เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 28 กรกฎาคม 2025, 23:59:01
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ห้องนั่งเล่น
| | |-+  .เรื่องราวดีดีมีสาระที่อยากให้คุณอ่าน!!........ลงเรื่องใหม่ให้แล้วนะครับ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน .เรื่องราวดีดีมีสาระที่อยากให้คุณอ่าน!!........ลงเรื่องใหม่ให้แล้วนะครับ  (อ่าน 644 ครั้ง)
กมล ช.
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,783


Id line : Kamol_2529


« เมื่อ: วันที่ 02 ตุลาคม 2013, 13:29:52 »

เรื่องของ......ปลาทูไหม้เรื่องใกล้ตัวที่อ่านแล้วรู้สึดกว้างไกล
                    ผมไม่ค่อยบ่นในครอบครัว....เพราะ...?
....คืนหนึ่งหลังจากที่แม่ทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน แม่กลับบ้านมาด้วยความเหนื่อยล้า และทำอาหารเย็นให้เราปกติ
ที่โต๊ะอาหาร แม่วางจานที่มีปลาทูไหม้เกรียม บนโต๊ะต่อหน้า พ่อ และทุกๆคน....
ผมรอว่าแต่ละคนจะว่าอย่างไร.....
แต่...พ่อไม่พูดอะไร และตั้งหน้าตั้งตา กินปลาทูไหม้ตัวนั้น และหันมาถามผมว่าที่โรงเรียนเป็นอย่างไรบ้าง
คืนนั้นหลังอาหารเย็น ผมจำได้ว่า แม่ขอโทษพ่อที่ทอดปลาทูไหม้...
และผมไม่เคยลืมที่พ่อพูดกับแม่เลย "โอย...ผมชอบปลาทูทอดเกรียมๆ...อร่อยมากจ๊ะ...ที่รัก"
....คืนต่อมา ผมเก็บคำถามในใจ และไปกอดพ่อ และถามพ่อว่า พ่อชอบปลาทูทอดเกรียมๆ จริงๆ เหรอ
พ่อกอดผมไว้ และ ตอบว่า....
"แม่ของลูกทำงานหนักมาทั้งวัน... ปลาทูไหม้ 1 ตัวไม่เคยทำร้ายใคร แต่คำพูดว่าร้ายให้กัน ต่างหากที่จะทำร้ายกัน"
ชีวิต เต็มไปด้วยความไม่สมบูรณ์แบบ และแต่ละคนก็ไม่ได้เกิดมาสมบูรณ์แบบ ตัวผมเองก็ไม่ได้มีอะไรดีกว่าใครๆ
ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ลืมวันเกิดภรรยา วันครบรอบวันแต่งงาน เหมือนกับคนอื่นๆ
...แต่สิ่งที่ผมเรียนรู้ ในช่วงชีวิตคือ.....
การเรียนรู้ที่จะยอมรับความผิดของคนอื่น และการเลือกที่จะยินดีกับความต่างกันของแต่ละบุคคล
เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างชีวิตครอบครัวที่มีความสุขและยืนยาว
ชีวิตสั้นเกินกว่า จะตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเสียใจว่า เราทำผิดกับคนที่เรารัก และ รักเรา
ดูแล และทะนุถนอม คนที่รักคุณ และเข้าใจในคนที่ไม่ชอบคุณ
มีความสุขกับชีวิตนะครับ
เพราะ....มันมีวันหมดอายุ....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 04 ตุลาคม 2013, 21:05:08 โดย คุณ กมล » IP : บันทึกการเข้า

รักษาคำพูดยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดไม่ต้องวางมัดจำถ้าบอกว่าเอายังไงก็เก็บไว้ให้
กมล ช.
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,783


Id line : Kamol_2529


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 02 ตุลาคม 2013, 13:35:18 »

อันนี้เรื่อง....ขอทานกับร้านซาลาเปา
         "การไม่เคารพผู้อื่น หมายถึงการไม่เคารพตัวเอง
และ มีเพียงคนที่เคารพตัวเองเท่านั้น
จึงจะเคารพ...ง า น ที่ ตั ว เ อ ง ทำ"

เหตุเกิด ณ ร้านซาลาเปาร้านหนึ่ง กิจการดีมาก มีลูกค้าเข้าร้านตลอดทั้งวัน
อยู่มาวันหนึ่งมีขอทานสวมเสื้อผ้าเก่าๆ ขาดๆ เนื้อตัวสกปรกมาที่ประตูร้าน ทำให้ลูกค้าหลายคนพากันอุดจมูกเดินหนี
ลูกจ้างของร้านก็เข้ามาต่อว่า และเอ่ยปากไล่ไปให้พ้นร้าน แต่ขอทานก็รีบอธิบาย
"คุณครับ ผมไม่ได้มาขอทานหรอก แต่จะมาซื้อซาลาเปา" พร้อมกับเอาเหรียญเศษสตางค์ ออกมานับด้วยสองมือ...

ลูกจ้างรู้สึกรำคาญ จึงเอามือปัดเหรียญทั้งหมดตกพื้น !!!
ขอทานตกใจ รีบก้มลงเก็บเหรียญบาทบนพื้น แต่หาอย่างไร ก็ขาดไป 1 บาทอยู่ดี

"เหรียญ 1 บาท นี่...คุณทำตกใช่ไหมครับ" ขอทานเงยหน้ามอง ก็เห็นเถ้าแก่ของร้าน...เขาไม่กล้าแม้แต่จะรับเงินจากเถ้าแก่ และกำลังจะวิ่งหนีด้วยความลุกลี้ลุกลน แต่ก็ถูกเถ้าแก่เรียกให้หยุด พร้อมพูดว่า...
"ยินดี ต้อนรับครับ คุณลูกค้า !!! ไม่ทราบว่าคุณต้องการ ซาลาเปาไส้อะไร"

ขอทานตะลึงงัน ผ่านไปสักพัก จึงตอบกลับไปว่า "ผมอยากได้ซาลาเปาไส้หมู 1 ลูก"
"ครับ...กรุณารอสักครู่" แล้วหันไปคีบซาลาเปาไส้หมูออกจากซึ้งมา และยื่นให้ขอทานอย่างนอบน้อม และหันไปถามลูกจ้างว่า... "นี่คือวิธีต้อนรับลูกค้าของเธองั้นหรือ"
"แต่เค้าเป็นแค่ ขอทานคนหนึ่ง" ลูกจ้างอธิบาย
"ต่อให้เค้าเป็นขอทาน ก็เป็นลูกค้าของเรา เธอโดนไล่ออกแล้วล่ะ" เถ้าแก่กล่าว

จากนั้น...เรื่องที่ทำให้คนในร้าน ตกใจยิ่งกว่า ก็คือ...เถ้าแก่ให้ขอทานคนนี้มาเป็นลูกจ้างในร้าน และเมื่อขอทานคนนี้ชำระร่างกายจนสะอาด เผยให้เห็นหน้าตาที่หล่อเหลาผิดคาด อีกทั้งยังขยันขันแข็ง กลายเป็นผู้ช่วยของร้านได้อย่างดี...

ภายหลังมีคนถามเถ้าแก่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า.. "เถ้าแก่ดูออกได้อย่างไรว่า แท้จริงแล้วขอทานคนนี้ เป็นทองชั้นดี" เถ้าแก่ตอบกลับมาว่า... "ที่จริงแล้วง่ายมาก เขาไม่ได้มาขอซาลาเปากิน แต่เขารวบรวมเงินอย่างยากลำบาก มีเงินแล้วค่อยมาซื้อซาลาเปาของเรา แสดงให้เห็นว่า... เขาเป็นคนที่เคารพตัวเอง"


-----------------------------------------------------------------------------

การไม่เคารพผู้อื่น หมายถึงการไม่เคารพตัวเอง
และ มีเพียงคนที่เคารพตัวเองเท่านั้น
จึงจะเคารพ...ง า น ที่ ตั ว เ อ ง ทำ"

เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้ ..
เรื่องราวก็จบลงแล้ว..แต่ในใจเราทุกคนละ..
ได้ข้อคิดอะไร ตกผลึกเป็นดวงปัญญาในใจเราบ้างไหม?
อย่างน้อย..ทำให้เห็นว่า การเคารพในการปฏิสันถารนี้..สำคัญยิ่งนัก..
เป็นหนึ่งในความเคารพ 6 ประการ..
IP : บันทึกการเข้า

รักษาคำพูดยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดไม่ต้องวางมัดจำถ้าบอกว่าเอายังไงก็เก็บไว้ให้
Miss Espresso.
ข้าพเจ้าจะยอมศิโรราบให้มารดาข้าแต่เพียงผู้เดียว
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,005


ฉันก็รักของฉันแค่นั้นเอง


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 02 ตุลาคม 2013, 13:55:57 »

ให้ข้อคิดที่ดีมากๆเลยคะขอบคุณสำหรับบทความดีๆที่นำมาเผยแพร่คะ
IP : บันทึกการเข้า

\\\\\\ เมื่อเธอพอฉันจะรออยุ่ตรงนี้ /////
กมล ช.
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,783


Id line : Kamol_2529


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 02 ตุลาคม 2013, 14:28:32 »

ไว้ว่างๆจะหามาลงอีกครับพอดีไปเจอในเฟสบุ๊คมา ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า

รักษาคำพูดยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดไม่ต้องวางมัดจำถ้าบอกว่าเอายังไงก็เก็บไว้ให้
phap
ในโลกนี้ ไม่มีอะไรที่เราจะทำไม่ได้
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 15



« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 02 ตุลาคม 2013, 20:53:17 »

...เยี่ยมยอด...
IP : บันทึกการเข้า
กา~ระ~เกด
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,743


ผลแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ


« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 02 ตุลาคม 2013, 21:18:07 »

ชอบจังคะ ปลาทูไหม้ ไม่เคยทำร้ายใคร มีแต่คำพูดว่าร้ายที่จะทำร้ายกัน ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

ในทางพระพุทธศาสนา ไม่มีคำว่าเหตุบังเอิญ ไม่มีคำว่าชีวิตไม่มีความยุติธรรม เพราะกฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ
ผลงานการถ่ายภาพติชมแลกเปลี่ยนด้วยนะคะ
http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=380897
กมล ช.
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,783


Id line : Kamol_2529


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 02 ตุลาคม 2013, 22:58:22 »

ชอบจังคะ ปลาทูไหม้ ไม่เคยทำร้ายใคร มีแต่คำพูดว่าร้ายที่จะทำร้ายกัน ยิ้ม
^^
IP : บันทึกการเข้า

รักษาคำพูดยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดไม่ต้องวางมัดจำถ้าบอกว่าเอายังไงก็เก็บไว้ให้
akoms
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,335



« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 03 ตุลาคม 2013, 02:40:49 »

ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวดีดีครับ
IP : บันทึกการเข้า

อาคม ทรงเจริญ
085-2951870 (1-2-call)
sama-air
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,028



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 03 ตุลาคม 2013, 03:30:46 »

  ชอบมั่กๆคัฟ  ยิงฟันยิ้ม เอามไห้อ่านเรื่อยๆน่ะคัฟ  ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

(((((ดีกรีมันพาไป)))))
กมล ช.
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,783


Id line : Kamol_2529


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 03 ตุลาคม 2013, 08:47:00 »

เรื่องนี้ยาวหน่อยนะครับ  เรื่อง คุณแม่นักซักผ้า
             หนุ่มน้อยเพิ่งจบการศึกษาด้วยผลการเรียนดีเยี่ยมไปสมัครงานในตำแหน่งผู้จัดการ
ในบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง หลังจากผ่านการสอบสัมภาษณ์ครั้งแรกไปแล้ว ผู้อำนวยการ ได้เรียกเขาไปสัมภาษณ์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนตัดสินใจ ผู้อำนวยการเห็นข้อมูลในประวัติ ของเด็กหนุ่มคนนี้ว่ามีผลการเรียนเป็นเลิศในทุกวิชาตลอดมา นับตั้งแต่อุดมศึกษาจน จบมหาวิทยาลัย ไม่ปรากฏว่าเขาทำคะแนนตกเลย
ผู้อำนวยการเริ่มคำถามว่า “เธอเคยได้รับทุนการศึกษาอะไรหรือเปล่า”
เด็กหนุ่มตอบว่า “ไม่เคยครับ”
ผู้อำนวยการถามต่อว่า “คุณพ่อของเธอเป็นคนจ่ายค่าเล่าเรียนให้ใช่ไหม”
เด็กหนุ่มตอบว่า “คุณพ่อของผมเสียไปตั้งแต่ผมอายุได้ขวบเดียวครับ เป็นคุณแม่ที่จ่ายค่าเล่าเรียนให้ผม”
ผู้อำนวยการถามต่อว่า “คุณแม่ของเธอทำงานที่ไหน”
เด็กหนุ่มตอบว่า “คุณแม่ทำงานซักรีด”
ผู้อำนวยการขอดูมือของเขา เด็กหนุ่มยื่นมือที่เรียบลื่นไม่มีที่ติให้ผู้อำนวยการดูผู้อำนวยการถามต่อว่า “เธอเคยช่วยคุณแม่ของเธอทำงานบ้างหรือเปล่า”เขาตอบว่า “ไม่เคยครับ คุณแม่ต้องการให้ผมเรียนแล้วก็อ่านหนังสือเยอะๆ คุณแม่ซักผ้าได้เร็วกว่าผมด้วยครับ”ผู้อำนวยการบอกว่า “ฉันมีเรื่องให้เธอช่วยทำอย่างหนึ่งนะ วันนี้เธอกลับไปที่บ้านช่วยล้างมือของคุณแม่ของเธอแล้วกลับมาพบฉันอีกทีพรุ่งนี้เช้า” ด้วยความมั่นใจว่าโอกาสที่จะได้งานทำมีอยู่สูงมากเมื่อเขากลับไปถึงบ้านเขาจึงรู้สึกเต็มใจที่จะล้างมือให้แม่ของเขา ฝ่ายแม่รู้สึกประหลาดใจระคนหวั่นใจเธอส่งมือให้ลูก หนุ่มน้อยค่อยๆ ล้างมือให้แม่ แล้วน้ำตาไหลก็ออกมา เขาเพิ่งรู้สึกว่ามือของแม่นั้นช่างเหี่ยวย่นและเต็มไปด้วยริ้วรอยขูดข่วน ซึ่งบางแผลพอโดนล้างน้ำก็ทำให้แม่เจ็บจนตัวสั่นระริก นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มตระหนักรู้ว่ามือคู่นี้เองที่ซักผ้าทุกวันเพื่อหารายได้มาส่งเสียให้เขาได้เล่าเรียนรอยแผลเหล่านี้คือราคาที่แม่ต้องจ่ายไปเพื่อความสำเร็จในการศึกษาของเขา เพื่อผลการเรียนที่ยอดเยี่ยมของเขา และอาจจะเพื่ออนาคตของเขาด้วย คืนนั้นสองแม่ลูกได้คุยกันอยู่นาน เช้าวันต่อมา เด็กหนุ่มก็เดินทางไปที่ออฟฟิศของผู้อำนวยการ ผู้อำนวยการสังเกตเห็นน้ำตาในดวงตาของเขา จึงถามขึ้นว่า“ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยว่าเมื่อคืนที่บ้าน เธอทำอะไรบ้าง แล้วได้บทเรียนอะไร”เด็กหนุ่มตอบว่า “ผมล้างมือให้แม่ครับ แล้วก็เลยช่วยแม่ซักผ้าที่เหลือจนเสร็จ”ผู้อำนวยการบอกว่า “ช่วยเล่าให้ฉันฟังหน่อยว่า เธอรู้สึกยังไง” เด็กหนุ่มตอบ “ข้อที่หนึ่ง ผมได้รู้ซึ้งถึงคำว่า สำนึกในบุญคุณถ้าไม่มีแม่ก็คงไม่มีความสำเร็จของผมด้วยข้อที่สอง จากการช่วยแม่ทำงานว่า ผมได้รู้ว่ามันลำบากยากเย็นยังไงกว่าจะทำอะไรออกมาสักอย่างหนึ่งข้อที่สาม ผมได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของความผูกพันในครอบครัว”ผู้อำนวยการจึงบอกว่า

“ นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการ ฉันอยากได้คนที่รู้ค่าของการได้รับความช่วยเหลือ
อยากได้คนที่เข้าใจถึงความลำบากของใครสักคนในการจะทำอะไรได้มาสักอย่างและอยากได้คนที่ไม่ได้ตั้งเงินเป็นเป้าหมายในชีวิตแต่เพียงอย่างเดียวมาเป็นผู้จัดการให้ฉันเป็นอันตกลงว่าฉันรับเธอไว้ทำงาน ”ในเวลาต่อมา เด็กหนุ่มคนนี้ก็ได้ทำงานอย่างหนักและได้รับความนับถือจากผู้ใต้บังคับบัญชา ลูกจ้างทุกคนทำงานเป็นทีมอย่างขยันขันแข็ง กิจการของบริษัทก็เจริญก้าวหน้าเป็นอย่างดี เด็กที่ถูกตามใจจนเป็นนิสัยได้ รับทุกอย่างที่ต้องการ จะสร้างนิสัยเอาแต่ใจตัวเองและเห็นแก่ตัวเองเป็นอันดับแรก เขาจะไม่สนใจความเหนื่อยยากของพ่อแม่ เมื่อถึงวัยทำงานเขาก็จะคาดหวังว่า ใครๆ จะต้องเชื่อฟังเขา เมื่อเขาเป็นผู้จัดการ เขาจึงไม่มีวันรู้ว่าบรรดาลูกจ้างนั้นลำบากอย่างไร และมักจะโทษคนอื่นคนลักษณะนี้เขาอาจจะทำงานได้ อาจจะประสบความสำเร็จช่วงหนึ่ง แต่ในที่สุดแล้ว เขาจะไม่สำเหนียกคุณค่าของความสำเร็จ หากยังคงคร่ำครวญ เคียดขึ้ง และไม่มีวันรู้สึกเพียงพอ

ถ้าเราเป็นพ่อแม่ประเภทที่ปกป้องลูกแบบนี้
จงถามตัวเราว่า
เรากำลังให้ความรักกับลูก
หรือ
กำลังทำลายเขากันแน่ ?
เราให้ลูกๆ มีบ้านใหญ่ๆ อยู่
กินอาหารดีๆ
เรียนเปียโน
ดูทีวีจอใหญ่
แต่เวลาที่เราตัดหญ้า ลองให้ลูกได้ทำด้วย
หลังอาหาร ให้เขาล้างถ้วยชามของตัวเองพร้อมๆ กับพี่ๆ น้องๆ
ไม่ใช่ว่าเราไม่มีปัญญาจ้างคนรับใช้
แต่เพราะเราอยากจะให้ความรักกับพวกเขาอย่างถูกวิธี
เราอยากให้เขาเข้าใจว่า
ไม่ว่าพ่อแม่จะจนหรือจะรวย วันหนึ่งก็จะต้องผมขาวแก่เฒ่าลงไปเหมือนกับแม่ของเด็กหนุ่มคนนี้

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ลูกของเราจะได้เรียนรู้ คือ
รู้คุณค่าของความพยายาม
ได้รู้จักว่า ความยากลำบากมันเป็นยังไง
และได้เรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกับผู้อื่นให้เป็น...
บทความนี้สกิดใจทั้งผู้ที่เป็นพ่อแม่และผู้ที่เป็นลูก ผู้ที่เป็นนายจ้างและลูกน้อง ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่และเด็ก ให้เรียนรู้ถึงการทำอะไรสักอย่าง ไม่ได้มาอย่างง่ายๆ ทุกสิ่งทุกอย่างหากมองเห็นแค่ยอดของความสำเร็จ ก็จะมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ใต้หรือฐานรองของมัน ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความนี้จริงๆ
IP : บันทึกการเข้า

รักษาคำพูดยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดไม่ต้องวางมัดจำถ้าบอกว่าเอายังไงก็เก็บไว้ให้
กมล ช.
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,783


Id line : Kamol_2529


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 04 ตุลาคม 2013, 19:08:33 »

เรื่องนี้มีชื่อว่า"ชายชรากับลังเหล็ก"

กาลครั้งหนึ่ง ยังมีคุณลุงอยู่ท่านหนึ่ง ในช่วงวัยหนุ่มคุณลุงท่านนี้เป็นหัวหน้าคนงานอยู่ในเหมืองทองคำ มีรายได้ดีมาก แต่คุณลุงท่านนี้ไม่เคยเก็บเงินเลย มีเท่าไหร่ก็ใช้หมด เนื่องจากคุณลุงเป็นคนจิตใจดี ใครมาหยิบยืมก็ให้ เลี้ยงเพื่อนฝูงตลอด คุณลุงมีเพื่อนเยอะมาก จนกระทั่งคุณลุงท่านนี้เกษียณอายุจากการทำงาน ปรากฏว่า ไม่มีเงินเหลือเลยจากชีวิตการทำงานอันยาวนาน คุณลุงมีลูกอยู่ 5 คน เมื่อคุณลุงไม่มีเงินก็จำเป็นต้องไปอาศัยอยู่บ้านลูก ๆ ทั้ง 5 คน
วันจันทร์ ไปอยู่บ้านลูกสาว ก็ถูกลูกเขยพูดจากระทบกระเทียบ เช่น ทำไมคุณพ่อคุณไม่ไปบ้านลูกคนอื่นบ้างนะ ผมจะทำอะไรก็อึดอัดจริง ๆ
วันอังคาร ไปอยู่บ้านลูกชาย ก็ถูกหลานและลูกสะใภ้กระทบกระเทียบ เช่น รำคาญคุณปู่จังเลย กับข้าวที่หนูชอบดูสิคุณปู่ทานหมดเลย ทำไมคุณปู่ไม่ไปบ้านอื่นบ้าง
เป็นเช่นนี้ตลอด คุณลุงก็เปลี่ยนไปอยู่บ้านลูกคนนั้นที คนนี้ที ก็ถูกลูกบ้าง ลูกเขยบ้าง ลูกสะใภ้บ้าง หลานบ้าง พูดจาถากถางอยู่ตลอด แต่คุณลุงก็ต้องทน เพราะคุณลุงไม่มีเงินเก็บแม้แต่บาทเดียว
อยู่มาวันหนึ่ง คุณลุงตัดสินใจเรียกลูก ๆ ทุกคนมาแล้วบอกว่า พ่อจะไม่อยู่สัก 2 ปีนะลูก เพราะเพื่อนพ่อที่เป็นเจ้าของเหมืองทองคำมันเขียนจดหมายมาขอร้องให้พ่อไปช่วยงานที่เหมืองทองคำของมัน พ่อจำเป็นต้องไปช่วยเขาจริง ๆ ลูก ๆ ได้ฟังก็ดีใจสนับสนุนเพื่อให้คุณลุงท่านนี้ไปให้พ้น ๆ จะได้ไม่เป็นภาระอีกต่อไป
เมื่อครบ 2 ปี คุณลุงท่านนี้กลับมาพร้อมกับลังเหล็กใบใหญ่ 1 ใบ ไปไหนแกก็ลากไปด้วย ลูก ๆ ก็พากันแปลกใจและถามว่า “ลังอะไร ?” คุณลุงตอบว่า เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่ได้มาจากเหมืองทองคำของเพื่อน ถ้าใครดูแลพ่อจนถึงวาระสุดท้าย ก็จะมอบสมบัติในลังเหล็กให้ทั้งหมด
ปรากฏว่า ลูก ๆ พากันตื่นเต้น ต่างอาสามาดูแลคุณพ่อกันยกใหญ่
วันจันทร์ คุณลุงก็อยู่กับลูกสาวคนโต ลูกเขยกับหลานก็พากันเอาใจบีบนวดให้ หาของกินดี ๆ มาให้ แต่ยังไม่ทันไรลูกชายคนที่สองก็มาตามให้ไปอยู่ด้วย และก็เช่นกันยังไม่ทันไร ลูกสาวคนที่สาม ก็มาตามให้ไปอยู่ด้วยอีก ลูก ๆ ทั้ง 5 คน ของคุณลุงต่างแย่งกันเอาใจและปรนนิบัติคุณลุงท่านนี้อย่างดี แต่เวลาไปไหนคุณลุงก็จะลากลังเหล็กใบนี้ไปด้วยตลอด
เวลาผ่านไป 7 ปี คุณลุงท่านนี้เสียชีวิตลง หลังงานพิธีศพลูก ๆ ทุกคนมานั่งล้อมลังเหล็กใบนี้เพื่อแบ่งสมบัติกัน ลูกสาวคนโตเป็นคนเปิดฝาลังเหล็ก พบว่ายังมีผ้าสีขาวปิดอยู่อีกชั้นหนึ่ง และมีจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่ ลูกสาวคนโตก็เปิดอ่านให้น้อง ๆ ฟัง เนื้อความในจดหมายเขียนไว้ว่า...

“ถึงลูก ๆ ที่รักทุก ๆ คน ก่อนอื่นพ่อต้องขอบคุณก้อนหินทุก ๆ ก้อนในลังเหล็กใบนี้ ที่ได้เลี้ยงดูชีวิตพ่อจนถึงวาระสุดท้าย พ่อขอให้ลูก ๆ แบ่งก้อนหินในลังเหล็กใบนี้ไปคนละเท่า ๆ กัน เพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนใจให้พวกเจ้าหมั่นเก็บออมเสียตั้งแต่วันนี้ เพื่อที่เวลาพวกเจ้าแก่ตัวลงจะได้ไม่มีชีวิตที่น่าสมเพชเยี่ยงพ่อ”
รักลูก
จากพ่อ

อย่าใช้ชีวิตอย่างประมาท อย่าคาดหวังว่าจะพึ่งพาผู้อื่นได้ ให้เร่งเก็บออมเสียตั้งแต่เนิ่น ๆ จะได้ใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างเป็นสุข ไม่เดือดร้อนใคร เหตุการณ์แบบนี้อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน ที่ไม่เตรียมเก็บออมเงินเสียแต่เนิ่น ๆ

“พึ่งพาใครไหนเล่า...จะดีเท่าพึ่งพาตัวเราเอง”
IP : บันทึกการเข้า

รักษาคำพูดยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดไม่ต้องวางมัดจำถ้าบอกว่าเอายังไงก็เก็บไว้ให้
blue dragon
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 924


..แดดสุดท้าย..


« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 04 ตุลาคม 2013, 21:06:48 »

ขอบคุณเรื่องราวดีๆ ครับผม
IP : บันทึกการเข้า

กั๋นว่าจะมัด บ่ต้องมัดด้วยป๋อ กำปากกำคอ มัดกั๋นก็ได้
https://www.facebook.com/skyline.blue.9
กมล ช.
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,783


Id line : Kamol_2529


« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 11 ตุลาคม 2013, 21:52:36 »

เรื่อง"หม้อดินใบร้าว" บทความที่ให้แง่คิดดีดี

ชายชาวอินเดียคนหนึ่ง ช่วงสองปีที่ผ่านมา ผู้คนจะพบเห็นจนชินตาว่า บนบ่าของเขามีหม้อดินใบใหญ่วางอยู่ข้างละใบ หม้อดินใบหนึ่งมีรอยร้าว ขณะอีกใบสมบูรณ์สวยงาม ไร้ที่ติ
หม้อใบสวยสามารถบรรจุน้ำไว้เต็มเปี่ยม นับจากลำธารจนถึงบ้านเจ้านาย ขณะที่อีกใบหนึ่งนั้น เมื่อมาถึงปลายทางกลับเหลือน้ำแค่ครึ่งเดียว เท่ากับว่าชายผู้นี้ขนน้ำได้เที่ยวละหม้อครึ่งอยู่ทุกครั้ง
แน่ล่ะ หม้อดินใบสวยย่อมภาคภูมิใจในตนเอง ที่ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ ครบถ้วน
ส่วนหม้อดินใบร้าว นอกจากอดไม่ได้ที่จะรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในความไม่สมประกอบของตนเองแล้ว มันยังรู้สึกผิดกับการทำหน้าที่ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยอีกด้วย
หลังจากสองปีเต็มที่แบกความทุกข์ระทมขมขื่นนั้นเอาไว้ วันหนึ่ง มันจึงตัดสินใจเอ่ยกับคนหาบน้ำตรงลำธารว่า
"ฉันรู้สึกละอายใจเหลือเกิน ฉันอยากขอโทษท่าน ตลอดสองปีมานี้ ฉันทำงานให้ท่านได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เนื่องจากเจ้ารอยร้าวบนตัวฉันมันทำให้น้ำรั่วไหลไปตลอดทาง"
เมื่อฟังเช่นนั้นแล้ว คนขนน้ำก็พลอยรู้สึกเสียใจไปด้วย และแล้วเขาก็พูดว่า
"เอาล่ะ ระหว่างทางที่เราจะเดินกลับไปบ้านเจ้านาย ฉันอยากให้เธอสังเกตดอกไม้สวย ๆ ข้างทางเดินสักหน่อย เธอไม่ได้สังเกตหรอกหรือว่า ทำไมดอกไม้ป่าเหล่านั้น ถึงได้งอกงามเฉพาะฝั่งที่ฉันแบกเธอเท่านั้น ทำไมมันไม่ขึ้นอีกฟากหนึ่งด้วยล่ะ นั่นเป็นเพราะฉันได้ตระหนักในข้อจำกัดของเธอ จึงอาศัยเงื่อนไขนี้เพาะเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ป่าตรงทางเดินฝั่งที่ฉันแบกเธอเสมอมา และทุก ๆ วันขณะที่เราเดินกลับบ้าน เธอเองก็ได้ช่วยฉันรดน้ำให้มัน แล้วในสองปีนี้ ฉันก็ได้เด็ดดอกไม้สวย ๆ นี้ไปปักแจกันให้เจ้านายของเราด้วย นี่ถ้าหากไม่มีเธอแล้วล่ะก็ เจ้านายของเราคงไม่มีโอกาสได้ดอกไม้ป่าอันแสนสวยงาม ที่ผลิสะพรั่งอยู่ระหว่างทางมาประดับบ้านเป็นแน่"

ตัวเรามีคุณค่าดีพอ
ถ้าไม่เปรียบเทียบกับคนอื่นมากเกินไป
ถ้าคิดว่าสิ่งไหนมันไม่ดีก็พยายามแก้ไขทำให้มันดีขึ้น
ผลลัพธ์ของการกระทำไม่ใช่คำตอบแห่งชัยชนะของชีวิต
จุดมุ่งหมายและความตั้งใจจริงของเราต่างหากคือคำตอบที่แท้จริง
IP : บันทึกการเข้า

รักษาคำพูดยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดไม่ต้องวางมัดจำถ้าบอกว่าเอายังไงก็เก็บไว้ให้
กา~ระ~เกด
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,743


ผลแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ


« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 12 ตุลาคม 2013, 12:38:52 »

มีข้อคิดดี ๆ เสมอเลยคนนี้ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

ในทางพระพุทธศาสนา ไม่มีคำว่าเหตุบังเอิญ ไม่มีคำว่าชีวิตไม่มีความยุติธรรม เพราะกฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ
ผลงานการถ่ายภาพติชมแลกเปลี่ยนด้วยนะคะ
http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=380897
กมล ช.
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,783


Id line : Kamol_2529


« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 13 ตุลาคม 2013, 15:28:34 »

มีข้อคิดดี ๆ เสมอเลยคนนี้ ยิงฟันยิ้ม
ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า

รักษาคำพูดยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดไม่ต้องวางมัดจำถ้าบอกว่าเอายังไงก็เก็บไว้ให้
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!