เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 24 กรกฎาคม 2025, 03:05:16
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  ประสบการณ์น้อย จบใหม่ ทำยังไงให้มีโอกาสได้งาน
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ประสบการณ์น้อย จบใหม่ ทำยังไงให้มีโอกาสได้งาน  (อ่าน 1485 ครั้ง)
ezyjob
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: วันที่ 16 มีนาคม 2010, 14:13:27 »

โดยมากนักศึกษาจบใหม่มักประสบกับอุปสรรคที่พบอยู่บ่อย ๆ คือ นายจ้างต้องการผู้สมัครที่มีประสบการณ์มาก่อน มีวัยวุฒิในระดับที่สามารถรับผิดชอบสิ่งต่าง ๆ ได้ ดังนั้นนักศึกษาจบใหม่จึงไม่ค่อยได้รับการพิจารณารับเข้าทำงานเป็นลำดับแรก
ในทางกลับกัน สำหรับผู้สมัครที่เคยผ่านงานมาก่อนจะไม่ค่อยจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ และโดยมากก็จะประสบผลสำเร็จในการสอบสัมภาษณ์มากกว่าผู้ที่ขาดประสบการณ์ เมื่อเป็นเช่นนี้เราจะทำอย่างไร เมื่อต้องไปสอบแข่งขันกับผู้สมัครที่มีประสบการณ์มาก่อนเหล่านั้น และวิธีที่ดีที่สุดคือ ที่เราจะต้องแสดงให้ผู้สัมภาษณ์ เห็นว่าเราเป็นผู้มีคุณสมบัติดังนี้



1. เปิดกว้างสำหรับคำแนะนำ และสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้ง่ายและรวดเร็ว
2. มีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องใช้สำนักงานอื่นๆ
3. ไม่มีข้อผูกมัดอยู่กับครอบครัว จนเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน
4. พร้อมที่จะเดินทาง และมีความพร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มความสามารถ
5. มีความกระตือรือร้น และมีพลังในการทำงานอยู่มาก
6. ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้ เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ แล้วบุคลิกภาพ และความเชื่อมั่นในตนเองเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้คุณได้รับ
การ พิจารณา ฝึกการพูดและการนำเสนอตัวเอง ทั้งในเรื่องผลการเรียน หรือกิจกรรมต่างที่คุณมีส่วนร่วม แสดงให้ผู้สัมภาษณ์งานเห็นว่าคุณเป็นบุคคลที่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี แม้ว่าจะเป็นการสัมภาษณ์งานครั้งแรกของคุณก็ตาม

สิ่งสุดท้ายที่ไม่ ควรลืมคือการมีเจตคติที่ดีต่องาน และบุคคลอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณทำงานร่วมกับผู้อื่น และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อ้างอิงมาจาก tumcivil.com

สำหรับนักศึกษาจบใหม่ ezyjob.com ก็มีโซนเกี่ยวกับงาน นศ จบใหม่โดยเฉพาะนะคะ ดูรายละเอียดที่ http://www.ezyjob.com/งานนักศึกษา/
IP : บันทึกการเข้า
ordinaryboy
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 479



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 16 มีนาคม 2010, 14:22:42 »

คงจะเป็นประโยชน์สำหรับน้องๆ
ที่จบใหม่ไม่มากก็น้อยนะครับ
สนับสนุนบทความดีๆครับ
IP : บันทึกการเข้า

มิตรภาพ-ไม่มีวันตาย
۰•ฮักแม่จัน©®
เลวบ้างในบางเวลา
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,048


"มารบ่มี บารมี บ่เกิด.."


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 16 มีนาคม 2010, 15:56:18 »

บะมีสาขาเจียงฮายก๋าครับ ยิ้มเท่ห์
IP : บันทึกการเข้า

"ทำบุญเท่าไรก็ไม่สามารถลบล้างบาปได้ บุญอยู่ส่วนบุญ บาปอยู่ส่วนบาป"

ไม่มีใครหรอกที่จะเลวโดยสันดาน ..
หากแต่สถานการณ์มันบีบบังคับให้ทำ
๏—‘shOwy|z`’—๏
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 280


ล้มเพราะก้าวไปข้างหน้า ดีกว่ายืนเต๊ะท่าอยู่กับที่


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 17 มีนาคม 2010, 16:44:35 »

แบบว่า โอกาสได้งานสูงก็จิง นะ แต่ทำไมทุกสถานที่ถึงจัดอันดับมหาลัย ตัวหนูเองจบแล้วคะ แต่แบบว่า
เคยสมัครงานของ ezyjob.com  เหมือนกัน แต่โดนมหาลัยดังๆ แซงตลอดเซง อิอิ
IP : บันทึกการเข้า

080-7291184.   084-4868147 (24HR)

คนเมือง ณ กว่างกรุง
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 553


กำหนดชีวิตตัวเอง หรือรอให้คนอื่นมากำหนดชีวิตเรา..


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 17 มีนาคม 2010, 21:37:44 »

ขอแชร์หน่อยแล้วกันนะครับ  พอผ่านงานด้านนี้มาบ้าง

โดยส่วนตัวผมได้ปิดกั้นนักศึกษาจบใหม่นะครับ เพราะผมก็เคยเจอมากับตัวรู้ว่าหางานตอนแรกๆ หางานอยากจริง...  อย่างแรกต้องเข้าใจก่อนว่าการที่บริษัทจะจ้างใครสักคนเขาต้องการคนที่พร้อมจะทำงาน (บางที่ไม่มีเวลาสอนงาน) ได้เลยไม่ต้องคอยดูแลมากนัก นี่คือจุดเสียเปรียบของเด็กจบใหม่ที่สู้ไม่ได้  ฝากไว้คร่าวๆแล้วกันสำหรับเด็กจบใหม่
หนึ่งคุณต้องรู้ว่าคุณต้องการทำงานได้ด้านไหน แล้วมุ่งไปตรงจุดนั้นอย่างเดียวอย่าคิดว่าหาประสบการณ์ไปก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนงานที่ใช่ (มันจะทำให้คุณเสียเวลา)
สอง ตอนฝึกงานคุณทำอะไรมากบ้าง ฝึกงานตรงกับสายงานที่จะทำในอนาคตหรือเปล่า ถ้ายังไม่ได้ฝึกงานตรงจุดนั้น ต้องหาว่าทำไมถึงต้องฝึกงานสาขานั้นๆ
สาม อย่างแรกที่ผมจะนัดคนมาสัมภาษณ์คือ ...  ใบสมัคร น่าสนใจหรือเปล่า กรอกข้อมูลสำคัญ หรือควรที่จะกรอกครบไหม ..  ขอเงินเดือนเกินความเป็นจริงหรือเปล่า มีนักศึกษาบางคนขอมา สองหมื่น (ตำแหน่งงานทั่วไป)  มีโอกาสตัดทิ้งสูง
สี่ ผมไม่สนว่าเขาจบจากที่ไหนมา แต่ผมดูว่าเขามีความกระตือรือร้นในการทำงานมากน้อยเพียงใดที่จะทำงานด้านนั้นๆ
ห้า การแต่งกายมาสมัครงาน และ บุคคลิกภาพ เป็นสิ่งสำคัญ เพราะมันบ่งบอกถึงตัวคุณโดยไม่ต้องถาม
หก.. ความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ของคุณเป็นไงบ้าง  พื้นฐานใช้ได้หมดหรือยัง คล่องหรือเปล่า บางคนยังหาตัวพิมพ์ยังไม่เจอ
เจ็ด ..  ตำแหน่งที่สมัครตรงกับสาขาที่จบมามากน้อยเพียงใด จริงอยู่ตอนเรียนไม่ได้คิดถึงตอนทำงาน แต่มันมีผลครับอาจจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์
แปด.. คือต้องแสดงให้เขาเห็นว่าคุณนิ่งพอสมควร ไม่ใช่สัมภาษณ์ไปรนไป
เก้า .. ห้ามนำผู้ปกครองมาวันที่เขานัดสัมภาษณ์เด็ดขาด (โอกาสไม่ผ่านสูง)
สิบ..  ตอบคำถามให้ตรงที่เขาถาม...
สิบเอ็ด  .. คิดคำถามล่วงหน้าได้เลยว่าเขาจะถามอะไรเราบ้าง จะได้เตรียมคำตอบ.. (ไม่อยากก็งานที่เราจะสมัครนั่นเอง)
สิบสอง .. ต้องมีความมั่นใจในตัวเอง (ไม่ต้องสูงมากนัก)
สิบสาม..  ผลงานที่ผ่านมามีอะไรบ้าง บรรยายไปให้หมด
สุดท้ายแล้วกัน คิดไม่ออกแล้ว..  ข้อด้อยของเราคือไม่มีประสบการณ์เพราะฉนั้นอย่าเลือกตำแหน่งที่ต้องใช้ประสบการณ์มาก เช่นหัวหน้างาน รองผู้จัดการณ์ หางานที่สามารถที่จะทำต่อไปในอนาคตได้ (เริ่มจากบริษัทเล็กๆ ก่อน) 

ขอให้โชคดีนะครับ  สู้ๆๆ 

ชีวิตในการทำงานต่างจากชีวิตตอนเรียนเยอะ..
IP : บันทึกการเข้า

"กว่างเจียงของ"
๏—‘shOwy|z`’—๏
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 280


ล้มเพราะก้าวไปข้างหน้า ดีกว่ายืนเต๊ะท่าอยู่กับที่


« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 17 มีนาคม 2010, 21:54:41 »

ขอแชร์หน่อยแล้วกันนะครับ  พอผ่านงานด้านนี้มาบ้าง

โดยส่วนตัวผมได้ปิดกั้นนักศึกษาจบใหม่นะครับ เพราะผมก็เคยเจอมากับตัวรู้ว่าหางานตอนแรกๆ หางานอยากจริง...  อย่างแรกต้องเข้าใจก่อนว่าการที่บริษัทจะจ้างใครสักคนเขาต้องการคนที่พร้อมจะทำงาน (บางที่ไม่มีเวลาสอนงาน) ได้เลยไม่ต้องคอยดูแลมากนัก นี่คือจุดเสียเปรียบของเด็กจบใหม่ที่สู้ไม่ได้  ฝากไว้คร่าวๆแล้วกันสำหรับเด็กจบใหม่
หนึ่งคุณต้องรู้ว่าคุณต้องการทำงานได้ด้านไหน แล้วมุ่งไปตรงจุดนั้นอย่างเดียวอย่าคิดว่าหาประสบการณ์ไปก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนงานที่ใช่ (มันจะทำให้คุณเสียเวลา)
สอง ตอนฝึกงานคุณทำอะไรมากบ้าง ฝึกงานตรงกับสายงานที่จะทำในอนาคตหรือเปล่า ถ้ายังไม่ได้ฝึกงานตรงจุดนั้น ต้องหาว่าทำไมถึงต้องฝึกงานสาขานั้นๆ
สาม อย่างแรกที่ผมจะนัดคนมาสัมภาษณ์คือ ...  ใบสมัคร น่าสนใจหรือเปล่า กรอกข้อมูลสำคัญ หรือควรที่จะกรอกครบไหม ..  ขอเงินเดือนเกินความเป็นจริงหรือเปล่า มีนักศึกษาบางคนขอมา สองหมื่น (ตำแหน่งงานทั่วไป)  มีโอกาสตัดทิ้งสูง
สี่ ผมไม่สนว่าเขาจบจากที่ไหนมา แต่ผมดูว่าเขามีความกระตือรือร้นในการทำงานมากน้อยเพียงใดที่จะทำงานด้านนั้นๆ
ห้า การแต่งกายมาสมัครงาน และ บุคคลิกภาพ เป็นสิ่งสำคัญ เพราะมันบ่งบอกถึงตัวคุณโดยไม่ต้องถาม
หก.. ความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ของคุณเป็นไงบ้าง  พื้นฐานใช้ได้หมดหรือยัง คล่องหรือเปล่า บางคนยังหาตัวพิมพ์ยังไม่เจอ
เจ็ด ..  ตำแหน่งที่สมัครตรงกับสาขาที่จบมามากน้อยเพียงใด จริงอยู่ตอนเรียนไม่ได้คิดถึงตอนทำงาน แต่มันมีผลครับอาจจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์
แปด.. คือต้องแสดงให้เขาเห็นว่าคุณนิ่งพอสมควร ไม่ใช่สัมภาษณ์ไปรนไป
เก้า .. ห้ามนำผู้ปกครองมาวันที่เขานัดสัมภาษณ์เด็ดขาด (โอกาสไม่ผ่านสูง)
สิบ..  ตอบคำถามให้ตรงที่เขาถาม...
สิบเอ็ด  .. คิดคำถามล่วงหน้าได้เลยว่าเขาจะถามอะไรเราบ้าง จะได้เตรียมคำตอบ.. (ไม่อยากก็งานที่เราจะสมัครนั่นเอง)
สิบสอง .. ต้องมีความมั่นใจในตัวเอง (ไม่ต้องสูงมากนัก)
สิบสาม..  ผลงานที่ผ่านมามีอะไรบ้าง บรรยายไปให้หมด
สุดท้ายแล้วกัน คิดไม่ออกแล้ว..  ข้อด้อยของเราคือไม่มีประสบการณ์เพราะฉนั้นอย่าเลือกตำแหน่งที่ต้องใช้ประสบการณ์มาก เช่นหัวหน้างาน รองผู้จัดการณ์ หางานที่สามารถที่จะทำต่อไปในอนาคตได้ (เริ่มจากบริษัทเล็กๆ ก่อน) 

ขอให้โชคดีนะครับ  สู้ๆๆ 

ชีวิตในการทำงานต่างจากชีวิตตอนเรียนเยอะ..

รับทราบคะ อิอิ

อีกอย่างอยุ่ที่การฝึกงานด้วยคะ ตั้งใจมาก เขาก็ฝึกให้เรามาก เรียนรู้เร็ว ได้งานชัว
IP : บันทึกการเข้า

080-7291184.   084-4868147 (24HR)

NostradaMo~
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 18 มีนาคม 2010, 09:34:21 »

เคยคุยกับฝรั่ง อายุ 21ปีมาจากยูทาห์ อเมริกา ผมก็ถามว่าอย่างยูนี่จบมาแล้วจะได้งานเลยมั้ยเพราะเรียนแพทย์แล้วจะขอเงินเดือนเท่าไหร่ ที่ถามเพราะอยากรู้ว่าแพทย์ที่โน่นจบมาแล้วเงินเดือนเท่าไหร่ แต่คำตอบที่ได้ผิดคาดครับ เค้าบอกว่า นักศึกษาที่โน่นจะทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ใครไม่ทำงานก็คือลูกเศรษฐีจบมามีกิจการของพ่อรองรับ แต่ถ้าทั่วๆไปคือต้องทำงานกันทุกคน ทีนี้เวลาจบมาเขาจะไม่ค่อยมีปัญหาเกี่ยวกับประสบการณ์ในการหางาน และการขึ้นเงินเดือนของเค้าจะพิจารณาจากฝีมือ+ประสบการณ์ เป็นหลักไม่มีข้ามขั้นตอน และฝรั่งคนที่ผมถามเนี่ยเค้ายังบอกอีกว่า เค้าจะเข้าเรียนทหารด้วย เพราะว่าทหารจะสอนเกี่ยวกับการมีวินัยการดำเนินชีวิตการวางแผนชีวิตการอดทน และเค้าอาจจะได้เป็นทหารแพทย์ด้วยเพราะว่าเค้าเรียนแพทย์มา สรุปคือหากจบแพทย์มาก็ยังไม่ชัวร์ว่ามีงานหากไม่มีประสบการณ์ เค้าถึงต้องเข้าสมัครเป็นทหารอีกต่อหนึ่งเพื่อจะได้เป็นแพทย์ทหาร ผมฟังแล้วอึ้งครับ ไม่ใช่ฟังภาษาไม่ออกนะเพราะเค้าพูดไทยได้ มาอยู่แค่6เดือน เด็กหนุ่ม 21 ปี แต่เก่งครับพึ่งเรียนแพทย์ได้2ปี(ที่โน่นเรียนแพทย์กัน8ปี) พูดไทยปร๋อเลยอ่านได้เขียนได้อีกต่างหาก แต่ที่อึ้งเพราะว่า มันช่างต่างกับบ้านเราเหลือเกิน บ้านเราไม่นิยมทำงานระหว่างเรียนครับ วันนี้เรียนคาบเดียว ที่เหลือ นอน หรือกินเหล้า เล่นเกมส์ แต่พอจบมา ก็โอดครวญว่าจบใหม่จะมีประสบการณ์ได้ไงครับ เลยถูกเขากดเงินเดือน เท่าไหร่ก็เอา เป็นกันทั้งประเทศครับ ยิ่งราชการยิ่งเยอะครับ คนทำงานมาก่อนประสบการณ์เยอะ แต่โดนเด็กจบใหม่ไร้ประสบการณ์วุฒิสูงกว่าเข้ามาเป็นหัวหน้า ต้องให้สอนงานมันอีกเงินเดือนก็สูงกว่าเรา เหมือนเรากลับเอาหัวลงเดินครับ มันผิดกับประเทศที่เขาเจริญแล้วลิบเลย
ด้วยเหตุนี้ ผมจึงสนับสนุนให้ ก.พ รับอาจารย์ที่เป็นอาจารย์จ้างสอนในสถาบันนั้นๆอย่างน้อย3ปี เข้าบรรจุเป็นข้าราชการครูเลย แต่ตอนที่จะรับครูอัตราจ้างนั้นก็ให้คัดเลือกด้วย ไม่ใช่อย่างปัจจุบัน ที่เปิดสอบทั่วไป ได้เด็กเก่งแต่ไร้ประสบการณ์มาสอน ผลผลิตก็พิกลพิการ หลายๆคนคงเคยได้ยินครูประเภท เรียนเก่งมาก เกียรตินิยมเลย แต่สอนไม่เอาอ่าวเพราะเค้าถ่ายทอดไม่เป็น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 18 มีนาคม 2010, 09:45:39 โดย NostradaMo~ » IP : บันทึกการเข้า
nalismenox
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 849


สุดท้ายก็กลับมายืนจุดเดิม


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 18 มีนาคม 2010, 11:22:08 »

เคยคุยกับฝรั่ง อายุ 21ปีมาจากยูทาห์ อเมริกา ผมก็ถามว่าอย่างยูนี่จบมาแล้วจะได้งานเลยมั้ยเพราะเรียนแพทย์แล้วจะขอเงินเดือนเท่าไหร่ ที่ถามเพราะอยากรู้ว่าแพทย์ที่โน่นจบมาแล้วเงินเดือนเท่าไหร่ แต่คำตอบที่ได้ผิดคาดครับ เค้าบอกว่า นักศึกษาที่โน่นจะทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ใครไม่ทำงานก็คือลูกเศรษฐีจบมามีกิจการของพ่อรองรับ แต่ถ้าทั่วๆไปคือต้องทำงานกันทุกคน ทีนี้เวลาจบมาเขาจะไม่ค่อยมีปัญหาเกี่ยวกับประสบการณ์ในการหางาน และการขึ้นเงินเดือนของเค้าจะพิจารณาจากฝีมือ+ประสบการณ์ เป็นหลักไม่มีข้ามขั้นตอน และฝรั่งคนที่ผมถามเนี่ยเค้ายังบอกอีกว่า เค้าจะเข้าเรียนทหารด้วย เพราะว่าทหารจะสอนเกี่ยวกับการมีวินัยการดำเนินชีวิตการวางแผนชีวิตการอดทน และเค้าอาจจะได้เป็นทหารแพทย์ด้วยเพราะว่าเค้าเรียนแพทย์มา สรุปคือหากจบแพทย์มาก็ยังไม่ชัวร์ว่ามีงานหากไม่มีประสบการณ์ เค้าถึงต้องเข้าสมัครเป็นทหารอีกต่อหนึ่งเพื่อจะได้เป็นแพทย์ทหาร ผมฟังแล้วอึ้งครับ ไม่ใช่ฟังภาษาไม่ออกนะเพราะเค้าพูดไทยได้ มาอยู่แค่6เดือน เด็กหนุ่ม 21 ปี แต่เก่งครับพึ่งเรียนแพทย์ได้2ปี(ที่โน่นเรียนแพทย์กัน8ปี) พูดไทยปร๋อเลยอ่านได้เขียนได้อีกต่างหาก แต่ที่อึ้งเพราะว่า มันช่างต่างกับบ้านเราเหลือเกิน บ้านเราไม่นิยมทำงานระหว่างเรียนครับ วันนี้เรียนคาบเดียว ที่เหลือ นอน หรือกินเหล้า เล่นเกมส์ แต่พอจบมา ก็โอดครวญว่าจบใหม่จะมีประสบการณ์ได้ไงครับ เลยถูกเขากดเงินเดือน เท่าไหร่ก็เอา เป็นกันทั้งประเทศครับ ยิ่งราชการยิ่งเยอะครับ คนทำงานมาก่อนประสบการณ์เยอะ แต่โดนเด็กจบใหม่ไร้ประสบการณ์วุฒิสูงกว่าเข้ามาเป็นหัวหน้า ต้องให้สอนงานมันอีกเงินเดือนก็สูงกว่าเรา เหมือนเรากลับเอาหัวลงเดินครับ มันผิดกับประเทศที่เขาเจริญแล้วลิบเลย
ด้วยเหตุนี้ ผมจึงสนับสนุนให้ ก.พ รับอาจารย์ที่เป็นอาจารย์จ้างสอนในสถาบันนั้นๆอย่างน้อย3ปี เข้าบรรจุเป็นข้าราชการครูเลย แต่ตอนที่จะรับครูอัตราจ้างนั้นก็ให้คัดเลือกด้วย ไม่ใช่อย่างปัจจุบัน ที่เปิดสอบทั่วไป ได้เด็กเก่งแต่ไร้ประสบการณ์มาสอน ผลผลิตก็พิกลพิการ หลายๆคนคงเคยได้ยินครูประเภท เรียนเก่งมาก เกียรตินิยมเลย แต่สอนไม่เอาอ่าวเพราะเค้าถ่ายทอดไม่เป็น


ผมขอบระบบการจัดการของฝรั่งบางเรื่องก็ตรงนี้แหล่ะ
เด็กที่นั่นเขาต้องทำงานด้วยตัวเอง อย่างอายุ 15 ก็เริ่มที่เรียนรู้เรื่องการคบเพื่อนต่างเพศที่ถูกต้อง
อายุ 18 ก็เริ่มมีแฟน พ่อแม่เริ่มให้อิสระทางการแสดงออก ทางความคิดมากขึ้นไม่ปิดบังมากนัก
และหากอยากเรียนก็ต้องหางานทำส่งเสียเอง ทีนี้เด็กเขาก็อยากออกมาอิสระข้างนอก
บางคนก็ย้ายออกมาอยู่กับเพื่อนข้างนอกก็มีเพื่อหาประสบการณ์ชีวิตให้มากกว่าเดิม
โน่น กว่าจะได้กลับมาเยี่ยมพ่อแม่อีกครั้งก็ปีละครั้งหรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับเวลา
แต่เขาอยู่กับพ่อแม่เหมือนเพื่อนนะครับ พ่อแม่เค้าเป็นได้ทุกอย่าง มันรู้สึกดีอ่ะ
ได้คุย ได้ระบายบ้าง พ่อแม่ก็รับฟัง แต่มันก็ไม่ดีไปทั้งหมดหรอกนะครับ

สรุป อยากให้สังคมไทยเอาความสร้างสรรค์ในมุมมองแบบฝรั่งเข้ามาประยุกต์ใช้บ้างไง
น่าจะเกิดผลดีกับเยาวชนของเรามากกว่า
IP : บันทึกการเข้า
ni_aom
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 52


« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 19 มีนาคม 2010, 14:37:00 »

มี 4 คาถาให้ท่องจำคับ
ตั้งใจ  ขยัน  ซื่อสัตว์  อดทน  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม สู้ๆๆ
IP : บันทึกการเข้า
ปุถุชน(ทุกหยาดเหงื่อเพื่อลูกเมีย)
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,041



« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 19 มีนาคม 2010, 22:30:00 »

มุ่งมั่น ตั้งใจ ซื่อสัตย์ ขยัน รับผิดชอบ แค่นี้ ทำงานได้ทุกประเภท
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!