เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 24 กรกฎาคม 2025, 01:57:41
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  ผังประเทศไทย พ.ศ. 2600 เอกสารที่ รัฐธรรมนูญ เรียกพี่
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ผังประเทศไทย พ.ศ. 2600 เอกสารที่ รัฐธรรมนูญ เรียกพี่  (อ่าน 520 ครั้ง)
yod2012
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: วันที่ 15 เมษายน 2013, 00:45:31 »

กำลังเป็นประเด็นที่สังคมเริ่มรับรู้ ตื่นตระหนกและสนใจจริงจังมากขึ้น กับเรื่องทิศทาง “ผังประเทศไทย ปี 2600”  ที่ซึ่งพลิกโฉมประเทศเกษตรกรรมเป็นอุตสาหกรรม ผลิกโฉมชุมชนเป็นเมืองและพลิกโฉมวิถีชีวิตที่เรียบง่ายกับธรรมชาติ เป็นเมืองที่ครบครันไปด้วยเทคโนโลยี คมนาคม และระบบเศรษฐกิจที่ไร้พรมแดน

                ในเบื้องต้น ต้องยอมรับกันก่อนว่า ประเทศไทยพัฒนามาร่วม 50 ปี ไม่มีการจัดการทิศทางผังประเทศมาก่อนเลย ใครจะทำอะไรที่ไหนอย่างไร ทำได้หมด ส่งผลกระทบออกไปต่างๆนานา ในวงกว้าง และปัญหาที่ประชาชน ตลอดจนชุมชน ต่างรับรู้และปริวิตกมานาน ซึ่งในเบื้องต้นการออกมาพูด ออกมาร่าง ผังประเทศไทย ผังเมือง ผังชุมชน ผังอุตสาหกรรม ผังเกษตรกรรม ผังทรัพยากรธรรมชาติ ผังวัฒนธรรม ผังที่เสี่ยงภัยพิบัติ   ฯลฯ เสียที จึงเป็นเรื่องที่ดี แต่..ปัญหาที่กำลังวิตก คือ การยกร่างแผนผังประเทศ คิดและทำโดยใคร ? เพื่อใคร ? และอย่างไร ?

                โดยเฉพาะวิธีการจัดทำเป็นผังนั้น ที่ผ่านๆ มาหน่วยงานของรัฐยังขาดการมีส่วนร่วมจากประชาชน ขาดการศึกษาวิจัยรอบด้าน และยิ่งกับสิ่งที่ผังเมืองเรียกว่า “วิสัยทัศน์”  นั้น ถึงที่สุดมักเป็นเพียงจินตนาการ ผสมข้อมูลของตนฝ่ายเดียว เท่านั้นของผู้ร่างผัง เพราะไม่ได้ถามเจ้าพื้นที่แต่ละแห่ง แต่ละอาชีพ ว่ามีแนวทาง มีความต้องการพัฒนาพื้นที่และมีความฝันบนพื้นดินของตน อย่างไร ทำกระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับ กำหนดทิศทางผังเมือง  ผังประเทศในอนาคตมักผิดเพี้ยนมีปัญหา ไม่ต้องพูดถึง ผังประเทศ ปี  2600 ซึ่งเป็นเอกสารครอบจักรวาล  เป็น “ผังเมืองเชิงเดี่ยว” ที่ประชาชนไม่รู้จัก และจำนวนไม่น้อยยังไม่เคยได้ยิน ทั้งๆ ที่ร่างขึ้นมาตั้งแต่ปี 2545 แต่กลับเป็นผังประเทศที่มีอำนจมากกว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญ… !!!!!!

                ทุกครั้งที่เมื่อถูกถามถึงผังประเทศ 2600  ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการที่ร่วมร่าง กรมโยธาและผังเมือง ตลอดจนสภาพัฒนฯ มักจะอ้างถึงอนาคตคนไทย ในด้านที่น่าหวาดกลัวเพื่อให้ประชาชนจำนนและหลงเชื่อ  และรัฐจะเป็นผู้รับมือวางแผนแต่เพียงผู้เดียว ทำให้เกือบ10 ปี มานี่ คนไทยก็ยังไม่รู้ โดยเฉพาะตามภูมิภาค ชนบท ว่าผังเมืองผังประเทศ และแผนพัฒนา จะเปลี่ยนแปลงพื้นที่ เปลี่ยนแปลงชีวิต เปลี่ยนแปลงประเทศนี้อย่างไร
                นอกจาเรื่องการมีส่วนร่วมจากประชาชนแล้ว ผังนี้ไม่เคยถูกเปิดเผยจริงๆ จังๆ ให้ประชาชน นักวิชาการได้วิพากษ์วิจารณ์กระบวนการร่างผัง เนื้อหาผัง และร่างกฎหมาย ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผังเลย ว่ามันเหมาะสม หรือไม่ อย่างไร ที่ร่างต่างพากันขีดเส้น ระบายสีระบุพื้นที่ ไปในลักษณะต่างๆ  กำหนด จัดวาง และเปลี่ยนแปลงแก้ไขภูมิทัศน์ต่างๆ
                พิเคราะห์ความศักดิ์สิทธิ์ของผังที่อ้างว่าแค่ฉบับร่าง แต่โครงการต่างๆ ที่รัฐดำเนินการกลับอยู่ในแผนและในผังประเทศแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะแผนพัฒนาภาคใต้ ( Southern Seaboard )  แผนพัฒนาแหล่งน้ำ แผนพัฒนาพลังงาน หรือ ตัวอย่างกรณีการพัฒนาเขตอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ที่นผังเรียกว่า พื้นที่สีม่วง ซึ่งนับวันมีแต่จะขยายออกไป จากระยอง ชลบุรี ไป ฉะเชิงเทรา ปราจีน สระแก้ว จันทรบุรีและ ตราด ซึ่งถูกระบายด้วยสีม่วงเต็มไปหมด บุกรุกวิถีชีวิตประชาชนเจ้าของพื้นที่ เสมือนแผนผังของรัฐกำหนดการยึดทรัพยากรยึดวิถีชีวิต ทำลายสิทธิชุมชน ทำลายสิทธิมนุษยชน  ทำลายเจตนารมณ์กฎหมายรัฐธรรมนูญ ทั้ง ฉบับ 2540 และ  2550
                 เรื่องนี้ ยังไงๆ ก็ต้องโยนคำถามไปจี้ต่อสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ว่า สภาพัฒนฯ กำหนดทิศทางประเทศบนพื้นฐานความต้องการของอะไร และของใคร ? ที่ “บังอาจ” ชี้นิ้วลงไปว่า จะพัฒนาอะไร จะให้ตรงไหนจะทำเป็นเขตอะไร ?  ( จริงๆ แล้วประชาชนเกินค่อนครึ่งแทบไม่ต้องถามแล้ว )
                 บทเรียนที่ประเทศไทยอ้าแขนรับ โครงการพื้นที่เพื่อเป็นส่งเสริมอุตสาหกรรม และการละเลยให้เกิดโรงงาน ซึ่งปัจจุบันทั้งหมดนี้กำลังกลายเป็นขยะเป็นโรงงานผลิตมลพิษขนาดใหญ่ให้ประชาชนรับเคราะห์กรรมในขณะที่ประเทศต้นทาง เจ้าของทุน เจ้าของโรงงานจริงๆ  กำจัดมันทิ้ง หรือรัฐบาลของเขาจัดทำผังประเทศให้ในอนาคตนั้น ปลอดทั้งโรงงาน ปลอดมลพิษอุตสาหกรรม เพื่อให้ประชาชนลูกหลานของเขาอยู่ดีกินดี โดยเอามันออกไปนอกประเทศ และนอกประเทศที่ว่า หนึ่งในนั้นคือประเทศไทย จนตอนนี้สุขภาพของประชาชนและลูกหลานคนไทย กำลังกลายเป็นแหล่งเก็บสารพิษ ไปแล้ว 
                 นอกจากนั้นการระบายสีให้ผังประเทศไทยเป็นพื้นที่อย่างนั้น อย่างนู้น อย่างนี้ ในปีนั้นในปีนี้ โดยไม่ได้ศึกษาเจาะลึก วิเคราะห์ข้อเท็จจริง ทั้งในทางวัฒนธรรม วิถีชีวิต ประเพณี และระบบนิเวศทางธรรมชาติ ตลอดจนภาวการณ์ปรับตัวของมนุษย์ รวมถึงสัตว์สิ่งมีชีวิตต่างๆ นั้น ล้วนแต่นำมาซึ่งความเข้าใจและการปฏิบัติที่ผิดพลาดมาโดยตลอด และนั่นคืออีกหนึ่งเหตุที่สร้างปัญหา อาทิ เรื่องการจัดการน้ำขนาดใหญ่ และการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็ก  เรื่องก่อสร้างถนนยกระดับไปชนบทซึ่งสูงเกือบ 2 เมตร การส่งเสริมพืชเชิงเดี่ยว เป็นต้น  เอกสารฉบับผังประเทศ ปี 2600 นี้ แท้จริงแล้วยังไม่ผ่านสภาผู้แทนฯ แต่กลับมีอำนาจควบคุมทิศทางประเทศ ไปแล้ว…. !!

                 ประเทศนี้ ปกครองมานานโดยระบอบประชาธิปไตย ที่ประชาชนมีสิทธิ มีอำนาจกำหนดชะตชีวิตของตน และมีกฎหมายคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ ดังนั้น  การร่างผังประเทศ การกำหนดชะตาอนาคตจึงเป็นเรื่องของประชาชน และชุมชนท้องถิ่น หรือเจ้าของพื้นที่ซึ่งจะต้องเป็นผู้กำหนด เป็นหลัก ส่วนการบังคับควบคุมให้การพัฒนาเดินตามทิศทางผังประเทศนั้นเป็นเรื่องของสภาพัฒนฯ และกรมโยธาและผังเมือง ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรภาคประชาชนและองค์กรพัฒนาเอกชน นั่นจึงจะเรียกว่า ประชาชนมีส่วนร่วม และนั่นจึงจะตรงกับความต้องการ มากที่สุด
                และโดยการหลักการ การร่างแผนผังเมืองนั้น ต้องเกิดบนพื้นฐานความต้องการเจ้าของพื้นที่ เป็นหลักดังนั้น การร่างผังเมืองไปจนถึงผังประเทศไทย ที่เห็นอยู่จึงเป็นการร่างแบบยกลอยจากจินตนาการเอาเอง จากผู้ร่างโดยละเลยการมีส่วนร่วม ดังนั้น จึงไม่ควรที่หน่วยงานรัฐ หรือเอกชนจะนำมาอ้าง หรือไม่มีสิทธิ ไม่มีอำนาจ กำหนดแผนหรือผัง ที่มีผลต่อทิศทางประเทศซึ่งเป็นของประชาชน เพราะการจะร่างเป็นแผน เป็นผัง เป็นกฎหมายควบคุมบังคับในประเทศที่ยึดหลักกฎหมายและมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยนั้น จะทำไม่ได้  เพราะกระบวนการที่เกิดขึ้นนี้นั้น ล้วนแต่ผิดต่อหลักนิติธรรม ตามระบอบประชาธิปไตยทั้งสิ้น เพราะไม่ได้ฟังเสียงความต้องการที่แท้ของประชาชนและยังละเมิดต่อกฎหมายสิทธิชุมชน สิทธิมนุษยชน ซึ่ง ณ วันนี้ สภาพัฒนฯ กรมโยธาและผังเมือง ตลอดจนกระทรวง ทบวงกรม หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ล้วนแต่กระทำผิดต่อประชาชน
 ดังนั้น ถ้ารัฐ โดยสภาพัฒนฯ หรือ กรมโยธาและผังเมือง จะอ้างอนาคต อ้างความเป็นห่วงภายภาคหน้า ทั้ง เรื่องอาหาร เรื่องงานทำ เรื่องพลังงาน เรื่องคมนาคม เรื่อง 108 จิปาถะ ฯลฯ แล้วคิดว่าตนเป็นฝ่ายเดียวต้องดำเนินการ นั้นไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะเรื่องที่อ้างเป็นเรื่องของประชาชน เรื่องที่ต้องทำบนฐานหลักคิดการเคารพสิทธิชุมชน และสิทธิมนุษชน ตามกระบวนการในระบอบประชาธิปไตย สรุปง่ายๆ คือจะทำอะไร ถามเจ้าของพื้นที่เขาด้วย ถามเขาก่อน ฟังเขาบ้าง และเอามติ เอาความคิดเห็นของเขาไปกำหนดในอนาคตด้วย ก็แค่นั้นเอง ครับ

                จริงๆ อยู่ ขณะนี้แค่อยู่ในขั้นร่างเป็นผังเมือง และถ้าจะบังคับใช้ต้องร่างเป็นกฎหมาย แต่ในทางปฏิบัติกลับมีการคาดเดาหรือเชื่อมั่นในทิศทางพัฒนาตามนั้นจริงๆ ไปนานแล้ว และยิ่งนับวัน ก็ยิ่งมีความพยายามจะนำไปใช้มากขึ้น สร้างความขัดแย้ง ความเดือดร้อน ทำให้สังคมแตกแยกมากขึ้นทุกขณะ โดยไม่ฟังเสียงสะท้อนจากประชาชน อาทิ จากกรณี โครงการนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร 2 เป็นต้น แต่ที่น่าโมโห น่าชิงชังในกระบวนการของรัฐ ทั้งสภาพัฒนฯและ กรมโยธาและผังเมือง คือ มักจะบอก มักจะอ้างซ้ำๆ กับประชาชนที่ทวงถาม วิพากษ์วิจารณ์ว่า นี่เป็นแค่ร่างกรอบผังประเทศ เป็นแค่แผนความคิด ยังไม่ใช่กฎหมาย ยังไม่บังคับ และยังไม่นำไปใช้ แต่ที่เห็นๆ คือรัฐไปทำหลายโครงการที่ระบุไว้ในแผนและในผัง และรัฐยังจะดื้อทำอีกหลายโครงการในขณะนี้

อีแบบนี้ แม้แต่กฎหมายรัฐธรรมนูญยังเรียกพี่เลย ครับ
..เชียงรายก็เป็นจังหวัดสำคัญนะครับ  พวกขายที่หวังรวยระวังจะไม่มีที่ทำกินนะครับ


* news280654-1.jpg (66.64 KB, 300x391 - ดู 356 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!