♦เทคนิคอ่านงบการเงิน(ขั้นต้น)♦

[น้าวัยทองฯ]

♦เทคนิคอ่านงบการเงิน(ขั้นต้น)♦

สำหรับนักลงทุนมือใหม่หรือมือเก่า อย่างน้อยก็ต้องดูงบการเงินกันบ้าง

แต่จะดูเป็นบ้างไม่เป็นบ้าง แต่ก็เป็นสิ่งที่นักลงทุนควรที่จะศึกษา

วันนี้เลยนำเอาคลิปเทคนิคการอ่านงบการเงิน มาให้ชมครับ

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะมีประโยชน์แก่นักลงทุนไม่มากก็น้อยครับ

ขอบคุณครับ

[น้าวัยทองฯ]

 

[น้าวัยทองฯ]

 

[น้าวัยทองฯ]

 

[น้าวัยทองฯ]

 

[แมงมุม]

ฟังดูเข้าใจง่ายดีครับ

--------------------------------------

ขอแจมเรื่อง WACC นิดนึง เพราะ ไหนๆก็พูดมาในรายการแล้ว ใครที่ตั้งใจฟัง คงไม่อยากค้างคา

ขออนุญาตอธิบายคร่าวๆ

WACC = Weight Averace Cost of Capital = ต้นทุนเฉลี่ยของเงินทุน

นั่นหมายความว่า บริษัทนี้ หาเงินมาใช้ 1 บาทนั้น ต้นทุนของเงิน 1 บาท มีค่าเท่าไหร่

งงมั้ย?? .... งงสิ อิอิ

ขอให้เข้าใจว่า โลกเราไม่มีอะไรได้มาฟรีๆครับ ....

ทุกอย่างได้มา ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน .... เสมอ

เงินทุนของบริษัท หรือของกิจการ มาได้ 2 ทางครับ คือถ้าไม่หาเงินทุนจากการกู้มา ก็เอาเงินทุนมาจากเงินส่วนตัว ....

ดังนั้น .... ต้นทุนของการกู้คือ ดอกเบี้ย (จะเอาเงินกู้มาได้ ก็ต้องจ่ายดอกเบี้ย)

และ ต้นทุนของส่วนของเจ้าของคือ ปันผลครับ (จะให้เค้าร่วมลงทุน ก็ต้องจ่ายปันผล)

สมมุติว่า กู้เงินมา 1000 บาท ต้องจ่ายดอกเบี้ยปีละ 85บาท แปลว่า ต้นทุนอยู่ที่ 8.5% (85/1000) แปลว่า ทุกๆเงินกู้ 100 บาท มีต้นทุน 8.50 บาท

สมมติว่า ออกหุ้นสามัญมา ราคาหุ้นละ 80บาท จ่ายปันผลมีละ 10 บาท แปลว่าต้นทุนอยู่ที่ 12.50% (10/80) แปลว่า ทุกๆเงินทุน 100บาท มีต้นทุน 12.50 บาท

ถ้ากิจการมีเงินกู้ 400,000บาท และมีเงินส่วนเจ้าของ 600,000 บาท (รวมแล้ว มีเงินทุน 1,000,000.-บาท) นั่นคือ มีโครงสร้าง หนี้ 40% และส่วนของเจ้าของ 60%

ดังนั้น ต้นทุนเฉลี่ยก็เอา (8.5x40%) + (12.50x60%) = 10.90%

----------------------
ถ้ากิจการมีต้นทุนเงินทุนสูง ก็แปลว่ามีความเสี่ยงทางการเงินสูง

คิดง่ายๆ ถ้ากิจการมีต้นทุนเงินทุน 15% แปลว่าเขาต้องไปหาลงทุนในโครงการที่ได้ผลตอบแทนมากกว่า 15% ถึงจะอยู่ได้

ดังนั้นถ้ากิจการมีต้นทุนเงินทุนเพียง 10% ก็แปลว่า เข้าสามารถลงทุนในโครงการที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า 10% ก็เพียงพอแล้ว

เข้าใจมั้ยเนี่ย แหะๆ

.