วันนนี้นำ2เรื่องราวดีๆ ของหมา มาฝากทุกคนค่ะ
เรื่องที่หนึ่ง ตอนนี้เจ้าของกระทู้ นำมาใช้ และใช้ได้จริงค่ะ
ใช้แล้วสุขใจดี ในยามที่โดนต่อว่ามากๆ
เรื่องที่2 เป็นเรื่องที่เรื่องราวซึ้งๆ ที่อาจจะทำให้คุณเสียน้ำตา
เสียเวลาอ่านซักนิด นะคะ หากเคยอ่านแล้ว ขออภัยมากๆค่ะ
ชมเองก็อ่านหลายรอบมาก แต่ก้ยังชอบอ่านซ้ำๆ
และยังรู้สึกดีทุกครั้งที่อ่าน
1.ไม้เขี่ยหมาเน่า
เรื่องมีอยู่ว่า..
หลวงพ่อถามว่า ถ้ามีหมาเน่าลอยน้ำมาติดที่หน้าบ้าน เราจะทำยังไง
ทุกคนก็บอกว่าเอาไม้เขี่ยมันออกไป..
เขี่ยเสร็จแล้ว หมาเน่าลอยไปแล้ว ไม้นั้นเราทำยังไง..
ก็ต้องโยนทิ้งไปใช่มะ..
หลวงพ่อบอกว่า นั่นแหละ..
มีคนบางพวก ไม่ยอมทิ้งไม้เขี่ยหมาเน่านั้นทิ้งไปเฉยๆ
ไม่รู้เสียดายอะไร ทั้งๆที่รู้ว่าเหม็นแต่ก็หยิบกลับขึ้นมาดมอยู่เรื่อยไม้เขี่ยหมาเน่าๆเหม็นๆน่ะ..
เรื่องที่หลวงพ่อเล่าจบแค่นี้แหละ..
เป็นปริศนาธรรมให้เอามาคิดต่อ..
เห็นด้วยไม๊.. คนที่รู้ทั้งรู้ว่าไม้เหม็นแต่ก็ยังเก็บมาดมอยู่ได้เนี่ย.. ไม่โง่ก็โรคจิตนะ ^^;
- : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : - : -
เคยเป็นบ้างไม๊ เวลามีใครมาทำให้เราโกรธ
จนเรื่องต่างๆ เหตุต่างๆที่ทำให้เราโกรธมันดับไปหมดแล้ว
แต่เราก็ยังเก็บมาคิดมาแค้นอยู่นั่นแหละ..
ไม่รู้เสียดายอะไร ทั้งๆที่รู้ว่าทำให้เป็นทุกข์ แต่ก็เก็บความคิดแค้นมาเผาใจอยู่เรื่อยๆ
หรือไม่ต้องเรื่องโกรธก็ได้.. อาจจะเป็นว่ามีเรื่องอะไรที่มันผ่านไปแล้ว..
แต่ก็ยังเก็บโน่นเก็บนี่มาคิดมากังวลมาเสียใจอะไรก็แล้วแต่..
เราคนนึงล่ะที่เคยเป็น แล้วเราว่าทุกคนก็คงเคยเป็นแหละ
คราวหลังถ้าเป็นอีกลองบอกตัวเองสิว่า..
แน่ะ.. หยิบไม้เขี่ยหมาเน่ามาดมอีกแล้วนะเรา..
คนที่รู้ทั้งรู้ว่าไม้เหม็นแต่ก็ยังเก็บมาดมอยู่ได้เนี่ย.. ไม่โง่ก็โรคจิตนะ
ดูซิว่ายังจะอยากเก็บไม้เหม็นๆไว้ดมอีกไม๊ 

เรื้องที่สอง 
เรื่องมีอยู่ว่า พี่ชิตแกเป็นคนใจดำครับชอบยิงนกตกปลาไปเรื่อย แต่ที่หนักก็คงเป็นเนื้อหมา แกกินแหลกครับแต่ แม่แกบอกมันบาปนะลูก(ไม่สนโว้ย)
เมื่อ ราว 15 ปีก่อน มีเหตุการณ์ที่ทำให้แกเปลี่ยนไป ครั้งนั้นมีหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่งครับมันมักวิ่งไปหาของกินแถวๆบ้านแกบ่อย เพราะบ้านแกติดตลาด พี่แกกินหมาอยู่บ่อยๆแต่ กรณีหมาขี้เรื้อนแกบอก 'xxxกินไม่ลงว่ะ'
แกทำอย่างเดียวคือไล่ฆ่า แต่มันรอดได้ทุกครั้ง (สงสัยมีของ) มันไปหาของกินทีบางทีก็ได้บางทีก็ไม่ได้
คราวนั้นเนื้อแห้งที่แกตากไว้หายไป พอมองไปก็เห็นแม่หมาขี้เรื้อนวิ่งหลุนๆไป แกเดือดทันทีครับวิ่งตามไป คราวนี้ทันครับเพราะหมาขี้ เรื้อนวิ่งช้ามาก
แก ทุบไปทีเดียวหมานั่นล้มลงชักทันที (แกบอกว่าหากตีตรงจุดแค่ไม้บรรทัดก็ตาย)
แกทิ้งไว้ตรงนั้นไม่อยากจับแต่ จะทำกินตรงนั้น จึงกลับบ้านไปเตรียมของ
(แค้นจัดอยากกินหมาขี้เรื้อน) ให้ผมเฝ้าไว้
ผมก็มัวแต่เก็บตะขบจนลืมดู (ในใจอยากให้มันรีบไปจะได้ไม่ตาย) มันไปจริงครับหายวับไป พี่ชิตแกโกรธมากคงอยากเตะผมเต็มแก่ แต่ลุงผม แกเป็นนักเลงใหญ่และเป็นคนสอนวิธีฆ่าหมาให้
ก็ต้องวิ่งตามอย่าง เดียวพร้อมบ่น 'ทำไมมันไม่ตายวะ'
พักหนึ่งก็ได้ยินเสียงหมาเห่า
แกตามทันทีพอไปถึง ภาพที่เห็น ..............................................
หมา ขี้เรื้อนกำลังจะตายมันมีลูกที่ต้องเลี้ยง 5 ตัวครับ วัยกำลังหย่านมบางตัวยังกินนมอยู่ บางตัวก็วิ่งไปคาบเนื้อที่แม่หมาขี้เรื้อนคาบไปฝาก (เห็นกับตา) ที่มันยังไม่ยอมตายเพราะต้องกลับไปให้นมลูก แม้น้ำนมแห้งกรัง เอาอาหารไปให้ลูกมัน เรียกลูกๆเพื่อให้นม ให้อาหาร เป็นครั้งสุดท้าย แม่หมาพยายามอย่างดีที่สุด
มันมองผมกับพี่ชิตอย่างขอร้อง ขอให้มันให้นมลูกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย
ไม่อยากเชื่อนั่น คือน้ำตาของหมาขี้เรื้อน มันแค่ต้องการให้นมลูกก่อนตาย
พี่ชิตไม้ หล่นลงกับพื้น เดินเข้าไปดูแม่หมานั่น ในยามนั้นสิ่งที่แกเห็นไม่ใช่หมาขี้เรื้อน
แต่ แกเห็นแม่ที่ยิ่งใหญ่ที่ทนเจ็บกลับไปหาลูก
แกไม่พูดอะไรทุกอย่างจุกอยู่ ที่ลำคอสายตาอ่อนโยนลง
ลูกหมาตัวหนึ่งวิ่งไปหาแกกระดิกหางให้ แกอุ้มลูกหมาขึ้นพร้อมพูดว่า 'ขอโทษ' พูดได้แค่นั้นแม่หมาก็ตาย เราช่วยกันฝังแม่หมา
แกรับเลี้ยงหมานั่น ไว้ ทั้ง5ตัวตั้งแต่นั้นแกกลายเป็นคนใจดีไม่ไล่ยิงนกยิงหมายิงแมวอีกแกบอก 'มันอาจมีลูกรออยู่ก็ใด้'
เมื่อ 12 สิงหา 2 ปีที่แล้ว แกเอามะลิร้อยเป็นพวงไปให้แม่ทั้งๆที่ไม่เคยทำ
พูดกับแม่ว่า 'แม่ตอนผมอายุ16 แม่สอนผมยังไงนะสอนอีกหนใด้ไหมครับ'
แม่แกน้ำตาคลอพูดไม่ออก ไม่อยากเชื่อแม่หมาขี้เรื้อนตายไป1ตัว
กลับทำให้คนใจดำอย่างแกเปลี่ยนไป ขนาดนี้
รักแม่ . . .
เครดิต เวบ sanook.com     ถ้าซำก็ขออภัย