทางโดดเด่นทั้งในทางเรียบและทางอุปสรรค
Trike (ไตรค์): มีล้อสาม และมักถูกออกแบบมาให้มีความเสมือนกับรถถัง
Retro/Classic (เรโทร/คลาสสิก): มีลักษณะทรงที่เรียกคืนความคลาสสิคของมอเตอร์ไซค์ในอดีต
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณกำลังพูดถึงสไตล์ของบิ๊กไบค์ใดบ้าง แต่เส้นทางทั่วไปที่กล่าวถึงมักนิยมอยู่ในหลายประเภทที่กล่าวถึงข้างต้น
แต่ละสไตล์เหมาะกับการขับขี่แบบใดการเลือกบิ๊กไบค์ขึ้นอยู่กับการขับขี่และความต้องการของนักขับขี่เช่นกัน ต่อไปนี้คือคำแนะนำเกี่ยวกับแต่ละสไตล์ของบิ๊กไบค์และลักษณะของการขับขี่ที่เหมาะสม:
Cruiser (ครูเซอร์): ทำให้สามารถขับขี่อย่างสบายสบายและผ่อนคลายได้ เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวทางระนาบ
Touring (ทัวริ่ง): ถูกออกแบบมาเพื่อการท่องเที่ยวไกล มีความสบายและสะดวกสบายในการขับขี่ที่นาน
Sport Touring (สปอร์ตทัวร์): ความเร็วของสปอร์ตไบค์รวมกับความสะดวกสบายของบิ๊กไบค์ทัวริ่ง
Naked Bike (เนคคิดไบค์): เหมาะสำหรับการขับขี่ในทำเมือง มีความคล่องตัว
Adventure Touring (แอดเวนเจอร์ทัวร์): สามารถขับขี่ทั้งในทางประสานและทางอุบัติเหตุได้
Chopper (ช็อปเปอร์): มักนิยมสำหรับการขับขี่ที่ชันและทำท่าทาง
Bobber (บอบเบอร์): เหมาะสำหรับการขับขี่ที่มีสไตล์คลาสสิคและเร็ว
Scrambler (แสกรัมเบิร์): ใช้งานได้ทั้งในทางเมืองและทางโดดเด่น
Cafe Racer (คาเฟ่ เรเซอร์): เหมาะสำหรับการขับขี่ที่เร็วและท่าทางที่ดีไซน์
Electric Cruiser (อิเล็กทริก ครูเซอร์): เหมาะสำหรับการขับขี่ทางเมือง มีลักษณะทรงที่สบายตา
Street Fighter (สตรีท ไฟเตอร์): ทำให้สามารถขับขี่ที่เร็วและเต็มไปด้วยพลัง
Dual-Sport (ดิวอล-สปอร์ต): สามารถขับขี่ทั้งในทางเรียบและทางอุปสรรค
Trike (ไตรค์): มีความสนุกและความคล่องตัว
Retro/Classic (เรโทร/คลาสสิก): เหมาะสำหรับคนที่ต้องการบิ๊กไบค์ที่มีลักษณะคลาสสิกและดีไซน์ที่สวยงาม
การเลือกบิ๊กไบค์ที่เหมาะกับการขับขี่ขึ้นอยู่กับสไตล์ของการขับขี่ที่คุณต้องการและลักษณะทางกายภาพของคุณเอง ควรทดลองขับขี่และทดสอบบิ๊กไบค์ที่คุณสนใจก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ
สรุป: บิ๊กไบค์มีหลายสไตล์ที่แตกต่างกันตามลักษณะของการใช้งานและการขับขี่ของผู้ขับขี่ สไตล์ Cruiser เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวทางระนาบและการขับขี่อย่างผ่อนคลาย ส่วน Adventure Touring เหมาะสำหรับการเดินทางผจญภัยทั้งในทางประสานและทางอุบัติเหตุ ส่วน Sport Touring รวมความเร็วและความสบายของทัวร์ ในขณะที่ Naked Bike และ Cafe Racer เหมาะสำหรับการขับขี่ทางเมืองที่คล่องตัวและเร็ว การเลือกบิ๊กไบค์ที่เหมาะสมต้องพิจารณาถึงความต้องการและสไตล์ขับขี่ที่คุณต้องการเสมอ ทดลองขับขี่และการสอบถามคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญเมื่อต้องการค้นหาบิ๊กไบค์ที่ตรงกับคุณลักษณะและการใช้งานที่เหมาะสม
ที่มา
http://th-bigbike.com/