"เฉลิมชัย-ประภัสสร-สุชาติ-เศรษฐา" ได้รับยกย่องเป็น "ศิลปินแห่งชาติ 54"เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เป็นประธานประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) เพื่อพิจารณาคัดเลือกศิลปินแห่งชาติปี 2554 โดยภายหลังการประชุมร่วม 3 ชั่วโมง นางสุกุมล แถลงผลการคัดเลือกเพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปิน ผู้มีความสามารถ และอุทิศตนสร้างสรรค์ผลงานศิลปะจนโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน เป็นศิลปินแห่งชาติ ประจำปี 2554 ใน 3 สาขา จำนวน 9 คน ดังนี้
สาขาทัศนศิลป์ 3 คน ได้แก่ นายเฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ (จิตรกรรม) นายเมธา บุนนาค (สถาปัตยกรรม) นายทองร่วง เอมโอษฐ (ประณีตศิลป์-ศิลปะปูนปั้น)
สาขาวรรณศิลป์ 2 คน ได้แก่ นายประภัสสร เสวิกุล(นวนิยายและกวีนิพนธ์) นายสุชาติ สวัสดิ์ศรี (เรื่องสั้นและกวีนิพนธ์)
สาขาศิลปะการแสดง 4 คน ได้แก่ นางรัจนา พวงประยงค์ (นาฏศิลป์ไทย-ละคร) นายนคร ถนอมทรัพย์ (ดนตรีสากล-ประพันธ์และขับร้อง) นายเศรษฐา ศิระฉายา (ดนตรีไทยสากล-ขับร้อง) และนางสดใส พันธุมโกมล (ละครเวทีและละครโทรทัศน์)นางปริศนา พงษ์ทัดศิริกุล อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กล่าวว่า สำหรับเกณฑ์การคัดเลือกศิลปินแห่งชาตินี้ประกอบด้วย 3 หลักเกณฑ์ ดังนี้ 1.เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มีความเชี่ยวชาญ และมีผลงานดีเด่นเป็นที่ยอมรับของวงการศิลปะและเป็นผู้สร้างสรรค์และพัฒนาศิลปะ รวมถึงเป็นต้นแบบศิลปะแขนงนั้น 2. คุณค่ามาตรฐานผลงานศิลปะของศิลปินแห่งชาติ เช่น ผลงานต้องสื่อให้เห็นถึงคุณค่าในความดี ความงาม คุณค่าทางอารมณ์ สะท้อนความเป็นธรรมชาติ หรือสถานภาพทางสังคม และวัฒนธรรมแห่งยุคสมัย เอกลักษณ์ของท้องถิ่นและเอกลักษณ์ของชาติไม่ลอกเลียนแบบจากผู้อื่น และ 3.มีการจัดแสดงหรือเผยแพร่ต่อสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง มีหลักฐานอ้างอิง โดยเป็นผลงานที่แสดงให้เห็นถึงแนวคิด พัฒนาการทางงานศิลปะอย่างเด่นชัด ผลงานได้รับรางวัลหรือเกียรติคุณ ระดับท้องถิ่น ระดับชาติ หรือระดับนานาชาติ
นางปริศนา กล่าวว่า นับตั้งแต่เริ่มโครงการศิลปินแห่งชาติมาเมื่อปี 2527 และประกาศผลการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติในปีแรกเมื่อปี 2528 จนปี 2553 มีศิลปินสาขาต่างๆที่ได้รับการคัดเลือกเป็นศิลปินแห่งชาติแล้วรวม 212 คน เสียชีวิตไปแล้ว 92 คน มีชีวิตอยู่ 120 คน ทั้งนี้ผู้ที่ได้รับยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติจะได้รับเงินตอบแทน เดือนละ 20, 000 บาท และสามารถเบิกเงินสวัสดิการเพื่อการรักษาพยาบาลได้ตามระเบียบราชการ รวมทั้งมีค่าช่วยเหลือเมื่อประสบสาธารณภัย และหากเสียชีวิต จะมีค่าช่วยเหลืองานศพ 15,000 บาท ค่าจัดทำหนังสือที่ระลึก 120,000บาท อย่างไรก็ตาม ศิลปินแห่งชาติทั้งหมดจะเข้ารับพระราชทานโล่และเข็มเชิดชูเกียรติจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ซึ่งตรงกับวันศิลปินแห่งชาติ และในวันดังกล่าวจะมีงานเลี้ยงแสดงความยินดีแก่ศิลปินแห่งชาติ พร้อมกิจกรรมการแสดงและนิทรรศการศิลปินแห่งชาติ ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
ที่มา
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1327577976&grpid=&catid=08&subcatid=0804