ูพอดีไปเจอห้องว่างขนาดกำลังดีอยู่ที่หนึ่งมา ทำเลก็จัดว่าใช้ได้ ร้านอยู่ติดถนนใหญ่ ( ด้านหน้ากับด้านข้างมีที่จอดรถได้พอสมควร ) ราคาก็ไม่ได้แพงเวอร์พอรับได้ อยู่ใกล้กับโรงเรียนดำรงฯ กะ วิทยาัลัยอาชีวะศึกษาฯ แถมอยู่ตัดใกล้ๆกับถนนเส้นที่จัดถนนคนเดินอีกต่างหาก
เลยสนใจว่าจะเช่า ก็เลยติดต่อไปตามเบอร์โทรที่แขวนป้ายติดเอาไว้ที่หน้าร้าน... แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่า
1. เจ้าของร้านอยู่กรุงเทพฯ ติดต่อกันได้แค่การคุยผ่านทางการโทรฯเท่านั้น ( ใช่เจ้าของจริงรึเปล่ายังไม่รู้ ) และร้านนี้ก็ไม่มีคนเ่ช่ามาปีกว่าๆแล้ว พอขอหลักฐานเป็นสำเนาทะเบียนบ้าน เพื่อจะไปขอน้ำกับไฟที่ถูกตัดไป ก็บอกว่า "ไม่มี" โดยให้เหตุผลว่า
.... ซื้อที่ดินเปล่ามา แล้วปล่อยเช่า ผู้เช่าคนอื่นๆก่อนหน้าเค้าสร้างไว้ พอเลิกสัญญาไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยทิ้งอาคารไว้อย่างนั้น ไม่ได้ขอจดทะเบียนบ้าน เลยไม่มีทะเบียนบ้าน ( งงซิค๊ะ เจอคำตอบแบบนี้

แล้วจะไปขอไฟขอน้ำใช้ ได้ยังไงล่ะเนี้ยะ แต่ก็นะถ้าจะเช่าจริงๆก็คงต้องแก้ปัญหาด้วยการขอเปิดใช้ไฟชั่วคราว กะ ใช้ระบบน้ำบาดาล
แต่พอมาเจอปัญหาที่สองนี่ ไปไม่เป็นเลยล่ะ่
ถ้าเราตกลงที่จะเช่า เจ้าของร้านจะให้เราส่ง "สัญญาการเช่า" แบบเปล่าๆไปให้ แต่เราต้องเซ็นลายเซ็น พร้อมแนบสำเนาบัตร สำเนาทะเบียนบ้านพร้อมลายเซ็นไปให้ด้วย ( หรือเรียกง่ายๆว่า เซ็นลอย น่ะแหล่ะ )

ที่หนักกว่านั้นคือ ต้องโอนเงินมัดจำ 2 เดือน พร้อมจ่ายล่วงหน้าให้เค้าอีก 1 เดือน ไปภายในวันเดียวกะวันที่ส่งสัญญาการเช่าไปให้เค้าด้วยเลย อีก 1X,XXX บาท
แถมพอขอให้เค้าส่งหลักฐานกลับมาบ้างอาทิ สำเนาของสัญญาคู่ฉบับ สำเนาบัตรฯ สำเนาทะเบียนบ้านหลังอื่นที่มีชื่อเค้าอยู่ในนั้น หรือขอ สำเนาฉโนดที่ดินที่พื้นที่ที่เราจะเช่ากลับมาให้เราบ้าง ( เพราะเราไม่มีอะไรเกี่ยวกับเค้าเลย นอกจากเบอร์โทร และ เบอร์ับัญชี ) แต่ เค้ากลับทำเหมือนไม่พอใจ และ ยืนยันที่จะไม่ส่งอะไรกลับมาให้เราเลย
( แถมยังพูดเหมือนว่าเราเป็นแค่เด็กวัยรุ่น ... ทำไมเรื่องมากจัง ขอนู้นขอนี้อยู่ได้ ถ้าลำบากมากก็ไม่ต้องเช่าก็ได้นะ คนเช่าคนก่อนๆเค้าไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรอย่างนี้เลย

) ถ้าทำเลไม่ดีจริง ไม่โดนใจ นู๋ไปตั้งแต่ไม่มีทะเบียนบ้านจะให้แล้ว

ก็เลยสงสัยอ่ะค่ะ ว่ามันมี การเช่าแบบปิดประตูเอาเปรียบผู้เช่าทุกทางแบบนี้ด้วยเหรอค่ะ....
ไงรบกวนขอความคิดเห็นจากพี่ๆน้องๆทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ด้วย .... ขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ
