20CEOs20IDEAs : มนุษย์กับ‘สัญชาตญาณพื้นฐาน’ (1)
โชค บูลกุล
choakbulakul@farmchokchai.comเราคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “มนุษย์คือสัตว์ประเสริฐ” แต่คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมมนุษย์จึงเรียกตัวเองว่า ‘สัตว์ประเสริฐ’ หรือแท้ที่จริงแล้วเป็นเพียงการอุปโลกน์หรือสถาปนาพวกเดียวกันเองของมนุษย์ ให้แตกต่างและเหนือกว่าสัตว์อื่นๆ เท่านั้น
มนุษย์ มาจากคำว่า มนะ ที่แปลว่าใจ และคำว่า อุษยะ ที่แปลว่า สูง ดังนั้นคำว่า มนุษย์ จึงหมายถึง ผู้มีใจสูง แต่ในความเป็นจริง มนุษย์ประพฤติตนเหมาะสมกับคำว่า ‘ผู้มีใจสูง’ หรือไม่นั้น เป็นสิ่งที่น่าคิด
อันที่จริงถึงแม้ว่ามนุษย์จะมีบางอย่างแตกต่างจากสัตว์ แต่ก็มีบางสิ่งที่มีเฉกเช่นเดียวกัน นั่นก็คือ ‘สัญชาตญาณ (Instinct)’ หรือแรงกระตุ้นที่มีอยู่ภายในจิตใจ ซึ่งติดตัวมาแต่กำเนิด ไม่ต้องมีใครมาคอยชี้นำ สั่งสอน และสัญชาตญาณนี่เองที่ทำหน้าที่เป็นพลังขับเคลื่อนให้สิ่งมีชีวิตแสดงพฤติกรรมออกมา
สัญชาตญาณพื้นฐาน (Basic instinct) ของสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นสัญชาตญาณในการหาอาหาร การพักผ่อน การหลบภัย หรือการแพร่พันธุ์ ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นเพื่อความอยู่รอด และดำรงอยู่ของชีวิต อีกทั้งยังเป็นไปเพื่อสร้างความสมดุลให้แก่ระบบนิเวศน์
และการตอบสนองของสัตว์เหล่านั้น เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อมีสิ่งมากระตุ้น แต่มนุษย์ต่างจากสัตว์ตรงที่มนุษย์มีความสามารถในการควบคุมสัญชาตญาณได้โดยการใช้สติ เลือกที่จะตอบสนองต่อสิ่งที่ดีที่สุด
สัญชาตญาณของความเห็นแก่ตัว ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสามัญสำนึกของสัตว์ทุกชนิด เพราะถ้าไม่มีสัญชาตญาณนี้สัตว์ทุกตัวก็คงจะไม่รักตัวเอง สุดท้ายก็คงถึงคราวที่ต้องล้มหายตายจากและสูญพันธุ์ไปจากโลก แต่มนุษย์ปัจจุบันมีสัญชาตญาณนี้ฝังตัวอยู่มากจนน่ากลัว และเป็น ‘สัญชาตญาณดิบ’ ที่มนุษย์แสดงออกมามิใช่เพียงเพื่อการได้มาซึ่งผลประโยชน์ของตนเองเท่านั้น แต่ยังเอารัดเอาเปรียบสิ่งมีชีวิตอื่น หรือแม้กระทั่งพวกมนุษย์ด้วยกันเองอีกด้วย
หากมนุษย์เราในวันนี้มีจิตสำนึกว่าเราเกิดมาเพื่อให้ และทำทุกอย่างไม่เพียงแค่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ภาพลักษณ์ของโลกคงจะแตกต่างจากภาพที่เห็นในวันนี้อย่างสิ้นเชิง อย่างเช่น พฤติกรรมของประเทศมหาอำนาจที่คอยจ้องแต่จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจและความมั่งคั่ง โดยไม่เคยคิดที่จะแบ่งปัน แต่ยังกลับทำลายล้าง และกำจัดประเทศที่อ่อนแอกว่า คิดแต่จะเข่นฆ่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง จนบางทีคงลืมคิดไปว่าเราเป็นสิ่งมีชีวิตในเผ่าพันธุ์เดียวกัน นั่นอาจต้องรอให้มนุษย์ต่างดาวเข้ามาบุกโลกของเราเสียก่อน เราจึงจะคิดได้ว่า เราคือเผ่าพันธุ์เดียวกัน
ผมเองเคยคิดเล่นๆ ว่า กรณีภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้น ถ้าเราคิดว่ามันไม่ได้เกิดจากน้ำมือมนุษย์ แต่เป็นฝีมือของมนุษย์ต่างดาว มนุษย์คงจะคิดได้ว่าเราคือพวกเดียวกัน และถ้าเราคิดได้เช่นนี้ ผมอยากถามว่า “ถึงเวลาแล้วหรือยังที่พวกเราจะต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อปกป้องเผ่าพันธุ์ของเรา เพื่อปกป้องดาวเคราะห์ดวงนี้ที่เราอาศัยอยู่” แต่ในทางกลับกัน หากยังมีคนบางกลุ่มต้องคอยรณรงค์ให้คนอีกหลายๆ คนมีจิตสำนึกในการปกป้องหวงแหนโลก รณรงค์ไม่ให้คนเอารัดเอาเปรียบหรือเบียดเบียนผู้ที่ด้อยกว่า ก็คงเป็นเรื่องยากที่เผ่าพันธุ์มนุษย์จะอยู่รอดต่อไปได้อีกนาน
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า “การได้อัตภาพเป็นมนุษย์นั้นแสนยาก แต่การดำเนินชีวิตให้ถูกทางนั้นยากยิ่งกว่า” และพระองค์ไม่ได้บอกว่า “มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐ” แต่พระองค์บอกว่า “มนุษย์เป็นสัตว์ที่ฝึกแล้วจึงประเสริฐ”
สัตว์โดยทั่วไปไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรควร หรือไม่ควร พฤติกรรมที่แสดงออกมาก็เพียงเพื่อความอยู่รอด อีกทั้งสิ่งที่แสดงออกมา ล้วนแล้วแต่เกิดจากสัญชาตญาณเพียงเท่านั้น แต่สัตว์ประเสริฐเช่นเรา ซึ่งคิดว่าตัวเองมีความเฉลียวฉลาดมากกว่า มีสติปัญญาเหนือกว่า กลับใช้ความฉลาด หรือโอกาสที่ตนเองได้เปรียบ มาบ่อนทำลายสังคม ทั้งที่ความจริง เราเองรู้อยู่แก่ใจว่า สิ่งที่ทำลงไปนั้นถูกหรือผิด สมควรหรือไม่สมควร แต่บางทีเราก็กลับใช้แต่เพียงสัญชาตญาณพื้นฐานเฉกเช่นเดียวกับสัตว์ โดยไม่เรียนรู้ที่จะควบคุมสัญชาตญาณและเอาชนะสัญชาตญาณดิบเหล่านั้นให้ได้
ถ้าเราเคยสังเกตกรณีของลูกไก่เมื่อฟักออกจากไข่ จะเห็นว่าแม่ไก่จะคอยฟูมฟัก คอยปกป้อง คอยคุ้ยเขี่ยหาอาหาร และดูแลจนกระทั่งลูกไก่เติบใหญ่ นั่นเป็นสัญชาตญาณของความเป็นแม่ที่ไม่ต้องมีใครมาสั่งสอน แต่มนุษย์บางคนกลับคลอดลูกแล้วทิ้ง และฆ่าได้แม้กระทั่งลูกของตัวเอง
หรือ กรณีของประเทศมหาอำนาจที่อาศัยความได้เปรียบ ทั้งด้านการเงิน ด้านสติปัญญา หรือกลไกทางด้านเศรษฐกิจ เข้ามาครอบงำและแทรกแซงประเทศที่กำลังตั้งไข่ ยั่วยุทำให้การเมืองภายในประเทศของเขาสับสนวุ่นวาย พยายามหาโอกาสบนวิกฤติของผู้อื่น หรือการใช้อำนาจเพื่อให้ได้มาซึ่งวัตถุดิบหรือทรัพยากรที่ตนเองต้องการ พฤติกรรมทั้งหมดนี้สมควรแล้วหรือที่จะเรียกตัวเองว่าสัตว์ประเสริฐ
ผมเองคิดว่า มนุษย์เลือกได้ที่จะเป็นสัตว์ประเสริฐหรือสัตว์เดรัจฉาน ถ้าเรามัวแต่จะรบราฆ่าฟันกัน ทำร้ายและเอาเปรียบกัน เราก็คงไม่ต่างจากสัตว์เดรัจฉานที่ด้อยพัฒนาล้าหลัง และมนุษย์ก็คงเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่รอการสูญพันธุ์ไปจากโลกใบนี้เท่านั้นเอง แต่ถ้ามนุษย์รู้จักใช้มันสมอง รู้จักใช้สติปัญญา รู้สำนึกถึงผิดชอบชั่วดี รู้จักลดการใช้สัญชาตญาณพื้นฐานลง หันมาขัดเกลาสัญชาตญาณและควบคุมการใช้สัญชาตญาณนั้นแต่ในทางที่ดี ย่อมมิใช่สิ่งผิดที่มนุษย์จะเรียกตัวเองว่า ‘สัตว์ประเสริฐ’ ได้ อย่างเต็มภาคภูมิ
โชค บูลกุล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทฟาร์มโชคชัย, ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ศ.ดร.ธีระ สูตะบุตร และหนึ่งในสมาชิกกลุ่ม Young Global Leaders จากเวที World Economic Forum ซึ่งแต่งตั้งโดยพระราชินีราเนีย แห่งประเทศจอร์แดน