boondham
ระดับ :ป.โท
   
ออฟไลน์
กระทู้: 3,111
|
 |
« เมื่อ: วันที่ 30 มกราคม 2012, 15:28:00 » |
|
แลนด์ลุยอสังหาฯ16โปรเจ็กต์3.2หมื่นล.
วันศุกร์ที่ 27 มกราคม 2012 เวลา 13:39 น.
แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ลุยตลาดอสังหาฯ ปี 2555 อีก 16 โปรเจ็กต์มูลค่ากว่า 3.2 หมื่นล้าน พร้อมขยายตลาดอสังหาฯ ต่างจังหวัดเพิ่ม เชื่อมีดีมานด์และกำลังซื้อเติบโตสูง ผลจากการขยายตัวของเศรษฐกิจและราคาสินค้าเกษตรเพิ่มสูง รอลุ้นอีก 1-2 เดือนผลประมูลที่ดินย่านสามย่าน หวังผุดโปรเจ็กต์มิกซ์ยูสหมื่นล้าน นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงทิศทางการลงทุนในปี 2555 ว่า มีแผนการเปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 16 โครงการ ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว 8 โครงการ ทาวน์เฮาส์ 2 โครงการ และคอนโดมิเนียม 6 โครงการ โดยเป็นโครงการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 12 โครงการ และต่างจังหวัด 4 โครงการ มูลค่ารวมทั้งหมด 32,620 ล้านบาท โดยปีที่ผ่านมาเปิดโครงการใหม่ 16 โครงการ มูลค่ารวม 24,430 ล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะเปิด 18 โครงการ เนื่องจากประสบปัญหาน้ำท่วมทำให้ต้องเลื่อนการเปิดโครงการใหม่มาในปีนี้ 4-5 โครงการ
สำหรับปีนี้บริษัทยังให้ความสำคัญกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัด ที่มีโอกาสการพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยไม่จำเป็นต้องเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักก็ได้ โดยปีนี้จะมีการพัฒนาในจังหวัดอุดรธานี เชียงใหม่ ขอนแก่น และอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในจังหวัดเชียงรายเพิ่มเติมด้วย ซึ่งตลาดในต่างจังหวัดแม้ว่าจะมีความต้องการที่จำกัด แต่การเติบโตค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในจังหวัดภาคอีสาน เนื่องจากมีเศรษฐกิจที่ดีจากการเกษตรโดยเฉพาะการปลูกยางพารา และการเข้าไปลงทุนพัฒนาธุรกิจค้าปลีก ทั้งคอมมิวนิตีมอลล์และไลฟ์สไตล์มอลล์ ส่งผลให้เศรษฐกิจมีการเติบโตสูง นายนพร กล่าวว่า ปีที่ผ่านมารายได้จากการพัฒนาโครงการในตลาดต่างจังหวัดมีสัดส่วนประมาณ 10-12% เติบโตจากปี 2553 ที่มีสัดส่วนประมาณ 6-7% ของรายได้ ในปีนี้คาดว่าสัดส่วนคงใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ส่วนตลาดต่างประเทศบริษัทเห็นว่า ภายหลังจากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเปิดแล้วคงจะต้องออกไปพัฒนาโครงการในต่างประเทศ แต่คงต้องดูความพร้อมและช่วงเวลาที่เหมาะสมด้วย แต่คงไม่ใช่ในระยะเวลาอันสั้นช่วง 2-3 ปีนี้ ยกเว้นว่าบริษัทจะมีพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพมาร่วมทุนได้ ส่วนงบประมาณการซื้อที่ดินในปีนี้บริษัทตั้งไว้ 5,000 ล้านบาท ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่ใช้งบประมาณซื้อที่ดินไป 5,100-5,200 ล้านบาท ซึ่งบริษัทยังมีกระแสเงินสดอีก 900 ล้านบาทในการใช้หมุนเวียนสำหรับการลงทุนในปีนี้ และยังมีแผนที่จะออกหุ้นกู้มูลค่า 6,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยประมาณ 4% ระยะเวลาประมาณ 3 ปี ซึ่งในปีนี้มีหุ้นกู้ครบกำหนดชำระมูลค่า 3,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีแผนลงทุนด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่าอีก 880 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถนำเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ จำนวน 3 แห่ง มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท มาจัดตั้งเป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเสนอขายให้แก่นักลงทุนได้ภายในครึ่งปีแรกของ ปี 2555 ได้ด้วย นายนพร กล่าวอีกว่า บริษัทกำลังอยู่ระหว่างรอผลการประมูลเช่าที่ดินบริเวณสามย่านจำนวน 13 ไร่ จากสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยหากบริษัทชนะการประมูลมีแผนการพัฒนาโครงการในรูปแบบมิกซ์ยูส ที่มีทั้งโรงแรม ศูนย์การค้า คอนโดฯ เป็นต้น คาดว่าจะใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท คาดว่าจะรู้ผลใน 1-2 เดือนนี้ "สิ่งที่อยากได้จากภาครัฐ คือ การประกาศแผนการป้องกันน้ำท่วมที่ชัดเจน ระยะ 3-5 ปีว่าจะดำเนินการอย่างไร ถ้ารัฐบาลส่งสารที่ชัดเจนว่าจะป้องกันอย่างไร จะแก้ไขปัญหาอย่างไร ก็ดีเกินพอแล้ว เพราะจะทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ รวมถึงนักลงทุนต่างชาติด้วย หากมีความชัดเจนเศรษฐกิจก็จะดีขึ้นเอง ส่วนเรื่องต้นทุนการก่อสร้างน่าจะเพิ่มขึ้นใกล้เคียงปีที่ผ่านมาในอัตรา 8-10% ปัจจุบันวัตถุดิบหลายรายการกำลังการผลิตยังไม่กลับมา และมีปัญหาด้านการขนส่ง ทำให้ต้องหาสินค้าทดแทนมาใช้ ซึ่งบางรายการก็มีราคาที่แพงกว่า โดยภาพรวมแล้วคาดว่าราคาบ้านจะขยับ 3-5% แต่บริษัทคงไม่ได้ปรับขึ้นทันทีหรือได้มากนัก เพราะคงต้องดูตลาดและการแข่งขันด้วย" นายนพร กล่าว ด้านนายอดิศร ธนนันท์นราพูล กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า ส่วนรายได้และกำไรสุทธิในปีนี้คาดว่าจะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักจากปีที่ผ่านมา ซึ่งยอดรับรู้รายได้จากการขายบ้านและคอนโดมิเนียมในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตราว 8%ปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog) ประมาณ 4,600 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ปีนี้ประมาณ 4,000 ล้านบาท และที่เหลือ 600 ล้านบาท จะรับรู้รายได้ในปี 2556 ส่วนรายได้จากธุรกิจให้เช่าพื้นที่ในปีนี้น่าจะทำได้ 1,590 ล้านบาท หรือเติบโต 150% จากปี 2554 ที่มีรายได้ค่าเช่า 637 ล้านบาท ขณะที่มีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อยเข้ามาอีก 1,100-1,300 ล้านบาท หรือเติบโต 30% โดยสัดส่วนกำไรปีนี้คาดว่า จะมาจากธุรกิจหลัก 70% และอีก 30% เป็นส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อย ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวมมูลค่า 22,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.7% จากปี 2554 ที่มียอดขายรวมอยู่ที่ 19,185 ล้านบาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,709 29 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
|