เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 19 กรกฎาคม 2025, 06:58:29
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  มาทำความรู้จักพระขรรค์สีเหลืองทองลวดลายนาค วัดป่าหมากหน่อ ปลดปล่อยผู้ตกทุกข์
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน มาทำความรู้จักพระขรรค์สีเหลืองทองลวดลายนาค วัดป่าหมากหน่อ ปลดปล่อยผู้ตกทุกข์  (อ่าน 86 ครั้ง)
supakorn kaewchan
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 804


« เมื่อ: วันที่ 26 เมษายน 2025, 23:39:31 »

สวัสดี ทุกท่าน
       เนื่องด้วยวันอาสาฬหบูชา ปี พ.ศ 2568 นี้ ก็นับเป็นปีที่ 7 กึ่งหลังพุทธศาสนา ของพระสมณโคดมสัมพุทธเจ้า ในที่นี้ขอบอกเล่าเรื่องราวของภาระกิจที่พระขรรค์วัดป่าหมากหน่อ มาเกี่ยวข้องในการ ปลดปล่อยดวงวิญญาณ กลุ่มที่ 8 ผู้ตกทุกข์ นครโยนกนาคพันธ์สิงหลวัติ ใต้หนองน้ำที่ อ.เชียงแสน และ กลุ่มที่ 9 ขอมโบราณ ใต้โตนเลสาบ ที่ประเทศกัมพูชา
               ความเป็นมาของการสร้างพระขรรค์นี้ เป็นสมัยของพระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก กษัตริย์เมืองเชียงแสน ในขณะที่ท่านได้บำเพ็ญเพียรภาวะนา ที่ผืนดินที่หลงเหลือของนครโยนกเดิมจากเมืองจมลงใต้น้ำ ปัจจุบันคือวัดป่าหมากหน่อ ท่านได้รับรู้ถึงความทุกข์ของดวงวิญญาณที่อยู่ใต้ซากปรักหักพัง แต่ไม่สามารถช่วยได้ ด้วยดวงวิญญาณเหล่านั้นถูกกักขังด้วยมนตรานาคราช ของท่านท้าวนาคพันธ์ปริวัตินาคราช ซึ่งไม่มีใครที่จะทำได้ แต่จะมีฤกษ์ยามหนึ่งที่จะสามารถทำได้ คือฤกษ์เปลี่ยนผ่านกึ่งพุทธกาล ท่านจึงสร้างพระขรรค์นี้ เสมือนเป็นศาตราวุธ คู่ของพระเพชรภัทรนาคราช ให้นามว่า เทพอัศดรชัยศรี เป็นสาส์นส่งแก่ผู้ปลดปล่อย ไปภายหน้า พระขรรค์นี้ เมื่อใดขึ้นพ้นน้ำ สามารถใช้สลายมนตราได้
              กล่าวถึงความเป็นมาของภาระกิจปลดปล่อยดวงวิญญาณทั้ง 2  กลุ่มนี้ เมื่อกลาง เดือน ก.ค 2559 ภรรยาผมได้ไปเช่าบูชาพระสิงห์1 พระที่เขาขุดเจอใต้ถนนบ้านป่ายาง อ.แม่สาย นำมาขัดสีดำออก เป็นพระสีเหลืองทอง ถ่ายรูปส่งมาอวด เมื่อผมเปิด line ดู ปรากฏเป็นภาพ ดวงวิญญาณผู้ตกทุกข์อยู่ใต้ซากปรักหักพังอยู่ใต้ผืนน้ำ จึงถามที่มาที่ไปของพระเหล่านี้ จึงได้ค้นคว้าหาที่มาของพระเหล่านี้ เป็นว่าคนสมัยเชียงแสนได้สร้างเป็นการอุทิศกุศลบารมี  แก่ผู้คนนครโยนกที่ตายไปจากเมืองถล่ม เป็นภาระกิจที่ จะต้องช่วยปลดปล่อยพวกเขา จึงขอให้ส่งพระองค์นี้มาให้ผมที่ ภูเก็ต เมื่อผมได้รับพระแล้ว ก็มีภาพฉายเหตุการณ์ในอดีตขึ้นมา ผู้คนมารวมตัวชุมนุมที่เมืองนี้จำนวนมาก พระราชาเสด็จออกทักทาย กลางคืนปราสาทถล่มจมลงสู่ใต้ผืนน้ำ ดูฤกษ์ยามปลดปล้อย ก็ตรงกับวันที่ 3 ส.ค 2560
         ก็ยังมีภาระกิจร่วม เกี่ยวข้องกัน เมื่อมีนางพญางูขาวมาที่ เกาะภูเก็ต แฝงมากับสตรีคนหนึ่งที่ส่งภาพนิมิตแจ้งมา มีความเกี่ยวข้องกับนาค 9 เศียร จึงศึกษาความเกี่ยวข้องกัน จึงทราบว่างนางพญางูขาว นามว่า โสมา สีวิกา เป็นนาคีเทวี ต้องรอสัญลักษณ์ ที่นครวัดปรากฎ จึงจะสามารถถอนคำสาป ของนางได้ แล้ววันที่ 1 ส.ค 2560 ข่าวไทยรัฐก็ออก ว่ามีการเปิดตัวเทวรูป การขุดค้นพบองค์ที่เกือบสมบูรณ์ ใต้ปราสาทนครวัด ดูฤกษ์ยามปลดปล่อยกลุ่มนี้ ก็ตรงกับ วันที่ 3 ส.ค 2560 จึงขอให้ภรรยา ไปเช่าบูชาพระสิงห์ 1 กรุนี้ ขอเป็นนาคปรก ส่งมาที่ภูเก็ต มอบให้คุณพัชรินทร์ มุสุ มาจากบ้านห้วยทรายขาว อ.ภูกามยาว พะเยา ( ปัจจุบัน หมู่บ้านนี้ก็มีการสร้างวัดป่าพุทธชินวงศ์ พญานาคล้อมภูเขา ) ผู้ที่ดวงจิตนาคีแฝงอยู่ขอให้เขาช่วย
            เมื่อถึงคืนวันที่ 3 ส.ค 2560 ก็ทำพิธีกรรมปลดปล่อยดวงวิญญาณผู้ตกทุกข์ กลุ่มของผู้คนจากนครโยนก ขอถอนคำสัตยาธิษฐาน เสมือนคำสาป ที่พระเจ้าสิงหลวัติ แรกสร้างเมืองที่ให้ไว้แก่ท้าวนาคพันธ์ ( เอาเป็นคำกล่าวภาษาเข้าใจง่าย คราใดเมื่อลูกหลานและชาวเมือง ไร้ซึ่งความเมตตา ไม่มีศีล ไม่มีธรรม ขอให้ท่านท้าวลงทัณฑ์พวกเขาได้ ) ด้วยพุทธคุณจากพระสิงห์1 และ ฤทธาจากพระขรรค์ และขอเป็นอภัยทานถวายแด่พระพุทธเจ้า ขอนำพวกเขาเหล่านี้ ไปเริ่มสร้างกุศลบารมี เริ่มต้นใหม่ เป็นสี่เสาหลัก อสูร มาร เทพ พรหม ค้ำยันพระสัมมาโพธิญาณ ในกึ่งหลังของพระพุทธศาสนา
             ส่วนกลุ่มของขอมโบราณ ก็ใช้พุทธคุณ จากพระสิงห์ 1 และนาค9 เศียรที่ส่งไป ขอให้นางนาค โสมา สีวิกา ถอนคำสาป ทิฐิ ของนาง ถวายเป็นอภัยทาน ขอให้ดวงวิญญาณเหล่านั้นไปเริ่มต้นใหม่ เช่นดังผู้ตกทุกข์จากนครโยนก
              วันที่ 7 ส.ค 2560 ก็พาคุณพัชรินทร์ มุสุ นั่งเรือข้ามทะเลไปร่วมทำสัตยาธิษฐาน ที่รอยพระพุทธบาทนัมทานที เกาะแก้ว ซึ่งหลวงพ่อเสือท่านก็รออยู่
หมายเหตุ : เนื่องจากผู้ตกทุกข์ มีจำนวนมาก ผมขอสละทรัพย์ที่พอมี ดวงวิญญาณละ 10 สตางค์ ขอเสี่ยงทายจำนวนดวงวิญญาณมีจำนวนเท่าไหร่ ขอใช้เงินในกระเป๋าสตางค์ ที่มีเป็นตัววัด ปรากฎว่า มีเงินอยู่ 1,473 บาท ก็ประมาณว่ามี 14,730 ดวงวิญญาณ ก่อนถึงวันเปลี่ยนผ่านกึ่งพุทธกาล อาสาฬบูชา ปี 2561จึงส่งพัสดุ ไปยังวัดป่าหมากหน่อ ก็มี เงิน 1,473 บาท , ใบโพธิ์ สัญลักษณ์ , ดอกบัว , ดอกดาวเรือง ในนามว่า
นาย ธรรมจักร โปรดเวไนย
พระใหญ่เขานาคเกิด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 30 เมษายน 2025, 11:41:07 โดย supakorn kaewchan » IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!