ปลายปี 2548 เกิดคดีลูกชายคนดัง ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดา มารดาเพื่ออนาจารโดยปราศจากอันสมควร, ร่วมกันพาเด็กอายุไม่ 15 ปี เพื่ออนาจาร โดยเหยื่อเป็นเด็กหญิงอายุเพียง 13 ปี เป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่งในย่านสุขุมวิท ท้องที่สน.ทองหล่อ มีผู้ถูกกล่าวหา 3 คนประกอบด้วย นายวรมันต์ หรือ โซโล โอภากุล บุตรชายนายยินยง โอภากุล หรือแอ๊ด คาราบาว นายภควัชร หรือไผ่ พันธ์มณี และนายธนาศักดิ์ หรือ แฮม แสงฤทธิ์ ตกเป็นผู้ต้องหา
เด็กสาวที่ตกเป็นเหยื่อให้การว่า ถูกล่อลวงว่า จะมีการจัดปาร์ตี้ที่บ้านของนายวรมันต์ ซึ่งอยู่หลังสนามกอล์ฟหมู่บ้านนักกีฬา แขวงและเขตบางกะปิ จึงเดินทางไป แต่เมื่อไปถึงพบว่า ไม่ได้มีการจัดงานเลี้ยงตามที่อ้าง และถูกนายวรมันต์กระทำอนาจาร ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย จากนั้นทั้ง 3 คน บังคับให้ดื่มน้ำผสมยาเพื่อกระทำชำเรา และนายวรมันต์ยังได้ถ่ายภาพวิดีโอที่ผู้เสียหายอยู่ในสภาพเปลือยทั้งก่อนชำเรา ขณะชำเรา และหลังชำเรา พร้อมขู่เข็ญผู้เสียหายว่า ถ้าไม่ยินยอมให้ถ่าย จะนำภาพเปลือยไปลงอินเทอร์เน็ต จึงทำให้ผู้เสียหายยินยอม ซึ่งพฤติกรรมทั้งหมด มีปรากฏอยู่ในคำฟ้องที่อับยการมีคำสั่งฟ้องไปก่อนหน้านี้
หลังจากที่ บิดาของผู้เสียหาย พาเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อแล้ว การดำเนินคดี ได้ดำเนินไปตามขั้นตอน จนในที่สุด พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาเพียง 2 คน คือนายภควัชร และนายธนาศักดิ์ โดยสั่งไม่ฟ้องนายวรมันต์ ในทุกข้อหา ทั้งฐานร่วมกันพรากเด็กฯ, ร่วมเป็นธุระจัดหา, ร่วมกันอนาจาร แต่อัยการพิจารณาสำนวนหลักฐานแล้วจึงสั่งฟ้องนายวรมันต์ ข้อหาเป็นผู้สนับสนุน เนื่องจากเห็นว่าการกระทำของผู้สนับสนุนก็เปรียบเสมือนตัวการ ซึ่งอัยการส่งความเห็นให้ ผบ.ตร.พิจารณาว่าจะเห็นแย้งหรือไม่ ก็ปรากฏว่า ผบ.ตร.เห็นชอบตามคำสั่งฟ้องอัยการ
ต่อมา นายยืนยง โอภากุล บิดานายวรมันต์ ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมถึงนายชัยเกษม นิศิริ อัยการสูงสุดในขณะนั้น เมื่อ"แอ๊ด คาราบาว" ออกโรงมาสู้เพื่อลูกตามช่องทางดังกล่าว อัยการเจ้าของสำนวนในขณะนั้นยังระบุว่า "หนังสือร้องขอความเป็นธรรมของผู้ต้องหาขอให้สอบพยานเพิ่ม และอ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำของพวกอีก 2 คน ที่ร่วมกันข่มขืนเด็กหญิงผู้เสียหาย ซึ่งขัดกับพยานหลักฐานในสำนวนการสอบสวน ที่พบว่าผู้ต้องหามีส่วนร่วมในเหตุการณ์โดยตลอด ดังนั้น คงต้องดูกันว่ากระบวนการยุติธรรมจะสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงตรงนี้ได้หรือไม่ คดีนี้ อัยการเจ้าของสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาแล้ว ดังนั้น หาก อัยการสูงสุด ไม่มีความเห็นแย้งก็น่าจะส่งฟ้องได้ทัน" และอัยการเจ้าของสำนวนผู้นี้เอง ที่มีความเห็นให้สั่งฟ้อง ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน
หลังจากนั้นมา คดีของ"โซโล" วรมันต์ โอภากุล ก็เริ่มเลือนหายไปจากสังคม จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวเกิดนึกสงสัยขึ้นมาว่า เรื่องนี้ ไปถึงไหนแล้ว จึงได้ทำการเช็กถึงความคิบหน้าของคดี จนได้รับการเปิดเผยจาก อัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 3 ว่า" คดีนี้อัยการยื่นฟ้องผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายภควัชร หรือ ไผ่ พันธ์มณี และ นายธนาศักดิ์ หรือ แฮม แสงฤทธิ์ เป็นจำเลยต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลางในความผิดฐานร่วมกันพรากผู้เยาว์ ซึ่งคดีอยู่ในชั้นสืบพยานโจทก์ แต่ในส่วนของนายวรมันต์ นั้น อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ทำให้คดีในส่วนของนายวรมันต์ถือว่าสิ้นสุดแล้ว
"ในส่วนรายละเอียดและเหตุผลในคำสั่งไม่ฟ้องนั้น คงไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากมีระเบียบปฏิบัติเรื่องการให้สัมภาษณ์ของพนักงานอัยการ ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในสำนวนกับผู้ที่ไม่ใช่คู่ความได้" และนี่คือเหตุผลสำคัญ ที่เราไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่า เหตุใด อัยการจึงไม่สั่งฟ้องนายวรมันต์ ขณะที่ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุอีก 2 ราย อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ในชั้นสืบพยานโจทก์
แต่ถ้าอยากรู้จริงๆว่า เหตุใด อัยการจึงไม่สั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 1 คือนายวรมันต์ เพียงเพราะเป็น"ลูกแก้ว" ของ"แอ๊ด คาราบาว" หนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการน้ำชูกำลังหรือไม่นั้น คงต้องลองดื่ม"วิตามินบี 12" ดู อาจจะรู้แจ้งเห็นจริงก็เป็นได้ เพราะเรื่องนี้ อัยการรู้เหตุผลดีอยู่
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9530000174244http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9530000174171ประเทศไทยจงเจริญ (ฮา)