เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 27 กรกฎาคม 2025, 18:47:10
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  สวนยางพาราเมืองพ่อขุนฯ ส่อทะลุล้านไร่ ขึ้นแท่นอันดับ 4 ประเทศ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน สวนยางพาราเมืองพ่อขุนฯ ส่อทะลุล้านไร่ ขึ้นแท่นอันดับ 4 ประเทศ  (อ่าน 4125 ครั้ง)
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2010, 21:28:50 »

เชียงราย - สวนยางพาราเมืองพ่อขุนฯ ส่อทะลุล้านไร่ ขึ้นแท่นอันดับ 4 ประเทศ ทุนใหญ่ไทย-จีนจ่อตั้งโรงงานแปรรูป



รายงานข่าวจากสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) จ.เชียงราย แจ้งว่า จนถึงขณะนี้เชียงราย มียอดรวมการปลูกยางพาราทั่วทั้ง 18 อำเภอ มากถึง 347,857 ไร่ โดยพื้นที่ที่ปลูกมากที่สุดคือ อ.เชียงของ จำนวน 58,560 ไร่ รองลงมาคือ อ.เทิง จำนวน 43,258 ไร่ อ.ดอยหลวง จำนวน 40,150 ไร่ อ.เวียงเชียงรุ้ง 31,576 ไร่ อ.พญาเม็งราย 25,790 ไร่ อ.เวียงแก่น 25,427 ไร่ อ.เมือง 20,890 ไร่ อ.เวียงชัย 16,062 ไร่ อ.แม่จัน 14,970 ไร่ อ.แม่สรรวย 8,870 ไร่ อ.เวียงป่าเป้า 8,620 ไร่ อ.พาน 8,400 ไร่ อ.แม่ฟ้าหลวง 6,420 ไร่ อ.แม่ลาว 4,610 ไร่ อ.ขุนตาล 4,140 ไร่ อ.ป่าแดด 2,530 ไร่ และ อ.แม่สาย 494 ไร่ เป็นมีต้นยางที่อายุเกิน 6 ปีและมีการกรีดน้ำยางไปแล้วประมาณ 10%

ส่วนโครงการขยายพื้นที่ปลูกอีก 8 แสนไร่นั้น ปรากฏว่าได้ทำให้แนวโน้มสวนยางพาราในพื้นที่เชียงราย เพิ่มมากขึ้นอีก เนื่องจากมีผู้เสนอขอเข้าร่วมโครงการไปยัง สกย.เชียงราย จำนวนกว่า 86,000 ราย รวมเนื้อที่ปลูกกว่า 1 ล้านไร่ ขณะที่แนวโน้มการจัดสรรพื้นที่ปลูก ที่จะเน้นหนักภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อคำนวณจากอัตราเฉลี่ยทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนืออาจจะได้โควตาเฉลี่ยจังหวัดละเพียงประมาณ 10,000 ไร่

นายวิทยา ชุมวณิชย์ ผู้อำนวยการ สกย.เชียงราย กล่าวว่า ต้องถือว่าพื้นที่ภาคเหนือโดยเฉพาะเชียงรายนั้นพึ่งจะเริ่มต้นทำการปลูกยางพาราโดยนับตั้งแต่มีโครงการยางล้านไร่สมัยรัฐบาลในอดีตเป็นต้นมาก็พบว่าปลูกกันไม่เกิน 7 ปี และแม้จะมีเอกชนปลูกนอกโครงการบ้างก็ยังมีอยู่เพียงไม่กี่ราย ดังนั้นการที่มีจำนวนสวนยางพาราเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลแบบก้าวกระโดด จึงมีปัญหาเรื่องความชำนาญของเกษตรกร เพราะเจ้าหน้าที่ สกย.มีอยู่จำนวนจำกัดจึงต้องแสวงหาความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อไม่ให้สายเกินไป เพราะบางปัญหาถือเป็นเรื่องใหญ่และน่าเสียดายอย่างมาก

ตัวอย่างเช่น การกรีดน้ำยางต้องทำในต้นที่มีลำต้นกว้างไม่น้อยกว่า 50 ซ.ม.และการกรีดหน้ายางต้องทำให้ถูกต้องไม่เสียหน้ายางจะได้ผลักกันกรีดด้านละ 3 ปีสลับกันไปมาจนกว่าจะหมดอายุต้นยางในอีก 20 ปีข้างหน้า ฯลฯ แต่ปัญหาที่พบในปัจจุบันคือเมื่อเกษตรกรเห็นราคาน้ำยางและยางแผ่นขึ้นสูงก็รีบกรีดทำให้ไม่ได้น้ำยาง หรือกรีดยางไม่ถูกต้องทำให้หน้ายางตายไม่สามารถกรีดซ้ำได้อีกจนเสี่ยงต่อการต้องตัดขายลำต้นก่อนเวลาอันควรในที่สุด เป็นต้น ดังนั้น สกย.จึงได้ประสานไปหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล เพื่อให้จัดทำโครงการฝึกอบรมการเกษตรกรเป็นระยะเวลา 7 วันโดยทาง สกย.พร้อมจะจัดส่งเจ้าหน้าที่และเครื่องมืออุปกรณ์ไปสนับสนุน เพราะจำนวนประชากรมีมากและกระจายไปทั่วพื้นที่คงต้องอาศัยหน่วยงานต่างๆ ด้วย
นายวิทยา บอกว่า คาดว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เชียงราย จะมีการปลูกยางพารามากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศต่อจาก สงขลา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง ฯลฯ ส่วนความกังวลเรื่องตลาดนั้นไม่น่าเป็นห่วงเพราะจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าในปัจจุบันยางพาราของไทยส่วนใหญ่เน้นการส่งออก จีนสูงถึง 39% อินเดีย 17% ซึ่งตามหลักเศรษฐศาสตร์และการเจริญช่วงต้นของเศรษฐกิจคาดว่าตัวเลขของอินเดียคงจะไปถึงอย่างน้อย 39% เหมือนจีนและอัตราเติบโตยังต่อเนื่องจนไทยเราผลิตไม่ทันทำให้เหลือใช้ในประเทศแค่ 4%

ขณะเดียวกันเชียงราย ยังมีขีดความสามารถจะส่งออกไปยังจีนตอนใต้ผ่านถนน R3A อ.เชียงของ-ห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว และแขวงหลวงน้ำทา สปป.ลาว-มณฑลหยุนหนัน จีนตอนใต้ ด้วยระยะทางเพียงแค่ 250 กิโลเมตร โดยปัจจุบัน สกย.กำลังผลักดันให้มีการตั้งสำนักงานเพิ่มเติมที่ด่านเชียงของ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการส่งออกยางพาราไปยังจีนตอนใต้แล้วด้วย

"ปัจจุบัน สกย.ได้เตรียมตัวในหลายๆ ด้านเพื่อรองรับความเติบโตดังกล่าว โดยในพื้นที่เชียงรายมีการรวบรวมกลุ่มเกษตรกรได้แล้วจำนวน 42 กลุ่มเป็นสหกรณ์สวนยางพาราจำนวน 2 แห่ง และกลุ่มพัฒนาสวนยางพาราจำนวน 40 แห่ง เพื่อเป็นเครือข่ายประสานข้อมูลกันและจัดตั้งเป็นตลาดประมูลยางพาราเพื่อให้เอกชนที่รับซื้อได้เข้าไปซื้อผลผลิตจากเกษตรกรทั้งหมดในราคายุติธรรม และทุกฝ่ายสามารถอยู่ร่วมกันได้ โดยราคาที่ได้เป็นไปตามการอิงกับราคากลางตามหมายเลขสายด่วน 1174 บวกกับค่าต้นทุนของพ่อค้าที่เขาต้องเดินทางไปรับซื้อไกลและขนไปรมควันยังจังหวัดอื่นเพราะในปัจจุบันเชียงรายยังไม่มีโรงงานรมควันและแปรรูป แต่เชื่อว่าอีกไม่กี่ปีต้องมีแน่นอนเพราะมีทั้งแหล่งน้ำยางขนาดใหญ่และจุดส่งออกที่สำคัญ" นายวิทยา กล่าว

รายงานข่าวแจ้งอีกว่าเมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีเอกชนแปรรูปยางพารารายใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศจีน เดินทางไปปรึกษาที่สำนักงาน สกย.เชียงราย เพื่อสอบถามข้อมูลการจะเข้าไปลงทุนตั้งโรงงานแปรรูปยางโดยระบุว่า กำลังตัดสินใจว่าจะไปตั้งโรงงาน ณ จุดใดระหว่างในประเทศเวียดนามหรือที่เชียงราย และหลังจากได้ข้อมูลอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องดังกล่าว รวมทั้งได้รับทราบว่าไม่ได้เป็นเอกชนรายเดียวที่สนใจเข้าไปตั้งโรงงานโดยก่อนหน้านี้มีเอกชนไทยรายใหญ่หลายรายเข้าไปประกอบกิจการทั้งกว้านซื้อที่ดิน ปลูกยางพารา และเตรียมตั้งโรงงาน เช่น บริษัท ไทยฮั้วยางพารา จำกัด (มหาชน) บริษัทไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) องค์การสวนยาง บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กลุ่มเบียร์สิงห์ กลุ่มน้ำยางไทย ฯลฯ ทำให้เอกชนจีนนำข้อมูลทั้งหมดกลับไปพิจารณาเพื่อการลงทุนในอนาคตต่อไป

อนึ่งเมื่อปี 2550 ที่ผ่านมายางแผ่นรมควันถูกส่งออกผ่านท่าเรือแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงแสน ไปยังจีนตอนใต้ 21,327 ตัน มูลค่า 1,361.05 ล้านบาท โดยเป็นสินค้าส่งออกมากเป็นอันดับ 1 มากกว่าลำไยอบแห้ง น้ำมันปาล์ม เส้นด้ายยางยืด ฯลฯ อย่างไรก็ตามในช่วงหลังการส่งออกน้อยลงเนื่องจากหันไปส่งออกทางเรือทะเลได้สะดวกจึงทำให้เมื่อปี 2552 ที่ผ่านมา มีการส่งออก 4,594 ตัน มูลค่า 244.14 ล้านบาท และหากสะพานข้ามแม่น้ำโขงแล้วเสร็จประกอบกับมีการเปิดใช้ถนน R3A รวมทั้งข้อตกลงขนส่งทางบกอย่างเป็นทางการจะทำให้ผู้ประกอบการหันไปส่งออกทางถนน R3A สู่จีนตอนใต้มากขึ้น ซึ่งปีกลายที่ผ่านมาเริ่มมีการทดลองส่งออกผ่านด่านศุลกากรเชียงของและนำลงเรือแพขนานยนต์ข้ามไปยังฝั่ง สปป.ลาว แล้วจำนวน 748 ตัน มูลค่า 35.266 ล้านบาท

http://www.manager.co.th/Local/ViewN...=9530000131252
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
AIT
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,914



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2010, 21:44:40 »

ตอนนี้เลยไปทางไหนก็มีแต่ยาง
IP : บันทึกการเข้า
เสือไฟ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,171


บำบัดทุกข์ บำรุงสุข


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2010, 21:49:55 »

อีกหน่อยข้าวจะแพง...
IP : บันทึกการเข้า
bm farm
หัวหมู่ทะลวงฟัน
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,576


canon eos


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2010, 22:48:51 »

 ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์...ถ้ามีที่ดิน...ผมก็จะปลูกเหมือนกัน
IP : บันทึกการเข้า

ยิ้มกว้างๆ .....อ่านกฏ,กติกาการใช้งานเวบบอร์ดด้วยครับ.....
ratti
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 19 กันยายน 2010, 16:59:58 »

เชียงรายจงเจริญ
เมืองเศรษฐกิจอย่างนี้ มั่งคั่งกันถ้วนหน้าค่ะ
IP : บันทึกการเข้า
เมือง_ คนเจียงฮาย
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 158



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 20 กันยายน 2010, 08:37:13 »

ผมเป็นห่วงคนเชียงรายครับ เพราะคนที่มีที่ดินปลูกจริงๆ ส่วนมากก็คนมีกะตังค์จากที่อื่นๆมากว๊านซื้อ แต่คนที่เคยเจ้าของเดิม ก็ขายที่ดินให้เขาไปนับสิบๆปี ก็อยากให้ลูกหลานเรียนจบมา ได้ทำงานที่บ้านเรา อยู่กับพ่อแม่แก่เฒ่า เราจะช่วยเหลืออะไรกับสังคมคนเชียงรายได้บ้างครับ
IP : บันทึกการเข้า

จงฝืนกระแสแห่งใจที่ไหลลงต่ำในทุกเวลาเถิด ฮักห้วยน้ำฮาก
เทพบุตรดาวเหนือ เคนชิโร่
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,614


เฮาจะฮักคนที่ฮักเฮา@^__^@


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 20 กันยายน 2010, 09:29:53 »

ผมเป็นห่วงคนเชียงรายครับ เพราะคนที่มีที่ดินปลูกจริงๆ ส่วนมากก็คนมีกะตังค์จากที่อื่นๆมากว๊านซื้อ แต่คนที่เคยเจ้าของเดิม ก็ขายที่ดินให้เขาไปนับสิบๆปี ก็อยากให้ลูกหลานเรียนจบมา ได้ทำงานที่บ้านเรา อยู่กับพ่อแม่แก่เฒ่า เราจะช่วยเหลืออะไรกับสังคมคนเชียงรายได้บ้างครับ

+1 ที่รู้มามีคนต่างจังหวัดไปกว้านซื้อที่ปลูกยาง คนเชียงรายส่วนมากก็เป็นแค่ลูกจ้าง ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

ขายปลีกและส่ง
       - Micro SD Card,Flash Drive ยี่ห้อKingston Sandisk Apacer
       - Power Bank ,สายชาร์ท สายซิงค์ทุกรุ่น
       - ลำโพงกระป๋อง ,ลำโพงรถ
>:l!ne-po!nt:<
~: ดาบราชบุตร :~
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,257

~>: แขกดอย :<~


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 20 กันยายน 2010, 10:00:16 »

ผมเป็นห่วงคนเชียงรายครับ เพราะคนที่มีที่ดินปลูกจริงๆ ส่วนมากก็คนมีกะตังค์จากที่อื่นๆมากว๊านซื้อ แต่คนที่เคยเจ้าของเดิม ก็ขายที่ดินให้เขาไปนับสิบๆปี ก็อยากให้ลูกหลานเรียนจบมา ได้ทำงานที่บ้านเรา อยู่กับพ่อแม่แก่เฒ่า เราจะช่วยเหลืออะไรกับสังคมคนเชียงรายได้บ้างครับ

+1 ที่รู้มามีคนต่างจังหวัดไปกว้านซื้อที่ปลูกยาง คนเชียงรายส่วนมากก็เป็นแค่ลูกจ้าง ยิงฟันยิ้ม
+1 อีกคนครับ
IP : บันทึกการเข้า

!!!!!  กว่า ๑,๑๐๐ กม.จากยอดดอยสู่ทะเล...ตะวันออก  !!!!!

www.facebook.com/1100kilometer

||||| ธรรมชาติสร้างอากาศบริสุทธิ์    ส่วนมนุษย์นั้นสร้างอาวุธเพื่อทำลาย |||||
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 20 กันยายน 2010, 12:11:58 »

 วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2553 ปีที่ 34 ฉบับที่ 4246  ประชาชาติธุรกิจ


7ยักษ์ยึดหัวหาดเชียงรายปลูกยาง "ไทยเบฟ-ไทยฮั้ว-ไทยรับเบอร์-เบียร์สิงห์"ปักธง




 
เอกชนยักษ์ใหญ่ไทย-จีน พาเหรดยึด พื้นที่เชียงรายปลูกยางพารา และตั้งโรงงานแปรรูปยางแผ่นส่งออก ผู้อำนวยการ สกย.เชียงรายเผยดีมานด์จากตลาดจีน อินเดีย โตไม่หยุด ทำให้ไทยผลิตและ ส่งออกยางไม่ทันความต้องการ ขณะที่เกษตรกรแห่เข้าร่วมโครงการปลูกยางเฉียดล้านไร่ ด้านราคากล้ายางพุ่งสูงต้นละ 35 บาท ขาดตลาดอย่างหนัก


นายวิทยา ชุมวณิชย์ ผู้อำนวยการ สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) จ.เชียงราย เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้ความต้องการยางพาราของต่างประเทศเพิ่มขึ้นไม่หยุด จนประเทศไทยผลิตและส่งออกไม่ทัน ปัจจุบันผลผลิตที่ได้ใช้ในประเทศแค่ 4% และส่งไปจีนมากที่สุด 39% อินเดีย 17% โดยเฉพาะตลาดอินเดีย ในอนาคตคาดว่าอย่างน้อยก็ต้องโตเท่ากับจีน ด้วยเหตุนี้ในปัจจุบันจึงมีเอกชนที่เกี่ยวข้องกับกิจการยางพารารายใหญ่ของประเทศไทย 6-7 ราย ทยอยไปลงทุนปลูกยาง และเตรียมสร้างโรงงานแปรรูปยางแผ่นและยางแผ่นรมควันใน จ.เชียงราย เช่น บริษัท ไทยฮั้วยางพารา จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์ คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), องค์การสวนยาง, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), กลุ่มเบียร์สิงห์, กลุ่มน้ำยางไทย เป็นต้น

ล่าสุด ยังมีเอกชนด้านยางพารารายใหญ่อันดับ 3 ของประเทศจีนเข้าไปหาข้อมูลจาก สกย.เชียงราย โดยสนใจที่จะลงทุนโรงงานแปรรูปยางพาราครบวงจรที่ จ.เชียงราย เพื่อนำผลผลิตส่งกลับไปยังประเทศจีน ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ซึ่งกำลังก่อสร้างที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย เชื่อมกับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว แล้วเสร็จในปี 2555 โดยมีระยะทางไกลจากจีนตอนใต้ 245 กิโลเมตรเท่านั้น

นายวิทยาเปิดเผยว่า ในปัจจุบัน จ.เชียงราย มีเกษตรกรปลูกยางพาราประมาณ 15,000 ราย พื้นที่ปลูกกว่า 347,857 ไร่ สามารถกรีดน้ำยางมาจำหน่ายและแปรรูปเป็นยางแผ่นได้แล้วบางส่วน และภายในปี 2553 คาดว่าจะมีพื้นที่กรีดได้ 10% ของพื้นที่ทั้งหมด จากนั้นในปีถัด ๆ ไปก็จะทยอยกรีดได้ตามอายุของต้นยางต่อไป

ขณะเดียวกันความต้องการปลูกยางพาราก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากรัฐบาลมีโครงการขยายพื้นที่ปลูกออกไปอีก 8 แสนไร่ทั่วประเทศ โดยเน้นไปที่ภาคเหนือและภาคอีสานด้วยงบประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งมีเกษตรกรรายใหม่ใน จ.เชียงราย ขอเข้าร่วมโครงการ 86,000 ราย และจากการสำรวจพื้นที่ว่างที่สามารถนำมาปลูกยางมีกว่า 1 ล้านไร่ ซึ่งถือว่ามากเกินกว่าโควตาที่จะได้รับจากโครงการขยายพื้นที่ปลูก จึงขอเพิ่มโควตาปลูกสำหรับ จ.เชียงราย ไปแล้ว"สาเหตุที่มีความต้องการปลูกสูง เพราะราคายางสูงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่โครงการสนับสนุนทั้งเงินทุน ความรู้ การตลาด ฯลฯ ตลอดเวลา 5 ปีครึ่ง ซึ่งมากกว่าโครงการเดิมที่ให้เวลา 2 ปีครึ่ง เชียงรายเหมาะสมกับพืชยางพารามากเพราะดินอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะตามภูเขาที่มีหน้าดินลึก และสามารถกรีดน้ำยางได้นานปีละกว่า 150 วัน ซึ่งมากกว่าภาคใต้ที่มีฝนตกมาก ทำให้กรีดได้ปีละ 130-140 วัน ส่วนน้ำยางก็มีคุณภาพ คาดว่าในอีก 6-7 ปีข้างหน้า เชียงรายจะมีพื้นที่ปลูกยางมากเป็นอันดับ 3-4 ของประเทศ รองจากสงขลา, นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี หรือตรัง"

นายวิทยากล่าวอีกว่า ปัจจุบันกล้ายางมีราคาสูงต้นละกว่า 35 บาท เพราะความต้องการสูงมาก และมีปัญหาขาดตลาดอย่างหนัก สกย.เชียงรายได้จัดทำโครงการสาธิตแปลงกิ่งตายางในโรงเรียน 20 แห่ง เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถเพาะและติดตายางได้เองในอนาคต รวมทั้งรวมกลุ่มเกษตรกรได้แล้ว 42 กลุ่ม แบ่งเป็นสหกรณ์ 2 แห่ง และกลุ่มพัฒนาชาวสวน สกย.อีก 40 แห่ง เพื่อเป็นเครือข่ายผลิตยางแผ่นให้มีคุณภาพดี และ สกย.ได้ช่วยประสานให้เอกชนรับซื้อตามคุณภาพยาง ซึ่งแตกต่างจากในอดีตที่พ่อค้าจะเข้าไปรับซื้อและกำหนดราคายางแผ่นตั้งแต่คุณภาพชั้น 1-3 ในราคาเดียวกันทั้งหมด

หน้า 24
 
http://www.prachachat.net/view_news.php?newsid=02phu04200953&sectionid=0211&day=2010-09-20
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
ttyy
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,953


ซ่อม/ซื้อ/ขาย มือถือทุกรุ่น


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 20 กันยายน 2010, 13:06:52 »

คนปลูก ส่วนหนึ่งก็คนเชียงราย ส่วนหนึ่งก็คนพม่า เผลอๆ มีคนลาว ด้วยครับ แล้วแต่ นายทุนจ้างมา

ที่ดินส่วนใหญ่ คนจากที่อื่นล้วนๆๆ ครับ
IP : บันทึกการเข้า

รับซื้อ-ขาย-ฝาก-ขายฝากคอมพิวเตอร์ PC Notebook โทรศัพท์มือถือ nokia iPhone samsung ทีวี LCD เครื่องเสียง เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดราคาสูง รุ่นเก่า รุ่นใหม่ โทรมาคุยกันได้ครับ
ratti
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 20 กันยายน 2010, 13:54:33 »

ผมเป็นห่วงคนเชียงรายครับ เพราะคนที่มีที่ดินปลูกจริงๆ ส่วนมากก็คนมีกะตังค์จากที่อื่นๆมากว๊านซื้อ แต่คนที่เคยเจ้าของเดิม ก็ขายที่ดินให้เขาไปนับสิบๆปี ก็อยากให้ลูกหลานเรียนจบมา ได้ทำงานที่บ้านเรา อยู่กับพ่อแม่แก่เฒ่า เราจะช่วยเหลืออะไรกับสังคมคนเชียงรายได้บ้างครับ
น่าสนใจประเด็นเรื่องนี้นะคะ
ถ้าเป็นไปได้ มีที่ดินแล้วอย่าขายเลยค่ะ
ทำให้งอกเงยขึ้นมาดีกว่า
และอยากให้ลุกหลานที่มีึความรู้ ก็มาช่วยกันพัฒนาบ้านเรา ดีไหมค่ะ
IP : บันทึกการเข้า
faungfu
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 20 กันยายน 2010, 17:02:34 »

แห่มน้อยตี้ดินเจียงฮายจะบ่าใจ้ของคนเจียงฮาย  ร้องไห้
IP : บันทึกการเข้า
AIT
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,914



« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 20 กันยายน 2010, 22:28:36 »

ตอนนี้พืชเศรษฐกิจอีกตัวที่มาแรงก็คือ ปาล์มน้ำมัน ครับ
IP : บันทึกการเข้า
zombie01
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,516


ความสุขเกิดขึ้นได้ เพียงแต่รู้จักใช้ชีวิต


« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 20 กันยายน 2010, 22:34:41 »

ตอนนี้พืชเศรษฐกิจอีกตัวที่มาแรงก็คือ ปาล์มน้ำมัน ครับ

ญาติ ๆ ที่ทุ่งสงทำอยู่ครับ ไปได้ดี เพราะแถวนครฯ สุราษฯ เขามีโรงงานรับซื้อครับ
IP : บันทึกการเข้า

‘–’ลูกน้ำกว๊าน‘–’
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,817


สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 20 กันยายน 2010, 22:53:59 »

อีกหน่อยคงจะไม่มีที่ปลูกข้าวแล้วแหละครับ
IP : บันทึกการเข้า

AIT
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,914



« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 20 กันยายน 2010, 23:45:34 »

ตอนนี้พืชเศรษฐกิจอีกตัวที่มาแรงก็คือ ปาล์มน้ำมัน ครับ

ญาติ ๆ ที่ทุ่งสงทำอยู่ครับ ไปได้ดี เพราะแถวนครฯ สุราษฯ เขามีโรงงานรับซื้อครับ

ตอนนี้เชียงรายมีโรงงานหีบปาล์มแล้วนะครับ อยู่แถวแม่จันแม่สาย
IP : บันทึกการเข้า
เจียงฮายรำรึก
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 480


เชียงราย....หนาวมาก


« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 21 กันยายน 2010, 00:29:29 »

เป็นพืชเศรษฐกิจ คับ
IP : บันทึกการเข้า

"The only thing in life achieved without effort is failure."
มีเพียงสิ่งเดียวในชีวิตที่จะสามารถพิชิตได้โดยไม่ต้องใช้ควาพยายามมากมายคือ...ความล้มเหลว
อะไร?ยังไง?
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 357


« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 21 กันยายน 2010, 02:22:21 »

ทําลายธรรมชาติ ตัดต้นไม้ท้องถิ่น ส่วนใหญ่เปนป่า ที่สัตว์หากินลดลง พันธุ์สัตว์จะหายไปในอนาคต

ทําลายอาชีพชาวนา ข้าวคนมันต้องกิน กุ๊วัน ยิ่งตอนนี้ปัญหาอาหารขาดแคลนในโลกมีมากขึ้นกว่าหลายๆสิบกว่าปี๋ตี่ผ่านมา ประชากรโลกตี่เพิ่มขึ้นผลิตอาหารเลี้ยงกันเองยังบ่ปอในวันนี้เลย วันหน้าจะมอกได

ถ้าแน่จริงเอานิคมอุตสหกรรมมาแลกยังดีกว่าตัดป่าฟื้นนาปลูกยาง  ขยิบตา

เงินทองใด้ตอนนี้วันหน้าเสียไปหลายๆอย่าง มันทดแทนกันใด้ผ่องก่อ บ่ใด้หมด ข้อไดสําคัญสุดตี่น่ากู้??? ถ้าหายไปก่อหายไปเลย เงินก่อซื้อปิกคืนบ่ใด้
โอเคเอาไปกึดเอง
IP : บันทึกการเข้า
peemai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 21 กันยายน 2010, 15:10:29 »

ปัญหายักษ์ที่กำลังตามมา คือจะหาคนที่ไหนมากรีตยางให้เพียงพอตามจำนวนพื้นที่ เจ้าของทำไม่ได้อยู่แล้ว
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!