เครดิตแก่ ศูนย์พัฒนาคุณภาพสังคมไทยทำดี(ในเฟซบุ้ค)ผมมันคนรักสัตว์ครับ อ่านแล้วซึ้งความรักของแม่หมาขี้เรื้อนแต่เปลี่ยนจิตสำนึกของคนใจดำ...
คนใจดำ เปลี่ยนแปลงตัวเองได้.....เพราะอะไร??
เรื่องเล่า…มีอยู่ว่า
พี่ชิตแกเป็นคนใจดำครับชอบยิงนกตกปลาไปเรื่อย
แต่ที่หนักก็คงเป็นเนื้อหมาแกกินแหลกครับ
แม่แกบอกมันบาปนะลูก พี่แกก็ไม่เคยสนใจคำเตือนของแม่เลย
เมื่อราว 15 ปีก่อน มีเหตุการณ์ที่ทำให้แกเปลี่ยนไป…
ครั้งนั้นมีแม่หมาขี้เรื้อนตัวหนึ่งครับ มันมักวิ่งไปหาของกินแถวๆบ้านแกบ่อย เพราะบ้านแกติดตลาด
ผมเคยถามพี่ชิตที่กินหมาอยู่บ่อยๆว่าทำไมไม่กินหมาขี้เรื้อน
แกบอก “กินไม่ลงว่ะ “
มีอยู่วันหนึ่งเนื้อแห้งที่แกตากไว้หายไป พอมองไปก็เห็นแม่หมาขี้เรื้อนนั้นวิ่งคาบเนื้อตากแห้งของแกอยู่ ความแค้นใจและการฆ่าที่อยู่ในสันดาน พี่ชิตคว้าไม้ที่ใช้ตีหมาได้ก็วิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว
พอตามทันแกก็ทุบไปทีเดียวหมาขี้เรื้อนนั่นล้มลงชักทันที
(แกบอกว่าหากตีตรงจุด แค่ไม้เล็กๆธรรมดาก็ตายได้
นี่คือคนตีหมาจนชำนาญ)
พี่ชิตทิ้งซากหมากองไว้อยู่ตรงนั้น
โดยไม่ต้องเหลียวหน้าไปดูอีกเพราะตีมาเป็นร้อยก็ไม่มีทางฟื้น
และวันนี้ด้วยความโมโห พี่ชิตจะกินหมาขี้เรื้อนตัวนี้
ที่ดันมากินเนื้อตากแห้งและมาหยามถึงถิ่นของแก
พี่ชิตเดินกลับไปที่บ้านเพื่อเตรียมอุปกรณ์ในการแล่เนื้อ
พร้อมกับสั่งให้ผมเฝ้าซากหมาขี้เรื้อนตัวนี้เอาไว้
แต่ผมก็มัวแต่เก็บตะขบจนลืมดู
พอพี่ชิตมาถึงก็โวยวายกับผมว่าซากหมาหายไปไหน
พร้อมกับวิ่งตามรอยเลือดหมาขี้เรื้อนตัวนี้พร้อมกับบ่นว่า...
“ทำไมมันไม่ตายวะ”
สักพักหนึ่งแกก็ได้ยินเสียงหมาเห่า แกก็ตามเสียงไปทันที
พอไปถึงภาพที่เห็นคือ หมาขี้เรื้อนกำลังจะตาย
มันมีลูกที่ต้องเลี้ยง 5 ตัวครับ วัยกำลังกินนมอยู่
บางตัวก็วิ่งไปคาบเนื้อที่แม่หมาขี้เรื้อนคาบไปฝาก (เห็นกับตา)
แม่หมาขี้เรื้อนตัวนี้มันตายแล้วฟื้นและที่มันยังไม่ยอมตายก็เพราะจิตใจอันเข้มแข็งของมันที่ปลุกเร้าเยื่อใยที่คงเหลืออย่างเหนียวแน่นว่า…
ต้องกลับไปให้ได้เพื่อให้ลูกมันกินนมครับ
การตีของพี่ชิตนั้นกระทบกระเทือนถึงหัวสมองแตกเลือดสาดเป็นลิ่มๆ
แต่มันก็ยังลากตัวมันเอง กระเสือกกระสนล้มลุกคลุกคลาน
เพื่อกลับมาหาลูกของมันจนได้และสิ่งที่เห็นคือ...
การกระทำที่ยิ่งใหญ่ของความเป็นแม่
ที่รักลูกมากเป็นที่สุดโดยไม่ห่วงตัวจะตาย
นี่จิตใจอันยิ่งใหญ่ของแม่ ที่ไม่ว่าสัตว์หรือคนก็มีจิตใจเช่นนี้
แม้มันจะตายก็ขอให้ลูกพวกมันได้อิ่มซักมื้อ
แม่หมาพยายามอย่างดีที่สุดแล้วครับ
ผมไม่อยากจะเชื่อ..นั่นคือน้ำตาของแม่หมาขี้เรื้อนตัวนั้น
มันมองผมกับพี่ชิตเหมือนขอร้องเป็นครั้งสุดท้าย
ที่มันต้องการให้นมลูกก่อนตาย
สายตาของมันเศร้ามาก มันมองผมกับพี่ชิตอย่างวิวอนทางสายตาที่ขอร้องของมัน
เพื่อขอให้มันได้ให้นมลูกของมันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะตาย
พี่ชิตไม้หล่นลงกับพื้น เดินเข้าไปดูแม่หมาขี้เรื้อนตัวนั้น
ในยามนั้น..สิ่งที่แกเห็นไม่ใช่หมาขี้เรื้อน
แต่แกเห็นจิตใจแห่งความเป็นแม่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
ซึ่งทนเจ็บปางตายเพื่อกลับไปหาลูกให้ได้
แกไม่พูดอะไร..ทุกอย่างจุกอยู่ที่ลำคอ..สายตาพี่ชิตที่แข็งกร้าวกลับอ่อนโยนลง พร้อมกับมีลูกหมาตัวหนึ่งวิ่งไปหาแกกระดิกหางให้
แกอุ้มลูกหมาขึ้นพร้อมมองไปที่สายตาของแม่หมาขี้เรื้อนนั้นอย่างสำนึกผิดและพูดคำว่า”ขอโทษ”'
พูดได้แค่นั้นแม่หมาก็สิ้นใจตายอย่างตาหลับ
ผมกับพี่ชิตช่วยกันฝังแม่หมาตัวนี้.
พร้อมๆกับจิตสำนึกที่เกิดใหม่ของพี่ชิตที่เปลี่ยนไปราวกับคนละคน
แกรับเลี้ยงลูกหมานั้นไว้ทั้ง5ตัวและตั้งแต่นั้นแกกลายเป็นคนใจดีไม่ไล่ยิงนกยิงหมายิงแมวอีกแกบอกว่า...
”มันอาจจะมีลูกรออยู่ก็ใด้”
วันเกิดของแม่ปีที่แล้ว แกเอามะลิร้อยเป็นพวงไปให้แม่ทั้งๆที่ไม่เคยทำมาก่อน พี่ชิตกราบแม่พร้อมพูดกับแม่ว่า
“แม่ครับ…ตอนผมอายุ16 แม่สอนผมยังไงนะสอนอีกหนได้ไหมครับ”
แม่แกน้ำตาคลอพูดไม่ออกและนี่คือบทกลอนเทิดทูนแม่ครับ
“ความรักของแม่ที่มีต่อผม
สวยสดงามหรู บริสุทธิ์ยิ่งใหญ่เหนือกว่าสิ่งใด
ความรักของแม่มั่นคงกว่าใคร กว้างไกลแผ่นฟ้ายิ่งกว่าปฐพี
เมื่อผมยังเล็กแม่เฝ้าอุ้มชู ทำนุบำรุงด้วยเลือดน้ำนม
แม้แม่ผ่ายผอมก็ยอมอดทน เพื่อเลี้ยงดูผมให้เป็นคนดี แม่จ๋าแม่ ลูกแม่คนนี้ขอกราบแม่ทีขอหอมคนดี คุณแม่อดทน
บางครั้งชีวิต ลูกแสนดื้อทน แม่ก็ผ่อนปรน อโหสิดวงใจ
แม่เลี้ยงดูผม ด้วยความห่วงใยลำบากเหลือล้นไม่ปริปากคำ
ความรักของแม่สุดแสนยิ่งใหญ่ ไม่มีสิ่งใดจะมาเปรียบเปรย
ดวงใจของผมผูกพันแม่ไว้ ขอแม่จำไว้จะพาแม่ไปพบฝั่งนิพพาน
ขอเทิดทูนใจ ดวงใจแห่งรัก สุดยอดแม่ฉัน คุณแม่แสนดีมีเพียงหนึ่งเดียว รักแม่ตลอดไป…”
คนใจดำเปลี่ยนแปลงตัวเองได้.....
พร้อมก้มกราบแทบเท้าแม่ด้วยรักนิรัน…
นี่คือความรักอันยิ่งใหญ่ของแม่ที่มีต่อลูกและนี่ก็คือปาฎิหาริย์ที่เกิดจากแม่หมาขี้เรื้อนตัวหนึ่งที่ดูไร้ค่าในสายตาของมนุษย์แต่การกระทำของสัตว์ที่กระทำไปตามอารมณ์ในความรัก ความผูกพันก็สร้างปาฎิหาริย์ให้เกิดขึ้นมาอย่ามากมายบนโลกใบนี้ไม่ใช่หรือครับ
ท้ายสุด...ผู้เขียนเชื่อได้ว่า สิ่งที่ผู้เขียนนำมาเขียนนั้นย่อมทำให้ผู้อ่านเกิดความซาบซึ้งกินใจ บางเรื่องก็มีปิติ อิ่มเอิบใจ บางเรื่องก็หยั่งถึงจิตใจอันยิ่งใหญ่ที่ตอกย้ำให้กระทำตาม
ถ้าถามผู้เขียนว่า…ปาฎิหาริย์เกิดจากอะไร ผู้เขียนคงตอบได้ว่าเกิดจากจิตใจอันยิ่งใหญ่นี่เองคือปาฎิหาริย์และวันใดวันหนึ่ง
ที่ท่านผู้อ่านพบคำว่าปาฎิหาริย์ที่เหนือกว่าปาฎิหาริย์ทั้งปวง
วันนั้นก็คือวันที่สว่างไสวที่สุด สะอาดที่สุด บริสุทธิ์หมดจดที่สุด
เป็นวันที่ท่านได้เดินทางไปพร้อมๆกัน
ณ ที่จุดหมายปลายทางแห่งชีวิตคือ
สันติสุขสงบปราศจากกิเลสทั้งปวงนั่นเอง...
