เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา เพจ ติดตาม จราจร หัวโปก ได้แชร์เรื่องราวของผู้ใช้เฟสบุคชื่อ Peerapong Amornpich ที่ได้เล่าเรื่องราวของพี่สะใภ้ของตัวเอง ที่ถูกหนุ่มวันรุ่ยอายุ 23 ปี ขับรถชน พร้อมด้วยอาการเมาสุราอย่างหนัก โดยผลตรวจแอลกอฮอลขึ้นไปถึง 270 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งพี่สะใภ้ของเค้า พาลูกแฝดไป รพ.โอเวอร์บรุ๊ค ที่อยู่ใกล้บ้าน ซึ่งห่างกันแค่ 2 กิโลเมตร ระหว่างทางกลับบ้าน ได้มีรถกระบะขับมาด้วยความเร็วสูง และชนเข้าที่ด้านคนขับอย่างจัง ทำให้แฝดผู้พี่อาการโคม่าอยู่ในขณะนี้ แต่จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปสอบสวนคนชน กลับบอกว่าฝ่ายพี่สะใภ้ของเค้าเป้นฝ่ายข้ามเลนมาเอง เสียอย่างงั้น ลองติดตามรายละเอียดจากโพส

เมาแล้วขับชนคนตาย ไม่ใช่ประมาท แต่คือฆาตกรรม
เราไม่ร้องขอความสงสาร ความเห็นใจ จากใครทั้งสิ้น ขอแค่อย่างเดียวคือชีวิตชดใช้ด้วยชีวิต
หากกฎหมายไม่สามารถลงโทษคนผิดได้เพียงพอ เราขอลงโทษคนผิดด้วยมือของเราเอง
หากกฎหมายลงโทษคนผิดติดคุก 1 ปี ไม่่เคยต้องโทษมาก่อน โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี
เรายินดีติดคุก 1 ปี แต่รอลงอาญา 1 ปี เพื่อให้ฆาตกรชดใช้ชีวิตด้วยชีวิตของเขาเองได้มั้ย
พุธ ที่ 7 ธันวาคม 2559 พี่สะใภ้ของผม พาลูกแฝดสองคนไป รพ.โอเวอร์บรุ๊ค ที่อยู่ใกล้บ้าน เนื่องจากอาการท้องร่วง แล้วกลับเข้าบ้านระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตรจาก รพ.
คือ แค่ขับออกจากโรงพยาบาล แล้วขึ้นสะพาน พอลงสะพานก็ถึงบ้านแล้ว
พี่สะใภ้ผมได้แง้มกระจกเล็กน้อย ขับขึ้นสะพานในเลนของตัวเอง
นาย ปวเรศ กลิ่นชด อายุ 23 ปี เมาหนักวัดแอลกอลฮอล์หลังจากเกิดเหตุได้ 270 กว่า ได้เมาแล้วขับรถยนต์ปิกอัพ ด้วยความเร็วสูง เลี้ยวข้ามเลนมาชนด้านข้างรถยนต์ตรงคนขับ ของพี่สะใภ้พร้อมลูกแฝดสองคน
กระเด็นเกือบตกสะพาน (แต่ตำรวจที่ไปสอบสวนผู้ต้องหาแจ้งว่า ผู้ต้องหาบอกว่ารถเก๋งของพี่สะใภ้ข้ามเลนมาหาเขา)
กลางคืน วันพฤหัสบดี 8 ธันวาคม, หมอถามผมว่า ถ้าแฝดผู้พี่หัวใจหยุดเต้นจะให้ทำอย่างไร ถามเผื่อไว้ก่อน
ผมตอบว่า ผมไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจในเรื่องนี้ ขอถามพี่ชาย ซึ่งเป็นพ่อของแฝดหลังจากที่เขาตื่น หลังจากที่ไม่ได้นอนเลยตั้งแต่คืนเกิดเหตุ
พี่ชายผมแจ้งว่า ให้ปั้มหัวใจให้ฟื้น เราเชื่อในปาฎิหารย์
กลางคืน วันพฤหัสบดี 8 ธันวาคม, แฝดพี่ มีอัตราการเต้นของหัวใจน้อยลง พี่ชายผมพูดด้วย และ เปิดคลิปวีดีโอที่แฝด พี่กับน้องเล่นด้วยกัน หลังจากได้ยินเสียงปรากฎว่าอัตราการเต้นของหัวใจแฝดพี่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในทันที
กลางคืน วันพุธ 7 ธันวาคม, หมอได้แจ้งว่าแฝดพี่มีเลือดออกในสมอง สมองบวม ให้เราเลือกระหว่างผ่าตัด กับ ปล่อยไป, พี่ชายผมเลือกผ่าตัด ทำดีที่สุด แม้นโอกาสจะมีน้อยเพียงใด เราก็จะสู้
เช้า วันศุกร์ 9 ธันวาคม, ต่อมไร้ท่อ ใต้สมอง ที่ควบคุมการทำงานของระบบในร่างกาย ไม่ทำงาน ทำให้ ค่าของอะไรๆ หลายอย่างในร่างกาย ไม่ปกติ ไม่สมดุลย์ หมอต้องให้หมอทางด้านฮอร์โมนมาช่วยปรับให้
ที่ – สะพานใหม่ ขัวพญาเม็งราย จ.เชียงราย