อยากรู้ว่าเขามี พุทธคุณ อย่างไรหรือค่ะ
กะลาตาเดียว แล้วมารวมกับราหู
เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ ประวัติที่เป็นเรื่องจริงทั้งทางด้านคงกระพันชาตรีและปัดเสนียดจัญไร คุณไสย์.....การสร้างพระราหูอมจันทร์นั้น ก็เป็นการถือเคล็ดตามตำนานประวัติของพระราหูที่เป็นอมตะไม่รู้จักตายเนื่องจากได้ดื่มน้ำอมฤต การสร้างวัตถุมงคลประเภทเครื่องรางเป็นรูปราหูนั้น ใช่ว่าจะสร้างเป็นรูปราหุอมจันทร์เท่านั้น แต่ยังมีการสร้างเป็นรูปอมพระอาทิตย์ด้วย ตำนานการสร้างเครื่องรางเป็นรูปพระราหูนี้ กล่าวกันว่าเป็นตำราที่ฤาษีแต่งขึ้นโดยมีฤาษี ๒ ตน ตนหนึ่งบำเพ็ญตบะอยู่ในถ้ำที่ภูเขายุคลธร อีกตนหนึ่งบำเพ็ญตบะในถ้ำที่ภูเขานันทะเขต ฤาษีทั้ง ๒ ตนนี้ได้ร่วมกันสร้างยันต์และคาถาเกี่ยวกับพระราหูขึ้นมา โดยฤาษีตนหนึ่งสร้างยันต์และคาถาสุริยะประภาคา และฤาษีอีกตนหนึ่งสร้างยันต์และคาถาจันทรประภาคาใช้สำหรับการสร้างและปลุกเสกราหูอมจันทร์ การที่ฤาษีทั้ง ๒ ตนนี้ได้สร้างยันต์และคาถาขึ้นมาก็เนื่องมาจากฤาษีทั้ง ๒ ตนได้ทราบจากญาณว่า ต่อไปมนุษย์จะต้องพบกับอันตรายและความทุกข์ยากลำบากและเครื่องรางรูปพระราหูนี้ก็จะสามารถช่วยเหลือมนุษย์ให้รอดพ้นจากอันตรายและความทุกข์ยากลำบากเหล่านั้นได้
ในการปลุกเสกราหู หากว่าสร้างเป็นรูปพระราหูอมพระอาทิตย์จะต้องลงด้วยยันต์สุริยะประภาคา และปลุกเสกด้วยคาถาสุริยะประภาคาว่า " เอกกะจักขุนาริเกลา สุริยะประภาราหูคา หาสัตตะ ระตะนะ สัมปันโน มณีโชโต ระโสระภา สุวัณณะ รัชชะตะ สะมิทธา อะหังวันทามิ เมสะทา กุสเสโต มะมะ กุสเสโต ลาวา มะมะ โตลาโม โทลาโม มะมะ โทลาโม โทลาโมตัง มะมะ โทลาโม ตังคุยหะโม มะมะ คุยหะ โม คุตติโม มะมะ คุตติโม เหกุติ มะมะ เหกุติ "
ส่วนการสร้างเป็นรูปราหูอมจันทร์ก็จะต้องลงด้วยยันต์จันทรประภาคา และปลุกเสกด้วยคาถาจันทรประภาคาว่า " เอกจักขุ การิเกลา จันทรประภา ราหูคาหา สัตตะ ระระนะ สัมปันโน มณีโชโต ระโสยะถา สุวัณณะ รัชชะตะ สะมิทธา อะหังวันทามิ เมสะทา ยัตถะตัง มะมะ ตังภะยะ ตะวะตัง มะมะ ตังวะตะ ตังเสกา มะมะกาเสตัง โทลามัง มะมะ มังลาโท ตังตัง มะมะ ตังลาโม กาติยัง มะมะ ยะติกา "
ในการปลุกเสกและภาวนาไม่ว่าจะเป็นพระราหูอมพระอาทิตย์ หรือราหูอมพระจันทร์จะต้องปลุกเสกให้ได้ ๗ คาบ ตามตำราจึงจะประสิทธิผลทางด้านความศักดิ์สิทธิ์ การสร้างเครื่องรางรูปพระราหู มีการกระทำกันมาตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้ว ในบทประพันธ์เรื่อง "พระอภัยมณี" ของท่านสุนทร (ภู่) มีการกล่าวเอาไว้ถึงเครื่องรางรูปพระราหูเอาไว้เช่นเดียวกันว่า นางละเวง มีเครื่องรางเป็นรูปตราพระราหูแขวนประจำกายอยู่ คืนหนึ่งนอนหลับไปแล้วมี " อ้ายย่องตอด " ซึ่งเป็นผู้มีวิชาแกร่งกล้าทางไสยศาสตร์ ชอบจับสัตว์และดูดเลือดคนกินเป็นอาหารลอบเข้าไปทำร้าย แต่พอเห็นตราพระราหูที่แขวนประจำกายของนางละเวงก็ไม่อาจทำร้ายได้ดังกลอนที่ว่า " เห็นโฉมยงทรงตราพระราหู สังเกดูดังนารายณ์กายสิทธิ์ ด้วยเดชาการุญบุญฤทธิ์ มันกลัวผิดเข็ดหลาบลงกราบกราน "
การสร้างเครื่องรางรูปราหู วัสดุที่นำมาสร้างตำราบ่งบอกไว้ว่าจะต้องเป็น " กะลามะพร้าวตาเดียว " คือ กะลามะพร้าวทั้งลูก โดยทั่ว ๆ ไปนั้นจะมีรูปอยู่ ๓ รู เป็นรูงอก ๑ รู และเป็นตาอีก ๒ รู แต่กลับกะลามะพร้าวตาเดียวนั้นถือเป็นวัตถุอาถรรพ์ที่มีอิทธิฤทธิ์อยู่ในตัวของมันเองอยู่แล้ว แม้ว่าไม่ได้ผ่านการปลุกเสกก็ยังคงความศักดิ์สิทธิ์ คนโบราณได้กล่าวกันว่า กะลาตาเดียว มีคุณวิเศษนัก
๑. ใช้ตักข้าวสารใส่หม้อเวลาหุงหารับประทาน หากว่าประกอบอาชีพธุรกิจ จะทำให้เกิดทรัพย์สมบัติเพิ่มพูนบริบูรณ์ หากเป็นชาวนาชาวไร่ก็จะทำให้ข้าวในนาและพืชไร่งอกงามดี และหากว่าเป็นข้าราชการก็จะเจริญด้วยยศฐาบรรดาศักดิ์ ได้เป็นเข้าขุนมูลนายเป็นใหญ่เป็นโตกว่าคนอื่น ๆ
๒. ใช้ทำเครื่องรางของขลัง เพราะกะลามะพร้าวชนิดนี้ มีอาถรรพ์ในตัวเองอยู่แล้ว หากว่านำมาปลุกเสกประจุอาคมก็จะยิ่งมีอิทธิฤทธิ์มากยิ่งขึ้น
๓. ใช้สำหรับเป็นสิ่งป้องกันเสนียดจัญไร คุณไสย์ และภูติผีปิศาจได้
๔. บูชาอยู่เป็นประจำจะทำให้เกิดโชคลาภอยู่สม่ำเสมอ ทรัพย์สมบัติและเงินทองจะไหลมาเทมาไม่ขาดสาย
๕. ใช้สำหรับเป็นเครื่องมือของหมอโบราณในการตัดต้อที่ตาของคนให้หายขาดได้
การแกะกะลาอาถรรพ์นี้ ให้เป็นเครื่องรางรูปพระราหู จะมีทั้งการแกะเป็นรูปพระราหูอมพระอาทิตย์ หรือพระราหูอมพระจันทร์ แต่ส่วนมากมักจะแกะเป็นรูปพระราหูอมจันทร์มากกว่า แต่บางทีอาจจะสร้างเป็นแบบอย่างเดียวกันโดยด้านหน้าลงยันต์สุริยะประภาคา ส่วนด้านหลังลงยันต์จันทรประภาคา หรือบางครั้งก็ลงยันต์แยกจากกันคนละอัน อันหนึ่งสร้างเป็นรูปพระราหูอมพระอาทิตย์ ลงยันต์สุริยะประภาคา ส่วนอีกอันหนึ่งสร้างเป็นราหูอมพระจันทร์ ลงยันต์จันทรประภาคา แล้วเอามาประกบหน้า-หลังกัน เวลาบริกรรมภาวนาคาถาถ้าเป็นเวลากลางคืนก็ใช้คาถาจันทรประภาคาแล้วนำไปใช้ ตำราบอกว่าให้เอาน้ำมันหอม ๙ กลิ่น เจิมรูปพระราหูเสียก่อนจะทำให้มีอิทธิฤทธิ์มากยิ่งขึ้น
คุณวิเศษของราหูอมพระอาทิตย์และราหูอมพระจันทร์นี้ ตำราแตาโบราณกล่าวไว้อย่างน่าทึ่งทีเดียว คือกล่าวไว้ว่า " ผู้ที่สนใจจะทำยันต์ทั้ง ๒ นี้ ให้หากะลามะพร้าวตาเดียวเอามาแกะเป็นรูปพระราหูอมจันทร์อย่างหนึ่ง " พระราหูอมพระอาทิตย์อีกอย่างหนึ่ง จึงให้ลงพระยันต์สุริยะประภาคาที่พระอาทิตย์ และลงยันต์จันทรประภาคาที่พระจันทร์ พระยันต์ทั้ง ๒ นี้เป็นของหาค่ามิได้จะหาสิ่งใดเทียบเทียมได้ยากยิ่ง แม้นว่าสมบัติบรมจักรพรรดิก็ดี สมบัติพระอินทร์หรือดวงแก้วมณีโชติก็หาอาจเปรียบเทียบพระยันต์ทั้ง ๒ นี้ได้ ผู้ใดหวังความเจริญในลาภยศและอยากจะมั่งมีทรัพย์สินเงินทองก็ให้สร้างขึ้นเถิด เมื่อจะทำพระยันต์ทั้ง ๒ นี้ให้แต่งเครื่องบัตรพลี ขวัญข้าว ข้าวตอก ดอกไม้ ธูปเทียน เท่ากับกำลังอาสนะขึ้น ๒ ที่ บูชาสักการะด้วยข้าวตอกดอกไม้ ธูปเทียนบูชาพระอาทิตย์ สิ่งละ ๖ ที่ บูชาพระจันทร์สิ่งละ ๑๕ ที่ ให้เลือกเอาวันที่มีฤกษ์ดีหรือวันเพ็ญสุริยะคราส วันจันทคราส เมื่อกระทำนั้นให้ชำระล้างตัวให้บริสุทธิ์สะอาดเสียก่อนแล้วจึงกระทำ พระยันต์ทั้ง ๒ นี้เวลากลางวันให้บูชาและปลุกเสกด้วยคาถาสุริยประภาคา เวลากลางคืนให้บูชาและปลุกเสกด้วยคาถาจันทรประภาคา เมื่อกระทำแล้วให้เสกด้วยคาถาที่ลงนั้น ๑๐๘ คาบเสร็จแล้วจึงเอายันต์สุริยะประภาคาใส่ในตลับทอง เอายันต์จันทรประภาคาใส่ตลับเงินให้จุณเจิมด้วยแป้งหอม น้ำมันหอมแล้วเอาบูชาไว้เมื่อจะใช้ให้ใช้ตามอุปเท่ห์ดังกล่าวนี้
ถ้าหากท้าวพระยาเจ้านายท่านโกรธให้เอายันต์สุริยะประภาคานั้นจุณเจิมด้วยเครื่องหอม จึงเสกด้วยคาถาสุริยะประภาคานี้ให้ได้ ๓ ที จึงนำเอาติดตัวไป ท่านเห็นหน้าเข้าหายโกรธเคืองสิ้นแล
ถ้าบริวารหลบหนีไปให้เขียนชื่อผู้ที่หลบหนีไปใส่กระดาษแล้วเอายันต์จันทรประภาคาทับ เสกด้วยคาถาจันทรประภาคาผู้นั้นจะหนีมิพ้นเลย ถึงหนีไปก็กลับคืนมาแล
ถ้าหากภรรยาหรือสามีไม่รักใคร่เอาใจออกห่างคิดจะหนีไป จึงให้เขียนชื่อเขาเข้าเอายันต์จันทรประภาทับเสกด้วยคาถาจันทรประภาคา เขาจะบังเกิดความรักใคร่ไปมิพ้นเราเลย ถึงหย่าร้างกันแล้วก็กลับมาดีกัน
ผิว่าจะปลูกพืชผมให้เจริญงอกงามทุกชนิดจึงให้เอายันต์จันทรประภาคามาเสกด้วยคาถาจันทรประภาคาแล้วให้ดสวดมนต์บทนี้อีกบทหนึ่งคือ " โอม เชยยะสัมปัตติ มหาเชยยะสัมปัตติ เชยยันติ โอมทุเร สวาหะ เลิกมัตคะ สวาหะฯ ๗ ที " แล้วทำจิตให้ดีอธิษฐานเอาเถิดได้ผลงอกงามเจริญนัก
ผิว่าจะเข้าประจัญด้วยข้าศึกให้เอายันต์สุริยะประภาคาจุณเจิมด้วยเครื่องหอมเสกด้วยคาถาสุริยะประภาคา แล้วจึงนำติดตัวไปด้วยเป็นเครื่องป้องกันอาวุธ หอก ดาบ หน้าไม้ ปืนไฟ หาอันตรายมิได้เลย