จรูญจรัสรัศมีพราวพร่างพร้อย
ตอน คนเสเพล

ชาเรียนนั่งที่เก้าอี้บาร์
ฝนเทลงมาแต่เช้า ฝนเม็ดเล็กเบาบาง ต่อเนื่องไม่ขาดสาย มองออกจากหน้าต่างบาร์ไม่เห็นอะไรนอกจากความขาวโพลนของหมอก
ชาเรียนอ้าปากหาว ฟุบหน้าหลับบนเคาน์เตอร์บาร์ เขานั่งที่บาร์มาตั้งแต่ เมื่อใดไม่มีใครรู้ ดูเหมือนไม่ว่าใครจะเดินเข้าบาร์เมื่อใด เป็นต้องพบชา เรียนที่นี่เสมอ
ชาเรียนมิใช่เจ้าของบาร์ มิใช่นักดื่มคอทองแดง แต่เขามาที่นี่ทุกวันทุกคืนเหมือนมันเป็นบ้านของเขา
ใครบางคนเคยถามเขา "ถามจริงๆ ไม่มีที่อื่นให้ไปหรือ?"
เขาเพียงยักไหล่และยิ้ม
ครั้งหนึ่งชาเรียนเคยเผลอบอกผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเคยผ่านราตรีกับเขาว่า เขามา ที่นี่เพราะเขาไม่ชอบความเหงา บาร์เหล้าเป็นสถานที่เดียวในดาวเงียบดวงนี้ ที่มีผู้คนมากที่สุด
ชาเรียนไม่ได้โกนหนวดเครามาสองอาทิตย์ เสื้อผ้าสกปรก แต่ผู้หญิงทุกคนที่นี่ ชอบเขา อาจเพราะเขาเป็นหนุ่มใหญ่หน้าตาดี หรือเพราะอัธยาศัยขี้เล่นและเคร่ง ขรึมในเวลาเดียวกัน หรือเพราะรอยยิ้มในดวงตาของเขา แต่บางทีอาจเป็น คุณสมบัติทั้งหมดรวมกัน
คนขายเหล้าว่า "ทำไมไม่หาผู้หญิงสักคนไปนอนด้วย อาจทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นก็ ได้ ผู้หญิงทุกคนที่นี่ชอบคนเสเพลอย่างคุณทั้งนั้น ผมยังอิจฉาเลย"
เขาสั่นศีรษะ
"ไม่งั้นก็ขับยานออกไปเที่ยวเล่นสักสองสามปีแสง อาจจะทำให้เลือดลมพลุ่งพล่านขึ้นก็ได้ แทนที่จะนั่งซึมอยู่อย่างนีี้"
เขายักไหล่
"คุณสรุปได้อย่างไรว่าผมซึม?"
หรือว่าจริงอย่างที่คนขายเหล้าตั้งข้อสังเกต?
ปัญหาไม่ใช่การหาผู้หญิงสักคนไปนอนด้วย ความสัมพันธ์กับสตรีไม่เคยสามารถลบ ความเหงาของเขาได้ อย่างน้อยเขาก็เคยลองมาแล้ว ใครบางคนบอกว่าเลือดผจญภัย ของเขาเข้มข้นเกินกว่าที่จะตั้งหลักในดาวเคราะห์ดวงใดดวงหนึ่งนานกว่าสอง สัปดาห์
เขาอยู่ที่นี่มานานกว่าสองปีแล้ว
ชาเรียนนั่งหลับที่เก้าอี้บาร์
ฝนยังปรอยลงมา ฝนเม็ดเล็กเบาบาง ต่อเนื่องไม่ขาดสาย กลางม่านฝนคนขายเหล้า เห็นเงาร่างหนึ่งเดินตรงมายังบาร์ เปิดประตู ย่างก้าวตรงไปนั่งที่ข้างกายชา เรียน
"เรามีงานให้คุณ" เสียงลูกค้าแปลกหน้าเอ่ยขึ้นแผ่วเบา
ชาเรียนเงยหน้าขึ้นช้าๆ อ้าปากหาว โดยไม่มองผู้เอ่ยประโยคนั้น พูดทั้งที่ยังหลับตา
"งานอะไร?"
"งานที่คุณถนัด"
ชาเรียนหันไปมองคนพูดเป็นครั้งแรก คนที่นั่งข้างเขาเป็นหญิงสาว...
"ผมถนัดแต่การทำลาย"
...หญิงสาวสวยมากคนหนึ่ง
"เรารู้"
"ใครคือ เรา ?"
"อย่าเพิ่งรู้เลยว่าเราเป็นใคร หากคุณสนใจฉันจะบอกทีหลัง นี่เป็นงานที่น่าตื่นเต้นท้าทายคนอย่างคุณ"
"คุณรู้หรือว่าผมเป็นคนอย่างไร?"
"ชาเรียน วาคี นักบินที่ดีที่สุดของกองทัพ ผู้ผ่านสงครามมาอย่างโชกโชน"
"อดีตนักบินต่างหาก ผมถูกปลดมานานแล้ว อีกอย่างคุณเข้าใจผิดอย่างมาก ผมไม่สนใจเรื่องความท้าทาย ผมสนใจแต่เงิน"
สตรีแปลกหน้ายิ้ม "ฉันยังพูดไม่จบเลย งานนี้จ่ายงามมาก"
"มากแค่ไหน?"
"มากพอที่จะทำให้คุณเกษียณไปได้เลย"
"อา! คุณเริ่มพูดภาษาของผมแล้ว งานอะไร?"
"เราต้องการให้คุณไปทำลายดาวดวงหนึ่ง"
"ดาวแบบไหน?"
"ดาวเคราะห์ร้าง ไม่มีสิ่งมีชีวิตและทรัพยากรธรรมชาติใดๆ การทำลายนี้จะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบนิเวศของดาราจักร"
"แล้วทำไมถึงต้องทำลาย?"
"มันมีวิถีโคจรที่อาจก่ออันตรายกับดาวเคราะห์อีกดวงหนึ่ง ดาวที่เราใช้ทำเหมือง"
"ตกลง"
"งั้นเรามาว่ารายละเอียดกัน"
"ไปบรีฟงานที่ห้องของผมดีกว่่านะจ๊ะ น้องสาว"
หล่อนเดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย
ฝนยังปรอยลงมา ทั้งสองเดินฝ่าฝนไปยังห้องพักขนาดเล็กของชาเรียน
"คุณอยู่ที่นี่รึ?"
เขายิ้มด้วยสายตา "ใช่ ผมอยู่ในรูหนูนี้"
"ไม่น่าเชื่อ สำหรับชีวิตของนักบินอวกาศมือดีแห่งกองทัพ"
"อดีตนักบิน"
"ชีวิตคนเราย่อมมีขึ้นมีลง"
"ผมอาจคิดต่างจากคุณ ผมคิดว่าตอนนี้เป็นช่วงขาขึ้นของผมนะ"
"เป็นขาขึ้นแน่ หากคุณรับงานนี้"
"พวกคุณรู้เรื่องของผมดี ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถตามผมเจอที่ดาวเล็กๆ ดวงนี้"
ชาเรียนเดินไปที่โต๊ะมุมห้อง "คุณจะดื่มอะไรสักหน่อยไหม?"
"ขอบคุณ แต่ไม่ค่ะ"
ชาเรียนยกถ้วยเครื่องดื่มสีน้ำเงินขุ่นขึ้นมาจิบช้าๆ "ให้รายละเอียดของงานนี้มา อ้อ! ก่อนอื่่น คุณ..."
"ฉันชื่อ ไลรา ฉันมาจากเหมืองเพชรคีรอน"
"เหมืองเพชรที่ใหญ่ที่สุดในดาราจักรนี้ ท่าทางงานนี้จะจ่ายงามอย่างที่คุณบอกจริงๆ"
หญิงสาวหมุนวงโลหะที่ข้อมือ ภาพสามมิติปรากฏเบื้องหน้าพวกเขา ชัดเจนเหมือนจริง
"นี่คือ ซีตา 712 ดาวเคราะห์ในระบบดาวซีตา ห่างจากที่นี่ยี่สิบสองปี แสง เส้นผ่าศูนย์กลาง 162,252 กิโลเมตร มันเคยเป็นดาวเคราะห์ที่โคจรรอบดาว ซีตา แต่เมื่อดวงอาทิตย์ของมันดับ ทิศทางการโคจรของมันก็เปลี่ยนไป มันกลาย เป็นซากดาวที่เดินทางอย่างอิสระ หมุนรอบตัวเองใน เวลา 14 ชั่วโมง 28 นาที นักดาราศาสตร์ที่หอดูดาวของเราค้นพบว่า ซี ตา 712 วิ่งตรงเข้าหาดาวเอรากอน หนึ่งในดาวเคราะห์ที่เราใช้ทำเหมืองเพชร ที นี้รู้แล้วใช่ไหมว่า ทำไมเราต้องทำลายดาวดวงนี้"
"มันจะชนเอรากอนเมื่อไร?"
"อีก 12 ปี 4 เดือน"
"ยังอีกนาน ทำไมต้องรีบร้อนทำตอนนี้?"
"เราไม่เคยทำงานแบบไฟลนก้น เราวางแผนงานล่วงหน้าเป็นศตวรรษ"
ชาเรียนยิ้ม "มิน่าเล่า คีรอนจึงเป็นบริษัทผลิตเพชรที่ใหญ่ที่สุด คำถามคือ ทำไมไม่ใช้บริการของหน่วยกำจัดอุกกาบาต? พวกนั้นมีเครื่องมือดีกว่าของผม มาก ทำไมต้องเป็นผม?"
"ด้วยข้อขัดแย้งทางการเมืองบางประการ เราไม่ชอบติดต่อกับหน่วยงานของรัฐ อีกประการหนึ่งเราไม่ต้องการให้เรื่องนี้เป็นข่าวออกไป..."
"เพราะ?"
"มันอาจกระทบต่อราคาเพชรในตลาดของเรา"
"ค่าจ้างเท่าไร?"
"สี่แสนหน่วย"
"แปดแสนหน่วย ค่าระเบิดต่างหาก"
"แต่..."
"ถ้าคุณถามอีกคำ ค่าจ้างจะเพิ่มเป็นสามเท่า"
"ตกลง เริ่มได้เมื่อไร?"
"ยานบินของผมพร้อมแล้ว"
ยานบินของชาเรียนยัังห่างจากคำว่า 'พร้อม' นัก เขาต้องซ่อมยานอีกนานถึง ยี่สิบชั่วโมง เมื่อเสร็จแล้วเขาบอกว่า "ผมต้องแวะไปเอาหัวระเบิดก่อน"
"หัวระเบิดอะไร?"
"คุณจะรู้ไปทำไม?"
"ฉันต้องรู้ก่อนว่า ระเบิดของคุณมีอานุภาพพอทำลายดาวดวงนั้นได้หรือไม่"
ชาเรียนหัวเราะ "ระเบิดของผม ไฮโดรเจน 330 ถูกออกแบบมาเพื่อทำลายดาวโดยเฉพาะ"
"ดี แล้วเราจะบินได้เมื่อไร?"
"ใจเย็นๆ คนสวย เรายังมีเวลาอีก 12 ปี 4 เดือน..." เขาหยุดหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าของหล่อน "...อีกสามชั่วโมง"
"ฉันจะรอ"
"คิดเสียว่ายานลำนี้เป็นบ้านของคุณ อาหารทัั้งหมดอยู่ในตู้ ผมเตรีียมเสบียง มามากพอให้เราอยู่ด้วยกันได้เป็นปี เผื่อว่าระหว่างทางคุณเกิดอยากแต่งงาน กับผม เราจะได้ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์เลย ไม่ต้องเสียเวลา"
"มีคนบอกฉันก่อนมาหาคุณว่า คุณเป็นคนเสเพล"
"แล้วจริงไหม?"
"ไม่น่าถามเลย"
ยานบินทะยานขึ้นฟ้าในที่สุด ยานบินดำสนิท ฟ้านอกยานดำสนิท
อีกครั้งเขากำลังจิบเครื่องดื่มสีน้ำเงินขุ่น
"สักหน่อยไหม?"
"ขอบคุณ แต่ฉันไม่ดื่มค่ะ"
"ไม่ต้องกลัว ผมไม่วางยาปล้ำคุณหรอก"
หล่อนยิ้มตอบ "ก็ทำไมไม่ลองดูล่ะ?"
เขาสำลักเครื่องดื่ม หัวเราะ "ใครเป็นคนตั้งชื่อคุณ?"
"ฉันไม่ทราบ ฉันไม่มีพ่อแม่ โตมาในโรงเลี้ยงเด็กกำพร้า"
"ไลรา ชื่อกลุ่มดาวพิณของออร์เฟียส"
ไลราเลิกคิ้ว เหลือบมองเขา "ออร์เฟียส?"
"ชื่อคนในตำนานกรีกโบราณ"
"คุณอ่านเรื่องกรีกโบราณด้วยรึ? ตำนานพวกนั้นมีอายุร่วมหมื่นปี"
"สองปีนี้ผมว่างมาก จึงอ่านนิยายปรัมปราฆ่าเวลา"
"ตำนานเรื่องนี้เป็นอย่างไร?"
"ออร์เฟียสเป็นนักเล่นพิณฝีมือดี เขามีภรรยาคนหนึ่งที่เขารักมากชื่อว่า ยู ริดีซ วันหนึ่งออร์เฟียสได้รับพิณมาจากเทพอพอลโล เสียงพิณของเขามีมนต์สะกด สรรพสัตว์ วันหนึ่งยูริดีซตายจากไป เขาไม่ยอมรับความจริง ออร์เฟียสตามลงไป หาเธอในโลกใต้ดินเพื่อช่วยเธอคืนมา เขาอ้อนวอนให้เหล่าเทพเจ้าปลดปล่อย เธอ พวกเทพตกลงโดยมีข้อแม้อย่างหนึ่ง..."
หล่อนมองตาเขา "ข้อแม้คือ ออร์เฟียสจะต้องไม่มองเธอเลยตลอดการเดินทางกลับ โลก อย่างไรก็ตามเมื่อใกล้จะพ้นโลกใต้ดิน เขาอดใจไม่ไหว เหลือบมองยูริดี ซเพียงแวบเดียว และเธอก็จากไปตลอดกาล เมื่อออร์เฟียสตาย เขากลายเป็นดาว เทพ ซูสก็วางพิณของออร์เฟียสกลับคืนบนฟ้า เป็นที่มาของชื่อ ไลรา"
"ผู้ชายมักไม่อดทน"
"ความรักทำให้ผู้ชายไม่อดทนต่างหาก"
"ท่าทางคุณเชี่ยวชาญเรื่องรัก"
"หากผมเชี่ยวชาญเรื่องรัก ผมคงแต่งงานไปนานแล้ว ผมไม่ใช่ผู้ชายประเภทที่ ผู้หญิงอยากอยู่ด้วยตลอดทั้งชีวิต ความสัมพันธ์ของผมกับผู้หญิงทุกคนจบลง ด้วยการเลิกราเสมอ"
"คุณรู้เรื่องดาวดี"
"แต่ผมกลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ ซีตา 712 เลย"
"คุณไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น ฉันจะนำทางคุณไปที่นั่นเอง หน้าที่ของคุณคือจัดการระเบิดมันเสีย"
นอกยานบินยังมืดสนิท ดูไม่ออกว่ายานบินกำลังเคลื่อนที่อยู่หรือหยุดนิ่ง แต่ข้อมูลที่แผงควบคุมบอกว่า พวกเขาเดินทางไปกว่าครึ่งทางแล้ว
อีกครั้งเขาดื่มของเหลวสีน้ำเงินขุ่น สายตามองออกไปนอกหน้าต่างบานเดียวของยาน
"คุณดูอะไร?" หล่อนถามเขา
"ดาวของคุณ"
"อะไร?"
ชาเรียนชี้มือออกไป "นั่นคือ วีกา ดาวที่เด่นที่สุดในกลุ่มดาวไลรา ในสมัย โบราณชาวโลกต้นกำเนิดเรียกมันว่า ดาวเหนือ พวกมนุษย์ยุคนั้นใช้มันเป็นดาวนำ ทาง"
"นำทางอย่างไร?"
"ดาวเหนือเป็นจุดเดียวบนท้องฟ้าที่ไม่เคลื่อนที่เลยนับหมื่นๆ ปี พวกมนุษย์โบราณจึงใช้มันเป็นจุดพิกัดในการเดินเรือไปสู่โลกใหม่"
"โลกใหม่?"
"โลกใหม่ก็คือทวีปใหม่ แผ่นดินใหม่ พวกเขาเชื่อมอารยธรรมกันด้วยการเดินเรือ เริ่มต้นจากการค้าขาย"
หล่อนยิ้ม "แต่ครั้งนี้ฉันกลับนำทางคุณไปสู่โลกใหม่เพื่อการทำลาย"
"การทำลายเพื่อช่วยชีวิตคนไม่นับว่าเป็นการทำลาย อย่างน้อยมันก็ไม่ใช่การทำลายแบบที่ผมเคยผ่านมา"
"คุณหมายถึงสงครามที่คุณผ่านมา..."
เขาฝืนยิ้ม "ผมไม่อยากคุยเรื่องนี้"
"แต่คุณก็พ้นจากชีวิตทหารแล้วนี่"
"ผมยังฝันร้ายถึงมันเสมอ"
"ทำไมคุณถึงถูกไล่ออกจากกองทัพ?"
"คุณถามทำไม ในเมื่อคุณมีข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับผมแล้ว?"
"เรามี แต่ฉันไม่อยากเชื่อข้อมูลบางอย่าง"
"อย่างเช่น?"
"ตามประวัติของคุณ คุณผ่านสงครามแนวหน้าต่อสู้กับพวกซีดามานานแปดปี จน กระทั่งถูกปลดเพราะคุณขัดคำสั่งของผู้บังคับบัญชา คุณถูกจับขึ้นศาล ทหาร เข้าคุกนานสามปี หลังจากนั้นคุณก็มาเป็นนักบินอิสระ"
"และอาศัยในรูหนูในดาวดวงเล็กๆ ที่ฝนตกเกือบตลอดเวลา"
"ความจริงฉันรู้มามากกว่านั้น ในสงครามครั้งนั้น ทหารหน่วยหนึึ่งถูกข้าศึก ล้อม พวกเขาตายไปทีละคน จนเหลือทหารนายสุดท้าย เขาต้องตายแน่หากไม่มีการ สนับสนุนทางอากาศ เขาถูกปล่อยเกาะเพราะกองทัพปฏิเสธที่จะส่่งกองทหารไปช่วย เขา แต่ในนาทีสุดท้ายมียานรบลำหนึ่งขัดคำสั่งผู้บัญชาการ บินฝ่าไปช่วยทหาร นายนั้นออกมาได้ ยานถูกทำลายแต่นักบินก็สามารถพาทหารนายนั้นกลับมายังฐาน ได้ เมื่อกลับถึงฐาน ทหารนายนั้นเสียชีวิตในเวลาต่อมา นักบินคนนั้นไม่ได้ รับการต้อนรับอย่างวีรบุรุษ ตรงกันข้าม เขาถูกส่งเข้าคุก โทษฐานขัดคำสั่ง ผู้บัญชาการ นักบินคนนั้นก็คือคุณ"
"ผมชักกลัวคุณแล้ว คุณเจาะข้อมูลลึกๆ อย่างนี้มาได้อย่างไร?"
"ทำไมคุณเสี่ยงชีวิตอย่างนั้น ทั้งๆ ที่รู้ว่าช่วยทหารคนนั้นไปแล้วก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด?"
ชาเรียนยิ้ม "คุณรู้เรื่องนี้ไหม สงครามระหว่างมนุษย์กับพวกซีดากินเวลานาน เกินไป เสียชีวิตมนุษย์มากเกินไป รัฐบาลจึงหันไปพัฒนาแอนดรอยด์ขึ้นมาเป็น การใหญ่ เพื่อที่จะใช้เป็นเครื่องมือทำสงคราม แอนดรอยด์รุ่นที่เจ็ดที่กอง ทัพพัฒนามีความสามารถพิเศษหลายอย่าง สร้างมาเพื่อการต่อสู้โดยเฉพาะ แข็ง แรงกว่ามนุษย์ คุณรู้ไหมว่าทำไมพวกเขาจึงใช้แอนดรอยด์ทำสงคราม?"
"ไม่รู้ค่ะ"
"เพราะแอนดรอยด์ถูกทำลายได้โดยไม่มีข้อวิพากษ์เรื่องมนุษยธรรม พวกเราไม่เคย ถือว่าแอนดรอยด์เป็นมนุษย์มาแต่ไหนแต่ไร การเสียชีวิตของนายทหารแอนดรอยด์ ไม่เกิดกระแสวิพากษ์รัฐ เพราะแอนดรอยด์มีศักดิ์ศรีเป็นเพียงเครื่องมือชนิด หนึ่ง ไม่ใช่ชีวิต"
"แล้วเรื่องแอนดรอยด์เกี่ยวอะไรกับเรื่องการถูกลงโทษของคุณด้วย?"
"ทหารคนนั้นก็คือแอนดรอยด์"
หล่อนเงียบไปครู่ใหญ่ "แต่คุณถือว่าแอนดรอยด์เป็นคน?"
"แอนดรอยด์มีเลือดเนื้อ ชีวิต จิตใจเช่นเดียวกับคน ผมมองไม่เห็นว่าเราต่าง กันตรงไหน นอกจากความสามารถบางอย่าง แอนดรอยด์ตั้งแต่รุ่นที่เจ็็ดเป็นต้นมา ไม่ต้องกินอาหาร ทำงานได้นานหลายสิบปีโดยไม่ต้องเติมพลังงานใหม่"
"คุณเป็นคนเสเพลก็จริง แต่ก็มากน้ำใจ"
เขาจ้องหน้าหล่อนยิ้มๆ "แล้วมากพอที่จะรักผมหรือเปล่า?"
หล่อนหัวเราะ "ตอนนี้ฉันเชื่อแล้วว่าคุณเป็นคนขวานผ่าซากจริงๆ แต่ฉันชอบคุณ"
"ผมว่าเรากลับไปทำงานดีกว่า ก่อนที่อะไรจะเลยเถิดไปกว่านี้"
หล่อนหัวเราะเสียงดัง เดินตามเขาไปที่หน้าจอ
"คุณกำลังจะทำอะไร?"
เขามองตารางบนจอ "ผมอยากอ่านค่าวิเคราะห์คุณสมบัติทางกายภาพของ ซีตา 712 ก่อน"
"ยานลำนี้บินได้ด้วยตัวมันเองใช่ไหม?"
"ใช่"
หล่อนเคลื่อนร่างเข้าหาเขา
"คุณจะทำอะไร?"
หล่อนจูบเขาอย่างแผ่วเบา "คุณอยากจะวิเคราะห์ คุณสมบัติทางกายภาพ ของดาว ซีตา 712 หรือว่าดาวไลราดีคะ?"
ร่างเปลือยเปล่าของหล่อนนอนข้างกายเขา
"คุณสวยมาก สวยราวเทพธิดา สมส่วน ไม่มีตำหนิเลยสักจุดเดียว"
"คุณพูดกับผู้หญิงทุกคนอย่างนี้หรือเปล่า?"
"ผมเป็นคนเสเพลก็จริง แต่ผมไม่โกหกใคร"
เขาลูบแผ่นหลังของหล่อน "ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าทำไมออร์เฟียสอดใจไม่ไหว ที่เหลือบมองยูริดีซก่อนพ้นโลกใต้ดิน"
"ทำไมคะ?"
"นางสวยเกินไป"
"เรากำลังอยู่ใน โลกใต้ดิน หรือ?"
เขายิ้ม "น่าจะใช่ ในเมื่อนอกยานมีแต่ความมืดมิด จะมีอะไรดีกว่าการยลโฉมนางที่รัก"
"คุณไม่เหมือนผู้ชายสักคนที่ฉันเคยรู้จัก"
"คุณก็ไม่เหมือนผู้หญิงทุกคนที่ผมรู้จัก"
"ไม่เหมือนอย่างไรคะ?"
"คุณไม่สวมเครื่องประดับเลยสักชิ้น"
"คุณเป็นคนช่างสังเกต ฉันไม่ชอบเพชรพลอย"
"มิน่า เหมืองเพชรนั่นจึงจ้างคุณ"
ทั้งสองหัวเราะ เขาเอ่ย "แปลก... ผู้หญิงทั้งดาราจักรรักเพชรพลอยมาตั้งแต่วันแรกของอารยธรรมมนุษย์"
หล่อนมองไปที่กลุ่มดาวไลรา
เขาเอ่ยแผ่วเบา "ดาวพวกนั้นเหมือนเพชรที่กะพริบระยิบระยับบนร่างของหญิงสาว"
"ฉันเชื่อว่าคุณคงคุ้นเคยกับการซื้อเพชรให้หญิงสาวของคุณ"
"ผมยังเป็นคนหัวโบราณ ผมชอบให้ดอกไม้มากกว่า"
"ผู้หญิงส่วนใหญ่จึงชอบคุณใช่ไหม?"
"ใช่"
หล่อนหัวเราะ "คุณไม่มีความถ่อมตัวบ้างเลยนะ"
"ความจริงอีกอย่างคือ ผมซื้อเพชรไม่ไหว ราคาของมันสูงขึ้นทุกวัน มนุษย์ขยาย เผ่าพันธุ์มากขึ้น กระจายไปเกือบทั่วดาราจักร แต่แหล่งเพชรกลับน้อยลง บาง โลกต้องขุดหินถึงสองสามร้อยตันเพื่อที่จะได้เพชรมาเพียงกะรัตเดียว"
เขาถอนใจ "ไม่ว่าเทคโนโลยีสูงขึ้นแค่ไหน ผู้หญิงทั้งดาราจักรก็ยังคงรัก เครื่องประดับเช่นคนโบราณ เหมืองคีรอนจึงเป็นบริษัทเพชรที่รวยที่่สุด"
"แต่พวกเขาก็มีทางเลือกที่จะใช้เพชรสังเคราะห์นี่คะ"
"แต่ความรู้สึกมันไม่เหมือนของจริง"
เขาจ้องตาหล่อน "ทำไมคุณไม่ชอบเครื่องประดับเพชรพลอย?"
หล่อนยิ้ม "คุณค่าของวัตถุอยู่ที่จิตใจ หากคิดว่าหินก้อนหนึ่งมีค่า มันก็มีค่า"
หล่อนลุกขึ้นแต่งตัว "เราถึง ซีตา 712 แล้ว"
ชาเรียนชี้ไปที่จุดหนึ่งของเป้าหมาย
"ผมจะบินลงไปตรงจุดนี้ จุดเดียวตรงเส้นศูนย์สูตรของดาวที่มีช่องเขาลึกลงไปถึงสองร้อยกิโลเมตร นี่เป็นตำแหน่งที่ผมจะวางระเบิด"
"แล้วมันจะแรงพอทำลายดาวทั้งดวงหรือ?"
"ไฮโดรเจน 330 เป็นระเบิดชนิดเดียวที่กองทัพออกแบบมาให้ระเบิดดาวโดยตรง ผม เคยระเบิดดาวของพวกซีดามาก่อน มันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง"
"คุณไปเอาไฮโดรเจน 330 มาจากไหน? มันเป็นสมบัติของกองทัพมิใช่หรือ?"
ชาเรียนยิ้ม "กองทัพขโมยเวลาของผมไปสามปี ผมขอคืนแค่ระเบิดลูก เดียว ไฮโดรเจน 330 นี่เป็นลูกสุดท้าย ผมเคยนำไปใช้ในสงครามกับพวกซีดา แต่ ยังไม่ทันได้ใช้ ดาวดวงนั้นระเบิดก่อนด้วยฝีมือของพวกมันเอง ความจริงผมจะ คืนมันให้กองทัพ แต่หลังจากที่พวกนั้นทำกับผมอย่างไม่เป็นธรรม ผมจึงฮุบมัน ไว้เอง"
"เราจะจุดระเบิดเมื่อไร?"
"เมื่อผมหย่อนระเบิดลงไปในช่องเขา และกลับมายังยานแม่เรียบร้อยแล้ว"
"สมมุติว่าคุณวางระเบิดแล้ว และเกิดอุบัติเหตุ เสียชีวิต..."
"คุณรอบคอบมาก..."
เขาถอนใจ "...หากผมตายไป คุณจุดระเบิดด้วยเครื่องบังคับนี้..."
เขาจ้องตาหล่อน "...รหัสคือ ยูริดีซ"
"ฉันเป็นคนชอบวางแผนล่วงหน้าอย่างนี้เอง คุณคงไม่ถือสา ฉันจะรอคุณกลับมาค่ะ"
เขาจูบแก้มหล่อนแผ่วเบา "อีกสิบสามชั่วโมงค่อยพบกัน"
แล้วชาเรียนก็บังคับยานลำเล็ก ลอยตัวแยกออกไปจากยานแม่ มุ่งหน้าลงไปที่ดาว ซีตา 712
หกชั่วโมงถัดมาเสียงของชาเรียนดังมาตามคลื่นวิทยุ "ผมถึงช่องเขาแล้ว กำลังจะหย่อนระเบิดลงไป"
ผ่านไปอีกครู่ใหญ่ เครื่องควบคุมในยานแม่รายงานว่า การหย่อน ไฮโดรเจน 330 ลูกนั้นสำเร็จลุล่วงด้วยดี เสียงของชาเรียนดังตามสายมาอีก ครั้ง "ทุกอย่างเรียบร้อย ผมจะกลับถึงยานแม่ในอีกห้าชั่วโมง"
"ฉันจะรอคุณค่ะ"
ไลรามองแผงควบคุม ยิ้มขณะใส่รหัส ยูริดีซ เข้าไป แสงไฟบนแผงกะพริบ ถี่ๆ เป็นสัญญาณว่าไฮโดรเจน 330 ทำงานแล้ว หล่อนพึมพำ "ลาก่อน ชาเรียน"
พลันยานแม่สั่นสะเทือนเบาๆ ตำแหน่งพิกัดของยานบ่งว่าตัวยานกำลังตกลงสู่ ซีตา 712 อย่างรวดเร็ว
เสียงสื่อสารทางคลื่นวิทยุดังขึ้น เสียงของชาเรียน
"ทำไมคุณถึงคิดฆ่าผม?"
น้ำเสียงของหล่อนเยือกเย็น "ฉันคิดฆ่าคุณ?"
"คุณจุดระเบิดโดยที่ผมยังไม่กลับขึ้นยานแม่"
"ฉันได้รับคำสั่งให้ทำเช่นนั้น"
"ความสัมพันธ์ของเราไม่มีความหมายอะไรต่อคุณเลยหรือ?"
หล่อนเงียบไป
เขาหัวเราะแผ่วเบา "ถึงคุณใจร้ายกับผม แต่ผมก็ไม่ทำอะไรคุณ ผมเพียงตั้ง โปรแกรมให้ยานแม่ร่อนลงจอดบน ซีตา 712 ไม่ต้องห่วง มันสามารถพาคุณไปลงข้าง ล่างได้อย่างปลอดภัย ความจริงผมจะไม่ทำอย่างนี้ หากคุณไม่คิดกำจัดผมไปพร้อม กับ ซีตา 712"
"ฉันอยู่ที่ดาวดวงนี้โดยไม่มีอาหารไม่ได้ ฉันคงตายในเวลาไม่กี่วัน"
ชาเรียนหัวเราะ "คุณไม่มีปัญหาอะไรหรอก คุณไม่ต้องการอาหารสักหน่อย"
"หมายความว่ายังไง?"
"ไลรา อย่าหลอกผมอีกเลย คุณเป็นแอนดรอยด์"
คลื่นวิทยุหยุดไปครู่หนึ่ง
"คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันเป็นแอนดรอยด์?"
"หลายข้อ ข้อหนึ่งแอนดรอยด์ผู้หญิงส่วนใหญ่มีรูปร่างที่ไร้ตำหนิ"
"ข้อสอง?"
"มีผู้หญิงประเภทเดียวที่ไม่สนใจในเครื่องประดับอย่างมนุษย์ทั่วไป คือพวกแอนดรอยด์"
"ข้อสาม?"
"แอนดรอยด์รุ่นที่เจ็ดเป็นต้นมามีความสามารถพิเศษหลายอย่าง ไม่ต้องกิน อาหาร ไม่ต้องนอน ตลอดหลายวันนี้คุณไม่ดื่มกินอะไรเลย อาหารที่ผมเตรียมให้ คุณไม่เคยพร่อง และจนถึงวันนี้คุณก็ยังไม่เคยนอน"
"ฉันก็นอนหลับข้างกายคุณทั้งคืน"
"คุณนอนแต่ไม่หลับ"
"คุณรู้ได้อย่างไร... ในความมืดอย่างนั้น..."
"ผมเป็นคนเสเพล ผมฟังเสียงหายใจของผู้หญิงออก"
"ข้อสี่?"
"ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนใจร้ายถึงขนาดฆ่าผมได้ลงคอ ถ้าจะมีก็คือพวกแอนดรอยด์ที่ทำงานตามคำสั่งที่ถูกตั้งโปรแกรมมา"
"คุณสงสัยฉันมาตั้งแต่เมื่อไร?"
"ตั้งแต่วันแรกที่เราพบกัน ทำไมอยู่ดีๆ บริษัทเพชรยักษ์ใหญ่จึงว่าจ้างอดีต นักบินที่มีประวัติด่างพร้อย แทนที่จะใช้องค์กรกำจัดอุกกาบาตของรัฐที่มี เครื่องมือดีกว่า ถึงจะไม่ใช้บริการของรัฐ ก็ยังมีนักบินที่มีความสามารถไม่ แพ้ผม อาศัยในดาวที่ใกล้กับเอรากอนมากกว่า แต่ทำไมคุณเจาะจงบินไกลมาหา ผม? เพราะผมเป็นนักบินอิสระคนเดียวที่มีไฮโดรเจน 330 อีกอย่างการว่าจ้างนัก บินที่เป็นคนเสเพล ขลุกกับสตรีตลอดเวลา อาจจะจัดการได้ง่ายกว่า หากส่งหญิง สาวสวยไป ทำงานจบ ได้เงินไปก้อนใหญ่ และไม่รู้ว่าระเบิดอะไรไป ผมจึงสังหรณ์ ว่าพวกคุณมีเจตนาที่ไม่ชอบมาพากล จุดนี้ได้รับการยืนยันอีกครั้ง เมื่อผมคิด จะอ่านค่าวิเคราะห์คุณสมบัติทางกายภาพของดาว ซีตา 712 คุณก็ขัดขวางผมโดยการ ... เอ้อ..."
"คุณรู้ค่าวิเคราะห์ดาวดวงนั้นมาก่อน..."
"ถูกต้อง"
"ตั้งแต่เมื่อไร?"
"ก่อนผมขึ้นยาน ตอนทีี่ผมแวะเอาหัวระเบิด"
"คุณรอบคอบแท้"
"คำถามคือทำไมต้องทำลายมัน พวกคุณสร้างเรื่องหลอกผมว่า มันมีวงโคจรที่ผิด ปกติ จะทำลายดาวเอรากอน ความจริงคือ ซีตา 712 จะทำลายอย่างอื่นมากกว่า"
"อะไร?"
"ราคาเพชร การค้นพบ ซีตา 712 จะทำให้ราคาเพชรทั้งดาราจักรตกลงมาอย่างฮวบฮาบ"
"อย่างไร?"
"ต้องให้ผมบอกด้วยหรือว่า ซีตา 712 เป็นดาวที่กำเนิดจากฐานคาร์บอนข้อมูลแยก ธาตุดาวชัดเจนมาก ซีตา 712 เป็นดาวเคราะห์ขนาดยักษ์ที่เป็นเพชรทั้งดวง นี่ เป็นอุบัติการณ์ที่เกิดขึ้นยากมาก ดาวยักษ์ขนาดนี้มีปริมาณของเพชรมากพอที่ จะขุดออกมาใช้ได้นานหลายพันปี พวกคุณไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำลาย ซี ตา 712 เพืื่อรักษาราคาเพชรในตลาดให้คงราคาที่พวกคุณกำหนดได้"
"คุณจะทำอย่างไรต่อไป?"
"ผมรักผู้หญิงหลายสิบคน ผมอยากให้ของขวัญพวกหล่อนสักอย่าง"
"ของขวัญบ้าอะไร?"
"เพชร"
เขาหัวเราะ "ต่อไปนี้พวกหล่อนสามารถซื้อเพชรได้ในราคาที่ถูกกว่าเดิมหลายร้อยหลายพันเท่า ถึงตอนนั้นราคาเพชรคงถูกกว่าเครื่องดื่ม"
"คุณ... ไม่ได้... วางระเบิดซีตา 712?"
"ผมจะวางระเบิดดาวดวงนี้ได้อย่างไรในเมื่อรู้ว่า คุณต้องอยู่ที่ 'โลกใต้ ดิน' แห่งนี้นานหลายเดือน ผมว่าจะใช้ระเบิดลูกนี้ในโอกาสหน้า"
"คุณรู้จักเอาใจผู้หญิงทุกประเภทจริงๆ"
"ขอบคุณ"
"ลาก่อน ชาเรียน หวังว่าเราคงได้พบกันอีก"
"แน่นอน เมื่อทุกคนในดาราจักรรู้ว่ามีดาวเพชรดวงนี้เรียบร้อยแล้ว ผมขอโทษ ด้วย ไลรา อย่างที่บอก ผมไม่เคยอยู่กับผู้หญิงคนไหนนาน มักลงเอยด้วยการเลิก ราเสมอ"
ชาเรียนนั่งที่เก้าอี้บาร์
ฝนเทลงมาแต่เช้า ฝนเม็ดเล็กเบาบาง ต่อเนื่องไม่ขาดสาย มองออกจากหน้าต่างบาร์ไม่เห็นอะไรนอกจากความขาวโพลนของหมอกกับฝน
คนขายเหล้าถามเขา "มีคนเอาเพชรมาขาย ราคาถูกมาก สนใจไหม? เหมาะมากที่จะซื้อให้ผู้หญิง"
"ผมว่าจะรอให้ราคาตกลงไปอีกสักหน่อยดีกว่า"
ชาเรียนอ้าปากหาว ฟุบหน้าหลับบนเคาน์เตอร์บาร์
* นี่เป็นเรื่องตัวอย่าง หนึ่งใน 10 เรื่องของหนังสือรวมเรื่องสั้นวิทยา ศาสตร์เรื่อง “จรูญจรัสรัศมีพราวพร่างพร้อย” โดย วินทร์ เลียววาริณ สำนัก พิมพ์ 113
ที่มา
http://www.winbookclub.com/bookdemo.php?book=20