เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 05 สิงหาคม 2025, 01:22:51
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ตลาดกลางซื้อขายสินค้าออนไลน์
| |-+  พระเครื่อง-วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง ความเชื่อ ลี้ลับ (ผู้ดูแล: NOtis, micky13)
| | |-+  เหรียญหลวงปู่ บู่ วัดเจ็ดยอด เชียงราย
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน เหรียญหลวงปู่ บู่ วัดเจ็ดยอด เชียงราย  (อ่าน 1069 ครั้ง)
pongsauk
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 74



« เมื่อ: วันที่ 20 มกราคม 2013, 15:59:53 »

ราคาเช่า  400  บาท
สนใจติดต่อ 0881427416  พงษ์ศักดิ์  หรือทาง PM  ครับ  ต่อรองราคากันได้ครับ

ข้อมูลเพิ่มเติมหลวงปู่บู่
พระสมเด็จเจ็ดยอด หลวงปู่บู่ พระอารามหลวง วัดเจ็ดยอด
   พระสมเด็จเจ็ดยอด เป็นพระผงที่หลวงปู่บู่(พระราชปัญญาโมลี) เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย ที่ได้รับการแต่งตั้ง ใน พ.ศ. 2501  และเจ้าอาวาส พระอารามหลวงวัดเจ็ดยอด ตามลำดับ ซึ่งหลวงปู่บู่ เป็นผู้สร้างพระสมเด็จเจ็ดยอดไว้ในปี 2514  โดยพระชุดนี้ได้รับความสนใจของคนเชียงรายในสมัยนั้นเนื่องจากชายหนุ่มคนหนึ่งที่เป็นคนอำเภอพานได้ถูกคนร้ายหมายเอาชีวิตด้วยการใช้ปืนจ่อยิงแต่ลูกปืนกลับเจาะทะลุเพียงเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่เอาไว้แต่กลับไม่ได้กินเลือดของเขา จนทำให้คนในอำเภอพาน เหมารถมาขอเช่าบูชาพระสมเด็จเจ็ดยอด ณ วัดเจ็ดยอดที่ตั้งอยู่ ในเขตเทศบาลนครเชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย จนหมดไปจากวัดอันรวดเร็ว
 สำหรับประวัติ หลวงปู่บู่(พระราชปัญญาโมลี) เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย
 นามเดิม บู่  ศรีสงคราม เกิดเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2446 ณ ที่บ้านจิก ต.หนองบัว อ.หนองบัวลำภู จังหวัดอุดรธานีปัจจุบันคือ จ.หนองบัวลำภู โยมบิดาชื่อ หนู  โยมมารดาชื่อ หยุด  มีพี่น้องร่วมโลหิต 8 คน เป็นชาย 5 หญิง 3  โดยหลวงปู่บู่เป็นพี่คนโต หลวงปู่บู่บรรพชาเมื่อ พ.ศ. 2464  และอุปสมบทเมื่อ ปี 2467 ณ วัดโพธิชัยสมสะอาด จ.หนองบัวลำภู  เป็นพระสงฆ์ที่เคร่งในธรรมวินัย ชอบใฝ่หาความรู้ซึ่งในสมัยครองเพศฆราวาสได้เป็นครูสอนวิชาสมมัญที่วัดมหาชัย จ.หนองบัวลำภูและโรงเรียนประชาบาลบ้านหัวนา ทำให้มีพื้นฐานด้านการอ่านการเขียนเป็นอย่างดี เมื่อบวชเรียนทำให้ในปี 2471 สามารถสอบได้พระธรรมตรี พระธรรมโท และพระธรรมเอกตามลำดับ ณ วัดเบญจมบพิตร กทม. ต่อมาในปี 2480 สอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยคที่ วัดเบญจมบพิตร กทม.เช่นกัน  ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย ปี 2501 และใน พ.ศ.2505 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระราชโมลี

   ในช่วงที่ขณะดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัด หลวงปู่บู่ได้สร้างถาวรวัตถุไม่ว่าพระอุโบสถ โรงเรียนปริยธรรม บันไดขึ้นพระธาตุจอมแว้ ฯลฯ ไว้ให้กับพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก หลวงปู่บู่เป็นพระนักปฏิบัติทางด้านคันถธุระ และวิปัสสนาธุระ อย่างเคร่งครัด ทั้งตั้งใจร่ำเรียนพระธรรมวินัย ตามรอยพระพุทธองค์ ที่ตรัสไว้ว่า... " เทว เม ภิกขเว วิชชา ภาคิยา" ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย วิชานั้นมีอยู่ ๒ อย่าง คือ
  1. สมถะ ความสงบระงับแห่งจิตที่ปราศจากกิเลสอาสวะทั้งปวง
  2.วิปัสสนา ความเห็นแจ้งซึ่งธรรมเบื้องสูงอันสุขุมลุ่มลึก ในทางพุทธศาสนาและจงเดินตามหนทางนั้นเถิด.
ประการสำคัญได้เรียนพุทธาคมจากพระคัมภีร์โบราณ จนมีพุทธาคม ที่แก่กล้า
  ส่วนการสร้างวัตถุมงคลนั้น ในราวปี พ.ศ. 2514 หลวงปู่บู่ได้ปรารถว่าต้องการสร้างวัตถุมงคลเพื่อหาทุนจัดสร้างพุทธสถานและถาวรวัตถุ จึงได้จัดสร้างพระผงสมเด็จขึ้นโดยใช้ชื่อว่า"สมเด็จเจ็ดยอด" โดยหลวงปู่บู่ได้ตระเวณหามวลสารศักดิ์สิทธิ์จากสถูปเจดีย์เก่าในเมืองกำแพงเพชรและได้พระสกุลกำแพงเพชรที่แตกหัก เช่นพระซุ้มกอ พระเม็ดขนุน พระลีลาฯลฯ ที่นายศิริ เพ็ชรโรจน์ นายอำเภอเมืองกำแพงเพชร ในสมัยนั้นนำมาถวาย จากนั้นจึงนำผสมกับ ดินศักดิ์สิทธิ์จากพุธสถานในอินเดียและมวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่หาได้มาบดผสมให้เข้ากัน ก่อนนำมากดลงในแม่พิมพ์ที่ได้จากวัดเทวราชกุญชร กรุงเทพมหานคร
  พระผงสมเด็จเจ็ดยอด รุ่นแรก  สร้างทั้งสิ้น 3,000 องค์ มีด้วยกัน 5 พิมพ์ ได้แก่
 1.พิมพ์ใหญ่(นิยม)
 2.พิมพ์กลาง
 3.พิมพ์ฐานสิงห์หรือขาโต๊ะ
 4.พิมพ์เส้นด้าย
 5.พิมพ์คะแนน
มีหลวงพ่อตี๋ เกจิอาจารย์ผู้เข้มขลัง ของดินแดนเหนือสุดแดนสยาม แห่งวัดพรหมวิหาร อ.แม่สาย จ.เชียงราย เป็นผู้กดพิมพ์ หลังจากผึ่งแดดจนพระแห้งก็นำไปจุ่มในน้ำมนต์ผสมน้ำชา เพื่อให้เกิดคราบสีแดง ซึ่งช่วยให้ดูเข้มขลังยิ่งขึ้น  หลวงปู่บู่ทำพิธีปลุกเสกเดี่ยว 5 ไตรมาส และทุกครั้งที่มีพิธีสวดคาถาหัวใจปาฏิโมกข์ใโบสถ์วัดเจ็ดยอด พระทั้งหมดจะถูกนำไปไว้หน้าพระประธานทุกครั้ง และในปี 2519  พระผงสมเด็จเด็จเจ็ดยอดได้นำเข้าร่วมปลุกเสกที่ที่วัดปุพพาราม จ.เชียงใหม่ หลังสร้างเสร็จ หลวงปู่บู่ได้นำออกแจกจ่ายให้กับพุทธศาสนิกชนในจังหวัดเชียงรายและจังหวัดหนองบัวลำภูซึ่งที่จังหวัดหนองบัวลำภูนั้นมีการนำพระผงสมเด็จเจ็ดยอดไปแจกเป็นจำนวนกว่าพันองค์  
  พระสมเด็จวัดเจ็ดยอด รุ่น 2 สร้างเมื่อ พ.ศ. 2536 หนานน้อยเป็นคนทำจำนวน 1,000 องค์ โดยแกะแม่พิมพืใหม่ มีทั้งพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ปรกโพธิ์ขาสิงห์หรือขาโต๊ะ(พระสมเด็จปรกโพธิ์รุ่นแรก) จากนั้น จึงประทับตรายางสีแดงด้านหลังองค์พระซึ่งเป็นตราวัด พระทั้งหมดหนานน้อยได้นำไไว้หน้าโต๊ะหมู่บูชาภายในกุฏิหลวงปู่บู่ ซึ่งหลวงปู่บู่จะใช้เป็นที่สวดมนต์และทำวัตรเช้าเป็นประจำทุกวัน วัตถุประสงค์ของการจัดสร้างพระชุดนี้เพื่อนำไปแจกจ่ายให้ญาติโยมแทนพระสมเด้จเจ็ดยอดรุ่นแรกที่หมดลงไป มวลสารที่นำมาสร้างพระผงรุ่น 2 นั้นได้นำผงเกสรดอกไม้ ธูปเทียนภายในวัดและผงวิเศษที่รวบรวมได้นำมาสร้างเป็นพระสมเด็จเจ็ดยอดรุ่นที่ 2 ซึ่งพระบางส่วนมีการนำไปแช่น้ำมนต์ด้วย
   สมเด็จเจ็ดยอดรุ่น 3 สร้าง พ.ศ. 2545 เพื่อมอบให้คณะผุ้ที่มาร่วทำบุยทอดกฐินพุทธราชทาน โดย พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการทอด หนานน้อยเป็นคนทำเช่นเดียวกันจำนวน 2,000องค์ ฯ ซึ่งแม่พิมพ์แกะขึ้นมาใหม่ด้วยการนำแบบมาจากพระสมเด็จเจ็ดยอดรุ่นแรก

ราคาเช่าหา รุ่นแรกสวยๆ พันต้นถึงกลาง
                   รุ่นสอง หลักพันต้น
                   รุ่นสามหลักร้อย
 พระที่นำไปแช่น้ำมนต์จะมีราคาค่างวดและได้รับความนิยมมากกว่า
    สำหรับวัตถุมงคลเนื้อโลหะที่หลวงปู่บู่หรือพระราชปัญญาโมลีสร้างขึ้นนั้นมีอยู่หลายรุ่นด้วยกันซึ่งฉบับหน้าจะได้นำมาเปิดเผย ก่อนไปขอนำธรรมมะของหลวงปู่บู่ที่มอบไว้ให้มาฝากกัน เชื่อว่ายังเป็นสัจธรรมที่ทันสมัยและเป็นหนทางการอยู่ร่วมของสังคมและการใช้ชีวิตที่มีความสุขยิ่ง
- การอยู่ร่วมกันในสังคม เราต้องทำใจของเราเป็นกลาง รู้เขา รู้เรา
- การทำงาน ไม่เคร่งเกินไป ไม่หย่อนเกินไป ต้องอยู่ในสายกลาง "มัชฌิมะ"  
เนื้อหาทั้งหมดหาอ่านได้ในหนังสือพิมพ์ล้านนา ฉบับที่ 82 เดือน พฤษภาคม 53 ครับ                              
                                   ข้อมูล   พระครูปริย์โกวิท   เจ้าอาวาสวัดเจ็ดยอด อารามหลวง


                                   เรียบเรียงโดย ปุ๋ย ล้านนา
พ.ศ.2505 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระราชโมลี   แก้ไขเป็น พระราชปัญญาโมลี

มีคนในเวียงเจียงฮายเล่าว่า ท่านจะออกเดินบิณฑบาตรทุกวันที่อยู่วัด จนกระทั่งช่วงปลายของชีวิต(คือเดินไม่ไหวแล้ว)  ถึงแม้ท่านจะมีสมณศักดิ์สูงจนถึงชั้น "ราช" ก็ตาม
http://www.pralanna.com/boardpage.php?topicid=20992


* PIC_4435 [เลือกเอง JPG - ความกว้างสูงสุด 1024 ความสูงสูงสุด 768].jpg (169.7 KB, 594x768 - ดู 558 ครั้ง.)

* PIC_4438 [เลือกเอง JPG - ความกว้างสูงสุด 1024 ความสูงสูงสุด 768].jpg (155.32 KB, 594x768 - ดู 559 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 04 กุมภาพันธ์ 2013, 22:22:01 โดย pongsauk » IP : บันทึกการเข้า
pongsauk
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 74



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 22 มกราคม 2013, 11:27:33 »

เหรียญนี้สร้าง ปี ไหน ใครรู้ช่วยบอกทีนะครับ
IP : บันทึกการเข้า
pongsauk
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 74



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 23 มกราคม 2013, 18:20:26 »

 ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า
pongsauk
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 74



« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 25 มกราคม 2013, 00:41:10 »

 ขยิบตา ขยิบตา ขยิบตา ขยิบตา
IP : บันทึกการเข้า
pongsauk
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 74



« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 04 กุมภาพันธ์ 2013, 22:21:45 »

 ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
แมงคอลั่น
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,451



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 05 กุมภาพันธ์ 2013, 19:03:16 »

เหรียญนี้สร้าง ปี ไหน ใครรู้ช่วยบอกทีนะครับ
พ.ศ.2505 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระราชปัญญาโมลี คงจะเป็นปีนี้ละมั้ง
ผมก็มีอยู่ 1 เหรียญสภาพสวย
IP : บันทึกการเข้า
pongsauk
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 74



« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 05 กุมภาพันธ์ 2013, 19:09:14 »

เหรียญนี้สร้าง ปี ไหน ใครรู้ช่วยบอกทีนะครับ
พ.ศ.2505 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระราชปัญญาโมลี คงจะเป็นปีนี้ละมั้ง
ผมก็มีอยู่ 1 เหรียญสภาพสวย

ขอบคุณครับ
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!