ตามนั้น

แบบว่าโตมาแบบไม่ใครมาคอยทุกสิ่งทำเองทุกอย่าง
เหมือนกับน้ำเต็มแก้ว
เมื่อน้ำเต็มแก้ว เราก้อเททิ้งให้เหลือครึ่งแก้วแล้วค่อยเติมใหม่เจ้า (เริ่มจากตัวเราก่อน)
เมื่อเรามีอัตตามาก ความเป็นตัวกูของกูก็มีมากด้วย ยิ่งเรียนสูงก็ยิ่งมีอัตตาเยอะ ลองมองเพื่อนมนุษย์ สัตว์ เป็นเพื่อนร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตาย ดูก้อได้เจ้า ตายไปก็ไม่ได้เอาอะไรไปด้วย อย่ายึดมั่นถือมั่น ปล่อยวางเสียบ้างเพราะถ้าเราตายไปก้อไม่ได้เอาอะไรไปด้วย มีแต่บุญกับบาปเท่านั้นที่ติดตัวไป อะไรที่ทำแล้วรู้สึกว่าไม่สบายใจ หดหู่ใจ เป็นทุกข์นั่นเรียกว่าบาป แต่อะไรที่เราทำแล้วสบายใจ มีความสุข เกิดจิตประภัสสร นั่นเรียกว่าบุญ แต่ข้าพเจ้าเลือกที่จะเป็นผู้ให้ มากกว่าผู้รับ เพราะทำแล้วมีความสุขกว่ากันเยอะ ลองเอาใจเค้ามาใส่ใจเรา แล้วลองมองในมุมของเค้าบ้าง เราอาจเห็นทัศนคติที่แตกต่างกันออกไป เปิดใจให้กว้าง เพราะว่าประสบการณ์ชีวิตแต่ละคนก็มีมาไม่เหมือนกัน เราอาจจะมองต่างมุมแค่นั้นเอง ไม่รู้ว่าช่วยได้หรือเปล่า แฮ่ะ ๆ ถือว่าแลกเปลี่ยนความคิดเห็นก็แล้วกันเน๊อะเจ้า
