ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร? เหมาะกับใครบ้าง? พร้อมคำแนะนำการดูแลหลังฉีดเคยเป็นกันไหม? ใต้ตาดูลึก คล้ำ หน้าดูโทรมแบบไม่ไหว! ทั้งที่ก็นอนครบ 8 ชั่วโมงแล้ว แต่ทำไมยังดูเหมือนอดนอน บางคนทาครีมบำรุงแทบทุกวันก็ยังไม่ช่วย ซึ่งปัญหาใต้ตานี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุเลยนะ ทั้งอายุที่เพิ่มขึ้น พันธุกรรม หรือแม้แต่โครงสร้างใบหน้าของแต่ละคน
ถ้าใครรู้สึกว่า แต่งหน้าก็แล้ว คอนซีลเลอร์ก็ปิดไม่อยู่ ถึงเวลาอัปเกรดความสดใสให้ใต้ตากันหน่อย! วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับ
ฟิลเลอร์ใต้ตาว่ามันคืออะไร? ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง? และดูแลยังไงให้สวยเป๊ะ ติดทนนาน
ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร?ฟิลเลอร์ใต้ตา คือ สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid - HA) ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายสามารถผลิตขึ้นเองได้ตามธรรมชาติอยู่แล้ว มีหน้าที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวของเราดูอิ่มฟู แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้น HA ในร่างกายก็จะลดลง ทำให้ใต้ตาของเราดูลึก แห้ง และมีริ้วรอย
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เหมือนเป็นการเติมน้ำให้ผิว ทำให้ใต้ตาของเราดูสดใสขึ้นแบบไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม แถมเห็นผลทันที ใช้เวลาไม่นาน
Fun Fact: จริง ๆ แล้วสาร Hyaluronic Acid มีอยู่ในครีมบำรุงผิวหลายตัวด้วยนะ! แต่ครีมบำรุงเหล่านี้ไม่สามารถซึมลึกลงไปถึงชั้นผิวที่ต้องการได้ การฉีดฟิลเลอร์จึงเป็นวิธีที่ตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาใต้ตา
ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยเรื่องอะไรบ้าง?หลายคนอาจสงสัยว่า ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วมันช่วยอะไรได้บ้าง? บอกเลยว่าช่วยได้เยอะมากกก!
- เติมเต็มร่องลึกใต้ตา – ถ้าใต้ตาตอบหนักมาก ดูโทรมสุด ฟิลเลอร์ช่วยให้ดูอิ่มขึ้น ไม่ทำให้หน้าดูเหนื่อยล้า
- ลดรอยคล้ำใต้ตา –โดยเฉพาะคนที่ใต้ตาคล้ำเพราะพันธุกรรม หรือเส้นเลือดใต้ตาชัด ฟิลเลอร์ช่วยให้ผิวบริเวณนั้นดูสว่างขึ้น
- ช่วยให้หน้าเด็กลง – ใต้ตาที่ดูสดใสช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัยไปหลายปี
- ปรับสมดุลใบหน้า – บางคนมีโครงหน้าที่ทำให้ใต้ตาดูลึก ฟิลเลอร์ช่วยให้ใบหน้าดูสมดุล
ข้อดีอีกอย่างคือ
ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่ใช่การศัลยกรรม ไม่ต้องพักฟื้นนาน และถ้ายิ่งใช้ฟิลเลอร์แท้ที่มีคุณภาพ ตัวฟิลเลอร์จะสามารถสลายไปได้เอง เรียกได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัย และเห็นผลไว
ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใครบ้าง?ใครที่รู้สึกว่า ใต้ตาทำให้หน้าดูโทรม ดูแก่ หรือดูเหนื่อยตลอดเวลา ฟิลเลอร์ใต้ตาอาจเป็นคำตอบที่ใช่!
- ใต้ตาลึก หน้าดูโทรม – ทำให้หน้าดูเหนื่อยล้า แม้ว่าจะพักผ่อนเต็มที่แล้วก็ตาม
- รอยคล้ำใต้ตา – โดยเฉพาะคนที่มีปัญหานี้จากพันธุกรรม หรืออายุที่เพิ่มขึ้น
- ริ้วรอยใต้ตา – เหมาะสำหรับคนที่เริ่มมีริ้วรอยและอยากให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
- ต้องการแก้ปัญหาแบบไม่ต้องผ่าตัด – ฟิลเลอร์ใต้ตาใช้เวลาไม่นาน และไม่ต้องพักฟื้น
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะกับการฉีด
ฟิลเลอร์ใต้ตาคนที่มีภาวะเลือดออกง่าย หญิงที่ตั้งครรภ์ หรือมีประวัติแพ้ฟิลเลอร์มาก่อน ควรปรึกษากับแพทย์ก่อนตัดสินใจฉีดด้วยนะ!
วิธีดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าอยากให้ผลลัพธ์ออกมาสวย และอยู่ได้นาน ต้องดูแลตัวเองดี ๆ น้า!
- ดื่มน้ำเยอะ ๆ – ช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ใต้ผิวได้ยาวนานมากขึ้น
- งดทานอาหารหมักดอง – อาหารพวกนี้อาจทำให้เกิดอาการบวม และเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- เลี่ยงความร้อน และแสงแดดจัด – หลีกเลี่ยงการทำ เลเซอร์ หรือออกแดดแรง ๆ เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ และบุหรี่ – เพื่อป้องกันการอักเสบ ช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้นด้วย
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอาจมีอาการบวม แดง หรือรอยช้ำเล็กน้อยในช่วง 3-7 วันแรก ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น ปวดมากผิดปกติ หรือสีผิวใต้ตาเปลี่ยนไป ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที!
ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแก้ปัญหา ใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึก หรือริ้วรอย แบบไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลไว ไม่ต้องพักฟื้น และช่วยให้ใบหน้าดูสดใสขึ้นได้ทันที
ซึ่งก่อนที่จะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เราควรต้องศึกษาข้อมูลให้ดี และเลือกฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยเป๊ะ และปลอดภัยที่สุด และ ที่สำคัญต้องดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมหลังฉีดเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดด้วยนะ