
ขณะที่คนไทยทั้งประเทศกำลังชื่นมื่นกับการเฉลิมฉลองศักราชใหม่ เมื่อเช้าวันที่
1 มกราคม 2554 แต่อีกมุมหนึ่งของจังหวัดชายแดนภาคใต้ กลับเกิดเรื่องเศร้า
สลด เมื่อมีเหตุระเบิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่เก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ( EOD ) กอง
ร้อย ตชด.ที่ 447 เข้าเก็บกู้ระเบิดชนิดแสวงเครื่องที่คนร้ายซุกมาในตะกร้ารถจัก
ยานยนต์ บริเวณตลาดเช้าซอยฉัตรวาริน 1 ภายในเขตเทศบาลตำบลปะลุรู อ.
สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ...

... แรงระเบิด ได้ฉีกร่าง ดต.กิตติ มิ่งสุข เสียชีวิตทันที ทั้งที่สวมใส่ชุดป้องกัน
ระเบิด ( บอมบ์สูท ) พร้อมกับ จ.ส.ต.กฤษฏา ทองโอ ผบ.หมู่จราจร สภ.สุไหง
ปาดี ขณะเจ้าหน้าที่ ที่อยู่ในที่เกิดเหตุคนอื่นๆต่างได้รับบาดเจ็บไปอีก 9 นาย
ตามข่าวที่สื่อหลายสำนักได้นำเสนอไป ก่อนหน้านี้แล้ว

... หลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้ ทำให้เกิดคำถามดังๆ ตามมาว่า ทำไมชุด "
บอมบ์สูท " ที่.หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด ใช้สวมใส่เพื่อป้องกันสะเก็ดระเบิด ขณะ
ปฏิบัติหน้าที่ ไม่สามารถปกป้องชีวิตเขาได้ ...

... หลายคนช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุ
ระเบิด ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือทหาร ซึ่งแม้หลายคนไม่มีความมั่นใจและรู้ดีว่าชุด
ดังกล่าว มันไม่สามารถคุ้มครองชีวิตได้ร้อยเปอร์เซนต์ แต่ เป็นเพราะ " หน้าที่ "
ต้องทำให้เขาเดินหน้าเข้าไปหามัน มัจจุราชที่อยู่ในกล่องเหล็ก
" ก็ดีกว่าเดินเข้าไปตัวเปล่าๆ โดยที่ไม่ได้สวมชุด
ป้องกันอะไรเลย " ....
นี่คือคำตอบของหน่วยกล้าตายบางคน ที่คนฟังแล้วรู้สึกอนาถ ปน ความ
สังเวช ใจ ..
.... ร่างกายและจิตใจพร้อม แต่ อุปกรณ์ไม่พร้อม

....ไม่ว่าจะมาจากสาเหตุชุดบอมบ์สูท หมดอายุการใช้งาน หรือ เส้นใย
ที่นำมาผลิตไม่ได้มาตราฐาน ตามที่ตำรวจผู้ใหญ่หลายนายออกมาแจง
รายละเอียด
ปัญหาดังกล่าวถามว่าผู้บังคับบัญชา เขารับรู้มาก่อนหรือไม่
หรือเพิ่งมารู้เอาตอนที่ผู้ใต้บังคับบัญชาร่างเละคาบอมบ์สูท ...
..... อยากรู้จริงๆพวกผู้ใหญ่เหล่านี้เขาคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่แก้ปัญหา
ทั้งๆที่เป็นทั้งผู้ดูแลนโยบายและ คุมงบประมาณมากมายมหาศาล ...
ทำไม ทำไม !!!!! ถึงปล่อยให้ลูกน้อง ต้องมาพบจุด
จบเช่นนี้ .......
หรือ เพียงแค่คอยไปมอบ เหรียญบางระจัน เป็นรางวัลแด่ผู้กล้า
หลัง ความตาย .....
พวกเขามีค่าแค่นี้เองหรือ ..........

แน่นอน ส่วนหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เพราะ มันคือ " หน้าที่ " ในเมื่อรัฐ
ต้องสูญเสียงประมาณมหาศาลในการฝึกอบรมบุคลากรให้มีความเชี่ยว
ชาญทางด้านใดด้านหนึ่ง

โดยเฉพาะงานเสี่ยงอันตราย อย่างชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด แล้วหากเอา
ความจริงมาพูดกัน คงไม่มีใครอาสาแย่งกันเข้ามาทำหน้าที่นี้หรอก สู้ไป
อยู่ในหน่วยงานอื่นที่สามารถ แสวงหาผลประโยชน์เป็นรายได้หลัก โดย
เอาหน้าที่และตำแหน่งเป็นเครื่องเบิกทาง แต่พวกเขาเหล่านี้ เข้า
มาทำงานเพราะใจรักในหน้าที่เป็นพื้นฐาน และ กว่าที่พวกเขาจะ
กลั่นตัวเองให้เป็นนักเก็บกู้ระเบิดฝีมือเยี่ยม ต้องอาศัย
ประสบการณ์ตรงจากการปฏิบัติหน้าที่เฉพาะหน้า ณ
ที่เกิดเหตุจริงๆ ทฤษฎีพื้นฐานที่เล่าเรียนมาเป็นเพียง
แค่ส่วนประกอบในการตัดสินใจเท่านั้น ..

ยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน กลุ่มก่อความไม่สงบ ( ขอโทษ
ครับ ต้องเรียกว่าคุณพี่ผู้หลงผิด ) ได้พัฒนากระบวนการผลิต
วัตถุระเบิด ไปไกลมาก ซ้ำการเข้ามาก่อเหตุแต่ละครั้ง มีทั้งเป้าจริง เป้า
ลวง จนเจ้าหน้าที่เปิดตำรารับแทบไม่ทัน

แม้หลายๆเหตุการณ์ คนร้ายยังคงนำรูปแบบเดิม ๆ มาใช้ในการก่อเหตุ
และเจ้าหน้าที่ก็สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้ตรงกับการกระทำของ
คนร้าย แต่บางครั้งการเข้าไปแก้ปัญหาคือ กู้ระเบิด ก็ทำให้เขา พลาด
ได้เช่นกัน

คือ ตีโจทย์แตก แต่แก้ปัญหาไม่ตก ทั้งๆที่รู้ว่าอันตราย
แต่ พวกเขาต้องเข้าไปแก้ปัญหา เพราะมันคือ " หน้าที่ " ......

จากการที่เคยได้สัมผัสและสังเกตุการทำงาน หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดฯ
หรือที่เรียก
กันติดปากว่า ชุด EOD ในจังหวัดชายแดนภาคใต้มาตั้งแต่ปี 2547 สิ่ง
หนึ่งที่ทุกคนมีเหมือนกันคือ " ความกล้าหาญ ช่างสังเกตุ
และ มีสมาธิ " ......

หลายต่อหลายครั้งที่พวกเขาเหล่านี้ได้รับการปรบมือ และแสดง
ความขอบคุณ ชื่นชม จากใจจริงของประชาชน หลังจากปฏิบัติการณ์
เก็บกู้วัตถุระเบิดสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

เพราะเขาคือ " ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ " ตัวจริง ผู้ซึ่งไม่เคยเรียก
ร้องสิ่งตอบแทนใดๆ นอกเหนือจากเงินเดือนและเบี้ยเสี่ยงภัยเล็กๆน้อยๆ
ในฐานะเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยคนหนึ่ง ที่ปฏิบัติหน้าที่ ในจังหวัดชายแดน
ภาคใต้

.. เพราะหากไม่ใช้ชุด " E O D " แล้วจะให้ชุด E
ตัวดีที่ไหนมา กู้ระเบิด ...

เพราะ E ตัว D หลักๆที่สุมหัวแก้ " ไฟใต้ " กัน
อยู่ในขณะนี้ เก่งแค่ " ปาก " อย่างเดียว ...

นำบางภาพ บางส่วน ตอนท้ายๆ การในปฏิบัติหน้าที่ของ ชุด กู้ระเบิดฯ
( EOD ) ตัวจริงใน ตานี นรา ยะลา ตั้งแต่ปี 47 มามาเสริม ให้ชมกัน
ขอ จบเพียงแค่นี้ สวัสดีครับ !!!!..........
ที่มา
http://www.oknation.net/blog/singslatan/2011/01/05/entry-1