เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 30 กรกฎาคม 2025, 10:40:41
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  ประชุมใหญ่การมีส่วนร่วมของประชาชนครั้งที่ 1 (ปฐมนิเทศโครงการ) รถไฟเชียงราย
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ประชุมใหญ่การมีส่วนร่วมของประชาชนครั้งที่ 1 (ปฐมนิเทศโครงการ) รถไฟเชียงราย  (อ่าน 475 ครั้ง)
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« เมื่อ: วันที่ 14 กรกฎาคม 2011, 18:15:22 »

เชียงราย - การรถไฟแห่งประเทศไทย ยกทีมบริษัทที่ปรึกษาขึ้นเชียงราย เปิดห้องรับฟังเสียงประชาชนในพื้นที่ รับแนวรถไฟเด่นชัย-เชียงราย เผยผลศึกษาล่าสุดต้องปรับอุตลุดเลี่ยงชุมชนเพิ่ม โยกศูนย์ไปสะพานน้ำโขง รวมระยะทาง 326 กม.คาดใช้งบก่อสร้าง 1 พันล้าน/กม.ลุ้นรัฐบาลใหม่หนุนก่อสร้างเสร็จใน 7 ปี






      
       วันนี้ (14 ก.ค.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) โดยบริษัทที่ปรึกษา คือ บริษัท เอ็ม เอ คอนซัลแตนท์ จำกัด บริษัท เอพซิลอน จำกัด บริษัท Noppon Koei Co.Ltd.และบริษัท เอนริช คอนซัลแตนท์ จำกัด ได้จัดประชุมใหญ่การมีส่วนร่วมของประชาชนครั้งที่ 1 (ปฐมนิเทศโครงการ) เพื่อศึกษาทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสมโครงการก่อสร้างรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ณ ห้องประชุมธรรมลังกา ศาลากลาง จ.เชียงราย โดยมี นายพินิจ หายพาณิชย์ เป็นประธานในพิธีเปิด และมีหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ผู้นำชุมชนและประชาชนเข้ารับฟังเป็นจำนวนมาก
      
       นายนันทชัย หวังเลี้ยงกลาง ตัวแทน ร.ฟ.ท.ได้ชี้แจงความเป็นมาของโครงการ ว่า มีมาตั้งแต่ปี 2503 ก่อนจะมีสำรวจเบื้องต้นในปี 2512 ซึ่งช่วงนั้นประเมินว่าต้องใช้งบประมาณก่อสร้างเพียงประมาณ 1,700 ล้านบาท แต่เนื่องจากไม่คุ้มทุนจึงยกเลิกไป แต่ในปี 2537-2538 ได้ศึกษาใหม่และพบประเทศจีนขยายเส้นทางรถไฟลงใต้ จึงศึกษาความเหมาะสมในระยะทาง 246 กิโลเมตร กระทั่งปี 2546-2547 ก็ได้ศึกษาซ้ำอีกครั้งจนพบแนวที่เหมาะสมด้วยวงเงินที่เพิ่มขึ้นประมาณ 30,000-40,000 ล้านบาท
      
       แต่เนื่องจากมีหลายเหตุผล เช่น สภาพที่เปลี่ยนไป ระบบรางเดี่ยว ฯลฯ ร.ฟ.ท.จึงได้ว่าจ้างเอกชนทั้ง 4 ราย ทำการศึกษาใหม่ตั้งแต่เดือน พ.ค.2554-มิ.ย.2555 เป็นระยะเวลา 14 เดือน โดยเมื่อสิ้นสุดโครงการจะมีแบบแปลนที่ชัดเจนและละเอียดจนไปถึงประมาณราคาและเอกสารประกวดราคาต่อไป
      
       ด้านนายนิรัตน์ ตันสวัสดิ์ รองผู้จัดการโครงการฯ กล่าวว่า การศึกษาได้นำแนวเส้นทางเดิมมาศึกษาและปรับตามความเหมาะสมจนมีระยะทางยาวเพิ่มขึ้นเป็น 326 กิโลเมตร โดยเปลี่ยนจากรถไฟรางเดี่ยวเป็นรางคู่ เพื่อสวนทางได้ ด้วยความเร็ว 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีการย้ายสถานีซ่อมบำรุงและเปลี่ยนถ่ายสินค้า (DOPOT&ICQ) จากสถานี อ.เมือง ไปยัง อ.เชียงของ ชายแดนไทย-สปป.ลาว รองรับสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ที่เชื่อมกับถนนR3a ไทย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้ ซึ่งเปิดใช้งานแล้วต่อไป
      
       ทั้งนี้ ผลการศึกษาเบื้องต้นช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาพบสภาพพื้นที่เปลี่ยนแปลงไปจากผลการศึกษาครั้งก่อนมาก จึงต้องมีการปรับเส้นทาง เพิ่มและลดสถานีอีกหลายแห่ง โดยจะผ่าน จ.แพร่ 82 กิโลเมตร มีสถานี 6 แห่ง ลำปาง 54 กิโลเมตร 3 แห่ง พะเยา 55 กิโลเมตร มีสถานี 5 แห่ง และเชียงราย 135 กิโลเมตร มีสถานี 13 แห่ง
      
       “ถ้าได้รับการสนับสนุนตามแนวทางโดยเฉพาะด้านงบประมาณในการก่อสร้าง คาดว่าในปีที่ 6-7 หลังเสนอผลการศึกษาก็จะทำให้การก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายนี้แล้วเสร็จแน่นอน และในช่วง 6 เดือนแรกของการศึกษาเราก็จะได้แนวเส้นทางที่ชัดเจน หลังการร่วมกับท้องถิ่นและชุมชนในการช่วยแนะนำเรื่องเส้นทางทุกตำบลและเทศบาล จากนั้นก็จะชัดเจนเรื่องงบประมาณและนำเสนอผลการศึกษาให้พื้นที่ได้ทราบอีกครั้งราวเดือน พ.ค.2555” นายนิรัตน์ กล่าว
      
       เขาบอกว่า แนวเส้นทางใหม่ตั้งแต่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ ผ่าน อ.งาว จ.ลำปาง และ จ.พะเยา ได้มีการปรับหลายจุด เช่น สถานี อ.เมืองแพร่ มีการย้ายแนวเพื่อเลี่ยงการขวางทางน้ำ อ.สอง จ.แพร่ ก็มีโครงการเขื่อนลุ่มน้ำยม ซึ่งจำเป็นต้องปรับแนวให้พ้นแนวระดับน้ำ รวมทั้งมีการขุดอุโมงค์ทะลุภูเขา ย่นระยะทางอีกประมาณ 6 กิโลเมตร ส่วน จ.พะเยา ก็ปรับให้ห่างจากแนวเดิมหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา เพราะแนวเก่าเริ่มมีชุมชนหนาแน่น รวมทั้งเพิ่มสถานีดงเจน ตามข้อเรียกร้องของชุมชนเพื่อรองรับการขยายเมือง
      
       กระทั่งเข้าสู่ จ.เชียงราย พบมีการปรับที่สถานี เพราะเมื่อข้ามถนนสายเชียงราย-เทิง ในเขต อ.เมือง จะตัดผ่านบ้านจัดสรรจึงได้ย้ายให้พ้นแนวเดิมให้ห่างออกไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร แต่ก็มีบางส่วนที่ต้องการให้ย้ายออกไปไกลอีก ซึ่งทีมที่ปรึกษาก็ยังคงยืนตามแนวนี้ เพราะถือว่าห่างไกลชุมชนแล้ว และจะตั้งสถานีเชียงรายที่จุดเดิม เพราะจำเป็นต้องเชื่อมไปยังสถานีอื่นๆ เช่น เครื่องบิน สถานีขนส่งผู้โดยสารรถยนต์ ฯลฯ
      
       สำหรับเส้นทางต่อจาก อ.เมือง คือ มุ่งไปทาง อ.เวียงเชียงรุ้ง-ดอยหลวง ที่ ต.ป่าซาง อ.เวียงเชียงรุ้ง แทนสถานีสันยาวในรูปแบบเดิม เพื่อให้สามารถแยกไปสู่ท่าเรือแม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่สองและสะพานแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงของ ได้พร้อมกัน แต่ครั้งนี้จะศึกษาไปถึงขั้นประมาณราคาและเอกสารประกวดราคาเฉพาะเส้นทางไป อ.เชียงของ เท่านั้น ส่วนเส้นทางไปท่าเรือจะเป็นเพียงการศึกษาเพื่อให้เป็นทางเลือกสำหรับอนาคต เพราะจากการศึกษาปริมาณ-ชนิดสินค้าพบว่าที่ อ.เชียงของ มีการขนสินค้าไทย-จีนตอนใต้ ด้วยตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งเหมาะสมกับรถไฟมากกว่า ส่วนท่าเรือเชียงแสนเป็นสินค้าทางเรือที่ยังไม่ระบบนี้
      
       อย่างไรก็ตาม เส้นทางบริเวณ อ.ดอยหลวง จะผ่านภูเขาจึงจะมีการเจาะอุโมงค์ทะลุเขาระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร และปรับแนวเส้นทางใหม่จากเดิมอยู่ฝั่งซ้ายของถนนสาย 1098 ซึ่งเป็นถนนไปยัง อ.เชียงของ ให้ไปอยู่ทางฝั่งขวาแทน เพราะเส้นเดิมตัดผ่านป่าเขาเสียเป็นส่วนใหญ่ส่วนฝั่งขวาจะเป็นทุ่งนา ซึ่งสะดวกกว่า
      
       ขณะเดียวกัน ได้ยกเลิกสถานีดอยท่าช้างเพราะออกแบบให้ตั้งอยู่บนยอดเขา ซึ่งไม่เหมาะสมกับการใช้งานจริง และสร้างสถานีแห่งใหม่ชื่อสถานีบ้านเกี๋ยง รองรับแทน กระทั่งถึงสถานีเชียงของ ห่างจากตัวเมืองเชียงของประมาณ 10 กิโลเมตร ใกล้จุดที่ออกแบบว่าเหมาะสมกับการสร้างนิคมอุตสาหกรรมที่ ต.สถานี และ ต.ศรีดอนชัย โดยที่เชียงของจะมี DOPOT&ICQ และตลอดรายทางออกแบบให้มีเส้นทางตัด ยกระดับ ขุดเจาะ ฯลฯ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและความไม่สะดวกอื่นๆ ซึ่งเกิดกับรถไฟไทยในปัจจุบัน
      
       สำหรับงบประมาณในการก่อสร้าง คาดว่า จะใกล้เคียงกับแอร์พอร์ตลิงก์ คือกิโลเมตรละประมาณ 1,000 ล้านบาท เพราะแม้จะไม่ยกสูงจากพื้นทั้งหมด แต่ก็ยังมีค่าเวนคืนที่ดิน ค่าขุดเจาะอุโมงค์ ฯลฯ จึงน่าจะใช้งบประมาณราว 30,000 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งจะสามารถสรุปผลอย่างชัดเจนได้อีกครั้งราวกลางปี 2555
      
       ด้าน นายมงคลชัย ดวงแสงทอง รองประธานอุตสาหกรรมภาคเหนือ กล่าวว่า ดูการปรับแนวเส้นทางใหม่ของทีมที่ปรึกษาแล้วถือว่าดีมาก เพราะมีการออกแบบให้เหมาะกับสภาพพื้นที่ อย่างไรก็ตามก็อยากจะเสนอกรณีมีการปรับสถานีและเส้นทางให้เพิ่มหรือลดลง ขอให้ยึดตามความเหมาะสมไม่เช่นนั้นจะไม่ได้ข้อสิ้นสุด และต้องศึกษาซ้ำกันอยู่ร่ำไป รวมทั้งให้ชี้แจงทุกฝ่ายว่ากรณีเส้นทางสายนี้คงจะมุ่งไปที่การขนส่งสินค้าเป็นหลัก ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเชียงราย และภาคเหนือ ที่มีสินค้าทางการเกษตรที่ต้องการขนส่งไปจำหน่าย โดยยังไม่ถึงขั้นเป็นรถไฟความเร็วสูงเพื่อการขนส่งมวลชน
      
       รายงานข่าวแจ้งอีกว่า อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการศึกษาที่ค่อนข้างคึกคักและได้รับความสนใจ แต่หลายฝ่ายต่างวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับนโยบายภาคการเมือง เนื่องจากมีการผลัดเปลี่ยนรัฐบาลใหม่เป็นคนละขั้วการเมือง จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับการสนับสนุนหรือเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีชุดใหม่

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000086733
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!